บทย่อ
"คุณคิดจริงๆ เหรอ ว่าแค่เอาผมบังหน้า ผมจะจำไม่ได้...คุณทิชา" เธออยากจะร้องไห้ออกมาตรงนี้เหลือเกิน ไม่เข้าใจว่าทำไมพระเจ้าถึงได้ใจร้ายกับเธอนัก ถึงขนาดส่งหนุ่มที่เธออยากหนีหน้าไปตลอดชีวิตให้เวียนกลับมาเจอกันตลอด ยิ่งเขาเรียกชื่อเธอด้วยน้ำเสียงมั่นอกมั่นใจขนาดนี้ หญิงสาวก็ไม่อาจหาข้อแก้ตัวอื่นได้อีกแล้ว นิ้วเรียวค่อยๆ เกลี่ยเส้นผมยุ่งเหยิงที่ปรกหน้าออก ก้มหน้านิ่งไม่กล้าสบสายตา ราวกับเด็กน้อยทำความผิดแล้วถูกคุณครูจับได้ "บอกผมซิ ว่าทำไม AE คนเก่งถึงได้โผล่มาเป็นเด็กนั่งดริงก์ในเลานจ์หรูได้" น้ำเสียงทุ้มยังคงราบเรียบ แต่เพราะเธอเอาแต่ก้มหน้าจึงไม่ได้ทันเห็นกระแสคลื่นริ้วแห่งความไม่พอใจปรากฏชัดบนสีหน้าหล่อเหลาของเขา ทิชายังคงพูดไม่ออก นั่งตัวแข็งค้างอยู่เช่นเดิม หัวใจเต้นโครมครามพยายามคิดหาทางออก แต่ทางไหนก็ดูไม่เข้าท่าเสียเลย ขณะที่กำลังตัดสินใจว่าควรจะพูดยังไงกับเขา เสียงสวรรค์ก็ดังขึ้นด้านหลัง "เอ่อ...คุณไทเปคะ พอดีน้องทิชาเขาไม่ได้รับงานอย่างว่านะคะ ถ้าคุณไทเปสนใจฝนว่า..." "ฉันเลือกคนนี้...เธอกลับไปทำหน้าที่ตัวเองได้แล้ว ไม่ต้องยุ่ง" หน้าของฝนเหลือเพียงสองนิ้วเมื่อถูกนัยน์ตาเหี้ยมเกรียมเย็นชาจ้องกลับ ขนในกายลุกวาบเสียวสันหลังขึ้นมาอย่างไร้สาเหตุ ทำได้เพียงกะพริบตาปริบๆ ให้รุ่นน้องสาวว่าไม่อาจช่วยเหลืออะไรได้จริงๆ ก่อนจะต้องรีบเดินกลับนั่งที่เดิม เมื่อไทเปยังคงแผ่ไอรังสีกดดันออกมาไม่เลิก "เอาละ...ตอบคำถามผม คุณมาทำอะไรที่นี่" แม้น้ำเสียงของไทเปจะดูเรียบนิ่งเป็นปกติ แต่ทิชาก็พอจะรับรู้ได้ถึงกระแสความไม่พอใจคุกรุ่นอัดมาในคำพูดนั้น "ขะ...ขอทิชา ลงไปนั่งดีๆ ได้ไหมคะ" "ถ้าไม่ตอบคำถาม ทั้งคืนก็นั่งอยู่ท่านี้ก็แล้วกัน" ไม่พูดเปล่า ร่างสูงถือวิสาสะโอบเอวคอดกิ่วของเธอจนร่างกายยั่วเย้าสัมผัสกับกายร้อนรุ่มของชายหนุ่มแนบแน่น ทำให้เธอต้องใช้มือน้อยค้ำยันหน้าอกแกร่งเพื่อรักษาระยะห่าง หัวใจเธอเต้นแรงแทบบ้า หากมันจะวายเสียตอนนี้ทิชาจะไม่แปลกใจเลย ภายในมันแตกตื่นลนลานไปหมด ดวงตากลมเอ่อรื้นด้วยหยาดน้ำตาจางๆ หลังจากทำอะไรไม่ถูก และอยู่ใกล้ชิดกับผู้ชายแปลกหน้ายิ่งกว่าครั้งไหน "อธิบายมา..." หญิงสาวหมดทางเลือก