บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 3 The Rain in the Sky

ตกเย็น

ดูเหมือนฉันลืมกระเป๋าไว้ในคลาสสุดท้าย

ท้องฟ้าเหนือขึ้นไปเริ่มมืดแสง สายฝนเม็ดบางเบาโปรยปราย หวังว่าฝนจะไม่ตกหนักกว่านี้

หากแต่กว่าจะเดินกลับมาถึงห้องเรียนตัวกลับเปียกหมดเสียแล้ว ฝีเท้าหยุดชะงักเมื่อเห็นร่างสูงของอากิฮิสะยืนหันหลัง มองออกไปนอกหน้าต่างเปื้อนสายฝน

เสียงฝีเท้าของฉันทำให้อีกฝ่ายหันมา

“ยังไม่กลับบ้าน” ฉันถามสั้นๆ

“ยัง”

เป็นคนเงียบอย่างที่คิด คงรำคาญกับการตอบคำถามคนที่เข้ามาทักทั้งวันแล้ว

“แล้วเธอ”

“ลืมของ” ฉันบอกสาเหตุการมา ไม่อยากพูดมากให้อีกฝ่ายรำคาญ

กระเป๋าของฉันอยู่ที่เดิมจากที่ลืมไว้เมื่อคาบเรียนสุดท้าย และตอนนี้ยังวางอยู่ตรงกับเก้าอี้ที่อากิฮิสะบังเอิญไปยืนอยู่

ฉันเดินเข้าไป เอื้อมตัวหยิบกระเป๋า ร่างที่สูงใหญ่ทำให้ฉันต้องโน้มเฉียดตัวเขานิดหนึ่ง สัมผัสว่าร่างของเขาร้อน เสื้อเปียกฝนของฉันสัมผัสถึงอุณหภูมินั้นเสี้ยววินาที

“โตขึ้นมากนะอายามิ” เสียงทุ้มเอ่ยทำลายความเงียบ ฉันชะงักนิดหนึ่ง

“อือ ก็เหมือนนาย”

คว้ากระเป๋าได้ฉันผละห่างไป ไม่ได้อยากคิดมากวนใคร อากิฮิสะที่เจอคนมาทั้งวันอาจอยากอยู่คนเดียวบ้าง เหมือนฉันในบางที

หากแต่มืออากิฮิสะรั้งมือฉันไว้ข้างหนึ่งก่อนฉันจะกลับหลังหัน มือที่อุ่นจนเกือบร้อนและใหญ่กว่ามากเมื่อเทียบกับมือของฉัน และเมื่อมือนั้นรวบเข้าข้อมือฉันก็หายไปในมือนั้นแทบมิด

“เธอไม่ควรไปไหนคนเดียว” ดวงตาคมจ้องมองฉัน “โดยเฉพาะเวลาที่เปียกทั้งตัวแบบนี้”

หายใจขาดห้วงเมื่อมองตามดวงตาคมซึ่งมองต่ำลงไปตามเรือนร่างของฉัน ทำให้ฉันเห็นว่าเสื้อของตัวเองถูกสายฝนชโลมจนลู่แนบผิวเนื้อ แต่เส้นผมที่ยาวถึงเอวของฉันบังไว้

“ปล่อยมือฉันที”

หากแต่ดวงตานั้นที่ดูคล้ายสีครึ้มฝนของท้องฟ้านอกหน้าต่างยังทาบมองฉัน

“ในที่สุดก็ได้เจอกันอีก”

คำพูดที่ราวกับย้อนไปเมื่อคืนหลังจากหนามกุหลาบเกี่ยวฉัน ก่อนที่ริมฝีปากของเขาจะทาบทับลงเหนือข้อมือของฉัน

“ฉันอยากลิ้มรสเลือดของเธอ อายามิ”

ตะลึงงัน

“ว่าไงนะ...!”

เพราะเสียงฟ้าที่ร้องครางครืนหรือเปล่าฉันถึงฟังผิด...

“และอยากรู้ว่าเธอจะให้สัมผัสแบบไหนเมื่อฝังคมเขี้ยวลงบนร่างสีขาวแบบนี้”

ครืน...!

แสงสายฟ้าปลาบสาดปะทะเสี้ยวใบหน้าคมในเงาห้องที่เมฆฝนทาบทับ

“อากิฮิสะ! นายล้อเล่นอยู่เหรอ!” อาจเหมือนสมัยเด็ก จริงด้วยสิ

“ไม่เลย”

อึก...!

“ฉันเป็นแวมไพร์” มือใหญ่รั้งร่างฉันเข้ามาจนร่างฉันปะทะแนบไปกับร่างอีกฝ่ายอย่างตั้งตัวไม่ทัน ก่อนที่อีกมือของร่างสูงจะเคลื่อนสู่ลำคอเปียกหยาดฝนของฉัน รั้งปกเสื้อเปียกของฉันออก

ได้ยินเสียงกระดุมเสื้อบนร่างตัวเองปลิดออกจากกัน

“ไม่ ฉันไม่เชื่อหรอก อย่านะ...!”

