Chapter 10 : ไม่มีสถานะพี่น้องอีกต่อไป
เลิกคลาส (16.00น.)
วันนี้เราสองคนมีเรียนแค่วิชาเดียวในช่วงบ่าย พอเรียนเสร็จฉันและขนมปังก็เดินลงมายังด้านล่างของตึกนิเทศ เพื่อหาที่นั่งคุยกันก่อนจะแยกย้ายกลับ
"มิรา แกแน่ใจนะว่าจะไปคอนโดพี่เขาจริงๆ"
"อืม ก็ในเมื่อพี่พัฒน์อยากให้ฉันเห็นตัวตนของเขาจริงๆ ฉันก็จะไปให้เห็นกับตา"
"แกคิดไหม ชายหญิงสองคนอยู่ในห้องด้วยกันมันจะมีอะไรเกิดขึ้น"
(เสียงโทรศัพท์มิรา)
ฉันที่กำลังจะตอบคำถามขนมปัง เสียงโทรศัพท์ของฉันก็ดังแทรกขึ้นมา
"แปปนะ พ่อฉันโทรมา"
"ฮัลโหลค่ะพ่อ"
(วันนี้วันศุกร์ กลับบ้านไหมลูก)
"พรุ่งนี้นะคะ มิจะรีบกลับแต่เช้าเลย"
(พอไปอยู่หอก็ไม่ค่อยจะยอมกลับบ้าน หรือเราแอบมีแฟนแล้วไม่บอกพ่อกับแม่)
"มีที่ไหนหล่ะคะ"
(งั้นรึ เรามันดีกรีดาวคณะมันจะไม่มีหนุ่มๆมาจีบเลยหรือไง)
"พ่อคะ มิไม่ได้เป็นดาวคณะค่ะ ถึงจะเคยมีพวกพี่ๆมาทาบทามก็เถอะ"
(อ่าว พ่อเข้าใจมาตลอดว่าลูกสาวพ่อเป็นดาวคณะ แย่ละ พ่อโม้เพื่อนบ้านไว้เยอะ)
"ช่างเถอะค่ะ มันก็นานแล้วนะคะตั้งแต่ปี1"
(พ่อก็หลงๆลืมๆ แล้วตกลงกลับพรุ่งนี้แน่นะ)
"แน่ค่ะ เตรียมอาหารจานโปรดรอมิได้เลย"
(ให้พ่อไปรับไหม)
"มะ ไม่ต้องค่ะ มิกลับเองได้"
(ตามใจ อย่าเถลไถลที่ไหน ถ้าพ่อรู้ว่าเราเกเร พ่อจะให้เรากลับมาอยู่บ้าน)
"มีขู่ คิดถึงลูกสาวก็บอกมาเถอะค่ะ"
(ฮ่า ฮ่า ฮ่า คิดถึงสิลูกสาวคนเดียวของพ่อ พ่อไม่กวนละ พรุ่งนี้เจอกัน)
"ค่ะพ่อ จุ๊บ"
หลังจากวางสายจากพ่อ ขนมปังก็รีบถามฉันต่อ
"แกยังไม่ตอบคำถามฉัน"
"อะไรจะเกิดก็เกิด"
"นี่แกไม่กลัวพี่พัฒน์เขาจะทำอะไรแกเลยงั้นสิ"
"..."
"แก ยังไงพี่พัฒน์ก็ผู้ชายคิดให้ดีๆ อย่ามัวแต่หลงรูปลักษณ์ภายนอก"
"ฉันไม่ได้หลงแค่รูปลักษณ์ภายนอก แต่พี่พัฒน์เป็นสุภาพบุรุษจริง พูดจาสุภาพ ถึงจะชอบพูดติดดุ และก็ชอบทำหน้านิ่งๆก็เถอะ"
"แกอย่าเพิ่งหลอกตัวเอง ถ้าเขาสุภาพบุรุษจริงๆ เขาจะชวนแกไปคอนโดทำไม แถมยังให้แกเอาเสื้อผ้าไปอีก"
"เขาอายุห่างกับแกกี่ปี แกจะทันเขาหรอยัยมิ"
"แล้วถ้าเกิดตัวตนจริงๆเขาไม่ได้สุภาพบุรุษอย่างที่แกเห็น แกจะทำยังไง แกยังจะชอบเขาอยู่ไหม จะผิดหวังไหม"
"..."
