บท
ตั้งค่า

บทที่ 5 ป๋าเปย์

"แบบนี้ก็แสบน่าดูสิครับแม่" นายหนุ่มว่าพรางเหลือบมองขึ้นไปบนห้องที่ตอนนี้ได้ยินเสียงเจ้าขาหัวเราะร่วนไม่หยุด

"ไม่หรอก แกก็เป็นไปตามวัยนั่นแหละแล้วอีกอย่างอยู่นั่นก็ไม่ค่อยมีเด็กผู้หญิงให้เล่นด้วยเด็ก ๆ มาซ้อมมวยก็มีแต่ผู้ชายซะส่วนใหญ่ เลยออกจะห้าว ๆ ไปนิดนึง แต่บทจะหวานน้องก็หวานมากนะ น่ารักแบบนี้แม่ชอบ" คุณหญิงรวิดาพูดกับลูกชายพรางตักข้าวเข้าปากแล้วชำเลืองมองสามีอย่างมีเลศนัย ขณะที่ได้ยินเสียงของเล็กกับน้อยเดินคุยกันลงมาด้านล่าง

"เล็ก น้อย มากินข้าวด้วยกันสิลูก" คุณหญิงรวิดาเอ่ยเรียกกันเอง

"พวกผมไปกินในครัวกับป้าแม่บ้านสะดวกกว่าครับ มีข้าวเหนียวด้วยเมื่อเช้าผมลุกขึ้นมาหุงไว้แล้วครับ" เล็กหันมาตอบยิ้ม ๆ

"แล้วเจ้าล่ะ" โรมเอ่ยถามคนที่ยังไม่ลงมา

"กำลังอาบน้ำครับ เพิ่งคุยกับพ่อใหญ่เสร็จครับ" น้อยหันมาตอบชายหนุ่มยิ้ม ๆ ซึ่งพ่อใหญ่ที่เขาเรียกก็คือท่านอัฐลุงของชายหนุ่มนั่นเอง แต่เด็ก ๆ ที่ท่านดูแลสอนมวยให้จะเรียกท่านว่าพ่อใหญ่กันหมดยกเว้น เจ้าขาที่ท่านให้เรียกว่าพ่อหรือพ่ออัฐมาตั้งแต่เด็ก ๆ

"คุณอาขา วันนี้เจ้ากับระรานจะไปหาเพื่อนกันนะคะ คงจะกลับเย็น ๆ หรือดึก ๆ เลยค่ะ" เด็กสาวสะพายกระเป๋าใบเล็กเดินลงมาจากชั้นบนพร้อมกับบอกคุณอาน้องของพ่อบุญธรรมของเธอแล้วเดินไปนั่งข้างโรมเหมือนเป็นเรื่องปกติ (ตอนมาครั้งแรกคุณอาบอกให้นั่งตรงนี้เธอก็เลยนั่งแต่ตรงนี้ เพราะไม่รู้ว่าที่อื่นเป็นที่ประจำหรือเปล่าน่ะ ^_^)

"แล้วเมื่อคืน อาบอกให้พี่โรมเอาเงินไปให้หนู พี่เขาเอาไปให้หรือยังลูก" คุณหญิงรวิดาถามหญิงสาวยิ้ม ๆ

"เอาให้แล้วค่ะ แต่เจ้ายังมองไม่เห็นประโยชน์ในตอนนี้เท่าไหร่ค่ะ ไอ้บัตรดำขอบทองนี่คงจะไม่สะดวกจ่ายข้าวแกง 50 บาทมั้งคะ" คนตัวเล็กว่าพรางดึงบัตรเครดิตที่โรมเอาไปให้เมื่อคืนขึ้นมาวางที่โต๊ะ คุณอาทั้ง 2 มองบัตรแล้วชำเลืองหน้าลูกชายอึ้ง ๆ เพราะคิดว่าลูกชายจะให้เงินสดกับเด็กสาวไปซื้อชุดนักศึกษาแค่หลักพันหรือหมื่นกลายเป็นว่าคุณลูกชายให้แบล็คการ์ดซะงั้นทั้งที่เพิ่งเคยเจอกันไม่กี่ชั่วโมง

"พี่เขาให้ก็เก็บไว้สิลูกเผื่อมีอะไรที่ไม่สะดวกต้องจ่ายเงินสด อย่างพวกซื้อของในห้าง กระเป๋า รองเท้า หรืออุปกรณ์การเรียนที่ต้องใช้" คุณศาสตราว่ายิ้ม ๆ