ฉันดิ้น ก่อนสะท้านไปทั้งตัวเมื่อริมฝีปากร้อนของร่างที่เหมือนตรึงฉันทาบทับริมฝีปากลงเหนือลำคอ แนบแน่นและร้อนราวกับไฟลามเลีย...!

“อ...อ๊ะ...!! อากิฮิสะ...!”

ความเจ็บแปลบราวเข็มทิ่มแทงแล่นปราดจากลำคอ ก่อนรู้สึกถึงการชำแรกลงใต้ผิวเนื้อของบางสิ่ง ร่างฉันสั่นสะท้านและกระตุกรุนแรง สัมผัสนี้คือคมเขี้ยวจริงๆ...!

“ย...อย่านะ...ปล่อยฉันที...!!”

ท...ทำไม....!

อากิฮิสะเป็นแวมไพร์จริงๆ...!

กึก...

“อื้อ...!”

ฟากฟ้าร้องเมื่อร่างสูงกดร่างฉันจนแผ่นหลังแนบสนิทกับผนัง ริมฝีปากร้อนยังทาบทับเหนือผิวที่สั่นสะท้านของร่างฉันที่ถูกตรึงจนไม่อาจดิ้น เส้นเลือดในร่างเต้นระรัวใต้คมเขี้ยว แว่วเสียงกระดุมบนร่างขาดออกจากกันอีกครั้ง

รู้ตัวอีกทีมือของเขาเคลื่อนต่ำลงกดตรึงชายโครงเปล่าว่างของฉัน ริมฝีปากทาบเหนือหัวใจของฉัน ทำให้ฉันเพิ่งรู้ว่าตอนนี้ผิวส่วนนั้นไม่มีอะไรปกปิด

ตั้งแต่เมื่อไหร่...!

“อ...อากิฮิสะ...อ... อ๊า...!”

คมเขี้ยวฝังลงเหนือหัวใจ ฉันกระตุกร่างดีด แต่กลับดิ้นไม่ได้เลย เขาแข็งแรงกว่าฉันมาก และเขากำลังดื่มเลือดของฉันจริงๆ…!

“ป...ปล่อย...อ๊ะ...!!” กระตุกร่างซ้ำเมื่อคมเขี้ยวแทงลึกลงในรอยเดิม ทำไมเขาทำแบบนี้ ร่างด้านหน้าที่เกือบจะเปล่าว่างของฉันถูกรั้งแนบชิดจนผิวร่างรู้สึกถึงความร้อนจากอีกร่างกำยำที่กดแนบจนไร้ที่ว่าง ลมหายใจของฉันขาดห้วง สั่นสะท้าน และสติค่อยๆ หมดลงไปทุกที

“อ...อือ...ป...ปล่อย...”

ขาฉันค่อยๆ หมดเรี่ยวแรงและทรุดลง ทว่าร่างยังราวถูกเปลวไฟกระชากฉีก ฉันเหมือนเหยื่อที่ถูกล่าและกำลังจะถูกฉีกเป็นชิ้นๆ ด้วยมือที่กดรั้งเรือนร่างด้านหน้าทั้งหน้าท้องและชายโครง และทำไมร่างฉันถึงได้เสื้อหลุดลุ่ยใต้มือของเขาแบบนี้...!

นี่หรือแวมไพร์ เลือดของฉันกำลังไหลไปหาอากิฮิสะราวกับถูกเรียก ไม่เหลือแรงดิ้น หากตอนนี้มือใหญ่ไม่เคลื่อนอ้อมไปรั้งแผ่นหลังฉันคงล้มลงไปแล้ว มือนั้นรั้งแผ่นหลังฉันขึ้นให้ร่างฉันรับคมเขี้ยวได้ลึกขึ้นอีก

“อ...อ๊า...”

หัวขาวโพลนไปหมด สติถูกกระชากหลุดลอย ถึงร่างสูงใหญ่จะบังร่างฉันอยู่แต่ตอนนี้แม้แต่เหนือไหล่ของฉันก็ถูกมือใหญ่ปลดเสื้อรั้งลงจนเปล่าว่างถึงต้นแขน “อ...อากิ...”

“หวานอย่างที่คิด”

เสียงฟ้าคำรามเมื่อเขากลืนกิน ดังลั่นแต่ทว่าเหมือนอยู่ไกลแสนไกล สติฉันกำลังจะดับสูญพร้อมกับเลือดที่ไหลออกจากร่างไปหาเขา ไม่มีแรงแม้แต่จะยืน มือของฉันที่ขืนมือใหญ่ค่อยๆ หมดแรงลง ในที่สุดก็ตกลงข้างลำตัว

และถ้าไม่มีแขนแข็งแกร่งของอากิฮิสะกระหวัดรัดร่างฉันไว้ฉันคงล้มทรุดกับพื้นจริงๆ

“อ...อากิฮิสะ...”

นี่มันอะไรกัน ฉันเคยคิดอยากเจอนายอีกครั้งเมื่อนานมาแล้ว

แต่ไม่ใช่แบบนี้...!

แล้วแสงสว่างที่ฉันเห็นพลันดับวูบไป

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel