บท
ตั้งค่า

Neighbor 10

@ร้านสึกิไอศกรีมพาเฟต์

“วันนี้มีอะไรดีๆ เกิดขึ้นเหรอขวัญ ตั้งแต่มายังไม่หุบยิ้มเลยนะ”

ฉันหันไปมองคะนิ้งทั้งๆที่ยังคงแอบยืนอมยิ้มอยู่คนเดียวเหมือนเป็นบ้าไม่มีผิด แล้วก็ได้แต่ส่ายหน้ากลับไปเบาๆแทน จะให้บอกว่าหัวใจของฉันกำลังพองโตเพราะพี่คินก็ไม่ได้ด้วยสิ

“ไม่มีอะไรหรอกน่า แค่วันนี้อากาศมันดีกว่าทุกวันแค่นั้นเองน่ะ” คะนิ้งขมวดคิ้ว แล้วหันไปมองแสงแดดที่แผดเผาด้านนอกร้าน จากนั้นก็หันกลับมามองหน้าฉันด้วยความมึนงง

”ร้อนขนาดนี้เนี่ยนะอากาศดี”

ฉันพยักหน้าหงึกหงักพร้อมกับหัวเราะและยิ้มกว้างอีกครั้ง ถึงแดดจะแรงขนาดไหน ฉันก็ยังคิดว่าวันนี้มันรู้สึกดีจริงๆ ให้ตายสิ ฉันคงบ้าไปแล้วแน่ๆเลย

”ลูกค้ามาแล้ว ฉันไปรับออเดอร์ก่อนนะ”

ฉันบอกคะนิ้งจบก็เดินไปรับออเดอร์ลูกค้าที่เพิ่งเข้ามานั่งในร้านอีกสองสามคนอย่างอารมณ์ดี โดยที่ริมฝีปากยังคงหุบยิ้มไม่ได้ พอรับออเดอร์ของลูกค้าเสร็จก็เดินเอาใบที่จดออเดอร์ไปส่งให้ดิวเพื่อที่เขาจะได้ทำอากหารให้ลูกค้า ก่อนจะเดินไปยืนตรงเคาน์เตอร์คิดเงินที่คะนิ้งและริกะกำลังนั่งพักอยู่ เพราะตอนนี้ยังไม่มีลูกค้าเข้าร้านมากเท่าไหร่

”มาอีกแล้วเหรอเนี่ย”

คะนิ้งพูดพึมพำออกมาเบาๆ ฉันที่ยืนอยู่ใกล้ๆได้ยินเลยหันไปมองที่หน้าร้านก็เจอกับผู้หญิงหน้าตาน่ารัก แต่งตัวเซ็กซี่กำลังเปิดประตูร้านเข้ามา ฉันเลยหันไปถามคะนิ้งที่ยืนถอนหายใจออกมาด้วยความสงสัย

“ใครเหรอคะนิ้ง”

“แฟนเก่าไอ้ต้าน่ะ คอยตามตื้อมันมาหลายวันแล้ว ทั้งๆ ที่ตัวเองเป็นคนไปหาผู้ชายคนอื่นเองแท้ๆ”

“อ้อ“

คะนิ้งพูดพร้อมกับส่ายหน้าเล็กน้อยอย่างเหนื่อยหน่าย เท่าที่ฉันรู้มาคะนิ้ง ต้าและดิวอยู่มหาวิทยาลัยเดียวกัน แต่เรื่องนี้ฉันก็เพิ่งรู้วันนี้นี่แหละ ฉันพยักหน้าอย่างเข้าใจแล้วจะออกไปรับออเดอร์ลูกค้าที่เพิ่งเข้ามาในร้านอีกคน แต่ริกะจับแขนฉันไว้เบาๆ ซะก่อน

“เดี๋ยวฉันไปเอง ขวัญพักก่อนก็ได้นะ วันนี้เดินเสิร์ฟไม่ได้พักเลยนี่“

“ขอบใจนะริกะ”

ฉันส่งยิ้มบางกลับไปให้ริกะ แล้วพยักหน้าหงึกหงัก พอนั่งลงที่เก้าอี้ยาวแทนริกะไปได้สักพัก ฉันก็ต้องลุกขึ้นไปเก็บจานกับเช็ดโต๊ะที่ลูกค้าทยอยกลับ จนใกล้จะปิดร้านก็เหลือแค่โต๊ะของแฟนเก่าต้าคนเดียว