"อย่ามองแค่ที่ภายนอก แกเพิ่งจะรู้จักเขาตอนไหนนะ"
"ตอนอายุ18"
"เออ แล้วแกเจอเขาบ่อยไหม"
"ไม่ นานๆครั้ง"
"ก็เนี่ยไง แกอย่าปักใจเชื่อทุกอย่างที่แกเห็น"
"พี่พัฒน์ของแกอาจจะเป็นเสือร้ายก็ได้ ฉันว่าที่ผ่านมาเพราะแกเป็นลูกสาวของเพื่อนสนิทพ่อพี่เขา เขาก็เลยเกรงใจ ไม่คิดอะไร อย่างว่าแหล่ะก็เด็กอ่ะ เขาจะคิดอะไรวะ"
"แต่พอมาตอนนี้ แกชอบเขา เมื่อเขามีโอกาสก็เลยอยากจะตะคุบเหยื่ออย่างแกก็ได้"
"นี่แกดูหนังมากไปหรือเปล่า"
"ฉันพูดเรื่องจริง" สีหน้าของขนมปังในทุกประโยคที่เอ่ยออกมามีแต่ความเป็นห่วง และฉันก็เก็บคำพูดของมันมาคิดทุกประโยค
"แล้วพี่พัฒน์ของแกจะมารับแกกี่โมง"
"ไม่ได้บอก คงเลิกงานแล้วถึงจะมารับนั่นแหล่ะ"
"ให้ฉันอยู่เป็นเพื่อนก่อนไหม"
"ไม่เป็นไร แกกลับเถอะ เดี๋ยวฉันจะเข้าหอไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเลย"
"ถ้ามีอะไรรีบโทรหาฉันเลยนะ"
"ได้ ขอบคุณมากนะ"
"แน่ใจนะว่าจะไปจริงๆอ่ะ"
"จริงๆ กลับไปได้แล้ว"
"ฉันไม่อยากให้ไปเลยหว่ะมิ ปฏิเสธไปเถอะ ฉันกลัวแกจะเสียใจ"
"ฉันตัดสินใจแล้ว ไม่ต้องห่วง"
"ไอคนรั้น"
หลังจากนั้นเราสองคนก็แยกย้าย ยัยขนมปังกลับบ้าน ส่วนฉันกลับหอไปรอพี่พัฒน์ แล้วถ้าเกิดเป็นอย่างที่ขนมปังบอกฉันจะต้องทำตัวยังไง
#หอพัก (เวลา20.15น.)
(เสียงโทรศัพท์มิรา)
ถึงแล้วหรอ ไม่ใช่โทรมาบอกว่าพี่ไม่มารับแล้วหรอกนะ
"ฮัลโหลค่ะพี่พัฒน์"
(พี่อยู่ข้างล่าง)
"เดี๋ยวมิจะลงไปเดี๋ยวนี้แหล่ะค่ะ"
พอเจอหน้าพี่พัฒน์ฉันจะต้องทำหน้ายังไงดี บอกชอบก็บอกไปแล้ว แต่ที่กังวลมากกว่าคือเรื่องที่พี่พัฒน์ชวนฉันไปคอนโด
#ด้านล่างหอพัก
เมื่อประตูลิฟท์เปิด ฉันรีบเดินตรงไปหาพี่พัฒน์ที่กำลังยืนรออยู่ที่ด้านหน้าหอ
"พี่พัฒน์คะ สวัสดีค่ะ" ฉันยกมือไหว้พี่พัฒน์ก่อนจะฉีกยิ้มให้กับคนหน้านิ่งที่ยืนอยู่หน้า
พอได้เห็นหน้าพลันความคิดที่กังวลก็หายไป เหลือแต่เพียงความคิดถึงที่ฉันเฝ้ารอจะได้เจอ ได้คุยกับพี่พัฒน์
"เอากระเป๋ามา" ฉันยื่นกระเป๋าใบเล็กให้กับพี่พัฒน์ มีของแค่ไม่กี่อย่าง เสื้อผ้าใส่นอนกับใส่กลับบ้านพรุ่งนี้และก็ของใช้ส่วนตัวเล็กๆน้อยๆ
"พี่พัฒน์จอดรถไว้ที่ไหนคะ"
"อ่าวมิรา จะไปไหน" เสียงผู้ชายเอ่ยทักฉันจากด้านหลัง พอหันไปกลับเป็นคนที่ชื่อว่าน คนที่ยัยปังมันชอบ
"เอ่อ...คือเราจะกลับบ้าน"
"แล้วนั่นแฟนหรอ" ว่านมองไปทางด้านหลังฉันแล้วเอ่ยถาม
"อืม" ฉันตอบในลำคอเบาๆเพราะไม่อยากให้พี่พัฒน์ได้ยินว่าฉันเคยเอาชื่อพี่พัฒน์มาแอบอ้างว่าเป็นแฟนทิพย์ของฉัน
"เราไปละ" ฉันรีบเอ่ยลาแล้วหันหลังกลับเดินตามพี่พัฒน์ไป
"จอดรถไว้ที่ไหนคะ"
