Chapter 11 : นี่คือสิ่งที่พี่ต้องการไม่ใช่หรอคะ
"พี่พัฒน์" ฉันครางชื่อผู้ชายที่นั่งอยู่ข้างๆอย่างอ่อนแรง
"พี่จะถามมิอีกครั้ง มิแน่ใจใช่ไหมว่าจะขึ้นไปบนห้องพี่" พี่พัฒน์เน้นย้ำที่ละคำอย่างช้าๆ พร้อมกับจ้องเข้ามาในดวงตาฉันทั้งสองข้าง เหมือนกำลังจะสื่อว่าสิ่งที่พัฒน์พูดไม่ใช่เรื่องเล่นๆ
"พี่พัฒน์ถามย้ำกับมิมาสามครั้งแล้วนะคะ"
"พี่ต้องแน่ใจ และมิก็ต้องแน่ใจตัวเองด้วยเช่นกัน เพราะถ้าเกิดอะไรขึ้นมา พี่จะได้ไม่ต้องมานั่งรู้สึกผิด" ใบหน้าคมที่ฉันเฝ้ารอที่จะเจอมาตลอดหลายวันทำไมมันถึงได้ดูเย็นชาแบบนี้นะ
"ถ้าไม่คิดจะเปลี่ยนใจและรับกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นได้ก็ลงจากรถ ส่วนกระเป๋า เดี๋ยวพี่ถือให้" พี่พัฒน์เปิดประตูลงจากรถ เพื่อลงไปเปิดประตูที่อยู่ฝั่งคนขับแล้วหยิบกระเป๋าใส่เสื้อผ้าใบเล็กของฉันจากเบาะหลัง
ฉันจึงค่อยๆเปิดประตูก้าวลงจากรถ และมองการกระทำของพี่พัฒน์ต่อจากนี้
"มายืนๆข้างๆพี่สิ" ฉันเดินไปยืนข้างๆตามคำบอก
พี่พัฒน์ยื่นมือหนามาจับมือฉันพร้อมกับพาฉันเดินเข้าไปในตัวคอนโด
"เราจะจับมือกันทำไมคะ"
"หรือมิไม่อยาก" ก็ถ้ามันมีโอกาสฉันก็ควรจะคว้ามันสิ ถึงจะเป็นสิ่งที่พี่พัฒน์อาจจะไม่ได้เต็มใจนัก และก็ไม่รู้ว่าทำแบบนี้ไปเพราะอะไร
พี่พัฒน์ปล่อยมือฉันเมื่อเราสองคนยืนหยุดอยู่หน้าห้อง
"ถึงห้องพี่พัฒน์แล้วใช่ไหมคะ" พอฉันถามใบหน้าคมตวัดหางตามองฉัน แต่ก็ไม่ปริปากพูดอะไร ไอเราก็ไม่น่าถามไหม มายืนหยุดอยู่ตรงหน้าห้องแล้ว ก็ต้องเป็นห้องของพี่เขาสิ
พี่พัฒน์หยิบคีย์การ์ดขึ้นมาเพื่อเปิดห้องก่อนจะพูด "เข้าไปสิ" ฉันที่กำลังจะก้าวขาเข้าห้องก็ต้องหยุดชะงักแล้วถอยเท้าที่ก้าวกลับมาวางไว้จุดเดิม "เปลี่ยนใจ?" เสียงเข้มเอ่ยพูดด้วยน้ำเสียงเรียบ ฉันแหงนหน้ามองคนตัวโตที่ยืนอยู่ด้านข้างด้วยความหวาดหวั่น ที่ยังไม่ก้าวเข้าห้องเพราะมีคำถามอยู่หนึ่งประโยคอยากจะถามกับพี่พัฒน์ก่อน
"ที่บอกว่า ถ้ามิก้าวเข้าห้องพี่พัฒน์แล้ว สถานะเราสองคนจะไม่ใช่พี่น้องอีกต่อไป แล้วเราสองคนจะอยู่กันในสถานะไหนคะ"
พี่พัฒน์มองหน้าฉันด้วยใบหน้าที่เฉยชาก่อนจะตอบคำถาม "ถ้าอยากรู้ก็เข้าห้อง"
"บอกตรงนี้เลยไม่ได้หรอคะ"