“คะนิ้งเมื่อไรต้าจะเลิกงาน”

ฉัน คะนิ้ง และริกะที่ยืนอยู่ด้วยกันหันไปมองตามเสียงหวานอย่างพร้อมเพรียงกันด้วยความรวดเร็ว ก่อนที่คะนิ้งจะบอกเธอน้ำเสียงติดจะรำคาญหน่อยๆ ฉันกับริกัหันมองคะนิ้งกับแฟนเก่าต้าไปมาอย่างทำตัวไม่ถูกทันที

”ฉันจะไปรู้มันเหรอ มาตามเฝ้ายังไงไม่รู้ว่าไอ้ต้ามันเลิกงานกี่โมง”

“เธอเป็นเพื่อนต้า ถ้ารู้ก็บอกฉันมาสิ”

“ฉันขอถามอะไรหน่อยนะโบว์ เธอไปกับผู้ชายคนอื่น คบคนอื่นลับหลังมัน ทำไมถึงกล้ามาตามมันอีกเนี่ย”

“คะนิ้ง นี่แก!”

พอคะนิ้งพูดไปแบบนั้น แล้วถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่อย่างเหนื่อยหน่าย แฟนเก่าต้าที่ชื่อโบว์ก็ทำสีหน้าไม่พอใจใส่คะนิ้งมากกว่าเดิมซะอีก ฉันหันไปมองรอบๆ ร้านก็เห็นว่าลูกค้าคนอื่นๆ กลับกันไปหมดแล้วเลยรู้สึกโล่งอกขึ้นมาหน่อย ไม่งั้นลูกค้าแตกตื่นกันหมดแน่ๆ วันนี้พี่ตุลย์ไม่เข้าร้านด้วยสิ

“มีอะไรกัน”

ต้าเดินเข้ามาพร้อมกับเปลี่ยนชุดแล้วเรียบร้อย ดิวที่เดินตามเขามาติดๆ พอเห็นว่าอะไรเป็นอะไรก็ยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจเล็กน้อย จากนั้นต้าก็หันไปมองโบว์ด้วยสายตานิ่งเฉยแล้วถอนหายใจออกมาเบาๆ

”ต้า คือโบว์...”

”กลับไปเถอะ เราไม่มีอะไรจะคุยกันแล้วนะ”

“อะไรเนี่ย”

ต้าบอกโบว์จบ เขาก็เดินไปวางกระดาษแผ่นเล็กๆ ไว้ที่หน้าเคาน์เตอร์ตรงที่คะนิ้งยืนอยู่ คะนิ้งมองหน้าต้ากับกระดาษแผ่นนั้นด้วยความสงสัยทันที

“ของที่ต้องซื้อพรุ่งนี้ วันนี้ไปซื้อกับฉันก็แล้วกัน”

ต้าบอกคะนิ้งด้วยน้ำเสียงปกติ โดยไม่ได้สนใจโบว์ที่ยืนอยู่ใกล้ๆ เลยสักนิด ฉันกับริกะหันมามองหน้ากัน แล้วส่งยิ้มแห้งๆ ไปทางดิวที่คงจะรู้เรื่องของพวกเขาด้วยเหมือนกัน เขาถึงได้ทำแค่นั่งเล่นโทรศัพท์มือถือรอให้ทุกอย่างเรียบร้อยและรอปิดร้านสักที

“ใครบอกว่าฉันจะไป แกก็ไปกับไอ้ดิวโน่น”

“ไอ้ดิวมีธุระ“

“ไอ้ต้า ปล่อยเลยนะ!”

