Neighbor 08
หลังเลิกงานฉันก็มาเดินซื้อของขวัญให้ยัยแคทที่ห้างฯ โดยในหัวคิดแต่เรื่องที่พี่คินทำกับฉันวันนี้ แล้วหัวใจก็เต้นแรงขึ้นมาอีกครั้งอย่างห้ามเอาไว้ไม่อยู่ ถ้าพี่คินยังทำแบบนี้กับฉัน แล้วเมื่อไหร่ฉันจะไปเลิกชอบเขาได้ล่ะ บ้าจริง!
ฉันถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่แล้วเดินเข้ามาในบ้านเจ้าของวันเกิดหลังจากที่เพิ่งกลับมาจากซื้อของขวัญให้แคทและขับรถมาที่นี่ทันที ยัยแคทยิ้มกว้างออกมาอย่างอารมณ์ดี ชุดเดรสสีแดงเพลิงโชว์แผ่นหลังเนียนดูเข้ากับมันชะมัดเลย
“เข้ามาสิ เพื่อนฉันกำลังมาเลย”
”มีอะไรให้ฉันช่วยรึเปล่า”
“ฉันจัดการเรียบร้อยแล้ว ไม่เป็นไรหรอก แกเตรียมตัวสนุกก็พอน่า”
ฉันพยักหน้าพร้อมกับส่งยิ้มกว้าง แล้วยื่นมือไปรับแก้วเบียร์จากแคทมาดื่ม พอมองไปยังห้องนั่งเล่นภายในบ้าน ฉันก็เห็นว่ามีเหล้าเบียร์เยอะจนแทบจะเปิดผับได้อยู่ แถมสายตาของฉันแอบเห็นคุ้กกี้น่ากินที่วางอยู่บนโต๊ะใกล้ๆ อีกต่างหาก ฉันเลยเอื้อมมือไปหยิบมาชิมหนึ่งชิ้น อร่อยดีเหมือนกันแฮะ
”อ้อ เกือบลืม ฉันเอาของขวัญมาให้แกด้วยนะ”
ทันทีที่นึกขึ้นได้ฉันก็ยื่นถุงกระดาษสีขาวที่ข้างในใส่กล่องของขวัญเอาไว้ไปให้แคท มือเรียวรับไปเปิดดูแล้วมันก็หันมาส่งยิ้มกว้างให้ฉันอย่างดีใจอีกครั้ง
“ขอบใจแกมากนะ เดี๋ยวฉันมา แกก็ทำตัวตามสบายเลย”
ฉันพยักหน้าอย่างเข้าใจ ยัยแคทรีบเดินไปเปิดประตูบ้านต้อนรับเพื่อนที่มหาวิทยาลัยของตัวเองสามสี่คนที่เพิ่งมาถึง ฉันเลยเดินมานั่งเล่นที่โซฟาตรงห้องรับแขก ก่อนจะยกแก้วเบียร์ในมือดื่มไปด้วย
ฉันนั่งดูซีรี่ย์ที่โซฟาและกินคุ้กกี้ที่ใส่ชามใสเล็กๆ ไว้ด้วยความเพลิดเพลิน พอหันไปมองทางห้องโถงที่จัดโต๊ะไว้สำหรับงานปาร์ตี้วันเกิดของยัยแคทฉันก็ถึงกับสะดุ้งตกใจเล็กน้อย คนมาตั้งเยอะแยะมากมายขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กันเนี่ย ให้ตายสิ ฉันนั่งดูทีวีไม่รู้เรื่องอะไรเลยอะ
”ขวัญ มานี่ๆ!” เสียงแคทตะโกนเรียกแข่งกับเสียงเพลง และเดินมาลากฉันไปในงานที่มีผู้คนมาจากไหนก็ไม่รู้เต็มไปหมด นี่ยัยแคทมันขนมาทั้งมหา’ลัยเลยหรือไง!