เธอเม้มปากสูดหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่รวบรวมความกล้า ข่มอาการหวาดกลัวในจิตใจ ก่อนจะยอมเปิดปากอธิบายเรื่องราวทั้งหมดตั้งแต่ต้นจนจบให้เขาฟัง คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันครุ่นคิดตาม หลังจากปล่อยให้ทิชาหอบหายใจเหนื่อยบนตัก เมื่อเล่าทุกอย่างให้เขาฟังจนหมดสิ้น "..." "..." เธอเงียบ เขาก็เงียบ ต่างฝ่ายต่างไม่มีใครพูดอะไรออกมาสักคำ ทำหญิงสาวทนอึดอัดไม่ไหวจนต้องเป็นฝ่ายเอ่ยทำลายความเงียบขึ้นมา "ทะ...ทิชาเล่าจบแล้ว...ขอลงไปนั่งดีๆ ได้หรือยังคะ" "นั่งนี่ก่อน ผมกำลังใช้ความคิด" ชายหนุ่มตอบกลับเสียงทุ้ม จ้องกลับเธอด้วยสายตาแปลกๆ ยากจะคาดเดาความหมาย ทำทิชาอดหวาดเสียว รู้สึกหนาวๆ ร้อนๆ ขึ้นมาไม่ได้ แต่สิ่งที่ทำให้เธอขนลุกหนักกว่าเดิม นั่นคือมือหยาบลูบไล้แผ่วเบาไปตามช่วงเอวบางผ่านเนื้อผ้าบาง จู่ๆ มันก็วาบหวามเสียวแวบราวกับอยู่บนเครื่องรถไฟเหาะ ทำเธอต้องรีบเม้มปากเข้าหากันแน่ ข่มความรู้สึกแปลกๆ ที่ก่อตัวขึ้นภายในร่างกาย "คุณบอกว่าต้องการหาเงินเพื่อมาเคลียร์ปัญหาหนี้สิน และใช้จ่ายประจำวัน จนกว่าจะได้เงินเดือนในเดือนหน้าใช่ไหม" "ชะ...ใช่ค่ะ" "งั้นผมมีข้อเสนอ" "ขะ...ข้อเสนออะไรคะ?" ทิชาถามกลับเสียงสั่น ใจหนึ่งก็ยังคงหวาดระแวงแต่อีกด้านก็สนใจเช่นกัน อย่างที่ทราบว่าไทเปเป็นตัวแทนและคนสนิทของประธานบริษัทยักษ์ใหญ่ ไม่แน่เขาอาจจะมีงานดีๆ เงินเดือนสูงให้เธอทำ แทนที่จะต้องมาฝืนทนรับมือกับพวกผู้ชายเจ้าชู้หัวงูนับร้อยที่จ้องจะลวนลามเธอทุกวินาที มุมปากหยักกระตุกยิ้มจางๆ เธอชะงักค้าง ตกตะลึงในทีแรก ก่อนจะรู้สึกว่าหัวใจตัวเองเต้นแรงกว่าเดิม มันไม่ใช่อาการแตกตื่นเหมือนปกติ แต่มันเป็นความเขินอายกับเสน่ห์เหลือล้นของหนุ่มหล่อเหลาที่ดูดีทุกกระเบียดนิ้ว นี่เป็นครั้งแรกที่เธอรู้สึกใจเต้นกับความหล่อของผู้ชาย ใบหน้าชวนฝันคมเข้มค่อยๆ โน้มเข้ามาใกล้ สาวบนตักนิ่งค้างไปราวกับตกอยู่ในมนตร์สะกด ทำให้เธอไม่เบี่ยงตัวหนีเหมือนอย่างเคย ลมหายใจร้อนจ่อรดส่วนอ่อนไหวที่ใบหู เพียงแค่นั้นทิชาก็รู้สึกเหมือนร่างกายหมดแรงอ่อนระทวยไปเสียดื้อๆ เฝ้าจดจ่ออยู่กับคำพูดของชายหนุ่มด้วยอาการตื่นตัวสุดขีด "มาเป็นคู่นอนผมสิ" !!!