แล้วต้าก็ใช้ท่อนแขนคล้องรอบคอคะนิ้ง จากนั้นก็ดึงมาใกล้ตัวของเขาจนคะนิ้งโวยวายขึ้นมาอีกครั้ง แต่เขาก็ยังไม่ยอมปล่อยแถมยังใช้มือขยี้ผมคะนิ้งจนมันยุ่งไปหมดอีกต่างหาก โบว์ที่ยืนดูเหมือนเป็นอากาศเริ่มดูหงุดหงิด แล้วเดินสะบัดบ็อบออกไปนอกร้านด้วยท่าทางไม่พอใจทันที

“ฉันจะไปปิดร้านนะ ขวัญกับริกะกลับกันเลยก็ได้”

ฉันพยักหน้าหงึกหงักให้ดิว แล้วหันไปมองต้ากับคะนิ้งอีกครั้ง ทั้งสองคนยังตีกันไม่หยุดเลย แต่ก็รู้สึกตลกดีเหมือนกันแฮะ ท่าทางคงจะสนิทกันมากน่าดู

พอฉันกลับมาถึงบ้านก็รู้สึกเพลียจนไม่อยากทำอะไรเลย ให้ตายสิ เดินไปหยิบนมในตู้เย็นมาเทใส่แก้ว ดื่มเสร็จก็เดินขึ้นห้องนอนของตัวเอง แล้วจัดการอาบน้ำ จากนั้นฉันก็มานอนเล่นอยู่บนเตียง เปิดทีวีดูสักพัก และพอเหลือบมองไปดูนาฬิกาที่ติดอยู่ตรงผนังห้องก็สามทุ่มกว่าเข้าไปแล้ว ท้องเริ่มรู้สึกหิวเพราะตอนเย็นฉันยังไม่ได้กินอะไรเลย มันเพลียจนนอนหลับก็จริง แต่ถ้าท้องยังร้องขนาดนี้ใครจะไปนินหลับลงกันล่ะเนี่ย

“ทำอะไรกินดีเนี่ย”

ฉันปิดทีวีแล้วลงไปที่ห้องครัว แต่พอเปิดตู้เย็นดูก็มีของสดไว้ทำอาหารอยู่นิดหน่อย เพราะวันเกิดแคทตอนฉันไปซื้อของขวัญให้มันก็แอบซื้อของกินมาไว้นิดๆ หน่อยๆ ด้วย เผื่อเลิกงานแล้วไม่อยากออกไปไหนแบบวันนี้ยังไงล่ะ

กุกกักๆ

ฉันสะดุ้งเล็กเล็กน้อยทันทีที่ได้ยินเสียงแปลกๆ แถวประตูหน้าบ้าน รู้สึกตื่นตกใจจนต้องรีบไปหยิบกระทะมากำไว้ในมือแน่น แล้วสูดหายใจเข้าปอดลึกๆ ก่อนจะทำใจกล้าเดินไปทางประตูบ้านของตัวเองช้าๆ

กุกกักๆ

“ขวัญ”

ฉันชะงักเท้า แล้วยืนนิ่งขมวดคิ้วมุ่นทันทีเมื่อได้ยินเสียงทุ้มเข้มคุ้นหูดังมาจากอีกด้านของประตูหน้าบ้าน ก่อนจะเอ่ยถามเสียงตะกุกตะกักอย่างไม่แน่ใจ ถ้าเป็นโจรนะ แม่จะฟาดด้วยกระทะนี่ซะเลย!

“คะ... ใครคะ”

“พี่เอง“

“พี่คินเหรอ” ฉันขมวดคิ้วมุ่นอย่างมึนงงยิ่งกว่าเดิม กระทะที่ยกขึ้นไว้เตรียมทุบหัวโจรวางลงอยู่จรงระดับลงข้างลำตัวทันที

“ใช่ พี่เอง เปิดประตูให้น่อยตัวแสบ ยุ่งกัดพี่ไปหมดแล้วเนี่ย”

“เอ่อ... ได้ค่ะ แปบนึงนะคะ”

ฉันรีบวางกระทะลงที่โต๊ะเล็กๆ ใกล้กับประตู แล้วเดินไปเปิดประตูบ้านให้พี่คินด้วยความรวดเร็ว และทันทีที่ประตูเปิดออกสายตาของฉันก็เจอกับร่างสูงใหญ่ที่กำลังยืนยิ้มมุมปากพร้อมกับหัวเราะกับท่าทางเลิ่กลั่กของฉันเบาๆ

“ทำหน้าตกใจอะไรน่ะ”

“พี่คินมีเหรอ ลืมอะไรไว้รึเปล่าคะ”