"เจ้าเตรียมมาหมดแล้วค่ะ กระโปรงแม่ก็ตัดให้มาตั้งหลายตัว รองเท้าก็ซื้อแล้วทั้งผ้าใบ คัทชู แล็บท็อป ไอแพด ก็ครบแล้ว แล้วแม่ก็ซื้อตัวพ็อกเก็ตเป็นเน็ตรายปีให้เลยค่ะ จ่ายทีเดียวจบ" หญิงสาวว่าพรางยกมือไหว้แม่บ้านที่ตักข้าวให้

"แล้วจะเอารถอะไรไป" โรมเอ่ยถามเมื่อนึกได้ว่าเมื่อวานหญิงสาวมารถมอเตอร์ไซค์คันใหญ่ในขณะที่ผู้ติดตามขับ 4 ประตูยกสูงเข้ามา

"เอ๊า?? ก็ปิคอัพไง เอารถใหญ่มาด้วย ไม่ได้โง่นะจะได้ขับมอไซค์ตากแดดน่ะ" หญิงสาวเลิกคิ้วตอบพรางตักข้าวเข้าปาก

"เอารถพี่ไปมั้ยล่ะ พอดีวันนี้พี่ไม่อยู่บ้าน" คนใจดีว่าพรางล้วงกระเป๋าหยิบกุญแจรถครอบครัวคันใหม่ป้ายแดงของตัวเองยื่นให้

"โห... ป๋ามากพ่อ เจอกันแป๊บเดียว ให้แบล็คการ์ด แถมตอนนี้ให้ป้ายแดงขับเล่น นี่แจกสาว ๆ จนลืมหรือเปล่าคุณ ว่าเจ้าไม่ใช่วัตถุนิยมขนาดนั้น แต่ก็ขอบใจนะ ประหยัดน้ำมันไอ้เบิ้มเยอะเลย แหะ" คนตัวเล็กว่าตาโตตามนิสัยโผงผางปนทะเล้นเอื้อมไปหยิบกุญแจรถคันสวยมาแล้วยกมือไหว้พร้อมกับส่งยิ้มตาหยีให้อย่างน่าตี

"ขับดี ๆ ละกัน" เจ้าของรถว่าขึ้นนิ่ง ๆ

"ประกันชั้น 1 กลัวอะไร ในกรุงเทพมันเหยียบได้ไม่ถึง 120 หรอก เคยลองแล้ว และถ้ายางมากับรถถึงถนนจะแฉะก็ไม่มีสะบัด" คนตัวเล็กว่าพรางเก็บกุญแจรถใส่กระเป๋า

"รู้ดี" "ที่บ้านมีค่ะ เห็นว่าบ้านนอกแต่แม่ข่อยก็ขับยี่ห้อนี้นะจ๊ะ" คนตัวเล็กยื่นหน้ามาตอบเหมือนสนิทมาหลายปี

"จะบอกว่าบ้านรวยว่างั้น" ชายหนุ่มยังพยายามต่อปากต่อคำไม่เลิก

"ป๊าว... จะบอกว่าพ่อมีตังค์ ว่าแต่คันนี้มันน้ำมันเต็มถังปะ"

"อืม..." ชายหนุ่มพยักหน้า ทีแรกเขาตั้งใจว่าจะเอารถคันนี้ไปทำธุระกับเพื่อนเลยเติมน้ำมันไว้เต็มถัง

"โอเค ดี" คนตัวเล็กว่าพรางก้มหน้าก้มตาตักข้าวต้มเข้าปากเร็ว ๆ เมื่อยินเสียงแจ้งเตือนข้อความของตัวเองเข้ารัว ๆ ก่อนจะดื่มน้ำแล้วลุกขึ้นยืนเต็มความสูง

"หนูไปนะคะ อาใหญ่ อาหญิง ไปล่ะนะป๋า... ฮ่า ๆๆ" คนตัวเล็กยกมือไหว้น้องเขยและน้องสาวพ่อบุญธรรมแล้วหันมาบอกลาเจ้าของรถแบบทะเล้นพร้อมทั้งวิ่งออกจากบ้านที่ตอนนี้เล็กและน้อยยืนรออยู่โรงจอดรถของบ้าน แล้วชี้ไปที่รถคันใหญ่ป้ายแดงของโรม

ในบ้าน....

