ตอนที่ 3
2 เดือนต่อมา
ณ บริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง
ปลายฟ้ากำลังเครียด...
ระยะเวลากว่าสองเดือนที่ผ่านมาเธอแทบไม่ได้สัมผัสกับคำว่า ‘พัก’ เลยแม้แต่วันเดียว งานของเธอมากขึ้นและมากขึ้นตั้งแต่กลับมาจากปาร์ตี้วันนั้น จนวันนี้ก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะลดลงเลยแม้แต่น้อย
เดิมทีเธอเข้ามาทำงานในบริษัทด้วยใจแน่วแน่ มีไฟและต้องการทำงานเพื่อพัฒนาองค์กรที่ให้โอกาสเธอทำงานให้ก้าวหน้าต่อไป
แต่เพราะความสวยและดีกรีนักศึกษาเกียรตินิยมอันดับสองผนวกกับความสามารถในการทำงานของเธอ ทำให้มีคนอิจฉาและค่อยกลั่นแกล้งเธอเสมอ
โครงการนับสิบโครงการถูกปฏิเสธ งานโดนตำหนิบ่อยทั้ง ๆ ที่ไม่มีจุดผิด เธอเคยไปร้องไห้กับหัวหน้าฝ่ายที่เธอสังกัดอยู่ครั้งหนึ่ง ก่อนจะจับได้ว่าเธอคนนั้นนั่นเองที่เป็นคนกลั่นแกล้งเธอมาตลอด
แม้จะโชคดีที่เพื่อนร่วมงานดี เข้าใจเธอ ค่อยช่วยอยู่บ้าง แต่ก็ไม่มีใครทนอำนาจจากหัวหน้าของเธอได้นาน ต้องล่าถอยไปค่อยช่วยอยู่เบื้องหลังแทน
ตัวเธอในตอนนี้อยากลาออกใจแทบขาด
แต่เธอทำแบบนั้นไม่ได้...
“เฮ้อออ”
หญิงสาวร่างเพรียวบางถอนหายใจออกมาเบา ๆ ก่อนจะยื่นเอกสารส่งให้ชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งที่เดินตรงดิ่งเข้ามารับแฟ้มเอกสารจากเธอทันทีที่เห็นว่าถึงเวลาส่ง
“พี่จะช่วยเต็มที่นะ”
“ค่ะ ขอบคุณค่ะพี่เต็ม” ชายหนุ่มผู้เป็นรองหัวหน้าแผนกยิ้มตอบเธอก่อนจะถือโปรเจคที่เธอตั้งใจอดหลับอดนอนทำไปส่ง
ขอให้พระเจ้าเมตตาลูกด้วยเถอะ
ปลายฟ้าอธิษฐานในใจขอให้หัวหน้างานของเธอเลิกอคติแล้วให้ผ่านโปรเจคนี้ของเธอเสียที...
.
.
.
“พี่เสียใจด้วยฟ้า”
“ค่ะ ขอบคุณนะคะ พี่เต็ม”
รองหัวหน้าแผนกคนเดิม เดินกลับมาพร้อมแฟ้มโปรเจคของปลายฟ้าที่ถูกหัวหน้าแผนกปฏิเสธกลับมาเป็นครั้งที่ 2 ของเดือนนี้
มือเรียวเอื้อมรับแฟ้มสีดำนั้นมาด้วยดวงใจที่ห่อเหี่ยว นึกตัดพ้อในใจอย่างอดไม่ได้
เธอไม่คิดเลยว่าความอิจฉาของคนจะทำให้เธอต้องเผชิญกับความผิดหวังครั้งแล้วครั้งเล่า ไฟที่เคยมีในการทำงานค่อย ๆ มอดดับลงไปเรื่อยๆ 5 เดือนที่ผ่านมาเธอโดนกลั่นแกล้งนับครั้งไม่ถ้วน จนนึกอยากลาออกไปทำงานอิสระหรือไม่ก็กลับไปทำร้านอาหารของพ่อให้รู้แล้วรู้รอดไป
แต่เพราะเธอไม่ชอบของมึนเมาและไม่ชอบคนเมา ทำให้การทำร้านของพ่อเป็นตัวเลือกสุดท้าย ถ้าเลือกได้เธอก็อยากไปทำงานกับเพื่อน ๆ มากกว่า
แต่ตอนนี้ร้านของพ่อเธอกำลังจะเจ๊งและไม่รู้เคราะห์กรรมอะไรที่พ่อของเธอดันมาเป็นมะเร็งในตอนนี้พอดี...