เสียงเข้มต่ำเอ่ยถามและพอฉันตั้งสติได้ ฉันก็ส่ายหน้าแล้วส่งยิ้มแห้งๆไปให้เขาแทน พี่คินเดินเข้ามาในบ้านพร้อมกับปิดประตูล็อกบ้านให้เรียบร้อย ฉันเลยหันไปถามเขาเสียงเบาอุบอิบอย่างสงสัย แล้วเดินไปหยิบกระทะมาที่วางไว้เพื่อจะได้มาไปทำอะไรกินต่อ

“เปล่าหรอก พี่แค่มาอยู่เป็นเพื่อน แล้วนั่นถือกระทะมาด้วยทำไมน่ะ”

“เอ่อ..”

ฉันได้แต่ยืนอึกอักอยู่ที่เดิมและไม่รู้จะอธิบายยังไงดี สายตาคมดุดันมองใบหน้าของฉันสลับกับกระทะในมือคิ้วเข้มขมวดมุ่นอย่างสงสัย สักพักพี่คินจ้องมองฉันแล้วยิ้มมุมปากขึ้นอย่างเจ้าเล่ห์

“คิดว่าถ้าพี่เป็นโจรแล้วจะเอากระทะนั่นไปสู้รึไง ตัวแสบ”

ฉันเม้มริมฝีปากเอาไว้แน่นอย่างทำตัวไม่ถูก ตอนนั้นฉันตื่นๆ ไปหมด แถมยังตกใจที่จู่ๆ ก็เหมือนมีคนมางัดประตูบ้านนี่นา ใครจะไปทันคิดว่าเป็นพี่คิน มีอะไรใกล้อยู่มือก็หยิบมาหมดนั่นแหละ บ้าชะมัดเลย

“ขวัญเอาจะมาทำอาหารกินหรอก”

“อยากกินอะไร เดี๋ยวพี่ทำให้”

ฉันบอกพี่คินเสียงอุบอิบ พี่คินหัวเราะเบาๆ แล้วฝ่ามือใหญ่ก็หยิบกระทะในมือของฉันไปถือเอง ฉันได้แต่ยืนกะพริบตาปริบๆ มองหน้าพี่คินพร้อมกับหัวใจเต้นระรัวอย่างดีใจและพองฟูไปหมด

“เอ่อ... พี่คินจะมาอยู่เป็นเพื่อนขวัญจริงๆ เหรอคะ”

“หึ แล้วเราอยากให้พี่อยู่เป็นอะไรล่ะ”

เสียงทุ้มเข้มเอ่ยด้วยท่าทางปกติ ร่างสูงใหญ่ยกยิ้มมุมปากแล้วมองฉันด้วยสายตาคมวาววับอย่างเจ้าเล่ห์อีกครั้งจนฉันรู้สึกประหม่า และเลิ่กลั่กไปหมด หัวใจก็เต้นแรงจนกลัวว่ามันจะกระเด็นออกมานอกอกได้อยู่แล้วเนี่ย พี่คินพูดแบบนี้กับฉันอีกแล้วนะ ไม่แฟร์เลย ให้ตายสิ!

“พะ... พี่คินเลิกแกล้งขวัญได้แล้ว หิวแล้วเนี่ย”

ฉันพึมพำออกมาเบาๆ พร้อมกับทำหน้ามุ่ยเล็กน้อยแล้วเม้มริมฝีปากเอาไว้แน่นอย่างประหม่า จากนั้นก็เดินเข้าไปที่ห้องครัวด้วยความรวดเร็ว บ้าจริง ถ้ายังอยู่กับพี่คินที่เอาแต่จ้องมองฉันด้วยสายตาคมเจ้าเล่ห์แบบนี้ หัวใจของฉันคงทำงานหนักกว่าเดิมแน่ๆ…

หมับ

“โมโหหิวรึไงตัวแสบ”

ฉันชะงักไปทันทีที่ฝ่ามือใหญ่วางลงมาบนหัวของฉันอย่างแผ่วเบา พอเงยหน้าขึ้นไปสบกับสายตาคมของร่างสูงใหญ่ ฉันก็รู้สึกว่าใบหน้าร้อนผ่าวอย่างควบคุมไม่ได้ตลอดเลย