"ไง น่ารักมากใช่มั้ยแม่บอกแล้ว" คุณหญิงรวิดาว่ากับลูกชายยิ้ม ๆ

"ก็ น่าจะพอ ๆ กับ 2 ตัวของไอ้มาร์คกับไอ้ศิแหละครับ ก็ตามวัย" ชายหนุ่มว่าพรางมองตามออกไปนอกกระจก ที่ตอนนี้เจ้าขากระโดดขึ้นรถตำแหน่งคนขับ "น้องขับรถยนต์ได้หรือแม่"

"น้อยไปสิ ได้ยันรถไถ รถเกี่ยวข้าวจ่ะ แค่นั้นน่ะจิ๊บ ๆ" คุณแม่ตอบลูกชายขำ ๆ

"แล้วคิดไงให้แบล็คการ์ดน้องไปใช้เกิดน้องมันรูดกระจายทำไง" คุณศาสตราถามอย่างลองใจ

"ชุดนักเรียนคงไม่ถึงล้านมั้งครับ" คนไม่เคยมีน้องของตัวเองว่าขึ้นแบบสบาย ๆ เพราะเท่าที่เขาเคยเห็นมาร์คให้ของต่าง ๆ กับน้ำหวานก็มีแต่ของดี ๆ ทั้งนั้น และน้ำหวานกับของขวัญน้องเพื่อนก็ไม่มีใครที่ใช้จ่ายฟุ่มเฟือยอะไร และจากที่เขาเห็นครีมที่เจ้าขาใช้แบบออลอินวันเมื่อคืนเขายิ่งมั่นใจว่าบัตรของเขาจะไม่โดนรูดจนร้องขอชีวิตแน่นอน

"เหรอ... แล้วไหนบอกว่าจะเอารถคันใหม่ไปลองเครื่องล่ะจ๊ะ ไหงเอาให้น้องไปขับเล่นแล้วล่ะ" คุณหญิงรวิดาว่ากับลูกชายพรางเบะปากอย่างหมั่นไส้

"แม่ครับ เด็กรุ่นนี้ต้องเซฟตี้มั้ยครับ ดูอย่างน้องขวัญครั้งก่อนเกยฟุตบาทเกือบจะตีลังกา ไอ้เทนแม่งแทบจะเลิกคบกับผมแถมต้องปิดเรื่องเงียบไม่ให้ไอ้มาร์ครู้อีก แล้วดูหลานสาวแม่ครับ มาบิ๊กไบค์เลยนะ แล้วดู 4 ประตูเอามาดิ แตะพลาดนิดเดียวกลายเป็นไอ้ตีนโตเอาได้ง่าย ๆ เลยด้วย" คนคิดไกลให้เหตุผลจริงจัง ซึ่งความห่วงนี้โรมจะเป็นมาตั้งแต่ที่เริ่มรู้จักน้ำหวานใหม่ ๆ ถึงน้ำหวานจะไม่ใช่น้องสาวของเขาจริง ๆ แต่ก็ดูแลกันมาตั้งแต่ก่อน ม.1 เขารักและเอ็นดูเด็กสาวมาก โอ๋มาก แล้วยังน้องสาวของศิลาเพื่อนอีกคนที่ตอนนี้ไปอยู่ต่างประเทศไม่ยอมกลับไทย นั่นเขาก็โอ๋ไม่ต่างกัน ชนิดที่เทนกับมาร์คดุน้องทีไรเป็นได้โกรธกันทุกรอบ และพ่อกับแม่ของเขาก็จะรู้ทุกครั้ง เพราะเทนจะพูดคุยกับแม่เพื่อนเป็นประจำ และท่านก็พอใจที่เห็นโรมดูห่วงใยลูกบุญธรรมของพี่ชายอยู่มาก

"แม่เริ่มเห็นเคล้าลางแล้วล่ะว่าทำไม เทนถึงชอบบ่นว่าเราตามใจน้อง ๆ มาก แถมน้อง ๆ ยังแอบเอาแต่ใจ จะมาตามใจเจ้าขามากจนน้องเคยตัวไม่ได้นะลูก เดี๋ยวแม่เขาจะว่าเอาได้ ป้าเตือนเขาค่อนข้างจะอยากให้ลูกพึ่งพาตัวเอง"

"แล้วเห็นบอกว่าจะย้ายออกไปอยู่ข้างนอกหรือครับ" โรมเปลี่ยนเรื่องไปอีกทาง

"ก็ว่าอย่างนั้น ใจแม่ไม่อยากให้ไปหรอกเป็นห่วงแต่ก็อย่างว่าแหละป้าเตือนเขาเกรงใจ" คุณรวิดาว่าพรางถอนหายใจ

"แม่ก็คุยกับลุงอัฐสิครับให้น้องอยู่ที่นี่ก็ได้ ก็ไม่ได้ไกลจากมหาลัยเท่าไหร่ เอารถคันเล็กของผมไปกลับก็ได้ไม่ต้องใช้มอเตอร์ไซค์" ชายหนุ่มว่าพรางเสนอรถสปอร์ตคันงามของตัวเองที่จอดอยู่ในโรงจอดรถอีกคันให้หญิงสาวใช้

"ป๋าจริงเว้ย พ่อไม่สงสัยแล้วทำไมเงินเก็บแกถึงไม่เยอะ ก็เอ็งเล่นแจกแบบนี้นี่เอง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel