ตอนที่ 3 ครั้งแรก
ร่างสูงยืนมองหญิงสาวที่นอนคว่ำหน้าหลับสนิทบนเตียงกว้างด้วยความรู้สึกหลากหลาย มือหนาคว้าบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบก่อนจะพ่นควันสีขาวออกมา ตาคมเข้มเพ่งมองซีกหน้านวลผ่านม่านควัน เวลาที่หลับสนิท รสรินก็ไม่ต่างอะไรกับเด็กที่ไร้เดียงสา ตาคู่คมกวาดมองไปตามผิวบอบบางที่โผล่พ้นผ้าห่มผืนหนาออกมา บางจุดแดงเป็นสีกุหลาบ บางจุดเขียวคล้ำ ไม่ว่าจะจุดไหนก็เกิดจากฝีมือเขาทั้งนั้น
บทรักเร่าร้อนจบลง เมื่อเขาเรียกร้องจากเธอหลายต่อหลายครั้ง จนคนตัวเล็กหลับคาอก หัวใจแกร่งกระตุกเมื่อเหลือบไปเห็นคราบเลือดที่หยดเปื้อนไปตามผ้าปูที่นอน ก่อนจะยิ้มให้กับตัวเอง เธอสะอาดบริสุทธิ์ และไร้เดียงสาที่สุด เขาปล่อยเธอไว้ได้ยังไง ทั้ง ๆ ที่เขามีสิทธิ์ในตัวเธอทุกอย่าง เพราะได้เธอมาง่าย ๆ เลยทำให้มองไม่เห็นคุณค่า
เธอก็ไม่ต่างอะไรกับของแถมทางธุรกิจ เพราะทางครอบครัว ของเธอประสบปัญหา ทางครอบครัวเขาก็ยื่นมือเข้าไปช่วย โดยมีเธอเป็นตัวประกัน การแต่งงานที่ไม่ได้เกิดจากความรักจึงเกิดขึ้น และเธอก็ทำตัวได้น่ารำคาญที่สุด ตามหึงตามหวง ทั้ง ๆ ที่เธอไม่มีสิทธิ์ในตัวเขา แต่เมื่อช่วงสองปีที่ผ่านมารสรินก็เปลี่ยนไป เธอไม่สนใจเขา ไม่คุยหรือถามไถ่อะไร ทุกครั้งที่เขากลับบ้านดึก เธอก็จะเข้านอนก่อน จนกระทั่งทุกวันนี้เธอเลือกที่จะแยกห้องนอนกับเขา
ข้อนิ้วแกร่งไล้ไปบนพวงแก้มเนียนใส ก่อนจะก้มหน้าลงไปหาแล้วจูบหนัก ๆ ลงบนปากอิ่มที่บวมช้ำอย่างนึกมันเขี้ยว ก่อนจะเดินออกไปจากห้อง ขืนอยู่ต่ออีกนิดคงได้ปลุกคนหลับขึ้นมารังแกอีกรอบแน่นอน เธอหอมหวานขนาดนี้ใครจะอดใจไหว มือแกร่งหยิบมือถือขึ้นมาแล้วกดหาเบอร์คนสนิท ก่อนจะสั่งงานเมื่อปลายสายกดรับ
“แทนไท คุณช่วยเคลียร์เรื่องผู้หญิงให้ผมหน่อย”
“ใช่ ทั้งหมดนั่นแหละ”
“อืม... ไว้ผมจะคุยกับฉัตรเอง คุณจัดการคนอื่นก่อนก็แล้วกันใช่... เร็วที่สุด”
ร่างสูงถอนหายใจ มือแกร่งเผลอบีบมือถือในมือ เขาสั่งให้แทนไทเคลียร์ทุกคนออกไป เพราะอยากมีชีวิตที่ปกติเหมือนคนอื่น ผู้หญิงเหล่านั้นคุยไม่ยาก เพราะมีกฎที่ตกลงร่วมกัน จะมีก็แค่ฉัตรกมลคนเดียวเท่านั้นที่เขาคงต้องคุยกับเธอเอง เขาให้เธออยู่เหนือกฎ เพราะมันมีความรู้สึกเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่มันก็ไม่ได้มากไปกว่าคนที่นอนอยู่บนเตียงนั่น คงไม่ใช่เรื่องง่ายถ้าจะคุยกับเธอ แต่ต่อให้ยากสักแค่ไหน เขาก็ต้องจัดการให้เร็วที่สุด เขาเสียเวลากับเรื่องแบบนี้มามากพอแล้ว รสรินเป็นภรรยาของเขา ถึงเวลาแล้วที่เขาต้องกลับมาดูแลเธอ