“ขวัญไม่ได้โมโหพี่คินซะหน่อย”

“เดี๋ยวพี่ทำสปาเก็ตตี้ให้กิน โอเคมั้ย”

ฉันพยักหน้าหงึกหงักแทนคำตอบพร้อมกับยิ้มกว้างอย่างดีใจ พี่คินบีบปลายจมูกฉันแรงๆ หนึ่งทีแล้วเขาก็เดินไปทำสปาเก็ตตี้โดยไม่ได้พูดอะไรออกมา พี่คินทำเพียงแค่ยกยิ้มมุมปากขึ้นเล็กน้อยอย่างอารมณ์ดีขณะที่กำลังทำอาหาร ส่วนฉันก็นั่งรอและมองแผ่นหลังกว้างของเขาด้วยหัวใจพองฟูจนมันแทบระเบิดออกมาได้อยู่แล้ว

“พรุ่งนี้ขวัญว่างรึเปล่า”

“ขวัญเลิกงานประมาณสองทุ่มค่ะ ทำไมเหรอคะ”

ฉันกะพริบตาปริบๆ แล้วขมวดคิ้วด้วยความมึนงงเล็กน้อย ก่อนจะมองไปทางร่างสูงใหญ่อีกครั้งอย่างไม่เข้าใจเท่าไหร่ที่จู่ๆ พี่คินก็ถามขึ้นโดยที่เขายังคงหันหลังตั้งใจทำสปาเก็ตตี้อยู่

“เลิกงานแล้วโทรบอกพี่นะ เดี๋ยวไปรับ”

“มารับขวัญที่ทำงานน่ะเหรอคะ”

ฝ่ามือใหญ่ยกสปาเก็ตตี้ทั้งสองจานที่ทำเสร็จแล้วมาวางไว้บนโต๊ะอาหาร จากนั้นพี่คินก็นั่งลงที่เก้าอี้ข้างๆ ฉันและหันมามองหน้าฉันพร้อมกับยกยิ้มมุมปากขึ้นอย่างเจ้าเล่ห์ จนฉันทำตัวไม่ค่อยถูกเวลาที่เขามองฉันแบบนั้นทีไรหัวใจมันจะเต้นระรัวทุกทีเลย ให้ตายสิ

“อือ พรุ่งนี้ไปทำงานกี่โมงก็บอกพี่แล้วกัน พี่จะได้ออกไปส่ง”

ดะ... เดี๋ยวนะ ทำไมพี่คินต้องคอยไปรับไปส่งฉันด้วยล่ะ เขาคิดอะไรอยู่เนี่ย ถึงฉันจะรู้สึกดีที่พี่คินดูเป็นห่วง และคอยดูแลแบบนี้ฉันก็ตาม แต่อีกใจมันก็เจ็บหน่วงขึ้นมาเมื่อคิดได้ว่าเขาคงเป็นห่วงฉันเหมือนเป็นน้องสาวคนหนึ่งเท่านั้นเอง บ้าชะมัด ทำไมความรู้สึกฉันถึงตีกันไปหมดแบบนี้ได้ล่ะเนี่ย!

“พี่คิน...ขวัญว่า”

หมับ

“หิวไม่ใช่เหรอ กินได้แล้ว”

ฉันเม้มริฝีปากไว้แน่น กลืนคำพูดทุกอย่างหายไปจนหมดเมื่อฝ่ามืออบอุ่นของพี่คินลูบหัวฉันอย่างแผ่วเบา ช่างมันเถอะ ขอให้ฉันได้อยู่ข้างๆ เขาและเข้าข้างตัวเองคนเดียวไปแบบนี้ก่อนก็แล้วกัน... แค่สักเล็กน้อยก็ยังดี ถ้าทนไม่ไหวเมื่อไหร่ ฉันคงจะเลิกชอบพี่คินได้เองนั่นแหละน่า…

“ค่ะ”

ฉันถอนหายใจออกมาเบาๆ แล้วก้มหน้ากินสปาเก็ตตี้ที่พี่คินทำให้โดยไม่พูดอะไรออกมา พอเหลือบมองร่างสูงใหญ่ที่นั่งกินสปาเก็ตตี้อีกจานข้างๆ ก็เห็นว่าพี่คินกำลังกินไปกดโทรศัพท์มือถือของเขาไปตามปกติ

หลังจากที่เราสองคนกินข้าวกันจนอิ่ม ฉันก็เก็บจานทั้งของตัวเองและของพี่คินไปล้าง นี่ก็เริ่มดึกแล้วด้วย อาการง่วงก่อนหน้านี้ของฉันหายไปหมดทันทีที่พี่คินเข้ามาอยู่ที่บ้านหลังนี้ อยากจะบ้าตาย ตั้งแต่ที่เขามาอยู่ที่นี่ฉันก็รู้สึกทำตัวไม่ถูก หัวใจเต้นตึกตักแทบตลอดเวลา ฉันคงบ้าไปแล้วจริงๆ สินะ…

“พี่คิน”

ฉันขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อสายตามองไปเห็นรอยดำคล้ายคราบน้ำมันเครื่องรถยนต์ติดอยู่ที่เสื้อยืดของพี่คิน ร่างสูงใหญ่ที่กำลังยืนยกแก้วน้ำขึ้นดื่มอยู่ข้างตู้เย็นหันมาเลิกคิ้วเข้มถามฉันด้วยความสงสัยเล็กน้อย

“หือ ว่าไง”

“พี่เพิ่งกลับมาจากอู่ที่สนามแข่งเหรอคะ”

“อือ ทำไมเหรอ”

ฉันปิดก๊อกน้ำตรงอ่างล้างจาน แล้วหันมาเงยหน้ามองพี่คินที่ยืนสบสายตาคมกับฉันนิ่ง และฉันต้องขมวดคิ้วมุ่นมากขึ้นกว่าเดิมทันที นี่พี่คินไม่ได้กลับบ้านตัวเองก่อนหรือไงกัน ทำไมยังมีเสื้อเปื้อนๆอยู่แบบนั้นล่ะ ให้ตายเถอะ แล้วฉันจะใจเต้นอะไรนักหนา เขาคงทำไปแบบไม่ได้คิดอะไรมากนักหรอก ถึงพี่คินจะเป็นห่วงฉันเหมือนน้องสาวคนหนึ่งยังไง เขาก็คงไม่รีบมาหาฉันที่บ้านจนไม่คิดจะเปลี่ยนเสื้อผ้าของตัวเองก่อนหรอกมั้ง... พี่คินอาจจะแค่ไม่อยากเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ยุ่งยากมากกว่า…

“ขวัญว่าพี่คินไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนดีมั้ยคะ”

ร่างสูงใหญ่มองตามสายตาของฉันไปตรงรอยเปื้อนคราบน้ำมันเครื่องรถยนต์บนเสื้อยืดของเขา พี่คินยกยิ้มมุมปาก จากนั้นเขาก็ยักไหล่อย่างไม่ค่อยใส่ใจเท่าไหร่เล็กน้อย

“งั้นพี่ขอยืมห้องน้ำที่บ้านขวัญหน่อยแล้วกัน”

“ตะ... ตามสบายเลยค่ะ”

ฉันจะตั้งสติและตอบเขาไปเสียงเบาตะกุกตะกักพร้อมกับพยักหน้าหงึกหงัก ก่อนจะหันหน้าหนีเพื่อหลบสายตาคมที่จ้องมาทางฉันอย่างเจ้าเล่ห์ ฉันก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมเสียงของตัวเองถึงได้ประหม่าแบบนี้เนี่ย บ้าจริง

“พี่ไปเอากางเกงที่รถก่อนนะ”

“เอ่อ... ค่ะ”

ฉันกะพริบตาปริบๆ อย่างงุนงงหน่อยๆ แล้วยิ้มบางส่งไปให้พี่คิน นี่เขามีเสื้อผ้าไว้ที่รถด้วยเหรอเนี่ย ให้ตายเถอะ ทำไมพอคิดว่าพี่คินไปค้างที่อื่นบ่อย ๆ ฉันถึงได้รู้สึกหงุดหงิดแบบนี้กันล่ะเนี่ย!