ไหนจะทั้งหนี้สินมากมายที่พ่อของเธอไปกู้ยืมมาเพื่อหนุนร้านให้ไปต่อได้ก็พอกพูนขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้เธอไม่สามารถทิ้งเงินเดือนมากกว่าครึ่งแสนไปเริ่มต้นใหม่ด้วยฐานเงินเดือนที่ต่ำกว่าได้
คราแรกเธอคิดจะปิดร้านไปเลย เพื่อกันเงินไว้จ่ายหนี้แต่ก็สงสารพนักงานอีกเกือบสิบชีวิตที่ต้องตกงานหากปิดกิจการไปจริง ๆ
ความอึดอัดคุกรุ่นขึ้นในใจ ตัวปลายฟ้านั้นอยากลาออก แต่ต่อให้อยากทำแค่ไหนก็ทำไม่ได้เพราะหน้าที่เสาหลักของบ้านอยู่ในมือเธอ อีกทั้งเงินเดือนที่ได้จากที่นี่ก็เป็นทุนทรัพย์จุนเจื่อในครอบครัว ทั้งเธอยังต้องเก็บเงินเอาไว้รักษาพ่ออีกต่างหากอีกก้อนหนึ่ง
“แกๆๆๆ หัวหน้าบอกว่าโปรเจคที่ฉันเสนอไปผ่านแล้ว!”
“จริงหรอ! ฮู่วว ท่านเศรษฐีนีคนใหม่ ยินดีด้วยนะค่า”
บทสนทนาของเพื่อนร่วมแผนกยิ่งเพิ่มความเสียใจให้ปลายไปมากขึ้นไปอีกเป็นเท่าตัว เพราะการที่โปรเจคผ่านนั้นหมายถึงเงินโบนัสปลายปีก็ได้รับการอนุมัติไปด้วย
แต่ถ้าโปรเจคไม่ผ่าน นอกจากเงินเดินแล้วก็ไม่ได้อะไรอีกเลย...
“เฮ้อ”
เสียงถอนหายใจด้วยความเหนื่อยล้าดังขึ้นเบา ๆ ปลายฟ้าเหนื่อยจนไม่อาจหาคำเปรียบเปรยใดมาบรรยายได้
ตลอดสองเดือนที่ผ่านนอกจากงานที่บริษัทแล้วเธอยังต้องกลับไปทำงานที่บ้าน ดูแลพ่อ ดูแลน้อง จัดการเรื่องต่าง ๆ ในร้าน แทบไม่ได้พักผ่อน
แน่นอนเธออยากพัก แต่อาการป่วยของพ่อและอนาคตของน้องชายเองก็ต้องไปต่อ ปลายฟ้าในตอนนี้จึงถอดใจไม่ได้
เพราะเธอเหลือคนในครอบครัวแค่พ่อและน้องชายเพียงสองคนเท่านั้น...
ปลายฟ้าเกิดในครอบครัวกิจการร้านอาหาร สมาชิกในครอบครัวมีเพียงทินกรผู้เป็นบิดา เมฆน้องชายและมารดาที่เสียไปนานแล้ว ทำให้ตอนนี้เธอเหลือแค่พ่อและน้องชายสองคนบนโลกที่เธอรักมากที่สุด
เพราะงั้นแล้วต่อให้เหนื่อยแค่ไหนเธอก็จะทำต่อไป จนกว่าจะไม่ไหวแล้วล้มป่วยไปเอง แต่ต่อให้ล้มป่วยคนแบบเธอก็ลุกขึ้นมาทำงานต่ออยู่ดี
เสียงถอนหายใจดังขึ้นอีกครั้งพร้อมเสียงนาฬิกาบอกเวลา 15:00 น. อันเป็นเวลาพักครึ่งบ่ายของบริษัทที่ยึดขนมธรรมเนียมจากต่างประเทศ ปลายฟ้ามองแฟ้มโปรเจคที่ถูกปฏิเสธก่อนจะตัดสินใจเดินไปชงกาแฟมาดื่มแก้ง่วง
มือเรียวหยิบจับข้าวของบนโต๊ะเพื่อที่จะพักเบรก ก็พอดีกับเสียงแจ้งเตือนไลน์กลุ่มเพื่อน ๆ ดังขึ้น
[แชทกลุ่ม]
(2สาว เกย์ 1 ชาย 2)
ลินดา :: พวกแก อาทิตย์นี้ไปร้านเฮียคินกันไหม ฉันกับโชคิดถึงพวกแกอ่ะ
