Neighbor 11
ร่างสูงใหญ่มองฉันด้วยสายตาคมดุดันอย่างเจ้าเล่ห์ แถมเขายังยกยิ้มมุมปาก พร้อมกับคิ้วเข้มเลิกขึ้นเล็กน้อยแกล้งที่เห็นว่าใบหน้าของฉันแดงไปหมด จะไม่ให้หน้าแดงได้ยังไงกัน ก็ตอนที่เขาพูดว่าซีรี่ย์เรื่องนี้สนุกนั่นน่ะมันตอนฉากเลิฟซีนน่ะสิ ให้ตายเถอะ ฉันใจเต้นแรงจนกลัวว่าพี่คินจะได้ยินอยู่แล้ว!
“เอ่อ... คือ”
ฉันหันกลับมามองที่หน้าจอทีวีเหมือนเดิม แล้วก็ต้องขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อฉากเลิฟซีนยังไม่หมดไป แถมยังดูจะเร่าร้อนรุนแรงมากขึ้นกว่าเดิมเพราะเสียงครางแปลกๆ ของนางเอกนี่แหละ ฉันรีบเอื้อมมือไปหยิบรีโมตที่วางไว้บนโต๊ะกระจกด้านหน้าแล้วกดลดระดับเสียงลงด้วยความรวดเร็ว
พี่จะไม่ได้ยินแล้วนะขวัญ”
ฉันหันไปมองพี่คิน แล้วเม้มริมฝีปากไว้แน่นอย่างทำตัวไม่ถูกเมื่อมือใหญ่ดึงรีโมตทีวีในมือของฉันไปกดเพิ่มเสียง และทำให้เสียงมันดังกว่าตอนแรกจนจะได้ยินทั้งหมู่บ้านแล้ว บ้าชะมัดเลย พี่คินหูตึงหรือไงน่ะ!
ฉันหันหน้าหนีสายตาคมเจ้าเล่ห์ที่จ้องมองมาแล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่ จากนั้นก็นั่งดูซีรี่ย์ต่อไปนิ่งๆ ถึงแม้ว่าภายในอกข้างซ้ายของฉันจะเต้นตึกตักระรัวกับเสียงครางบ้าๆ ของนางเอกในเรื่องนี้ก็ตาม ให้ตายสิ แล้วเมื่อไหร่ฉากนี้จะจบสักทีล่ะเนี่ย!
“บ้าชะมัด”
ฉันขมุบขมิบปากพึมพำอยู่คนเดียวเบาๆ แถมยังรู้สึกว่าใบหน้าตัวเองร้อนผ่าวมากขึ้นเรื่อยๆ อย่างควบคุมไม่ได้ ดวงตาทั้งสองข้างกะพริบปริบๆ จ้องไปที่จอทีวีพร้อมกับเสียงหัวใจของตัวเองกำลังเต้นด้วยความตื่นเต้นและประหม่าไปหมด
“ขวัญเป็นอะไรรึเปล่า ทำไมหน้าถึงแดงแบบนั้น”
เสียงทุ้มเข้มดังขึ้นอยู่ใกล้ใบหูจนลมหายใจอุ่นร้อนสัมผัสกับผิวแก้มของฉันแผ่วเบา ฉันสะดุ้งเล็กน้อยแล้วหันไปมองใบหน้าหล่อคมคายของพี่คินที่โน้มลงมาใกล้ฉันมากขึ้นตาปริบๆ จากนั้นก็สูดหายใจเอาอากาศเข้าปอดลึกๆ เพื่อตั้งสติ
“เปล่าค่ะ ขวัญไม่ได้เป็นอะไรซะหน่อย”
ฉันตอบเสียงเบาตะกุกตะกักด้วยความประหม่าทันที พี่คินยกยิ้มมุมปากพร้อมกับคิ้วเข้มเลิกขึ้นเล็กน้อย จากนั้นเขาก็จ้องมองใบหน้าฉันด้วยสายตาคมวาววับอย่างเจ้าเล่ห์
“แล้วทำไมต้องหน้าแดงด้วยล่ะตัวแสบ”
“หน้าแดงอะไรล่ะพี่คิน ไม่ใช่หรอกน่า”
ฉันรีบพูดด้วยความเลิ่กลั่ก โอ๊ย ให้ตายเถอะ... ดูก็รู้ว่าฉันกำลังโกหกพี่คินอยู่ ขนาดฉันไม่เห็นหน้าตัวเองยังมั่นใจเลยว่ามันต้องแดง และคงมากด้วย เพราะเสียงครางบ้าๆ ของนางเอกซีรี่ย์เรื่องนี้นั่นแหละ ตกลังเป็นซีรี่ย์หรือหนังเอวีกันแน่ ทำไมฉากเลิฟซีนมันถึงได้ดุเดือดดูดดื่มปานนี้ ใบหน้าฉันร้อนผ่าวจนมันจะระเบิดได้อยู่แล้วโว้ย!