“เอ่อ... คือ”
“แกไปนั่งดูซีรี่ย์อะไรอยู่ตรงนั้นตั้งนาน มาสนุกสิยะ”
ฉันยังไม่ทันได้พูดอะไรก็โดนแคทหันมาบ่นอุบอิบ แถมมันยังเทเบียร์ใส่แก้วที่ฉันถืออยู่ในมือบางจนเกือบล้น อย่าบอกนะว่ายัยแคทเริ่มเมาแล้วน่ะ
“ฉันก็ไม่ได้ดูนานขนาดนั้นน่า”
ฉันถอนหายใจเบาๆ แล้วยกเบียร์ขึ้นดื่มจนหมด ใครจะไปคิดว่าดูทีวีแค่แปบเดียวหันมาอีกทีบรรยากาศภายในบ้านอย่างกับอยู่ในผับแบบนี้ล่ะ แสบจริงๆ ถ้าน้าโรสกับน้าโทมัสคุณพ่อคุณแม่ของยัยแคทมาเจอสภาพบ้านตอนนี้คงโดนบ่นหูชาแน่ๆ ดีนะที่ท่านทั้งสองคนไปดูงานที่ต่างประเทศพอดี
“เพื่อนแคทเหรอ ผมทอร์ธนะ ชื่ออะไรครับ”
ฉันหันไปมองเสียงทุ้มจากด้านข้างด้วยความมึนงงเล็กน้อย ผู้ชายร่างสูง หน้าตาดีค่อนข้างไปทางลูกครึ่งหน่อยๆกำลังยืนส่งยิ้มกว้างมาให้ ฉันเลยส่งยิ้มบางกลับไปเพื่อไม่ให้เป็นการเสียมารยาท และพอหันไปหาแคทมันก็หายหัวไปไหนแล้วไม่รู้ ให้ตายสิ ไปไหนของมันเนี่ย
“ขวัญค่ะ”
ฉันบอกทอร์ธพร้อมกับฉีกยิ้มอีกครั้ง สายตาเหลือบไปเห็นยัยแคทกำลังยกแก้วเหล้าสีอำพันกระดกเข้าปากพร้อมกับเสียงเฮฮาของเพื่อนกลุ่มใหญ่อย่างสนุกสนาน เออ ดีจริงๆ!
“ขวัญไม่สนุกเหรอ” ทอร์ธถามฉันด้วยความสงสัย แล้วเขาก็ยิ้มกว้างส่งมาให้อีกครั้ง นี่ก็จะยิ้มอะไรนักหนา ไม่เมื่อยปากหรือไงกัน
“สนุกสิ แต่พอดีวันนี้เพลียๆ จากงานนิดหน่อยน่ะ”
ฉันหัวเราะแห้งๆ ไปให้เขา แล้วหันไปหยิบแก้วเหล้าที่วางอยู่ใกล้มือขึ้นมากระดกเพราะเบียร์ในแก้วที่ถืออยู่อีกข้างหมดแล้วเรียบร้อย เหล้าอะไรเนี่ย ขมชะมัดเลย!
“ดื่มเก่งเหมือนกันนะเนี่ย”
“ก็นิดหน่อย ไปเที่ยวกับพี่บ้างน่ะ”
ฉันหัวเราะเบาๆ บางอีอาจจะคงไม่บ้างหรอก พี่เจโดนฉันชวนไปผับประจำเวลาเจ็บช้ำเรื่องพี่คินซ้ำแล้วซ้ำเล่า ให้ตายเถอะ นี่ฉันคิดเรื่องพี่คินอีกแล้วเหรอ!
“ทอร์ธ!”
“ว่าไงเกรซ มีอะไรเหรอ”
เสียงแหลมดังขึ้นจนฉันสะดุ้ง ทอร์ธหันไปถามผู้หญิงที่ใส่เดรสรัดสีขาวแนบเนื้อไปทั้งตัวที่ชื่อเกรซ เธอหันมามองฉันเหมือนไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ แล้วเธอก็รีบเดินเข้าไปเกาะแขนทอร์ธด้วยความสนิทสนม
“เกรซหาตั้งนาน โทรหาก็ไม่รับ”
“สงสัยเสียงดังน่ะเลยไม่ค่อยได้ยิน นี่ขวัญเพื่อนแคท แล้วนี่เกรซนะ เพื่อนที่มหา’ลัยน่ะ”
หลังจากทอร์ธตอบคำถามของเกรซจบ เขาก็หันมาแนะนำฉันให้กับเธอรู้จักอย่างอารมณ์ดี เอิ่ม... ช่วยดูหน้าเกรซก่อนจะแนะนำให้รู้จักฉันหน่อยก็ได้นะ ดูท่าทางเธอไม่ค่อยอยากจะรู้จักฉันสักเท่าไหร่
“มานี่เร็วขวัญ จะเล่นเกมกันแล้ว”
ฉันกะพริบตาปริบๆ ด้วยความมึนงงทันทีที่ จู่ๆ ยัยแคทก็เดินมาดึงแขนให้ฉันลงไปนั่งลงบนโซฟาที่มีคนนั่งอยู่ก่อนแล้วอีกสองคน แถมทอร์ธกับเกรซยังเดินตามมาอีก เดี๋ยวสิ มันโผล่มาลากฉันอีกแล้วนะ!
และเมื่อผ่านไปหลายนาที หรืออาจจะหลายชั่วโมงไปแล้วฉันก็ไม่อาจจะทราบได้ ฉันนั่งเล่นกับทุกคนและตอนนี้ก็มึนหัวจนแทบจะหน้าทิ่มลงไปที่พื้นได้อยู่แล้ว! เกมบ้าอะไรที่คนแพ้ต้องดื่มเหล้าให้หมดแก้วเนี่ย แถมฉันยังมึนมากจนเริ่มไม่ค่อยมีสติแล้วด้วย รู้แค่ว่าผู้คนที่มางานปาร์ตี้วันเกิดยัยแคทต่างเริ่มกลับบ้านกันไปเกือบหมด จะเหลือก็แค่ฉัน แคท ทอร์ธ เกรซ ฟิวและเฟย์ แค่สี่คนที่ยังนั่งเล่นเกมบ้าๆ นี่ที่ห้องนั่งเล่นเนี่ยแหละ!
”ฉันว่าฉันกลับดีกว่า“ ผู้หญิงหน้าตาน่ารักหันไปบอกแคทที่ฟุบลงไปบนโซฟาไปเรียบร้อยแล้ว เฟย์ดูมีสติสุดในนี้แล้วน่ะนะ เพราะเธอไม่ค่อยได้ดื่มเท่าไหร่
“เฮ้ย ดื่มห้ามขับนะเว้ยเฟย์” ฟิวหันไปบอกเฟย์แถมยังยกเหล้ากระดกเข้าปากอีกครั้งอย่างสบายใจ หน้าตาหล่อๆ ไม่ได้ทำให้ท่าทางเมาเหมือนหมาของเขาดีขึ้นมาเลย ให้ตายสิ
“ฉันกลับแท็กซี่ย่ะ แกก็กลับได้แล้วไอ้ฟิว เดี๋ยวแม่แกก็มาบ่นฉันอีก” พอเฟย์พูดจบก็ยกร่างของฟิวแล้วลากออกไปจากบ้านของแคททันที สองคนนี้เป็นลูกพี่ลูกน้องกันน่ะ ฉันก็เล่นเกมกับพวกเขาจนสนิทกันโดยไม่รู้ตัวไปด้วยเลย
“ทอร์ธจ๋า เกรซง่วงแล้วอะ“
นี่ก็อีกคู่ ฉันที่กำลังลุกไปเข้าห้องน้ำส่ายหน้าเบาอย่างนึกขำ เมื่อเหลือบไปเห็นทอร์ธที่ลากเกรซออกไปจากบ้านตามเฟย์กับฟิวไปติดๆ ฉันก็เพิ่งรู้มาจากแคทเหมือนกันว่าเกรซชอบทอร์ธเพราะทั้งสองคนเป็นเพื่อนกันมานาน ส่วนทอร์ธไม่ได้ชอบเธอแบบนั้น แต่เกรซก็ยังทำเหมือนเป็นเจ้าข้าวเจ้าของเขามาตลอด และสุภาพบุรุษแบบทอร์ธนั้นก็ต้องคอยดูแลเธอไปตามระเบียบ คิดแล้วฉันก็รู้สึกว่าเกรซมีชะตากรรมคล้ายกับฉันชะมัดเลย เฮ้อ…
“ขวัญ”
คิ้วของฉันขมวดมุ่นเมื่อได้ยินเสียงเข้มต่ำของใครบางคน คนที่มางานวันเกิดยัยแคทยังกลับบ้านกันไม่หมดอีกเหรอ ฉันค่อยๆ ขยับเปลือกตาที่หรี่ปรือของตัวเอง และเพ่งมองไปทางประตูบ้านของแคททันที แต่ทำไมฉันถึงรู้สึกว่าพื้นบ้านมันเอียงชะมัด แถมร่างสูงใหญ่แสนคุ้นตาที่ยืนอยู่ตรงนั้นยังดูโอนเอนแปลกๆ อีกต่างหาก
หมับ!