เก้า :: ไปดิ กูก็คิดถึงพวกนมึงเหมือนกันวะ ช่วงนี้แม่งไม่ได้พักเลย
โช :: ฟ้าไปไหม @ปลายฟ้า
ริมฝีปากบางเม้มแน่นด้วยความลังเลใจ สถานการณ์ที่บ้านในตอนนี้นั้นตึงเครียดเกินกว่าที่เธอจะมีใจไปสังสรรค์ได้ เธอไม่พร้อมเจอเพื่อน มากกว่านั้นคือทุกครั้งนัดกัน สกายไม่เคยว่างไปเลยสักครั้ง
เวลาลินดา โช หรือ เก้า นัดเจอ สกายจะปฏิเสธทุกครั้ง บอกว่าไม่ว่างบ้าง ติดธุระบ้าง หรือไม่ก็ติดนัดแฟนสาวสวยของตนเองบ้างและเป็นแบบนี้มาตลอดสองเดือนเต็ม
ตัวเธอที่ยอมไปเพราะจะได้เจอสกาย แต่เมื่อสกายไม่ไปเธอก็ไม่ไป ข้ออ้างสารพัดถูกหยิบยกขึ้นมาบอกกับเพื่อน ทั้งติดงาน ติดธุระ ทั้งหมดล้วนถูกใช้ไปหมดแล้วตลอดเวลาสองเดือนที่ผ่านมา
และครั้งนี้ก็จะเป็นเช่นนั้น...
มือเรียวคว้าสมาร์ทโฟนคู่ใจขึ้นมากำลังจะพิมพ์บอกเพื่อนๆว่าติดช่วยงานที่ร้าน ไม่สามารถไปได้ แต่ข้อความของใครบ้างก็เด้งขึ้นมาเสียก่อน
[แชทกลุ่ม]
(2สาว เกย์ 1 ชาย 2)
สกาย :: เอาสิ กูก็คิดถึงพวกมึงเหมือนกัน
สกาย :: แต่ถ้าจะไปกินร้านอื่นก็ส่งพิกัดมาด้วยละ
“!!!”
ดวงตากลมเบิกโพลงอย่างไม่เชื่อสายตาว่าสกายที่ไม่เคยว่างเลยตลอดสองเดือนที่ผ่านมาจะตอบตกลงไปเจอเพื่อน ๆ
ปลายฟ้ารีบกดลบข้อความที่ตัวเองพิมพ์ค้างก่อนจะรีบพิมพ์ตอบตกลงว่าจะไปทันทีอย่างไม่นึกลังเล ความเบื่อหน่ายที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี่มลายหายไปจนหมด
ความสดใสแต่งแต้มบนดวงหน้าสวย จนเพื่อนร่วมงานสาวคนหนึ่งอดไม่ได้ที่จะเอ่ยแซว
“ต๊ายยย ยัยฟ้า ยิ้มแก้มปริเชียวนะ งานที่กำลังทำมันสนุกเหรอจ้ะ หื้ม”
“พิมละก็ งานมันจะสนุกได้ยังไงเล่า”
ปลายฟ้าเอ่ยตอบเพื่อนสาวต่างแผนกด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มเพิ่มเสน่ห์ให้เธอน่าเข้าหาขึ้นไปอีกไปเท่าตัว
“ก็เห็นยิ้มจนแก้มปริ ฉันก็คิดว่าที่เธอทำมันสนุกนะสิ ดูสิ ดูสิ ยิ้มกว้างขนาดนี้จะไม่ให้คิดว่างานมันสนุกได้ยังไง”
ปลายฟ้าไม่ตอบแต่ยิ้มหวานให้พิมแทน พิมที่เห็นว่าปลายฟ้าไม่สนใจเธอแล้วก็เดินละออกไปส่งงานตามเดิม ปล่อยให้ปลายฟ้ามีความสุขกับสมาร์ทโฟนของตนเองไป
[แชทกลุ่ม]
(2สาว เกย์ 1 ชาย 2)
ปลายฟ้า :: ไปสิ เราเหนื่อย ๆ งาน อยากรีแลกซ์เหมือนกัน
ปลายฟ้า :: เจอกันเย็นนี้นะ
เธอพิมพ์ไว้แค่นั้นก่อนคว่ำหน้าหน้าจอสมาร์ทโฟนลง เพื่อกลับไปทำงานดั่งเดิมแต่ครั้งนี้การทำงานของเธอกลับเปี่ยมไปด้วยความสุขจนล้นอก
เพราะเย็นนี้เธอจะได้เจอสกายแล้ว!