แต่อันที่จริงฉันคงนั่งดูแอบสบายๆ หายห่วง ถ้าไม่มีคนที่ฉันแอบชอบอย่างพี่คินมานั่งดูด้วยใกล้ๆ และมีเพียงผ้าเช็ดตัวพันรอบเอวสอบผืนเดียว ไหนจะกล้ามเนื้อแล้วก็ซิกแพคล่ำๆ นั่นอีก ใครจะไปนั่งนิ่งๆ โดยไม่ใจเต้นตึกตักรุนแรงอยู่แบบนี้ได้กันเล่า!
หมับ!
“ตัวก็ไม่ร้อนนี่”
ฉันแอบได้ยินเสียงใบหน้าของตัวเองระเบิด เพราะความร้อนขึ้นสูงทันทีที่ฝ่ามือใหญ่อบอุ่นของพี่คินสัมผัสแนบชิดกับหน้าผากของฉันโดยที่ยังไม่ทันได้ตั้งตัวด้วยซ้ำ ถ้าฉันหน้ามืดตามัวจับพี่คินกดลงที่โซฟาตรงนี้ก็ไม่ค่อยแปลกใจตัวเองเท่าไหร่หรอก ให้ตายสิ... นี่ฉันคิดเรื่องน่าอายแบบนั้นไปได้ยังไงกันน่ะ!
“พะ... พี่คิน”
ฉันเงยหน้าขึ้นไปสบกับสายตาคมเจ้าเล่ห์ แล้วสูดลมหายใจเอาอากาศเข้าปอดลึกๆ อย่างตื่นเต้น เมื่อร่างกายสูงใหญ่ที่กำลังเปลือยท่อนบนโชว์ซิกแพคแน่นๆ ตรงหน้าโน้มตัวลงมาใกล้ฉันมากขึ้นเรื่อยๆ จนปลายจมูกเราสองคนเกือบจะชนกัน…
“ที่หน้าแดงนี่เขินฉากในซีรี่ย์… หรือว่าเขินพี่”
เสียงทุ้มเข้มกระซิบที่ข้างใบหูพร้อมกับริมฝีปาอุ่นร้อนของพี่คินสัมผัสกับข้างแก้มฉันอย่างแผ่วเบาจนแทบสะดุ้ง ฉันเม้มริมฝีปากไว้แน่น เงยหน้าสบสายตาคมวาววับที่จ้องมองใบหน้าของฉัน จากนั้นเขาก็ยิ้มมุมปากเล็กน้อย
“พี่คินอย่าแกล้งขวัญแบบนี้สิ”
“พี่ยังไม่ได้แกล้งอะไรเราเลยนะ”
นิ้วชี้เรียวยาวของพี่คินแตะลงมาที่ปลายจมูกของฉันสองสามครั้งอย่างมันเขี้ยว ส่วนฉันก็ได้แต่ถอนหายใจออกมาเบาๆ แล้วจ้องมองใบหน้าหล่อคมคายอยู่นานโดยไม่รู้ตัว
หมับ
ฉันไม่รู้ว่าเราสองคนสบตากันเนิ่นนานแค่ไหน พอรู้ตัวอีกที่มือบางก็กำลังลูบไล้ไปยังผิวแก้มของร่างสูงใหญ่ซะแล้ว พี่คินนั่งนิ่ง เขามองฉันด้วยสายตาคมดุดันวาววับ มันแฝงไปด้วยความน่าหลงไหล จนฉันขยับมือลงไปลูบไล้ที่ลำคอแกร่งของเขาอย่างควบคุมตัวเองไม่ได้ และเมื่อมือของฉันลูบไล้ลงไปถึงบ่ากำยำก็รับรู้ได้ว่าเขากำลังเกร็งเครียดขึ้นมาเล็กน้อย
“พี่คิน... ขวัญ”
ฉันเงยหน้าขึ้นไปสบสายตาคมของพี่คินอีกครั้งด้วยแววตาที่สั่นระริก เสียงของหัวใจที่เต้นเร็วขึ้นมันทำให้ฉันต้องกัดริมฝีปากล่างไว้แน่น เพื่อไม่ให้เผลอบอกความรู้สึกที่ฉันมีต่อเขาออกไป…
“จะพูดอะไร พูดสิ”
พี่คินยังคงสบสายตากับฉันนิ่ง สีหน้าและแววตาดุดันของเขาดูจริงจังกว่าปกติ และทำให้ฉันรู้สึกอ่อนไหวมากขึ้นกว่าเดิม ฉันกัดริมฝีปากล่างอย่างประหม่า ก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยเสียงแหบพร่าเบาหวิวจนตัวเองยังแทบไม่ได้ยิน
“คือขวัญ...”