หญิงสาวขยับตัวอย่างยากลำบาก เมื่อความเจ็บร้าว เข้าเล่นงาน โดยเฉพาะท้องน้อยที่เจ็บหน่วงจนขยับตัวแทบไม่ไหว
“จะเข้าห้องน้ำเหรอ”
เสียงนุ่มทุ้มที่ดังมาจากมุมห้อง ทำให้คนที่กำลังขยับตัวลงจากเตียงชะงัก มือบางกำชายผ้าห่มไว้แน่นเมื่อเห็นหน้าเขาเต็มตา อรรถลุกขึ้นเต็มความสูงแล้วก้าวเท้ามาหยุดที่ข้างเตียง ใบหน้าหล่อเหลา ก้มลงมาหาแก้มสาว รสรินเบี่ยงหลบแล้วขยับถอยหนี
“ว้าย!” หญิงสาวกรีดร้องเมื่อผ้าห่มที่ใช้ปิดบังร่างเปล่าเปลือย ถูกโยนลงไปข้างเตียงด้วยฝีมือคนตัวสูงที่มองมาด้วยสายตาขบขัน
“เอาคืนมานะ!” เธอร้องบอก ก่อนจะหันไปคว้าหมอนมากอดเอาไว้ เพื่อปิดบังเนื้อตัวจากสายตาของเขา
“จะอายอะไรอีก”
คำถามทีเล่นทีจริงที่เขาส่งมา ทำให้ใบหน้าสวยแดงจัด เมื่อภาพเมื่อคืนลอยกลับเข้ามาในหัว
“ออกไปค่ะ ฉันจะเข้าห้องน้ำ!” สั่งเสียงห้วนจัดเพราะยังโมโหกับสิ่งที่เกิดขึ้น เขารังแกเธอได้ยังไง
“เดินไหวหรือเปล่า” อรรถถามด้วยน้ำเสียงห่วงใย แต่มันกลับทำให้เธอเดือดจัด
“ไหว!” ต่อให้ไม่ไหวก็ต้องไหว เพราะเธอไม่อยากให้เขามายุ่งกับเธออีก สิ่งที่เธอเสียไปมันก็มากพอแล้ว ถึงแม้จะเสียใจ แต่เมื่อเรียกร้องอะไรกลับมาไม่ได้ เธอก็ทำใจยอมรับ เขาเป็นสามีที่ถูกต้องตามกฎหมาย มีสิทธิ์ในตัวเธอทุกอย่าง ไม่แปลกถ้าเขาจะเรียกร้องสิ่งนี้ จากเธอ
“โรส”
“ออกไปได้ไหมคะ ฉันต้องการเวลาส่วนตัว”
“เรามีเรื่องต้องคุยกันนะ”
“ค่ะ ฉันก็มีเรื่องจะคุยกับคุณเหมือนกัน” หญิงสาวตอบพร้อมกับจ้องหน้าเขา วันนี้ทุกอย่างต้องจบ
“เรื่องที่เกิดขึ้น...”
“ค่ะ เดี๋ยวค่อยคุยกันนะคะ ตอนนี้ฉันขอเวลาส่วนตัวก่อน ถ้าจะกรุณา ช่วยออกไปรอข้างนอกได้ไหมคะ”
เมื่อถูกไล่ซ้ำ ๆ อรรถก็จำใจต้องถอย รสรินเป็นคนเอาแต่ใจ ยิ่งเขาดื้อดึง เธอก็จะยิ่งเอาชนะเขา
“ผมสั่งอาหารรอนะ อยากทานอะไรไหม” ชายหนุ่มถามด้วยน้ำเสียงอาทร
“ไม่ค่ะ” ตอบแบบไม่มองหน้า เขาคงรู้สึกผิดที่ทำกับเธอเมื่อคืน เลยอยากไถ่โทษงั้นเหรอ
อรรถเดินออกไปจากห้อง เพราะอยากให้หญิงสาวได้ทำธุระส่วนตัว ขืนเขายังอยู่ตรงนี้ เธอก็คงเอาแต่นั่งกอดหมอนอยู่อย่างนั้น วันนี้ทั้งวันก็คงไม่ได้ทำอะไรกัน