บทที่ 1 ทิชา AE คนเก่ง
MD Agency
ทิชาหญิงสาววัยยี่สิบสามปี ส่งยิ้มทักทายบรรดาเพื่อนร่วมงานที่ทยอยกันเดินเข้าบริษัท เธอได้เข้ามาฝึกงานที่บริษัทผลิตสื่อโฆษณาขนาดใหญ่เมื่อหลายเดือนก่อนสมัยยังเป็นนักศึกษาฝึกงาน และก็ได้รับการทาบทามให้ทำงานต่อเลย
เธอเป็นสาวน่ารัก สดใส ร่าเริงและอัธยาศัยดีคนหนึ่ง นอบน้อมต่อทุกคนทำให้พี่ๆ ในแผนกจึงค่อนข้างเอ็นดูทีเดียว
ขณะเดินทักทายคนนู้นคนนี้ สายตากลมโตก็เหลือบไปเห็นสาวผมสั้นประบ่าท่าทางกระฉับกระเฉงเดินลิ่วอยู่เบื้องหน้า ทำให้ทิชายิ้มกว้าง ไม่รอช้าวิ่งเข้าไปกระโดดเกาะคออีกฝ่ายทันที
"มอร์นิง~"
"โอ๊ย ยัยทิชา! ปล่อยเลย จะฆ่ากันเหรอไง" อันดามันบ่นอย่างไม่จริงจังนัก ทิชายังคงยิ้มกว้าง แต่ก็ยอมปล่อยคอหญิงสาวร่างเล็กกว่าเป็นอิสระ ดวงตาวิ้งวับเป็นประกายมีความสุขจากข่าวที่เพิ่งรับทราบเมื่อสองวันก่อน
"แก~ ดีใจด้วยนะ ฉันเห็นคลิปคุณวิคเตอร์ขอแต่งงานแล้ว ขอบอกเลยว่าน่ารักมากกกกกก! ความหวานนี่ทะลุผ่านมือถือมาเลยทีเดียว"
"ธรรมดา~ ฉันมันของพรีเมียม"
อันดามันสะบัดบ๊อบท่าทางชวนน่าหมั่นไส้แบบกวนอารมณ์ มุมปากกระจับประดับยิ้มหวานพลางยื่นนิ้วที่มีแหวนเพชรสองวงสวมเอาไว้บนนิ้วนางซ้ายให้ทิชาอิจฉาเล่น เนื่องจากวิคเตอร์เล่นใหญ่ไฟกะพริบ ขอแต่งงานกลางการแข่งขัน ทำให้มีมือดีถ่ายคลิปโมเมนต์แสนหวานนั้นไปเผยแพร่ยังโลกอินเทอร์เน็ต จนเป็นที่พูดถึงในวงกว้าง เพราะก่อนหน้านี้เขาก็มีข่าวฉาวมาระดับหนึ่งกับดาราตัวท็อปของวงการ ทิชาจึงทราบเรื่องน่ายินดีนี้ไปด้วย
"แกเนี่ยนะ จากจะอยากอวยพรแสดงความยินดี ทำฉันหมั่นไส้ซะได้"
"ฮ่า ฮ่า ล้อเล่นน่า ขอบคุณนะ แกเป็นเพื่อนรักคนหนึ่งของฉันเลย" อันดามันเปลี่ยนท่าทีมาขยี้เส้นผมยาวตรงของสาวตัวสูงกว่าจนยุ่งเหยิง ซึ่งเธอก็มุ่ยหน้าตอบกลับ
"เอาเถอะย่ะ หลังจากผ่านอุปสรรคแสนสาหัสมาแล้ว ต่อจากนี้ก็ขอให้แกมีแต่ความสุข มีชีวิตคู่ที่ราบรื่นนะ"