“เมาอีกแล้วรึไง ตัวแสบ”
จู่ๆ ท่อนแขนแข็งแรงก็โอบรอบเอวบางไว้ก่อนที่ร่างกายของฉันจะล้มลงไปบนพื้น พอลืมตาหรี่ปรือของตัวเองขึ้นมอง ฉันก็ต้องยิ้มกว้างออกมาโดยไม่รู้ตัว
“เหมือนพี่คินเลยอ่ะ”
“เมาจริงๆ สินะ เด็กดื้อ”
ฉันยู่หน้าทันทีที่ฝ่ามือใหญ่บีบลงมาที่ปลายจมูกฉันแรงๆ หนึ่งที อย่างมันเขี้ยว ท่อนแขนแข็งแรงยังกอดรัดเอวบางแน่นมากขึ้น ทำให้ใบหน้าของฉันแนบไปกับแผงอกกำยำจนได้กลิ่นที่ชอบจากร่างสูง แล้วฉันก็เผลอยิ้มกว้างอย่างดีใจ หัวใจเต้นตึกตักพองโตไปหมด ถึงแม้จะแค่ในฝันฉันก็ขอรู้สึกดีหน่อยเถอะน่า
“กลิ่นก็เหมือนพี่คิน”
“หึ เป็นเอามากนะเราน่ะ”
เสียงทุ้มเข้มที่ดังอยู่ข้างใบหูยิ่งทำให้หัวใจของฉันเต้นรัวเร็วมากขึ้นกว่าเดิมอีกหลายเท่า อยากจะฝันแบบนี้ไม่ยอมตื่นเลย ให้ตายสิ ฉันรู้สึกดีและมีความสุขจนไม่อยากตื่นจากความฝันแบบนี้เลยจริงๆ…
หมับ!
“ก็ขวัญชอบหนิ”
“...” ฉันยิ้มกว้างและยกมือบางขึ้นลูบไล้สันกรามที่ดูน่าหลงไหลของร่างสูงใหญ่ ไล่นิ้วนวดคลึงไปมาที่ริมฝีปากชมพูติดคล้ำอย่างแผ่วเบา จากนั้นฉันก็อมยิ้มออกมาอีกครั้งพร้อมกับดวงตาหรี่ปรือ แล้วอาการมึนหัวตุบๆ จากเบียร์และเหล้าที่ดื่มไปมากพอสมควร
”ขวัญชอบริมฝีปากแบบนี้...”
”...”
ร่างสูงใหญ่ตรงหน้ายังคงนิ่งเงียบเช่นเคย และนั่นยิ่งทำให้ฉันเผลอลูบไล้ขึ้นไปที่จมูกโด่งเป็นสันได้รูป ดวงตาคมดุดันคู่สวย และกลับลงมาลูบไล้ที่ลำคอและบ่าแกร่งอย่างเอาแต่ใจ
“ชอบทุกอย่างเลย ชอบ...อื้อ!”