“ถ้าไม่รีบพูดพี่จะทนไม่ไหวแล้วนะ”
“พี่คินหมายความว่าไง... อื้อ!”
ฉันขมวดคิ้วเล็กน้อยและมองพี่คินด้วยความไม่เข้าใจ แต่ยังพูดไม่ทันจบประโยค ร่างสูงใหญ่ก็โน้มใบหน้าเข้ามาใกล้แล้วริมฝีปากอุ่นร้อนของเขาก็ประกบลงมาที่ริมฝีปากของฉันทันที พี่คินขบเม้มริมฝีปากล่างของฉันไปมาอย่างอ่อนโยน หัวใจของฉันเต้นแรงอย่างควบคุมไม่ได้ มันเต้นแรงเกินไปจนฉันรู้สึกกลัวว่าเขาจะได้ยินเข้า บ้าชะมัดเลย พี่คินกำลังจูบฉันอยู่อย่างงั้นเหรอ? เขากำลังจูบฉันอยู่จริง ๆ ใช่ไหม…
ฟุ่บ!
ฉันลืมตาขึ้นทันทีที่แผ่นหลังสัมผัสกับโซฟานุ่มนิ่ม มือบางยกขึ้นเกาะบ่าแกร่งของพี่คินเอาไว้แน่น ฝ่ามือใหญ่ลูบไล้ที่ผิวแก้มของฉันไปมาแผ่วเบา พร้อมกับสายตาคมดุดันที่กำลังจ้องมองฉันอยู่มันยิ่งทำให้ฉันต้องบีบบ่ากำยำของเขาไว้แรงมากกว่าเดิมอย่างประหม่าไปหมด ทำไมพี่คินถึงจูบฉันกันล่ะ...
“ขวัญ...”
พี่คินผละริมฝีปากอุ่นร้อนออกอย่างอ้อยอิ่ง เสียงทุ้มเข้มที่พูดชิดกับริมฝีปากของฉันฟังดูแหบพร่าเล็กน้อย จนฉันที่กำลังหอบหายใจเอาอากาศเข้าปอดอยู่ใต้ร่างสูงใหญ่ต้องเม้มริมฝีปาก แล้วยกมือขึ้นไปลูบไล้สันกรามคมของพี่คินด้วยความมึนเบลอ เขาดูเหมือนกำลังอดทน และสับสนกับอะไรบางอย่างที่ฉันก็ไม่ค่อยแน่ใจเหมือนกันว่ามันคืออะไรกันแน่...
“พี่คิน…”
หมับ
ร่างสูงใหญ่ชะงักไปเล็กน้อยเมื่อฉันยกแขนขึ้นโอบกอดรอบลำคอแกร่งแล้วดึงเขาเข้ามาใกล้ฉันมากขึ้น จากนั้นก็ประกบริมฝีปากของตัวเองกับริมฝีปากชมพูติดคล้ำด้วยความรวดเร็ว ฉันอาจจะดูใจง่าย หรือเป็นเพราะบรรยากาศระหว่างเรามันพาไปก็ได้ ฉันถึงใจกล้าบ้าบิ่นทำเรื่องแบบนี้ แต่สัมผัสอบอุ่นของพี่คินทำให้ฉันควบคุมร่างกายไม่ได้อีกต่อไป และในตอนนี้ถึงไม่คิดจะบอกความรู้สึกของฉันให้เขารับรู้ ฉันก็ขอทำตามสิ่งที่หัวใจต้องการสักเล็กน้อยก็ยังดี...
หมับ!
ฉันสะดุ้งเมื่อฝ่ามือใหญ่อุ่นร้อนสอดเข้ามาในเสื้อและลูบไล้หน้าท้องแบบราบของฉันอย่างแผ่วเบาด้วยความรวดเร็ว พี่คินผละริมฝีปากออกช้าๆ แล้วสายตาคมเจ้าเล่ห์ก็มองใบหน้าของฉันนิ่งอีกครั้ง เขายกยิ้มมุมปากขึ้นเล็กน้อยจนฉันหัวใจเต้นโครมครามไม่หยุดหย่อน และทำได้เพียงเม้มริมฝีปากของตัวเองไว้ด้วยความประหม่า
“พี่คงหยุดไม่ได้แล้วนะ”
เสียงเข้มต่ำแหบพร่ากระซิบอยู่ข้างใบหูขาว แล้วฉันก็ต้องยกแขนทั้งสองข้างโอบกอดรอบลำคอแกร่งแน่นขึ้นกว่าเดิม เมื่อริมฝีปากชมพูติดคล้ำกดจูบลงมาที่ซอกคอโดยที่ฉันไม่ทันได้ตั้งตัว
พรึบ!
”พะ... พี่คิน”
”หยิบรีโมตแล้วปิดทีวีให้พี่หน่อย”
ฉันกะพริบตาปริบๆ มองร่างสูงใหญ่ที่อุ้มฉันขึ้นไปไว้ในท่อนแขนแข็งแรงโดยที่ฉันไม่ทันได้ตั้งตัวด้วยความมึนเบลอ พี่คินยกยิ้มมุมปากขึ้นเล็กน้อย แล้วขยับให้ฉันเอื้อมมือไปหยิบรีโมตทีวีได้ถนัดมากขึ้น
“เอ่อ…”
ฉันอึกอักเล็กน้อยแต่ก็หยิบรีโมตทีวีขึ้นมาตามที่เขาบอกและกดปิดด้วยความรวดเร็ว จากนั้นพี่คินก็กระชับอ้อมแขนที่อุ้มฉันอยู่อีกครั้ง จากนั้นเขาก็เดินขึ้นบันไดไปที่ห้องนอนของฉันทันที
ตลอดทางที่ร่างสูงใหญ่อุ้มฉันไว้ในท่อนแขนแข็งแรงของเขา ฉันก็ทำได้เพียงเม้มริมฝีปากไว้อย่างประหม่า หัวใจเต้นตึกตักระรัวไปหมด เอาวะยัยขวัญ! มาถึงขนาดนี้นี้แล้วจะไปกลัวอะไรล่ะ ไหนๆ ตอนนี้ฉันก็ยังเลิกชอบพี่คินไม่ได้ งั้นขอมีความสุขให้หัวใจกระชุ่มกระชวยหน่อยเถอะน่า...
ฟุ่บ
ฉันสะดุ้งเมื่อแผ่นหลังสัมผัสกับเตียงนอนนุ่มนิ่มทันทีที่ร่างสูงใหญ่วางฉันลงอย่างแผ่วเบา ฉันกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่อย่างฝืดเคือง เมื่อพี่คินขยับมาคร่อมร่างกายของฉันโดยที่ฉันไม่ทันได้ตั้งตัว แผงอกกำยำเปลือยเปล่า และซิกแพคแน่นๆ ของเขายิ่งทำให้ฉันรู้สึกปั่นป่วนไปหมด ให้ตายสิ…
“อ๊ะ...อื้อ!”
นิ้วเรียวยาวค่อยๆ ปลดกระดุมเสื้อชุดนอนของฉันออก พี่คินโน้มใบหน้าลงมาใกล้ฉันมากขึ้นเรื่อยๆ และประกบริมฝีปากฉันด้วยความรวดเร็ว ฉันเผยอริมฝีปากออกช้าๆ แล้วลิ้นเปียกชื้นก็สอดแทรกเข้ามาตวัดลิ้นเล็กไปมาอย่างเร่าร้อนทันที
ฉันโอบกอดรอบลำคอแกร่งอีกครั้ง แล้วเผลอจิกเล็บลงไปยังแผ่นหลังกว้างของพี่คินด้วยความประหม่า ทันทีที่เขาปลดตะขอบราเซียร์ของฉันออก บ้าชะมัดเลย พี่คินดูจะช่ำชองเรื่องแบบนี้เกินไปแล้วนะ!