ทิชายิ้มกว้างอวยพรอันดามันอีกครั้งจากใจจริง อันดามันเป็นทั้งเพื่อนร่วมงานและอนาคตเจ้านาย เนื่องจากเธอเป็นถึงลูกสาวของเจ้าของบริษัทที่ทิชาทำงานอยู่ ทั้งคู่สนิทสนมกันในช่วงฝึกงานเนื่องจากอายุไล่เลี่ยกัน ก่อนที่อันดามันต้องย้ายไปศึกษางานยังแผนกอื่นๆ ต่อไปให้ทั่วทั้งบริษัท เพื่อที่จะได้เรียนรู้งานทั้งหมดและขึ้นมารับตำแหน่งผู้บริหารในอนาคต
"ขอบใจจ้า แต่อย่ามัวดีใจกับฉันเลย แกนั่นแหละเมื่อไหร่จะมูฟออนหาแฟนใหม่สักที"
"ฉันก็ไม่ได้อะไรแล้วเถอะ แค่ยังไม่ได้ถูกใจใครที่ไหน"
ทั้งคู่เดินพูดคุยกันไปเรื่อยๆ ขณะเดินหน้าไปทางลิฟต์ที่มีพนักงานอีกหลายคนยืนรอเช่นกัน ทั้งสองส่งยิ้มทักทายคนอื่นเป็นระยะ
"สนใจผู้ชายบ้างไหมเนี่ย ฉันช่วยหาเอาไหม" สาวห้าวร่างเล็กถามขึ้น
"ไม่รู้อะ...แกก็รู้ฉันไม่เคยคบผู้ชาย แถมยังเกร็งแทบบ้าเวลาผู้ชายเข้ามาใกล้ๆ หรือทำท่าจะจีบ"
"โอ๊ยยยย~ แกจะใช้นิ้วไปทั้งชีวิตเหรอไง! ลองคบผู้ชายดู มันฟินกว่าจริงๆ นะ"
อันดามันหันมาพูดเรื่องลามกเสียงดังแบบไม่อายใคร ทำทิชาตาโตต้องรีบยกมือปิดปากอีกฝ่ายให้เงียบ ก่อนจะหันไปยิ้มแหยให้พนักงานคนอื่นที่หันมามองบทสนทนาของทั้งคู่
"ยัยบ้า! จะพูดดังทำไมเนี่ย แกไม่อายแต่ฉันอายนะ" เธอกระซิบกลับเสียงเครียดท่าทางจริงจัง แต่อันดามันก็ปัดมือเธอออก ยักไหล่อย่างไม่แยแสราวกับเรื่องนี้เป็นเรื่องธรรมดาทั่วไป
"ก็พูดจริงนี่...สรุปแกไม่ชอบผู้ชายเลย หรือว่ายังไง?"
"ไม่เคยคุยอะ เลยไม่รู้ว่าจะรู้สึกยังไง แถมฉันก็แอบกลัวผู้ชายเหมือนกัน" เธอถอนหายใจยาวตอบกลับเสียงเบา
"ลองเปิดใจดูหน่อยน่า ผู้ชายมันก็ไม่ได้แย่ทุกคน เหมือนผู้หญิงนั่นแหละ ที่ไม่ได้ดีทุกคน"
หญิงสาวร่างเล็กกว่าเอื้อมมือมาโอบไหล่ตบปลอบใจ ขณะทั้งคู่ก้าวเข้าไปยังลิฟต์ตัวเดียวกัน
"ถ้ามีดีๆ เข้ามา จะลองดูก็แล้วกัน"
ทิชาตอบกลับแบบขอไปที เพราะเธอเรียนโรงเรียนหญิงล้วนมาทั้งชีวิต ตั้งแต่ชั้นประถมจนจบมัธยมทำให้ไม่ค่อยคุ้นชินกับผู้ชายเท่าไร ช่วงมหาลัยก็มีผู้ชายเข้ามาจีบบ้าง แต่ประสบการณ์ครั้งนั้นไม่ค่อยดีนัก ทำให้เธอเข็ดขยาดและหวาดกลัวผู้ชาย จนสุดท้ายก็ได้มาพบ 'อุ๊งอิ๊ง' อดีตแฟนสาวของเธอ ทั้งคู่เป็นทั้งแฟนและเพื่อน เพราะอีกฝ่ายเป็นผู้หญิงทำให้ทิชามีความไว้วางใจมากกว่า ทั้งคู่คบกันมาร่วมสองปี จนก่อนจบมหาลัย เธอจับได้ว่าอีกฝ่ายแอบคุยกับคนอื่น และบอกว่าไม่ได้รู้สึกกับเธอเหมือนเดิมแล้ว ทั้งคู่จึงลดความสัมพันธ์เป็นแค่เพื่อน ก่อนจะห่างหายกันไปในช่วงที่ต่างคนต่างไปฝึกงาน
