ช่วยผมที
เสียงเข้มทรงพลังบอก พร้อมกับจับมือใหญ่หยาบกร้านของชายวัยกลางคนที่ยังจับแขนคนตัวเล็กออกให้ ก่อนประคองร่างน้อยให้ไปยืนด้านหลัง
“น้องกลับไปทำงานต่อเถอะ ทางนี้พี่จะเคลียร์ให้เอง” ใบหน้าคมเข้มหันไปบอกคนด้านหลัง กานต์พิชชาคลี่ยิ้มเล็กน้อยแทนคำขอบคุณ
ชายร่างสูงสง่าในชุดสูทสีดำดูน่าเกรงขามเขาคือ นักรบ หนุ่มหล่อมาดเข้ม อายุสามสิบสองปี ประธานบริษัทโรงแรมหรูระดับห้าดาวที่มีสาขาอยู่ทั่วประเทศ ถึงจะมีใบหน้าหล่อเหลาแต่เขามีฉายาเสือยิ้มยาก แต่หากยิ้มทีก็ทำสาวๆใจละลายเลยทีเดียว สถานะปัจจุบันโสดสนิท
“ขอบคุณนะคะที่ช่วย” กานต์พิชชากล่าวขอบคุณ ก่อนรีบเดินกลับไปหลังร้านทันที คอยลอบมองดูจากทางด้านหลัง กลัวจะเป็นเหตุให้แขกทะเลาะกัน
“ไงคุณนักรบ ลมอะไรหอบมาถึงที่นี่ได้ครับ” เสี่ยใหญ่กล่าวทักทายคนมาใหม่
“มาดูงานน่ะครับ เห็นว่าที่นี่ลูกค้าเยอะทุกวัน”
“ระดับคุณนักรบที่มีโรงแรมหรูห้าดาวทั่วประเทศ ยังต้องมาดูงานที่ไนต์คลับเล็กๆด้วยเหรอครับ”
“ต้องดูครับเอาไว้ไปปรับปรุงการบริการ ว่าแต่เสี่ยมาทำอะไรที่นี่ครับ”
“ผมก็มาดื่มคลายเครียดปกติ”
-มาหาเด็กไปนอนด้วยน่ะสิไม่ว่า- นักรบคิด
“มาแบบนี้คุณหญิงมาลียาไม่ว่าเอาเหรอครับ”
“ถ้าคุณไม่พูดผมไม่พูดแล้วภรรยาผมจะรู้ได้ยังไง”
“นั่นน่ะสิครับ เมื่อกี้ผมต้องขออภัยที่เสียมารยาทไปเดี๋ยวผมให้เพื่อนหาเด็กสวยๆมาบริการท่านดีกว่า”
“ถ้าอย่างนั้นก็ต้องขอบคุณ คุณแล้ว” ถึงจะรู้สึกเสียหน้า แต่การไม่มีเรื่องวันนี้จะมีผลมากกว่า
หลังเคลียร์ปัญหาจบทั้งสองก็แยกย้ายกัน ส่วนนักรบเดินตรงไปห้องวีไอพีซึ่งเป็นห้องประจำ ชายหนุ่มรูปร่างกำยำอย่างชายชาตรี แค่มองก็มีพลังดึงดูดบางอย่างจนไม่อาจละสายตาได้
“เกือบไปแล้วมั้ยฟ้าใส โชคดีที่ลูกค้าVIPของร้านมาช่วยไว้ได้ทัน ไม่งั้นได้ไปเป็นเด็กเสี่ยของจริงแน่นอน”
“ฟ้าก็ตกใจมากนะเมื่อกี้ทำตัวไม่ถูกเลย ฟ้าไม่อยากออกไปเสิร์ฟแล้ว”
“งั้นก็อยู่ในนี้คอยยกออกมาให้เรา เดี๋ยวเราออกไปเสิร์ฟตามโต๊ะให้เอง” ชลธีพนักงาน part time อีกคนบอก
“ขอบใจนะชล”
“เรื่องเล็กน้อยน่า”
“ว่าแต่พี่คนนั้นเขาเป็นลูกค้าVIP ของร้านเราเหรอ ทำไมฟ้าไม่เคยเห็นเลย”
“ก็ไม่แปลกที่ไม่รู้ ปกติฟ้าอยู่แต่หลังร้าน”
“เขามาที่นี่บ่อยเหรอ”
“แต่ก่อนบ่อยช่วงหลัง นานๆทีเลิกถามแล้วเข้าไปยกอาหารออกมาได้แล้ว”
กานต์พิชชาทำงานตามปกติจนถึงเวลาเลิกงาน ดูเหมือนฝนฟ้าจะไม่ค่อยเป็นใจสักเท่าไหร่ ระหว่างกำลังเดินทางกลับไปหาน้องที่โรงพยาบาลฝนก็เริ่มตกปรอยๆ ขณะที่หญิงสาวกำลังรอรถที่เรียกผ่านแอปพลิเคชัน มีร่างสูงใหญ่ของชายคนที่เพิ่งช่วยเธอไว้ช่วงหัวค่ำ เดินเซถลาเข้ามาหาจนเธอต้องใช้สองมือดันอกแกร่งเอาไว้ไม่ให้ล้มทับตัวเอง
“เอ๊ย! โอ๊ย! นี่คุณเป็นอะไรไป” กานต์พิชชาเบิกตากว้าง เมื่อคนตัวโตทิ้งน้ำหนักตัวมายังเธอเต็มๆ จนร่างของทั้งคู่เซถลาเกือบล้ม
“ชะ ช่วยผมที” เสียงทุ้มแหบบอกอย่างกับคนไร้เรี่ยวแรง
“คุณเป็นอะไรนะ เฮ้ย! คุณ คุณ” มือน้อยตีหลังคนตรงหน้าเรียกสติ
“ให้ช่วยอะไร เดี๋ยวสิ โอ๊ยยืนตรงๆสิแบบนี้มันหนักนะ คุณเมาเหรอ” กานต์พิชชาถามแต่เหมือนคนตรงหน้าจะไม่ค่อยมีสติ
“ผมไม่ได้เมา ผมโดนวางยา” จบประโยคร่างใหญ่ก็หมดสติทับลงบนตัวหญิงสาวทันที
“โดนวางยาเหรอ ยาอะไร เฮ้ๆ คุณตื่นก่อนสิ แบบนี้ฉันกลัวนะ”
กานต์พิชชาเขย่าร่างคนไร้สติ มองซ้ายขวาไม่มีใครแม้แต่คนเดียว ไม่นานรถที่เรียกไว้ขับมาจอดเทียบท่า จึงพาขึ้นรถไปด้วยไหนๆเธอก็ต้องไปโรงพยาบาลอยู่แล้ว พาเขาไปด้วยเลยก็แล้วกัน
“ไปโรงพยาบาลค่ะพี่”
หลังรถแล่นออกมาได้ครู่เดียวกานต์พิชชาสังเกตเห็นว่ามีกลุ่มชายฉกรรจ์วิ่งมาตรงจุดที่พวกเธอยืนอยู่เมื่อครู่ ท่าทางคนพวกนั้นดูน่ากลัวไม่รู้ว่าจะเกี่ยวกับคนด้านข้างหรือเปล่า
-จะตายมั้ยเนี่ย ถ้าเกิดเขาตายเธอจะกลายเป็นผู้ต้องสงสัยมั้ย นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน- กานต์พิชชาคิดกับตัวเอง