“พะ... พี่คิน”
พอร่างสูงใหญ่ผละริมฝีปากออกอย่างอ้อยอิ่ง ฉันก็สูดหายใจเอาอากาศเข้าปอดเฮือกใหญ่ นิ้วเรียวยาวปัดเส้นผมที่ปรกใบหน้าของฉันออกให้อย่างแผ่วเบา หัวใจฉันกระตุกและเต้นระรัวขึ้นมากขึ้นกว่าเดิมเมื่อพี่คินเอ่ยเสียงเข้มต่ำแหบพร่าและมองฉันด้วยสายตาดุดันพร้อมกับยิ้มมุมปากอย่างเจ่าเล่ห์ ทำให้ฉันต้องเม้มริมฝีปากเอาไว้แน่นทันที
”ตัวแสบ”
“ขวัญไม่ได้เป็นแบบนั้นซะหน่อย”
“หึ เรานั่นแหละตัวแสบ”
“ขวัญ... อื้อ!”
ฉันยังพูดไม่ทันจบประโยคพี่คินก็โน้มลงมาประกบริมฝีปากของฉันอีกครั้ง มือใหญ่ดันบราขึ้น และกอบกุมหน้าอกเต่งตึงทั้งสองข้างเอาไว้ทันที ฉันรู้สึกตื่นเต้นจนเผลอจิกเล็บลงไปบนแผ่นหลังกว้างแรงๆ โดยไม่รู้ตัว พี่คินถอนริมฝีปากออกเล็กน้อยแล้วกดจูบลงมายังซอกคอของฉันแรงๆ เขาซุกไซ้ซอกคอขาวลงไปเรื่อยๆ อย่างเชื่องช้า นิ้วเรียวยาวสกิดหยอกเย้ายอดอกที่เริ่มแข็งชูชันของฉันไปมา ฉันครางอื้ออึงในลำคออย่างห้ามเอาไว้ไม่อยู่จนต้องกัดริมฝีปากล่างของตัวเองเอาไว้แน่นแทน
”พี่คิน...”
ฝ่ามือใหญ่ค่อยๆ ถอดชุดนอนที่ฉันสวมอยู่ออกช้าๆ ความเย็นจากแอร์กระทบผิวเปลือยเปล่าของฉัน แต่มันกลับไม่ได้ทำให้รู้สึกหนาวเลยสักนิด เพราะตอนนี้ร่างกายของฉันกำลังร้อนรุ่มไปทั่วร่าง ให้ตายเถอะ
และฉันชะงักไปเล็กน้อย เมื่อลิ้นเปียกชื้นดูดดึงพร้อมกับไล้เลียยอดอกอย่างของฉันเร่าร้อน จนฉันรู้สึกมึนเบลอไปหมด ได้ยินเพียงเสียงทุ้มต่ำพึมพำเบาๆ ในลำคอแกร่งอย่างพอใจทันทีที่ฉันเริ่มทนไม่ไหวและส่งเสียงครางออกมาแผ่วเบา…
“พะ... พี่คิน อื้อ!”
มือทั้งสองข้างของฉันยกขึ้นไปขยุ้มเส้นผมของพี่คินเอาไว้ด้วยความรวดเร็วเมื่อฝ่ามือใหญ่อุ่นร้อนลูบไล้ลงไปที่จุดเสียวกลางกายของฉันโดยไม่ทันได้ตั้งตัว
”แยกขาออกให้พี่หน่อย”
เสียงทุ้มเข้มแหบพร่าหน่อยๆ ทำให้ฉันต้องขยับต้นขาแยกออกจากกันเล็กน้อยอย่างเก้ๆ กังๆ และประหม่า จากนั้นร่างสูงก็แทรกเข้ามาพร้อมกับฝ่ามือใหญ่ที่ดันต้นขาอีกข้างของฉันให้แยกกว้างมากกว่าเดิม ให้ตายสิ ฉันได้ยินเสียงหัวใจของตัวเองมันดัง จนแทบกระเด้งออกมานอกอกอยู่แล้ว!
“พี่คิน...”
