Chapter 2 : เข้าหา
"สวัสดีค่ะคุณลุง คุณป้า" ฉันเอ่ยทักผู้ใหญ่ใจดีทั้งสองที่กำลังสนทนากับพ่อแม่ของฉันอยู่ที่ห้องรับแขกของบ้าน
ส่วนพี่พัฒน์เดินตามหลังฉันมาติดๆพร้อมกับยกมือไหว้สวัสดีผู้ใหญ่ที่อยู่ตรงหน้าทุกคนโดยไม่เปล่งเสียงใดๆออกมา
"มาๆนั่งลงก่อน" คุณลุงกวักมือเรียกฉันกับพี่พัฒน์เข้าไปนั่งยังโซฟาคู่ที่อยู่ข้างกัน
"ไงเจ้าพัฒน์ ไม่กลับบ้านกลับช่อง" ที่คุณลุงพูดหมายความว่าพี่พัฒน์ไม่ได้พักอยู่ที่บ้านนี้หรอกหรอ แล้วไปพักอยู่ที่ไหนหล่ะ
"ก็นี่ไงครับผมกลับมาแล้ว" พี่พัฒน์ตอบคุณลุงด้วยน้ำเสียงที่นิ่งขรึม แต่คนฟังอย่างฉันกลับรู้สึกว่ามันแอบน่ากลัว
"แล้วเป็นไงมากับเจ้าพัฒน์" คุณลุงหันมาถามฉัน
"ดีค่ะ ดีมากเลย" ผู้ใหญ่ทั้งสี่คนหันมองหน้ากันสลับกับมองหน้าฉันด้วยความสงสัย นี่ฉันเผลอออกอาการดีใจเกินเหตุอีกแล้วสินะ
"อ้อ หรอลูก...ดีๆ ลุงกลัวว่าตอนที่นั่งรถมากับมันหนูจะแอบกลัวเจ้าพัฒน์ที่ชอบทำสีหน้าเคร่งขึมอยู่ตลอดเวลา" ฉันก็รู้อยู่หรอกว่าพี่พัฒน์เป็นคนที่หน้านิ่งๆ แต่เพราะความที่นานๆจะเจอกันที มันเลยทำให้ฉันแอบกลัวเล็กน้อยกับคำที่พี่พัฒน์เอ่ยปากพูดกับคุณลุงเมื่อครู่
"กินข้าวกันดีกว่าลูก" คุณป้าเป็นคนเอ่ยพูด ทุกคนจึงลุกขึ้นแล้วเดินไปยังโต๊ะอาหาร
ร่วมสองชั่วโมงที่ครอบครัวเราทั้งสองรับประทานอาหารร่วมโต๊ะ พูดคุยกันอย่างสนุกสนาน จะมีก็แต่พี่พัฒน์ที่นั่งกินข้าวแบบเงียบๆด้วยสีหน้านิ่งๆไม่บ่งบอกถึงอารมณ์ใดๆออกมา ที่รู้เพราะฉันลอบมองพี่พัฒน์อยู่ตลอด แต่ดูเหมือนว่าตัวพี่พัฒน์เองก็คงจะรู้ว่าฉันก็แอบมองอยู่ เพราะมีช่วงจังหว่ะที่เราสองคนสบตากันอยู่แปปนึง และเป็นฉันที่เป็นฝ่ายหลบสายตาพี่พัฒน์แล้วเสมองไปทางอื่น
"วันนี้อาหารอร่อยมาก ยังไงเดี๋ยวฉันกับเมียขอตัวกลับก่อน ยัยมิกลับบ้านกับพ่อแม่เลยไหม" พ่อหันไปบอกกับคุณลุงก่อนแล้วจึงหันมาถามฉัน
"กลับเลยค่ะ"
"แล้วพัฒน์หล่ะ วันนี้จะนอนที่นี่หรือว่าจะกลับไปนอนคอนโด"
"พรุ่งนี้ผมมีประชุมเช้าครับพ่อ กลับไปนอนคอนโดใกล้ออฟฟิศกว่านอนที่นี่" หูฉันมันผึ่งทันที ถ้าคอนโดใกล้กับออฟฟิศพี่พัฒน์ งั้นแสดงว่าขากลับก็ต้องผ่านมหาลัยฉันหน่ะสิ เอาไงดีหล่ะ พ่อแม่ฉันไม่น่าถามก่อนเลยว่าจะกลับไปบ้านไหม และฉันก็ดันตอบตกลงไปแล้วด้วย นี่คือโอกาสที่ฉันจะได้อยู่กับพี่พัฒน์สองคนอีกครั้งเลยนะ
"เอ่อ..คุณพ่อคุณแม่คะ มิเพิ่งนึกได้ว่าพรุ่งนี้มีเรียนเช้า" ฉันพูดปดต่อพ่อกับแม่ จริงๆพรุ่งนี้ฉันมีเรียนบ่าย แต่เพราะความกระสันอยากจะอยู่กับพี่พัฒน์สองคน และก็ไม่รู้ว่าอนาคตฉันจะได้เจอพี่พัฒน์อีกเมื่อไหร่
"งั้นเดี๋ยวพี่ไปส่ง ไงก็เป็นทางผ่านอยู่ดี" พี่พัฒน์บอกฉันเสียงเรียบ "คุณน้าครับ เดี๋ยวผมไปส่งน้องเองไม่ต้องเป็นห่วง" รู้สึกดีจัง ที่พี่พัฒน์เป็นคนเอ่ยปากจะไปส่งฉันเอง โดยที่ฉันไม่ต้องเอ่ยขอ ถึงพี่พัฒน์ไม่พูด ยังไงฉันก็จะขอให้เขาไปส่งฉันอยู่ดี
#ภายในรถ
ตั้งแต่นั่งรถมา บทสนทนาของเราสองคนก็ไม่มีเลยสักคำ หรือฉันควรจะถามเรื่องเมื่อช่วงเย็นดีหล่ะ เพรามันก็แอบคาใจอยู่ไม่น้อย
"เอ่อ...เมื่อตอนเย็นพี่พัฒน์โกรธอะไรมิหรือเปล่าคะ" คิดถูกคิดผิดที่ตัดสินใจถามคำถามนี้ออกไป ทำไมไม่ถามว่าชอบดูหนังไหม ฟังเพลงไหม ฉันควรจะรู้กิจกรรมของพี่พัฒน์สิว่าชอบอะไรไม่ชอบอะไร
"พี่จะโกรธมิเรื่องอะไรหล่ะ" พี่พัฒน์ตอบฉันด้วยน้ำเสียงที่ดูโอเคขึ้นมากกว่าตอนที่อยู่ที่บ้าน
"ก็เรื่อง...."
"หอมิอยู่ไหนบอกพี่ด้วยนะ อยู่ลึกหรือเปล่า"
รู้สึกโล่งอก ที่พี่พัฒน์เปลี่ยนเรื่องคุย ไม่สิ ดีที่ตอนนี้เขาขับรถมาถึงต้นซอยหอพักของฉันที่อยู่ติดกับมหาวิทยาลัย
"ช่วงกลางๆซอยค่ะ ไม่ลึกมาก" เวลาความสุขมันมักผ่านไปเร็วเสมอ ฉันยังไม่ทันรู้เรื่องอะไรที่เกี่ยวกับตัวเขาเลย ก็มาถึงซอยหอซะแล้ว
"จอดขวามือด้านหน้าเลยค่ะ"
"หอนี้หรอ"
"ใช่ค่ะ" ฉันบอกพี่พัฒน์แล้วชี้ไปยังหอที่ฉันอยู่
"ขอบคุณมากๆเลยนะคะ" พี่พัฒน์แหงนมองหอพักที่ฉันชี้บอก
"รีบขึ้นห้องเถอะ"
"พี่พัฒน์คะ"
"ว่าไง"
"เอ่อ คือมิขอทักแชทไปคุยกับพี่พัฒน์บ่อยๆได้ไหมคะ" ตอนที่ฉันนั่งอยู่ในรถ ฉันคิดเยอะมากว่าฉันต้องทำยังไงดีถึงจะได้เจอได้คุยกับพี่พัฒน์อีก และความคิดฉันก็มาหยุดอยู่ที่เราต้องเป็นฝ่ายหาเรื่องคุยกับเขาก่อน ค่อยๆแทรกซึมเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในชีวิต และวิธีที่ง่ายสุดในตอนนี้คือการแชทคุยกัน
"ได้ แต่พี่ไม่ค่อยตอบไลน์นะ ถ้ามิโอเค"
"โอเคเลยค่ะ" จะตอบช้าหรือตอบเร็ว อย่างน้อยพี่พัฒน์ก็อนุญาติให้ฉันทักหาได้
"ไงก็ขับรถกลับดีๆนะคะ ถึงคอนโดแล้วไลน์มาบอกมิหน่อยนะ" พี่พัฒน์มีสีหน้าที่งุนงงก่อนจะพยักหน้าเป็นการตอบรับ
ฉันจึงเปิดประตูก้าวลงจากรถอย่างมีความสุข
ต่อจากวันนี้ไปฉันจะค่อยๆเริ่มเป็นฝ่ายเดินเข้าไปอยู่ในชีวิตของพี่พัฒน์ และจะทำให้พี่พัฒน์ตกหลุมรักฉันให้ได้เข้าสักวัน
°°°°°°°°°°