ฉันยังพูดไม่ทันจบประโยคเสียงของฉันก็ถูกกลืนหายเข้าไปจนหมด คำพูดที่ฉันอยากพูดออกมาถูกร่างสูงใหญ่ประกบริมฝีปากลงมาปิดเอาไว้ด้วยความรวดเร็ว ริมฝีปากของเขาขยับอย่างช่ำชองและอบอุ่น จนฉันเผลอขยับริมฝีปากตามอย่างห้ามเอาไว้ไม่อยู่ นุ่มนวล หอมหวาน และรู้สึกดีแทบบ้า แถมแอลกอฮอล์ที่อยู่ในร่างกายก็ยิ่งทำให้ฉันมึนเบลอไปกับสัมผัสร้อนรุ่มของเขามากกว่าเดิมซะอีก
“ทำไมถึงชอบทำแบบนี้กับพี่ เด็กดื้อ”
ฉันลืมตาขึ้นช้าๆ พร้อมกับอาการปวดหัวตุบๆ จากนั้นฉันก็ขยับตัวพลิกไปกอดหมอนข้างแน่นกว่าเดิม แล้วต้องขมวดคิ้วมุ่นด้วยความสงสัยทันที เอ๊ะ… ทำไมถึงรู้สึกว่าหมอนข้างมันแข็งจังอะ ฉันเลยหันไปลืมตามองให้ชัดขึ้น แต่กลับเจอซิกแพค และแผงอกกำยำแทนซะได้ นี่มันอะไรกันอะ!
“พะ..พี่คิน!”
ฉันกะพริบตาปริบๆ อย่างงุนงง อาการมึนหัวก็เพิ่มมากขึ้นจนต้องยกมือขึ้นไปคลึงขมับของตัวเองเบาๆ ว่าแต่ทำไมหมอนข้างฉันถึงกลายมาเป็นพี่คินแบบนี้ล่ะ!
”อืม”
ร่างสูงใหญ่ขยับตัวทั้งๆ ที่ยังหลับอยู่ เขาพาดท่อนแขนแข็งแรงมาที่เอวบางแล้วกอดฉันเอาไว้แน่น ให้ตายเถอะ เมื่อคืนฉันยังอยู่ในงานปาร์ตี้วันเกิดยัยแคทอยู่เลย แล้วทำไมสภาพฉันตอนนี้ถึงเป็นอย่างงี้ได้อะ…
เอ๊ะ… ฉันเม้มริมฝีปากและเงยหน้ามองใบหน้าหล่อคมคายที่หลับตาพริ้มอีกครั้ง แล้วฉันก็คิดอะไรบางอย่างออกทันที ไหนๆ ฉันก็แอบชอบพี่คินมานานงั้นขออยู่แบบนี้ไปสักพักก่อนก็แล้วกัน เพราะขวัญคนนี้จะไม่บอกความรู้สึกให้คนเจ้าชู้แบบเขารู้เด็ดขาด ถึงจะชอบมากก็เถอะ!
เอิ่ม… แต่พอฉันโดนพี่คินกอดอยู่แบบนี้แล้วมันก็รู้สึกดีจริงๆ นะ...
”คิกๆ”
ฉันยกยิ้มแล้วแอบหัวเราะเบาๆ หุ่นพี่คินกล้ามแน่นดีจริงๆ แถมตอนนี้แผงอกกำยำของเขายังแนบชิดกับใบหน้าของฉันอีกต่างหาก แต่ว่าทำไมพี่คินถึงมานอนเปลือยท่อนบนอยู่บนเตียงของฉันแบบนี้ได้ล่ะ...