“หรือจะไม่ใส่ดี เพราะพี่ไม่ชอบใส่เสื้อผ้านอนด้วยสิ มันร้อน”

“สะ... ใส่เถอะค่ะ”

ฉันหันขวับเงยหน้ามองร่างสูงใหญ่พร้อมกับเบิกตาโพรงอย่างตกใจทันที ใบหน้าก็รู้สึกหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ ขนาดน้ำเสียงที่พูดกับเขายังฟังดูเบาหวิวแหบพร่าจนตังเองยังแทบไม่ได้ยินเลย ให้ตายสิ อย่าไปคิดภาพตามที่พี่คินพูดสิยัยขวัญ!

ร่างสูงใหญ่หัวเราะต่ำในลำคอแกร่งเล็กน้อย เมื่อเห็นว่าฉันเอาแต่หันหน้าหนีเขาแล้วทำเป็นมองรอบบ้านของตัวเองไปมา ตอนนี้ฉันไม่อยากมองหน้าใบหล่อคมคายของพี่คินเท่าไหร่หรอก รู้สึกใจไม่ดียังไงไม่รู้ อยากจะเลิกชอบเขาแต่ก็ทำไม่ได้ ฉันอยากทึ่งหัวตัวเองแรงๆ ให้หายหงุดหงิดสักที บ้าชะมัด

ฉันเดินมานั่งดูซีรี่ส์ที่ห้องนั่งเล่นชั้นล่างเพราะเริ่มหายง่วงแล้วดวงตาทั้งสองข้างตอนนี้หลับไม่ค่อยลงเท่าไหร่ ในหัวสมองของฉันก็นึกถึงแต่ภาพที่พี่คินเดินไปมาในบ้านหลังนี้เหมือนมันกลายเป็นบ้านของเขาไปแล้ว ให้ตายสิ ฉันเป็นเจ้าของแท้ๆ แล้วทำไมต้องมานั่งประหม่าด้วยเนี่ย

“รู้สึกดีจริงๆ”

เสียงทุ้มเข้มที่ดังมาจากบันไดชั้นสองของบ้านทำให้ฉันต้องหันไปมองตาม แล้วก็แทบจะเลือดกำเดาพุ่งทันทีที่ตาทั้งสองข้างเหลือบไปเห็นร่างสูงใหญ่กำลังเปลือยท่อนบนโชว์ซิกแพคแน่นๆ โดยพันแค่ผ้าเช็ดตัวผืนเดียวรอบเอวสอบอย่างสบายใจ หยดน้ำจากเส้นผมเปียกชื้นที่ไหลลงมากระทบผิวเนื้อตรงแผงอกกำยำยิ่งทำให้พี่คินดูเท่ขึ้นไปมากกว่าเดิม ฉันกลืนน้ำลายลงคอดังอึกใหญ่อย่างควบคุมตัวเองไม่ค่อยได้ ใจเย็นไว้ยัยขวัญ แกจะไปกระโดดใส่เขาไม่ได้นะ ให้ตายเถอะ สมองของฉันฟุ้งซ่านไหมดแล้ว!

“ขวัญคิดว่าพี่คินจะเข้านอนแล้วซะอีก”

ฉันกระแอมกับตัวเองแล้วรวบรวมสติหันหน้ากลับมามองทางหน้าจอทีวีที่กำลังเปิดซีรีย์เอาไว้อยู่ด้วยความรวดเร็ว ตอนนี้ถึงสายตาฉันจะจ้องไปที่ทีวีก็ตาม แต่สมองกลับมีภาพพี่คินเปลือยท่อนบนฉายเต็มไปหมดเลย บ้าจริง

“พี่ยังไม่ง่วงน่ะ แล้วนี่ดูอะไรอยู่ล่ะเรา”

พี่คินนั่งลงบนโซฟาตัวยาวข้างๆ จนฉันรับรู้ถึงไออุ่นจากผิวกายของเขา ฉันชะงักไปเล็กน้อยและสูดลมหายใจเอาอากาศเข้าปอดเฮือกใหญ่ จากนั้นก็เม้มริมฝีปากพร้อมกับนิ้วมือเผลอถูรีโมตในมือไปมาอย่างทำตัวไม่ถูก