"ที่เดิม" พี่พัฒน์เดินถือกระเป๋าฉันแล้วน้ำหน้าไปยังที่จอดรถที่พี่พัฒน์จอดไว้ แต่น้ำเสียงพี่พัฒน์ทำไมฟังดูแล้วมันแข็งๆเหมือนคนไม่ค่อยอยากตอบ
#ภายในรถ
"คาดเข็มขัดด้วย อย่าเอาแต่จ้องหน้าพี่ เพราะยังไงคืนนี่มิก็ได้จ้องพี่ทั้งคืน" พี่พัฒน์บอกกับฉันด้วยน้ำเสียงเรียบ ก่อนจะหันหน้าแล้วสตาร์ทรถขับออกไป
ตั้งแต่ออกมาจากซอยหอ ฉันไม่กล้าถามคำถามอะไรกับพี่พัฒน์อีก พี่พัฒน์ก็ไม่คุยกับฉัน เอาแต่มองไปยังทางข้างหน้าด้วยความมุ่งมั่น
ฉันชักจะเริ่มรู้สึกกลัวพี่พัฒน์ในเวอร์ชั่นที่เป็นอยู่ตอนนี้ แล้วสิ แค่ตัวตนที่ฉันรู้จักก่อนหน้าก็ว่าน่ากลัวอยู่แล้ว พอมาเจอเอาตอนนี้มันน่ากลัวขึ้นเป็นสองเท่า และยิ่งประโยคที่พี่พัฒน์พูดตอนอยู่ตรงลานจอดรถฝั่งตรงข้ามหอ มันยิ่งทำให้ฉันนึกถึงประโยคที่ยัยปังพูดเอาไว้แทบจะทุกประโยค แถมน้ำเสียงที่พี่พัฒน์พูดกับฉันมันฟังดูแล้วแข็งกร้าวและเย็นชาเอามากๆ
#คอนโดพัฒน์
ลานจอดรถ
เมื่อถึงคอนโด พี่พัฒน์ก็นั่งอยู่ในรถเงียบๆส่วนฉันก็ไม่พูดอะไร รอแค่ว่าเมื่อไหร่พี่พัฒน์จะบอกให้ฉันลงจากรถ แต่เพียงไม่กี่นาที พี่พัฒน์ก็หันมาพูดกับฉันด้วยน้ำเสียงที่เรียบนิ่ง ถ้าเป็นแต่ก่อนฉันคงไม่แปลกใจเท่าไหร่ แต่มาวันนี้ทุกอย่างมันเปลี่ยนไป
"ทำไมถึงดื้อ" จู่ๆก็โพ่งขึ้นมา แล้วนี่ฉันไปดื้อกับเขาตอนไหน
"อะ...อะไรคะ มิดื้ออะไร"
"ทำไมถึงยังอยากมา" พี่พัฒน์พูดกับฉันแต่ไม่ยอมมองหน้า และมีน้ำเสียงที่เริ่มจะหงุดหงิดขึ้น
"ก็พี่พัฒน์ชวนมิเองไม่ใช่หรอคะ พี่เป็นคนบอกให้มิมารู้จักตัวตนของพี่และมิก็อยากรู้มิถึงได้มา"
"พี่ให้โอกาสเราอีกที จะขึ้นห้องพี่จริงๆใช่ไหม"
"ค่ะ มิแน่ใจ"
พี่พัฒน์ค่อยๆเลื่อนใบหน้าเข้ามาใกล้ๆฉันก่อนจะพูด "เมื่อขึ้นไปแล้ว มิจะถอดจะใจไม่ได้นะ"
"มาถึงขนาดนี้แล้ว จะให้มิกลับหรอคะ"
"แล้วรู้หรือเปล่าว่าชายหญิงอยู่ด้วยกันสองคนในห้องมันจะเกิดอะไรขึ้น" พี่พัฒน์มีท่าทีที่จริงจังกับประโยคที่พูดแต่มันเป็นประโยคเดียวกันกับที่ยัยปังพูดกับฉันเมื่อช่วงเย็นวันนี้เอง
"พี่พัฒน์...จะ...จะทำอะไรคะ" ฉันถามออกไปอย่างคนกล้าๆกลัวๆ ฉันเข้าใจในสิ่งที่พี่พัฒน์สื่อ จริงๆเข้าใจตั้งแต่ยัยปังมันพูดแล้วหล่ะ แต่เป็นเพราะฉันเอง ฉันที่อยากรู้อยากเห็นอะไรในหลายๆอย่างด้วยตัวเอง ก็เลยต้องมาพิสูจน์ให้เห็นกับตา
พี่พัฒน์ค่อยๆเคลื่อนตัวกลับไปนั่งพิงเบาะแล้วหลับตาพร้อมกับถอนหายใจออกมาอย่างหนัก
"แน่ใจว่าไม่รู้จริงๆ" พี่พัฒน์ถามด้วยน้ำเสียงที่เรียบนิ่ง
"นะ นะ แน่ค่ะ"
"มิก้าวขาเข้าถึงห้องพี่เมื่อไหร่ เราสองคนจะไม่มีสถานะของคำว่าพี่น้องอีกต่อไป"
"อะไรนะคะ"