ฉันสูดหายใจเอาอากาศเข้าปอดเฮือกใหญ่ เมื่อนิ้วเรียวยาวค่อยๆ สอดแทรกเข้ามาภายในตัวฉัน พร้อมกับลูบไล้จุดเสียงกลางกายไปมาอย่างหยอกเย้าเหมือนกำลังแกล้งให้ฉันมึนเบลอ ฉันร้องครางออกมาดังมากขึ้นทันทีที่นิ้วเรียวยาวเริ่มขยับเข้าออกอย่างช้าๆ เนิบๆ ความเจ็บและความอึดอัดทำให้ฉันขมวดคิ้วและหลับตาลงอย่างประหม่า
“เจ็บรึเปล่า”
พี่คินจ้องมองฉันด้วยสายตาคมดุดันวาววับ ฉันส่ายหน้าไปมาบนหมอนเบาๆ และมองใบหน้าหล่อเหลาของร่างสูงใหญ่ด้วยดวงตาที่หรี่ปรือ ตอนนี้สมองของฉันพร่าเบลอไปหมดแล้ว ให้ตายสิ
”มะ... ไม่ค่ะ แต่มันอึดอัด“
ฉันเอ่ยเสียงอุบอิบพร้อมกับหอบหายใจแรงอย่างทำตัวไม่ถูก พี่คินมองฉันด้วยสายตาคม และยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ จากนั้นเขาก็ไล้เลียริมฝีปากล่างของเขาเล็กน้อย ฉันกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่อย่างฝืดเคืองทันที พี่คินที่เป็นแบบนี้ไม่ดีต่อใจฉันเลย บ้าจริง…
“เดี๋ยวก็รู้สึกดีขึ้น เชื่อพี่สิ”
หมับ!
“พี่คิน... อื้อ!”
ฉันกอดรอบลำคอแกร่งแน่นขึ้นเมื่อนิ้วเรียวยาวขยับเข้าออกลึกขึ้นและเร็วขึ้นกว่าเดิม แถมลิ้นเปียกชื้นที่กำลังไล้เลียดูดดึงพร้อมกับขบเม้มยอดอกที่แข็งชูชันของฉันด้วยความเร่าร้อนก็ทำให้ฉันต้องร้องครางเสียงหลงออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ นี่พี่คินกำลังแกล้งฉันอยู่หรือไงกันเนี่ย!
“หึ ดีขึ้นมั้ย”
เสียงทุ้มเข้มแหบพร่าเอ่ยบอกชิดกับยอดอกที่แข็งชูชันของฉัน ตอนนี้สมองฉันมึนเบลอไปหมด และทำได้เพียงตอบกลับเขาไปด้วยเสียงอึกอักแผ่วเบา สักพักฉันก็ได้ยินพี่คินพึมพำในลำคอแกร่งอย่างพึงพอใจเมื่อเขาทำให้ฉันร้องครางเสียงดังมากขึ้นอย่างเสียวซ่าน ให้ตายเถอะ ฉันจะบ้าตายกับสัมผัสของพี่คินอยู่แล้วนะ!
”พี่คิน... อ๊ะ!”
“ขวัญ”
ร่างสูงใหญ่ขบสันกรามเพื่อข่มอารมณ์ ทันทีที่ภายในร่างกายของฉันตอดรัดนิ้วเรียวยาวรัวเร็ว พร้อมกับฉันที่หอบหายใจแรงเมื่อพี่คินค่อยๆ ขยับนิ้วเรียวยาวของเขาออกเข้าช้าๆ
“พะ... พี่คิน”
“รอพี่แปบนึง”
พี่คินมองฉันด้วยสายตาคมดุดันวาววับพร้อมกับยกยิ้มมุมปากขึ้นอย่างเจ้าเล่ห์ จากนั้นเขาก็ขยับตัวลุกขึ้นและเดินไปหยิบกระเป๋าสตางค์ของเขาที่วางอยู่บนโต๊ะใกล้กับเตียงนอน ฉันมองการกระทำของพี่คินด้วยความมึนงงเล็กน้อย และรีบหันหน้าไปมองอีกทางทันทีที่เห็นว่าเขาหยิบถุงยางอนามัยออกมา
บ้าชะมัด แค่ผ้าเช็ดตัวที่พันรอบเอวสอบของเขาไว้อย่างหมิ่นเหม่ก็ทำให้ฉันสติแตกไปหมด แถมตอนนี้ฉันยังรู้สึกว่าใบหน้าของตัวเองร้อนผ่าว และหัวใจเต้นรัวเร็วจนกลัวว่าพี่คินจะได้ยินอยู่แล้วเนี่ย!
ฟุ่บ
ฉันชะงัก และเม้มริมฝีปากเอาไว้อย่างประหม่า เมื่อร่างสูงกลับมาคร่อมร่างกายของฉันเอาไว้อีกครั้ง ฝ่ามือใหญ่ลูบไล้ผิวแก้มฉันไปมาแผ่วเบา จากนั้นพี่คินก็โน้มลงมาหอมแก้มฉันแรงๆ หนึ่งทีด้วยความมันเขี้ยว และส่งยิ้มบางอ่อนโยนมาให้ ฉันสูดหายใจเอาอากาศเข้าปอดเฮือกใหญ่ และส่งยิ้มบางกลับไปให้เขา ทำไมนะ ทำไมฉันถึงชอบพี่คินได้มากขนาดนี้ด้วย...
“พี่คิน...”
ฉันยกแขนทั้งสองข้างขึ้นไปโอบกอดรอบลำคอแกร่งแล้วดึงให้ร่างสูงใหญ่โน้มตัวลงมาใกล้ฉันมากขึ้น พี่คินยกยิ้มมุมปากอย่างพอใจ แล้วริมฝีปากอุ่นร้อนของเขาก็ประกบกับริมฝีปากของฉันด้วยความเร่าร้อนอีกครั้ง ลิ้นเปียกชื้นสอดแทรกเข้ามาในโพรงปาก และตวัดลิ้นเล็กไปมาอย่างช่ำชองจนฉันหายใจไม่ทัน
ฝ่ามือใหญ่บีบเค้นหน้าอกของฉัน พร้อมกับนิ้วเรียวยาวสะกิดยอดอกที่แข็งชูชันของฉันไปมาเบาๆ อย่างหยอกเย้า ความเสียวซ่านที่เกิดขึ้นจากสัมผัสของพี่คินทำให้ฉันร้องครางออกมาเสียงหลงอย่างควบคุมตัวเองไม่ได้…
“อื้อ...พี่คิน อ๊ะ”
ฉันชะงักเมื่อรู้สึกว่ามีสิ่งแปลกใหม่อุ่นร้อนกำลังดุนดันเข้ามาภายในตัวฉัน จนเผลอจิกเล็บลงไปบนแผ่นหลังกว้างอย่างแรงโดยไม่รู้ตัว พี่คินผละริมฝีปากออกห่างเล็กน้อย แล้วก้มลงไปดูดดึงยอดอกของฉันพร้อมกับไล้เลียขบเม้มหน้าอกของฉันทั้งสองข้างสลับกันไปมา เสียงน่าอายจากการกระทำของร่างสูงใหญ่ทำให้ฉันต้องหลับตาพริ้ม และเม้มริมฝีปากเพื่อกลั้นเสียงครางที่ดังเกินไปของตัวเองดไว้
“อย่าเกร็ง พี่จะพยายามไม่ให้ขวัญเจ็บ”
เสียงเข้มต่ำแหบพร่ากระซิบอยู่ข้างใบหูทำให้ฉันเริ่มผ่อนคลายลง และต้องกัดริมฝีปากเอาไว้ทันทีที่พี่คินดุนดันแก่นกายใหญ่ของเขาเข้ามาภายในตัวฉันจนสุด
“พี่คิน... อ๊ะ!”
“พี่จะขยับแล้วนะ”
ฉันสะดุ้งเล็กน้อยและแขนทั้งสองข้างก็กอดรอบลำคอแกร่งไว้แน่นมากขึ้น พี่คินโน้มตัวลงมาหอมแก้มนุ่มที่ขึ้นสีระเรื่อ แล้วริมฝีปากอุ่นร้อนก็เลื่อนขึ้นไปจูบที่หน้าผากของฉันอย่างอ่อนโยน ฉันพยักหน้าหงึกหงัก จากนั้นก็กัดริมฝีปากล่างของตัวเองอย่างประหม่าทันที
“อื้อ!”