"จะเข้าหรือไม่เข้า" พี่พัฒน์พูดเสียงกดต่ำพร้อมกับย้ำคำที่ละคำ และเริ่มแสดงอาการสีหน้าไม่พอใจออกมาอย่างเห็นได้ชัด
ฉันยังคงยืนลังเลว่าควรจะตอบยังไงดี ถึงจะก้าวเข้าไปก็คงไม่ใช่สถานะแฟนหรือคนคุยแน่
"มิ จะเข้าหรือไม่เข้า" พี่พัฒน์เหมือนจะพยายามพูดให้ตัวเองเย็นลง แต่ยังคงฉายสีหน้าแววตาที่ไม่พอใจอยู่
เอาวะ มาถึงขนาดนี้แล้ว อะไรจะเกิดก็เกิด แต่ก็ต้องยอมรับกับสิ่งที่จะเกิดในอนาคตด้วยนะมิรา ฉันนึกปลอบใจตัวเองอยู่หน้าห้อง และเมื่อตัดสินใจได้แล้ว ฉันก็ตอบพี่พัฒน์ออกไป
"เข้าค่ะ" และก้าวขาเข้าห้องไปอย่างไม่ลังเล
พรึ่บ~
ปัง~
"อ๊ะ~ พี่พัฒน์จะทำอะไร" เมื่อก้าวขาเข้าห้องฉันถูกร่างหนาผลักติดกับผนังก่อนจับข้อมือฉันทั้งสองข้างล็อกไว้เหนือหัว
"นี่คือตัวตนของพี่" เขาตอบเสียงเรียบและใบหน้าที่เฉยชาและพูดกับฉันต่อ
"ทำหน้าแบบนี้กลัวพี่หล่ะสิ" เสียงทุ้มของคนตรงหน้าทำเอาฉันหายใจติดขัด ใช่ฉันกลัว
"..." ฉันไม่พูดอะไร ได้แต่ก้มหน้ามุดลงเพราะไม่กล้าสบตาคนตรงหน้า
"เงยหน้าขึ้นมองพี่" สิ้นเสียงทุ้มนิ่งเอ่ย ฉันจึงยอมเงยหน้ามองขึ้นมองคนที่ชอบทำเสียงดุตลอดเวลา
พี่พัฒน์ก้มหน้าลงจูบฉันอย่างดูดดื่ม จนฉันต้องตกใจเบิกตากว้าง แต่มือหนายังคงล็อคข้อมือเอาไว้แน่นจนฉันดิ้นแทบไม่หลุด สมองมันตื้อ อื้ออึง ประมวลผลได้ช้าลง จนร่างกายมันอ่อนยวบไปกับจูบของผู้ชายที่อยู่ตรงหน้า
"ยอมรับตัวตนพี่ได้หรือเปล่า" เสียงแหบพร่าเอ่ยออกมาหลังจากที่ผละริมฝีปากออก
"พี่บอกมิก่อนสิคะ ว่าสถานะเราสองคนคืออะไร"
"ไม่มี มันจะเป็นแค่ความสัมพันธ์ทางกาย"
"พี่พัฒน์" ฉันขึ้นเสียงใส่คนที่อยู่ตรงหน้าอย่างนึกอดที่จะโมโหไม่ได้
"พี่พูดไปแล้วนะว่าชายหญิงอยู่ด้วยกันสองคนในห้องมันจะเกิดอะไรขึ้น แต่มิก็ยังเลือกแบบนี้"
"ค่ะ มิรู้มาตั้งแต่แรก แต่มิก็ยังดื้อที่จะมา ทั้งที่พี่ก็ย้ำนักย้ำหนา" ฉันพูดเสียงกระแทกใส่คนตรงหน้า ทำให้พี่พัฒน์ค่อยๆปล่อยมือฉันลงอย่างช้าๆ
"ตามพี่มา" พูดจบฝ่าเท้าของคนร่างหนาเดินตรงไปยังทางของห้องนอนตัวเองด้วยสีหน้าที่เรียบนิ่ง
"พี่พัฒน์จะไปไหนคะ" ที่ฉันถามเพราะเห็นพี่พัฒน์กำลังเดินตรงเข้าไปยังห้องนอนที่เปิดประตูทิ้งไว้
"แน่ใจนะว่าไม่รู้" พี่พัฒน์หยุดฝีเท้าลงแล้วหันหน้ามาพูดกับฉันด้วยน้ำเสียงเข้ม
ฉันเม้มปากแน่นและยอมที่จะเดินตามพี่พัฒน์เข้าไปยังภายในห้องนอน