จนตอนนี้ทั้งคู่เลิกกันมาได้เกือบปีแล้ว แต่อุ๊งอิ๊งก็ยังเป็นความทรงจำดีๆ อยู่ในใจเธอเสมอ ทั้งคู่เคยช่วยเหลือฝ่าฟันปัญหาในชีวิตมาร่วมกัน มันจึงค่อนข้างผูกพัน แต่ช่วงหลังทิชาก็ไม่ได้คิดถึงอะไรแฟนเก่าเหมือนตอนเลิกกันใหม่ๆ แล้ว
ทิชาทำงานอยู่ในแผนก AE หรือติดต่อประสานงานระหว่างลูกค้าและแผนกต่างๆ เพื่อให้งานสามารถดำเนินไปอย่างราบรื่นและตรงตามความต้องการของลูกค้า ทีมงานก็จะทำงานกันได้ง่ายขึ้น แม้เธอจะยังเป็นเด็กใหม่ แต่เนื่องจากความน่ารักและอัธยาศัยดี รุ่นพี่จึงมักมอบหมายให้เธอช่วยดูแลลูกค้าแบรนด์ใหญ่หลายเจ้า
"สวัสดีค่ะพี่พลอย สวัสดีค่ะพี่กานณ์"
"คนสวยของพี่มาแล้ว~" กานณ์รุ่นพี่สาวร่างท้วมยิ้มทักทายคนมาใหม่ด้วยความยินดี "คุณธนินท์โทรมาที่บริษัทตั้งแต่เช้าแล้ว เขาสนใจทำโฆษณาชิ้นใหม่กับบริษัทเรา รีเควสน้องทิชาให้มาเป็นคนประสานงานเหมือนเดิม ยังไงหนูอย่าลืมติดต่อกลับด้วยนะคะ"
"อ๋อ ได้เลยค่ะ" เธอพยักหน้ารับ แอบเหงื่อตกเล็กน้อยกับลูกค้ารายนี้ที่ทำท่าจะจีบเธอตั้งแต่ร่วมงานกันครั้งก่อน
"อย่าทำหน้าแบบนั้นสิ งานของเราก็ต้องเจอลูกค้าหลายแบบ เราน่ะเลิกกลัวผู้ชายได้แล้ว" พลอยรุ่นพี่สาวมั่นอีกคนตบไหล่ให้กำลังใจ
"งื้ออออ~ แต่คุณธนินท์ชอบส่งสายตาแปลกๆ ให้ทิชาอ่า"
"เราก็ทำหน้าที่ให้ดีที่สุด...ไม่ก็เล่นกลับไปเลย เผลอๆ อาจจะได้เป็นคุณนายไม่รู้ตัว" พลอยหัวเราะแนะนำอย่างกระเซ้าเย้าแหย่กึ่งเล่นกึ่งจริง
"พี่พลอยอ่า~"
"เอ้าๆ อย่ามัวแต่อู้กันครับสาวๆ แยกย้ายกันไปทำงานได้แล้ว" โจ๊กหัวหน้าแผนกวัยห้าสิบปี ปรบมือเรียกความสนใจจากพนักงานในแผนก ทำให้ทุกคนขานรับแล้วกลับไปนั่งโต๊ะประจำของตัวเองเพื่อเริ่มงาน
ร่างสูงโปร่งผอมแห้งแต่ยังกระฉับกระเฉงก้าวตรงมายังโต๊ะของทิชา ทำให้หญิงสาวหันไปมองด้วยความสงสัย
"มีอะไรเหรอคะพี่?"
"วันก่อนได้ดีลบริษัทใหม่ เกี่ยวกับโลจิสติกส์ส่งออกระหว่างประเทศ ชื่อ JRV LOGISTICS เจ้าของเขาเป็นเพื่อนคู่หมั้นน้องอันดามัน น้องอันเลยเสนอให้ทิชาช่วยดูแลเจ้านี้ด้วย"
"โห ท่าทางบริษัทใหญ่น่าดูเลย จะให้ทิชาทำจริงๆ เหรอคะ" เธอมีสีหน้าลำบากใจเล็กน้อย กลัวว่ารุ่นพี่คนอื่นในแผนกจะไม่พอใจเท่าไรที่เธอได้รับงานใหญ่ข้ามหน้าข้ามตา
"ไม่เป็นไร ติดปัญหาตรงไหนก็ปรึกษาทุกคนได้ ยังไงก็ทำเพื่อบริษัทอยู่แล้ว"
"โอเค ได้ค่ะ"
"งั้นเดี๋ยวพี่ส่งรายละเอียดข้อมูลลูกค้าให้ทางอีเมลนะ หลังจากนี้ก็ไปดีลต่อกับลูกค้าเองว่าทางนั้นต้องการอะไรแบบไหน"
"ค่ะพี่โจ๊ก"
ทันทีที่หัวหน้าแผนกเดินจากไป กานณ์รุ่นพี่สาวร่างท้วมก็รีบเลื่อนเก้าอี้โต๊ะทำงานเข้ามาหาด้วยความตื่นเต้น
"ว้าววว ปีนี้ทิชาโชคดีจริงๆ ได้แต่ลูกค้าบริษัทใหญ่"
"หนูล่ะกลัวจะทำได้ไม่ดีน่ะสิพี่กานณ์ เพื่อนคุณวิคเตอร์ด้วย" ยิ่งเป็นคนรู้จักของอันดามันทำให้ทิชาแอบประหม่าหน่อยๆ กลัวว่าจะเกิดข้อผิดพลาดแล้วกระทบถึงความสัมพันธ์ ซึ่งหน้าที่เธอคือต้องคอยแก้ไขและประสานงานให้งานออกมาราบรื่นที่สุด
"แค่น้องทิชายิ้มหวาน ส่งสายตาปริบๆ ผู้ชายก็เข่าอ่อนแล้วหนู~"
"พี่กานณ์อ่า หนูกังวลจริงๆ นะคะ" เธอหน้างอเมื่อรุ่นพี่ยังเอาแต่แซวเล่น
"เอาน่าๆ ค่อยเครียด แต่โทรหาคุณธนินท์ได้แล้ว!"
"ค่าๆ ทราบแล้วค่า"
เธอรับคำเสียงยานคาง แล้วติดต่อหาลูกค้าเพื่อพูดคุยเกี่ยวกับคอนเซ็ปต์งานชิ้นใหม่
แม้งานของเธอจะไม่ต้องออกแรงอะไรมาก แต่การต้องดูแลลูกค้าหลายเจ้าพร้อมกันก็เล่นเธอหัวหมุนได้เช่นกัน แล้วเสียงสวรรค์ก็ดังขึ้นพร้อมกระเพาะน้อยๆ ที่เริ่มก่อการประท้วง ทำให้ทิชาวางมือจากงานที่ทำอยู่แล้วรีบบอกลารุ่นพี่ในแผนก
เรียวขาเพรียวยาวก้าวฉับๆ ไปตามทางเดิน มุ่งตรงสู่แผนกครีเอทีฟ มือบางเกาะขอบประตูและส่งสายตาเว้าวอนไปยังร่างเล็กที่ขมวดคิ้วจดจ่อกับงานตรงหน้า
"อัน~ อันจ๋าาาา ทิชาหิวข้าวแล้ว~"
"น้องอัน ทิชามาตามแล้ว" จีจี้รุ่นพี่ในแผนกครีเอทีฟช่วยสะกิดไหล่หญิงสาวให้รู้ตัว เธอถอนหายใจยาวแล้วมองตรงมายังขอบประตูที่มีลูกแมวหน้าซื่อส่งสายตาอ้อนวอนมาให้ไม่หยุดหย่อน
"ยัยนี่! หิวก็ลงไปกินคนเดียวสิยะ"
"น้าาาา~ ไปด้วยกันเถอะ" ทิชาส่งเสียงแง้วๆ น่ารักตอบกลับไป ทำให้อันดามันได้แต่กลอกสายตาระอา แต่ข้างในกลับใจอ่อนไปเรียบร้อยแล้ว
สุดท้ายสาวห้าวก็พ่ายแพ้ให้แก่ความน่ารักของอีกฝ่าย จนต้องยอมวางมือจากงานแล้วเก็บของลงไปกินกลางวันพร้อมเพื่อนสาว
ทั้งคู่นั่งอยู่ในร้านอาหารตามสั่งเจ้าประจำ หลังจากสั่งอาหารโปรดกันไปคนละจาน อันดามันก็ยังคงหมกมุ่นวุ่นวายกับการพิมพ์ข้อความรัวใส่โทรศัพท์จนทิชาแอบเกรงใจ