“ซีรี่ย์เรื่องใหม่ค่ะ พอดีขวัญก็ยังไม่ง่วง”

“สนุกมั้ย พี่ขอดูด้วยนะ”

พอฉันเอ่ยบอกร่างสูงใหญ่ที่นั่งอยู่ข้างๆ จบก็ต้องสะดุ้ง ทันทีที่ท่อนแขนแข็งแรงวางลงมาบนพนักพิงโซฟาด้านหลังของฉันโดยไม่ทันได้ตั้งตัว ฉันรีบหันกลับมามองหน้าจอทีวีอีกครั้งและพยักหน้าหงึกหงัก พร้อมกับขยับตัวออกห่างจากเขาเล็กน้อย พี่คินที่หันมาเห็นว่าฉันทำท่าทางแปลกๆ เลิกคิ้วเข้มขึ้นด้วยความสงสัย จากนั้นเขาก็ยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ จนฉันต้องกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ทันที ให้ตายเถอะ พี่คินจะรู้ตัวไหมว่าทำให้ฉันประหม่าไปหมดแล้ว

“พี่คินไม่หนาวเหรอ”

ฉันกระแอมกับตัวเองเล็กน้อยแล้วตัดสินใจหันไปถามพี่คินเสียงเบาอุบอิบ รู้สึกทำตัวไม่ถูกที่มีคนที่ฉันแอบชอบมานั่งดูซีรี่ย์ด้วยสภาพผ้าเช็ดตัวพันรอบเอวสอบผืนเดียวแบบนี้เลย ถึงพี่คินจะไม่ได้คิดอะไร เพราะเขาคงเห็นฉันเป็นแค่น้องสาวคนหนึ่งเหมือนยัยแคท แต่ฉันไม่ได้คิดกับเขาเหมือนพี่ชายสักหน่อยเนี่ยสิ…

“ไม่หนาวหรอก อากาศกำลังดีเลย”

อากาศดีบ้าอะไรกัน ฉันจะเมากล้ามเนื้อแน่นๆ ของเขาจนดูซีรี่ย์ไม่รู้เรื่องอยู่แล้วเนี่ย ใจเย็นไว้ขวัญ แกอย่างเพิ่งสติแตกไปก่อนนะ เดี๋ยวพี่คินก็รู้ว่าแกคิดยังไงกับเขาหรอก!

“ระ... เหรอคะ”

หลังจากทั้งฉันและพี่คินเรานั่งดูซีรี่ย์โดยที่ไม่มีใครพูดอะไรออกมาอยู่หลายนาที ฉันก็รวบรวมสติที่เหลืออันน้อยนิดของตัวเองตั้งใจดูซีรี่ย์ที่กำลังสนุกตรงหน้าอีกครั้ง พยายามจะไม่สนใจร่างสูงใหญ่ที่เปลือยท่อนบนและขยับมานั่งใกล้ฉันจนขาเราสองคนชิดติดกันตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ แถมฉันยังรับรู้ถึงไออุ่นจากร่างกายของเขาอีกต่างหาก ให้ตายสิ

แล้วจู่ๆ เสียงร้องแปลกๆ จากทีวีก็ทำให้ฉันต้องขมวดคิ้วมุ่นและเงยหน้าเพ่งมองหน้าจอทีวีอย่างตั้งอกตั้งใจมากกว่าเดิม แล้วดวงตาทั้งสองข้างของฉันก็ต้องเบิกโพรงด้วยความตื่นเต้นปนตกใจตีกันไปหมดทันที นะ... นี่มัน!

“ซีรี่ย์เรื่องนี้สนุกจริงๆ ด้วย”

เสียงทุ้มเข้มที่ดังอยู่ใกล้ๆ เอ่ยขึ้นเหมือนเขากำลังกลั้นขำทำให้ฉันต้องเม้มริมฝีปากของตัวเองไว้แน่น แล้วหันขวับเงยหน้าขึ้นไปมองพี่คินด้วยความรวดเร็ว จากนั้นฉันก็รู้สึกว่าใบหน้าของตัวเองร้อนผ่าวขึ้นมาถึงใบหูอย่างห้ามไม่อยู่ บ้าชะมัดเลย เขากำลังแกล้งฉันอยู่จริงๆ สินะ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel