บทที่ 4 การแก้ปัญหาที่น่ารัก
"มาร์คมึงไปไหนมา พวกกูยืนรออยู่นานแล้วเนี่ย แล้วบอกว่ารออยู่หน้าร้าน" เทน พูดขึ้นเมื่อเห็นเพื่อนชายเดินมาจากทางด้านข้างของร้าน
"ไปไหว้ศาลมา" ชายหนุ่มตอบยิ้ม ๆ
"ฮะ! นี่มึงสายมูตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย" โรมอุทานขำ ๆ ศาลพระภูมิข้างร้านพี่เขาก็มีแต่พวกพนักงานที่พากันไหว้ขอพรขอหวยไม่คิดว่ามาร์คจะเอากับเขาด้วย
"ไม่ใช่ พอดีเมื่อกี้เห็นน้องตัวเล็ก ๆ มาขายพวงมาลัยเลยซื้อช่วย ก็เลยไหว้" ชายหนุ่มให้เหตุผล เพื่อนก็พยักหน้าเข้าใจ พวกเขารู้นิสัยมาร์คดีว่าชอบช่วยเหลือคนอื่นแบบนี้เสมอ "แล้วไอ้ศิล่ะ" ถามหาเพื่อนชายที่หายไปอีกคน
"ไปรับแมรี่มั้ง เห็นว่าจะย้ายคอนโดแยกจากเพื่อนอยากมาขอเช่าคอนโดไอ้ศิมัน" โรมพูดขึ้นพร้อมกับเหยียดปาก
"วุ๊! ทำเป็นขอเช่า จะขออยู่ฟรีก็ว่ามาเถอะ ไอ้ศิก็ใจดีเกิน" เทนว่าเพื่อนอย่างไม่พอใจ
"เหอะน่า ช่างหัวมันสิวะ คอนโดมันจะให้ใครอยู่เราก็ไม่ได้จ่ายน้ำค่าไฟกับมันนี่ ไป... เข้าร้าน" มาร์คว่าขำ ๆ พรางตบหลังเพื่อนเดินเข้าไปข้างในด้วยกัน
"แล้วมึงโอเคเปล่าเนี่ยมาร์ค เรื่องเมื่อกลางวัน" เทนเอ่ยขึ้นอย่างห่วงความรู้สึกเพื่อน
"สบาย กูชินแล้ว เป็นแบบนี้ตั้งแต่กูจำความได้แล้ว ก็ดีนะ กูจะได้ไม่ต้องนั่นนี่เยอะ" มาร์คว่าพรางจิบน้ำอุ่นผสมมะนาว เขาจะจิบแบบนี้ประจำถ้าต้องขึ้นร้องเพลง
"แล้วพ่อกับน้านารถล่ะ" โรมเลิกคิ้วถามเพื่อน
"ก็กูบอกไปแล้วไง ยังเหมือนเดิมกูไม่กลับไป กูก็โทรหาน้านารถหาพ่อได้ วันหมอนัดกูก็ไปเจอที่โรงพยาบาลได้ แล้วเห็นน้านารถบอกว่าพ่อสั่งให้น้าวิทูรพากลับไปไว้บ้านพักคนชราตามเดิมแล้วหนิ" มาร์คว่าเสียงทุ้มพร้อมกับยกแก้วขึ้นดื่มจนหมด
"ไหนบอกว่า พ่อมึงมีน้องอีก 2 คน ไม่เอาย่ามึงไปเลี้ยงล่ะ?" โรมเลิกคิ้วถาม *จะว่าเสือกก็ได้นะมาร์ค ก็กูสงสัย*
"จะไปอยู่กับใครได้ ที่ไปอยู่บ้านพักคนชรานั่นก็ไปเอง เที่ยวไปป่าวประกาศว่าอามะปรางไล่ออกจากบ้าน เอาจริง ๆ ไปบังคับอาให้เลิกกับผัว จะให้แต่งงานกับฝรั่ง แต่อาปรางเค้าไม่เลิกไง กำลังท้องด้วย เลยโกรธ หอบผ้าไปอยู่บ้านพักนั่น ส่วนอาตรีน่ะไปไล่เมียเค้าหนีหาว่าเป็นแค่ลูกคนสวน ไปถีบเมียเค้าตกบันไดเกือบแท้งลูกคนที่ 3 พ่อตาอาตรีเลยไม่ให้ไปเหยียบที่สวนเค้าอีก สวนก็ของเค้ายังไปจองหองใส่เค้า" มาร์คเล่าให้เพื่อนฟังอย่างไม่ปิดบัง
"โห... ทำไมเป็นแบบนั้นล่ะ" เทนอุทานขึ้น
"เป็นสันดานน่ะ ถ้าไม่ติดว่าเป็นแม่ของพ่อกู กูเลิกเคารพไปแล้ว กูว่าจะเปลี่ยนนามสกุล พ่อกูขอไว้บอกว่าย่าไม่ได้ใช้นามสกุลพ่อตั้งแต่เลิกกันแล้ว แล้วอาทิตย์หน้าพ่อกูบอกจะมาอีก" มาร์คบอกเพื่อนเซ็ง ๆ
"มาทำไมวะ เดี๋ยวย่ามึงก็ตามมาอีกหรอก" โรมว่า
"บอกจะเอาเงินค่าเทอมไอ้เนสมาคืนให้ พ่อบอกว่าพ่อจ่ายให้มันมาแล้ว แล้วย่ามันก็ให้มันมาด้วย แต่มันไม่จ่ายกูกลัวพ่อกูคิดมากไงกูเลยจ่ายแทนมันเทอมที่แล้ว" มาร์คเป็นคนฉลาดและมองการณ์ไกลมาตั้งแต่เด็ก การจ่ายค่าเทอมของเขาหรือจ่ายให้เนส แทนที่เขาจะจ่ายเป็นก้อนเขาก็เลือกที่จะทำเรื่องแบบผ่อนเผื่อไว้ว่าคนที่บ้านจะดูและก็ได้ดูจริง ๆ พอดีกับศิลาเดินเข้ามาพร้อมกับสาวเซ็กซี่ชุดฟิตเปรี๊ยะ ที่เดินนวยนาดแจกยิ้มเชิญชวนมาตลอดเส้นทาง
"ศิลามาแล้วว่ะ แล้วดูแมรี่ ยั่วขนาดนั้นไม่แจกเบอร์ห้องไปเลยวะ" เทนว่าอย่างเหยียด ๆ เมื่อเห็นเพื่อนเดินเข้าประตูมาพร้อมกับหญิงสาวที่เขาไม่ชอบขี้หน้าเท่าไหร่นัก
"ช่างมันน่า รู้นิสัยไอ้ศิมันหนิ มันง้อคนเป็นที่ไหนเดี๋ยววุ่นวายมากมันก็ปล่อย" มาร์คว่าอย่างรู้นิสัยเพื่อน เมื่อเพื่อนรักอีกคนเดินเข้ามาร่วมโต๊ะสักพัก มาร์คจึงขอตัวไปเทสซาวน์เพื่อเตรียมจะขึ้นร้องเพลงในคืนนี้ และดูเหมือนว่าพรของแม่ค้าตัวน้อยคืนนี้จะได้ผลดีมาก เพราะได้ทั้งทิปหน้าเวทีและทิปจากการขอเพลงเกือบ 2 หมื่นบาทและยังไม่รวมทิปพิเศษที่ลงไปนั่งกับลูกค้า VIP หลังร้องเสร็จอีกเป็นหมื่น ทำให้ชายหนุ่มยิ้มไม่หุบเพราะถือว่าเป็นทิปที่ได้มากที่สุดตั้งแต่เคยได้มาและตั้งใจว่าพรุ่งนี้ไม่มีสอบจะนอนให้เต็มอิ่ม แล้วสาย ๆ จะออกไปแวะซื้อขนมไปฝากแม่ค้าพวงมาลัยตัวเล็กซักหน่อยก่อนไปติวกับเพื่อนที่มหาลัยตามที่นัดกัน
~~~~~~~~~~
รุ่งเช้ามาร์คที่ว่าจะนอนตื่นสาย ๆ แต่กลับต้องตื่นแต่เช้า เพราะน้านารถโทรมาปลุกบอกว่าพ่อล้มในห้องน้ำต้องแอดมิทด่วน ชายหนุ่มรีบลุกขึ้นอาบน้ำแต่งตัวลวก ๆ แล้วรีบวิ่งลงจากคอนโดชั้น 5 แบบไม่รอลิฟต์ วิ่งตรงไปยังลานจอดรถมอเตอร์ไซค์ของคอนโด ควบรถคู่ใจออกไปทันที
แต่เมื่อถึงแยกใหญ่ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยนักชายหนุ่มก็ต้องขมวดคิ้วอีกรอบกับเสียงการทะเลาะกันของ 2 เด็กน้อยเจ้าเดิมเมื่อวาน แต่วันนี้แม่ค้าตัวเล็กยืนกำมือแน่นอยู่หน้ากล่องใส่พวงมาลัยมองเด็กชายตรงหน้าด้วยสายตาเอาเรื่อง
"นายอ้วน เราจะฟ้องตาว่านายทำมาลัยเราพัง นายรู้มั้ยเราต้องลุกมาร้อยเองตั้งแต่ตี 4 เลยนะ" คนตัวเล็กเสียงแปร๋น ขณะที่นายอ้วนเด็กชายตัวโตผิวคล้ำพุงพลุ้ยกระโดดแลบลิ้นปลิ้นตาล้อเลียนจนน่าเขกกะโหลก
"แบร่~~ ไปฟ้องเลย ขี่ม้า 8 ศอกไปบอกเลย ตาน้อยขาเดียวไม่มีปัญญาทำอะไรได้หรอก" เด็กอ้วนว่าพรางกระโดดแลบลิ้นพราง ชายหนุ่มตัดสินใจขับมอเตอร์ไซค์ขึ้นฟุตบาทแล้วแอบไว้ด้านหลังเสานั่งคร่อมเบาะฟังเงียบ ๆ
"นายมันคนไม่น่าคบ ทำไมไม่เอาเวลาไปทำมาหากิน มาแกล้งเราทำไม แยกก็ตั้งใหญ่ เราขายแค่แยกเดียวนายได้ขายตั้ง 3 แยก จะมาวุ่นวายกันทำไม" เสียงเล็ก ๆ สั่นเครืออย่างน่าสงสาร
"ก็ช่วยไม่ได้ ใครบอกให้ขายดีกว่าล่ะ ถ้าไม่มีแก เราก็ขายคนเดียว ก็จะขายหมดทุกวัน" เด็กอ้วนว่าขึ้นอย่างน่าเกลียด
"ถ้าคิดว่าตรงนี้ขายดี นายมาขายตรงนี้เราไปขายฝั่งโน้นก็ได้ ทำไมต้องมาเหยียบมาลัยเราทิ้งหมดด้วยล่ะ นี่มันทุนเราทั้งหมดเลยนะ" คนตัวเล็กว่าอย่างน่าสงสารพรางมองพวงมาลัยเปื้อนดินเละ ๆ ในกล่องตาแดง ๆ
"ไม่! แกต้องไม่ขายแยกนี้ แกต้องไปขายแยกอื่น" เด็กอ้วนว่าขึ้นเสียงดัง
"เรามาขายก่อนนะ นายมาขายทีหลังเป็นปีจะมาไล่เราไม่ได้" เสียงเล็ก ๆ แหวขึ้นจริง ๆ ตรงนี้เธอขายอยู่กับตาของเธอมาก่อนตั้งแต่เด็ก เพราะตาเธอมีอาชีพขายพวงมาลัยเลี้ยงเธอตั้งแต่จำความได้ แต่เมื่อปีก่อนตาประสบอุบัติเหตุทำให้ต้องตัดขา 1 ข้าง เธอเลยมาขายคนเดียวช่วงวันหยุดหรือปิดเทอมแบบนี้เพราะไม่อยากให้ตายืนนาน ส่วนอ้วนนั้นแม่มีร้านขายดอกไม้สดที่ตลาดและสงสาร 2 ตาหลาน เลยรับพวงมาลัยไปขายประจำ อ้วนเลยขอแม่มาขายตรงนี้ เพราะเห็นว่าเด็กหญิงขายดีมีเงินไปกินขนมที่โรงเรียนเยอะ แต่แม่เขาก็บอกตลอดว่าให้ช่วยดูแลหลานตาน้อยด้วยซึ่งเขาก็รับปากซะดิบดี แต่ความจริงนอกจากจะไม่ดูแลแล้วเขายังคอยแกล้งเธอสารพัดอีกต่างหาก
"มาขายก่อนแล้วไง เราไม่ให้แกขายแกก็ต้องห้ามขายเว้ย"
"ได้วันนี้เราไม่ขายก็ได้" ว่าพรางยกกล่องมาลัยเปื้อนดินขึ้นแล้วเดินกลับไปหงอย ๆ
"แกจะไปไหน ทางนั้นมันตลาดนะ" อ้วนพูดขึ้นอย่างร้อนใจ เพราะบ้านของเธอไปอีกทางแต่ถ้าทางนั้นมันคือตลาดแล้วตอนนี้แม่ของเขาก็อยู่ที่นั่น
"นายทำมาลัยเราพัง เราจะเอาไปให้ป้าทิพย์จ่ายตังค์ แล้วจะไม่ให้ตาร้อยมาลัยส่งป้าทิพย์อีก เตรียมโดนตีก้นลายได้เลย แบร่~~" หันว่ามาพรางแลบลิ้นเล็ก ๆ ใส่เด็กอ้วนแล้วอุ้มกล่องพวงมาลัยวิ่งหนีขึ้นสะพานลอย โดยมีเด็กชายวิ่งตามพร้อมตะโกนเรียกโวยวาย มาร์คได้แต่มองตามยิ้ม ๆ แล้วส่ายหน้าอย่างขำ ๆ กับการแก้ปัญหาสุดน่ารักของเด็กน้อยและการพูดจาที่เหมือนได้รับการอบรมมาอย่างดีไม่มีคำหยาบหลุดมาให้ได้ยิน แถมเสียงแจ๋ว ๆ ตอนโกรธนั่นยังฟังเหมือนแมวขู่มากกว่าโกรธซะอีก ทำให้เขายิ่งถูกชะตาเด็กน้อยนี่อย่างมาก "เอาไว้พี่ซื้อขนมมาฝากวันหลังละกันนะ แม่ค้าน้อย" ชายหนุ่มพูดขึ้นเบา ๆ แล้วสตาร์ทเครื่องมอเตอร์ไซค์ขับไปที่โรงพยาบาล ตามที่แม่เลี้ยงโทรบอกทันที....