ร่างสูงใหญ่เริ่มขยับแก่นกายใหญ่ของเขาเข้าออกภายในตัวฉันช้าๆ นิ้วเรียวยาวปัดเส้นผมที่ปรกใบหน้าขึ้นไปทัดใบหูให้ฉันอย่างแผ่วเบา สายตาคมดุดันวาววับของพี่คินที่กำลังสบสายตากับฉันอยู่ทำให้หัวใจของฉันเต้นแรง ใบหน้าร้อนผ่าว รู้สึกมึนเบลอไปกับการกระแทกกระทั้นเข้าออกของเขาที่ค่อยๆ รุนแรงมากขึ้น จนฉันต้องจิกเล็บลงไปที่บ่าแกร่งดผื่อว่ามันจะช่วยให้ความเสียวซ่านลดลงได้บ้าง แต่แล้วฉันก็ต้องร้องครางออกมาเสียงหลงเพราะกลั้นเอาไว้ไม่อยู่อีกต่อไป…
ฉันไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน ไม่รู้ว่ากี่นาที หรือกี่ชั่วโมง ฉันรู้ตัวอีกทีก็ตอนที่มองร่างสูงใหญ่ด้วยดวงตาที่หรี่ปรือ ฝ่ามือใหญ่ดันต้นขาของฉันให้แยกกว้างมากกว่าเดิม จากนั้นเขาก็ดุนดันแก่นกายใหญ่เข้ามาลึกมากขึ้นโดยที่ฉันไม่ทันได้ทั้งตัวจนต้องเม้มริมฝีปากเอาไว้แน่น
หมับ!
“ขวัญ...”
จู่ๆ พี่คินก็จับขาเรียวทั้งสองข้างของฉันให้ขึ้นไปโอบรอบสะโพกสอบของเขาเอาไว้ ทำให้แก่นกายใหญ่เข้ามาภายในตัวฉันลึกมากขึ้นกว่าเดิมซะอีก ฉันครางออกมาอย่างควบคุมตัวเองไม่ได้ แล้วเกี่ยวขาโอบรัดรอบสะโพกสอบของพี่คินแน่นทันที
“พี่คิน...”
ท่อนแขนแข็งแรงสอดเข้ามาโอบกอดฉันไว้แล้วดันตัวฉันขึ้นเล็กน้อย ก่อนที่ริมฝีปากอุ่นร้อนจะดูดดึงพร้อมกับขบเม้มยอดอกที่แข็งชูชันของฉันไปมาอย่างเร่าร้อน
สัมผัสของพี่คินทำให้สมองของพร่าเบลอไปหมด ฉันเงยหน้ามองไปยังเพดานด้วยดวงตาที่หรี่ปรือ ได้ยินเพียงเสียงครางด้วยความเสียวซ่านของตัวเอง และเสียงเข้มต่ำพึมพำในลำคอแกร่งอย่างพึงพอใจของพี่คินเท่านั้น...
“พี่คิน...อ๊า!”
ฝ่ามือใหญ่ทั้งสองข้างจับสะโพกฉันไว้ แล้วยืดตัวขึ้นก่อนจะขยับแก่นกายใหญ่อุ่นร้อนของเขาเข้าออกภายในตัวฉันถี่ยิบ ความเสียวซ่านที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้ฉันต้องกัดริมฝีปากล่างจนเจ็บเพื่อกลั้นเสียงครางที่ดังเกินไปของตัวเอง และภายในจุดเสียวกลางกายของฉันก็ตอดรัดรอบแก่นกายใหญ่ของพี่คินรัวเร็วทันที
“ขวัญ”
พี่คินขบสันกรามเอาไว้อย่างข่มอารมณ์ แล้วเขาก็กระแทกกระทั้นเข้ามาลึกๆ ภายในตัวฉันอีกครั้ง ก่อนที่ร่างกายสูงใหญ่ของเขาจะโน้มตัวลงมามองสบสายตากับฉันนิ่ง เสียงหอบหายใจของเราสองคนดังสอดประสานดังทั่วห้องนอน สักพักดวงตาที่หนักอึ้งของฉันก็ค่อยๆ ปิดลงอย่างอ่อนแรงโดยไม่รู้ตัว
ร่างกายของฉันรับรู้เพียงการขยับตัวของร่างสูงที่ถอนแก่นกายใหญ่ออกจากภายในตัวฉันช้าๆ แล้วท่อนแขนแข็งแรงก็ดึงตัวฉันเข้าไปกอดแนบชิดกับแผงอกกำยำ ความอบอุ่นจากอ้อมกอดของพี่คินทำให้ฉันยิ้มกว้างออกมาอย่างมีความสุข ขยับตัวเข้าไปนอนซุกกับแผงอกกำยำของเขามากยิ่งขึ้น...