"ฉันรบกวนเวลาแกทำงานหรือเปล่า ขอโทษนะ เดี๋ยววันพรุ่งนี้ฉันลงมาพร้อมพี่ในแผนกก็ได้" หญิงสาวเอ่ยเสียงอ่อย ทำให้อันดามันยอมเงยหน้าขึ้นจากโทรศัพท์ในมือ
"บ้า! ไม่ใช่ ฉันคุยกับสามีอยู่ งอแงจะให้รีบกลับบ้าน"
"อ๋อ...แต่ไหนๆ เขาก็ขอแต่งงานแล้ว แกก็น่าจะลดงานแล้วเอาเวลาไปเตรียมงานแต่งไม่ดีกว่าเหรอ" ทิชาลองแนะนำออกไป
"ฉันก็ถึงได้รีบเร่งเคลียร์งานอยู่นี่ไง ผัวงี่เง่าก็ดันไม่เข้าใจ วู้วววว~"
"ใจเย็นค่า อย่าเพิ่งหยุมหัวสามี"
"เออใช่! ฉันเสนอชื่อแกให้ดูแลบริษัทเพื่อนวิคเตอร์นะ พี่โจ๊กบอกหรือยัง"
"บอกแล้วเมื่อเช้า ก็ว่าจะคุยเรื่องนี้กับแกพอดี พี่ๆ ในแผนกบอกนั่นบริษัทใหญ่มาก ติด หนึ่งในสามของประเทศเลยนะ แกจะให้ฉันดูแลจริงเหรอ"
"มั่นใจหน่อยดิ ทำได้อยู่แล้ว งานไม่ได้ยากอะไร" อันดามันตอบกลับเธอพร้อมก้มพิมพ์ข้อความด่าสามีในอนาคตไปด้วยโทษฐานงอแงไร้สาระ
"เล่าให้ฟังหน่อยสิ ฉันจะได้มีข้อมูลเพิ่มไปคุยกับลูกค้าถูก"
"เอิ่มมมม..." ร่างเล็กวางโทรศัพท์ลง พลางยกแขนเท้าคางทำท่าครุ่นคิดครู่หนึ่ง "เอาจริงๆ ฉันไม่รู้อะ"
"เอ้า! ยัยนี่!"
"ฮ่าๆๆๆ ฉันไม่รู้เรื่องบริษัทเขาก็จริง แต่ก็เคยเจอตัวเจ้าของอยู่ เป็นคนเงียบๆ ค่อนข้างเนี้ยบมากเลยแหละ วิคเตอร์บอกว่าเขาเป็นอัจฉริยะไอคิวถึงหนึ่งร้อยหกสิบ แถมรักความเพอร์เฟกต์เป็นที่สุด"
ได้ฟังแค่นี้ทิชาก็อยากจะเอาหน้าทิ่มจานหมูกระเทียมเบื้องหน้า นี่ไม่ต่างจากส่งเธอเข้าโรงเชือดแม้แต่น้อย
ยัยอันนะ ยัยอัน ส่งลูกค้าแต่ละคนมาให้มีแต่งานหินทั้งนั้น
"ใจเย็น อย่าเพิ่งร้องไห้ โอนิกซ์กับพี่แพรวาเขาเพิ่งมีลูกกัน คงไม่ได้มาคุมงานครั้งนี้เองหรอก" อันดามันหัวเราะขบขันกับท่าทางของเพื่อนสาวที่ทำหน้าเหมือนโลกกำลังจะแตกพรุ่งนี้
"เฮ้ออออ~ แล้วไม่รีบบอก"
"แต่เขาจะส่งใครมาไม่รู้นะ แต่คงไม่เคี่ยวเท่าเพื่อนวิคเตอร์หรอก ทำใจให้สบายๆ ครั้งก่อนแกเคยแนะนำให้หว่านเสน่ห์ใส่ลูกค้านี่ ครั้งนี้แกก็ลองทำดูซะนะ เผื่องานจะราบรื่นขึ้น"
ได้ทีคนตัวเล็กก็หยอกล้อกลับ ทิชามุ่ยหน้าด้วยความเศร้าสลด ก่อนจะลงมือกินอาหารตรงหน้า ทั้งคู่เมาท์มอยพูดคุยกันไปเรื่อยตั้งแต่เรื่องดารา งาน ลามไปถึงเรื่องลามกใต้สะดือ ซึ่งคนเปิดประเด็นจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากสาวแซ่บสุดมั่นอย่างอันดามัน
เธอต้องกลั้นใจฟังด้วยพวงแก้มเห่อร้อน กระอักกระอ่วนใจเป็นที่สุด กับเรื่องเล่าแสนวาบหวิวที่เพื่อนสาวยกขึ้นมาเป็นวิทยาทานให้สาวซื่ออ่อนประสบการณ์ได้ศึกษา