"นั่งสิ" พี่พัฒน์เลือกที่จะนั่งลงตรงปลายเตียง
"มะ ไม่เป็นไรค่ะ"
พรึ่บ~ พี่พัฒน์กระชากแขกฉันให้นั่งลงบนตักแกร่งพร้อมกับโอบเอวไว้เผื่อกันว่าฉันจะตกลงไป เพราะฉันโดนกระชากแบบไม่ทันตั้งตัว
"ยังจะชอบพี่อยู่ไหม"
"ถ้าเลิกชอบง่ายมันก็คงดีนะคะ"
"แต่พี่ไม่ใช่ผู้ชายอย่างที่มิอยากจะให้เป็น" พี่พัฒน์ถามเสียงเข้มแล้วจ้องมาที่ใบหน้าฉัน
"ทำกับมิแบบนี้ทำไมคะ"
"เราไม่ใช่พี่น้องกันแท้ๆ"
"แล้วพี่จะไม่เกรงใจลูกสาวเพื่อนสนิทของพ่อพี่เลยหรอคะ"
"พี่ถามย้ำแล้วนะ ตอนที่อยู่ลานจอดรถ เพราะถ้าเกิดอะไรขึ้นมา พี่จะได้ไม่รู้สึกผิด แต่ทุกอย่างมิเป็นคนเลือกเอง"
"เพราะมิชอบพี่ไงคะ มิถึงเลือก มิรู้ค่ะ มิรู้ทุกอย่าง แต่ก็หวังเล็กๆว่ามันจะไม่เกิดขึ้น"
"มันเกิดขึ้นแน่" ฉันต้องชะงักหลังจากที่ได้ยินคำตอบที่ออกมาจากปากของคนที่ฉันชอบ
"..."
"ผิดหวัง" พี่พัฒน์ถามเสียงเรียบ ฉันจึงเม้มปากไว้แน่นก่อนจะตอบกลับ
"ค่ะ"
"คิดว่าพี่เป็นสุภาพบุรุษ ดูอบอุ่น?"
"ค่ะ"
"หน้าตาแบบพี่ มิยังมองแบบนั้นได้อีกหรอ?"
"ค่ะ"
"แต่พี่จะเป็นเฉพาะกับคนที่พี่เรียกเธอว่าแฟนได้อย่างเต็มปาก" คำพูดของพี่พัฒน์เหมือนคนเอามีดมากรีดเข้าที่หัวใจฉันให้มันแตกสลาย
และนั่นเท่ากับว่าในสายตาของพี่พัฒน์ฉันไม่ใช่คนสำคัญ ก็แหงหล่ะ เด็กอย่างฉันพี่พัฒน์จะมาสนใจทำไม เราไม่ได้สนิทอะไรกันเลยด้วยซ้ำ จะว่าเป็นแค่คนรู้จักใช้คำนี้มันน่าจะถูกมากกว่า
"ปล่อยมิค่ะ" เมื่อคิดได้แบบนั้น ฉันจึงพยายามดิ้นเพื่อให้ร่างหนาปล่อยฉันให้ลุกจากตักแกร่ง
"ปล่อยหรอ มิลืมไปหรือเปล่า" พี่พัฒน์มองหน้าฉันพร้อมกับเลิกคิ้วถาม
"ไม่ลืมค่ะ ก็ในเมื่อตอนนี้มิไม่ใช่น้องสาวพี่แล้ว มิก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องสนใจอะไรอีก"
"จะเลิกชอบพี่ง่ายๆแบบนี้"
"พี่พัฒน์จะเอาไรอีกหล่ะคะ"
"..." พี่พัฒน์มองหน้าฉันก่อนจะค่อยๆปล่อยมือลง
เมื่อปล่อยตัวฉันให้เป็นอิสระ ฉันจึงรีบลุกขึ้นออกจากตักแกร่ง แล้วยืนขึ้นตรงหน้าผู้ชายที่ได้ขึ้นชื่อว่าคนที่ฉันชอบ และรักมาตลอด
ถ้ามันจะเลยเถิดมาขนาดนี้แล้วหล่ะก็ มันก็ต้องไปให้สุดสิ
ฉันผลักร่างหนาลงไปบนเตียงแล้วรีบขึ้นคร่อมทับ "มิจะทำอะไร"
"นี่คือสิ่งที่พี่ต้องการไม่ใช่หรอคะ"