และกว่าฉันจะรู้ตัวมือบางก็เผลอลูบไล้แผงอกกำยำของพี่คินซะแล้ว ให้ตายสิ… อยากตีมือตัวเองชะมัดเลย แต่ก็ช่างมันเถอะ คนที่ฉันแอบชอบมานอนกอดซะแนบแน่นขนาดนี้จะปล่อยไปเฉยๆ ก็ไม่ได้ด้วยสิ ขวัญขอนิดนึงละกันนะคะพี่คิน
ฉันยิ้มกว้างแล้วเหลือบมองซิกแพคแน่นๆ ของร่างสูงใหญ่อีกครั้ง มือที่สั่นเล็กน้อยค่อยๆ ยกขึ้นไปลูบไล้สันกรามของเขาแผ่วเบา และหยุดเพื่อรอดูว่าพี่คินจะรู้สึกตัวก่อนหรือเปล่า แล้วฉันก็ต้องถอนหายใจออกมาอย่างดล่งอกเมื่อเห็นว่าเขานอนหายใจสม่ำเสมอเหมือนกำลังหลับฝันดี
มือบางลูบไล้ที่คิ้วเข้ม เปลือกตา และใช้นิ้วชี้ไล่ไปตามสันจมูกโด่งคมคายอย่างหลงไหลช้าๆ ลูบไล้ลงมาจนถึงริมฝีปากชมพูติดคล้ำเล็กน้อยแล้วยิ้มกว้างอีกครั้งอย่างมีความสุข ทำไมฉันถึงชอบพี่คินได้มากมายขนาดนี้กันนะ ทั้งๆ ที่เขาก็เป็นคนท่าทางเจ้าชู้ไม่ใช่น้อย แต่ฉันกลับชอบเขาจนห้ามใจตัวเองไม่ค่อยได้ตลอดเลย บ้าชะมัด การที่อยากจะเลิกชอบใครสักคนนี่ทำไมมันทำยากจังอะ…
“อืม”
เสียงทุ้มเข้มพึมพำในลำคอแกร่งเบาๆ เหมือนเขากำลังรำคาญ ฉันสะดุ้งเล็กน้อยพร้อมกับนิ้วมือที่กำลังลูบไล้ริมฝีปากอุ่นร้อนของพี่คินก็ชะงักนิ่งทันที หัวใจพลันเต้นตึกตักรัวเร็วด้วยความตื่นเต้น ใบหน้ารู้สึกหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาโดยที่ควบคุมเอาไว้ไม่อยู่ บ้าชะมัด ฉันกำลังทำบ้าอะไรเนี่ย สงสังจะมึนๆ จากการดื่มเหล้าในงานปาร์ตี้วันเกิดยัยแคทเมื่อคืนไม่หายแน่ๆ เลย ฉันถึงได้ใจกล้าหน้าด้านทำแบบนี้กับพี่คินไปได้เนี่ย โอ๊ย... ยัยขวัญแกบ้าไปแล้วเหรอยะ!
หมับ!
”อ๊ะ...”
จู่ๆ ร่างสูงใหญ่ก็พลิกตัวมานอนตะแคง แล้วท่อนแขนแข็งแรงก็กอดรัดร่างกายของฉันเอาไว้แน่นมากขึ้น ใบหน้าของฉันทิ่มไปยังแผงอกกำยำของเขาจนแทบหายใจไม่ออก ฉันรีบหุบปากฉับทันทีที่เผลออุทานออกมาเบาๆ และหลับตาแกล้งทำเป็นว่ายังคงหลับอยู่ด้วยความรวดเร็ว หัวใจฉันเต้นระรัวเหมือนมีคนมาตีกลองอยู่ข้างในเลย ให้ตายเถอะ…
“อืม”
พี่คินพึมพำเสียงทุ้มเข้มอีกครั้ง และสักพักฉันก็รู้สึกเหมือนมีอะไรมาสัมผัสอยู่ที่เส้นผมของตัวเองไปมา ฉันหลับตาปี๋แล้วนอนนิ่งตัวแข็งทื่อทันที หัวใจก็ยังเต้นตึกตักรุนแรงอย่างไม่หยุดหย่อน จากนั้นสัมผัสอ่อนนุ่มก็แตะลงมาที่หน้าผากและขมับของฉันแผ่วเบา อะ... อะไรอะ พี่คินกำลังทำอะไรกับฉันเนี่ย!
“อึก...”
ฉันกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่อย่างฝืดเคืองด้วยความประหม่า รู้สึกตื่นเต้นกับสัมผัสแผ่วเบาที่มองไม่เห็น แต่กลับรับรู้ถึงความอบอุ่นผ่านผิวกายของตัวเองเพียงผะแผ่วเท่านั้น แล้วสักพักต้นแขนของฉันถูกฝ่ามือใหญ่ลูบไล้ขึ้นลงช้าๆ ความรู้สึกมึนงงและความตื่นเต้นทำให้ฉันอยากจะลืมตามาดูให้รู้แล้วรู้รอดว่าพี่คินกำลังทำอะไรกับร่างกายของฉัน แต่ก็ต้องทำเป็นแกล้งหลับต่อไป เพราะหัวใจรู้สึกพองฟูขึ้นมาแปลกๆ
“หึ”
เสียงหัวเราะต่ำในลำคอแกร่งจากพี่คินดังอยู่ข้างใบหูของฉัน มันใกล้จนลมหายใจอุ่นร้อนของเขาทำให้ฉันรู้สึกวูบวาบจนเผลอกลั้นหายใจไปแวบหนึ่ง แต่ก็ยังคงพยายามแกล้งหลับต่อไป ให้ตายสิ ฉันแกล้งหลับมาขนาดนี้แล้ว ก็ต้องทำให้สุดๆ ไปเลย จะให้พี่คินรู้ไม้ได้เด็ดขาด!
“จะทำยังไงกับเด็กดื้อคนนี้ดี”
เสียงทุ้มเข้มยังคงดังอยู่ข้างใบหูของฉันไม่ห่าง ฉันเกือบลืมหายใจไปชั่วขณะเพราะความตื่นเต้น โอ๊ย! จะทำอะไรก็ทำเร็วๆ เลยค่ะพี่คิน ก่อนที่ขวัญจะแกล้งหลับต่อไปไม่ไหว บ้าชะมัดเลย ลุ้นจนหัวใจจะวายอยู่แล้วเนี่ย!
“หึ ตอนหลับก็ดูเป็นเด็กดี แต่ตอนตื่นทำไมถึงชอบดื้อกับพี่ก็ไม่รู้”
ฉันไปดื้อกับพี่คินตอนไหนอ่ะ พอนอนนึกได้ไม่นานบริเวณผิวแก้มข้างซ้ายของฉันก็รับรู้ถึงสัมผัสอุ่นร้อนกำลังกดลงมาแรงๆ อย่างมันเขี้ยว สัมผัสนั้นไม่ได้รุนแรงอะไรมากมาย แต่ตอนนี้หัวใจฉันพร้อมจะกระเด้งออกมาเต้นระบำฮาวายมากบอกเลย พี่คินกำลังทำอะไรอยู่รู้ตัวบ้างไหมอะ หรือว่าเขาจะนอนละเมอเพราะเพิ่งตื่น สมองของฉันตีกันยุ่งเหยิงไปหมดแล้วนะ…
หมับ!
ฉันแทบจะเบิกตาโพรงอย่างตกใจ ทันทีที่ท่อนแขนแข็งแรงรั้งร่างกายของฉันเข้าไปกอดเอาไว้แนบแผงอกกำยำแน่นมากกว่าเดิม และตามมาด้วยความรู้สึกเจ็บจี๊ดบริเวณซอกคอของตัวเอง แต่ฉันก็ทำได้เพียงกัดริมฝีปากล่างไว้ เพราะกลัวว่าเขาจะรู้ว่าฉันแกล้งหลับซะก่อน แล้วเมื่อกี้พี่คินทำอะไรกับคอของฉันกันน่ะ!
“ตื่นยัง”
ฉันนอนนิ่งตัวแข็งทื่อยิ่งกว่าก้อนหินเมื่อได้ยินเสียงทุ้มเข้มกระซิบถามข้างใบหูพร้อมกับหัวเราะต่ำในลำคอแกร่งเบาๆ อย่าบอกนะว่าพี่คินรู้ว่าฉันไม่ได้หลับตั้งแต่แรกแล้วอะ
“หึ ถ้าไม่ตื่นงี้พี่ก็ลักหลับได้สบายน่ะสิ”
ฉันแอบกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่อย่างทำตัวไม่ถูก แต่ก็ยังคงแกล้งนอนตายคาเตียงของตัวเองต่อไปแบบพยายามให้มันเนียนที่สุด แล้วนี่พี่คินพูดบ้าอะไรของเขากัน ลักหลับอะไรนั่น... ถ้าเขาจะทำก็รีบทำซะเลยสิ เอ๊ย... ไม่ใช่สิยัยขวัญ นี่ฉันคิดฟุ้งซ่านอะไรก็ไม้รู้!
“ขี้เซาแบบนี้ จะมาว่าพี่ทีหลังไม่ได้นะ เมื่อคืนเราก็ทำพี่ไว้เยอะเหมือนกัน เด็กดื้อ”
แล้วฉันไปทำอะไรเขาไว้เมื่อคืนอีกล่ะเนี่ย รับรู้แค่ว่ามึนๆ เมาๆ แถมเบลอมากอีกต่างหาก พี่คินช่วยพูดอะไรให้มันเคลียร์หน่อยได้ไหม ฉันที่กำลังบ่นในใจอยู่คนเดียวต้องสะดุ้งเมื่อฝ่ามือใหญ่บีบลงมาที่ปลายจมูกจิ้มลิ้มแรงๆ หนึ่งที จากนั้นร่างสูงก็สัมผัสลงมายังต้นขาของฉันด้วยความรวดเร็วจนหัวใจฉันเต้นระรัวไปหมด ทำไมพี่คินเป็นคนมือไวชะมัดเลย คนเจ้าชู้! ถึงจะว่าเขาอยู่ในใจแต่ฉันก็ชอบเขาอยู่ดีนั่นแหละ ให้ตายสิโว้ย!
“สงสัยจะหลับจริงๆ”
ฝ่ามือใหญ่ค่อยๆ ลูบไล้บริเวณต้นขาขาวเนียนไปมาแผ่วเบา จนตอนนี้ปลายกระโปรงชุดเดรสมันเลื่อนขึ้นเล็กน้อยเมื่อปลายนิ้วเรียวยาวเริ่มดันมันตามขึ้นไปช้าๆ หัวใจจะวาย... ฉันจะหัวใจวายตายอยู่แล้วนะ!
พรึบ!
พี่คินหยุดฝ่ามือใหญ่ที่จับบริเวณต้นขาเนียน แต่เขากลับเปลี่ยนขึ้นมาเกี่ยวสายเดี่ยวชุดเดรสลง จนมันตกลงไปที่ต้นแขนของฉันแทน หัวใจฉันสั่นระรัวอย่างตื่นเต้นและมึนงงไปหมด แล้วฉันก็ต้องกัดริมฝีปากล่างเอาไว้แน่น เมื่อรับรู้ได้ถึงลมหายใจอุ่นร้อนที่สัมผัสผะแผ่วบริเวณช่วงเนินอกของตัวเอง พร้อมกับริมฝีปากที่แตะลงมาก็ทำให้ฉันอยากจะบ้า ให้ตายสิ!
”พะ...พี่คิน”
ฉันสูดหายใจเข้าลึกๆ เพื่อตั้งสติ แล้วลืมตามองใบหน้าหล่อคมคายที่อยู่ใกล้จนปลายจมูกของราสองคนเกือบจะชนกันตาปริบๆ อย่างประหม่า และตื่นเต้นปนกันไปหมด แถมหัวใจฉันยังเต้นระบำเริงร่าอยู่ภายในอกอย่างบ้าคลั่งไม่หาย ร่างสูงใหญ่มองหน้าฉันด้วยสายตาคมวาววับเจ้าเล่ห์ จากนั้นเขาก็ยกยิ้มมุมปากขึ้นเล็กน้อย
“หึ ตื่นแล้วเหรอ… ตัวแสบ”