ตอนที่ 5 ของฝาก
"มึงบินวันไหนเนี่ยไอ้กวาง"
ศรัณเอ่ยถามในวันสุดท้ายของการทำงาน ก่อนที่จะหยุดยาวปีใหม่เกือบสิบวัน
"บ่ายวันที่หนึ่ง"
"กูขอน้ำหอมเป็นของฝากนะ"
"ได้ กูกำลังจะกลับไปเยี่ยมยายกับแม่ก่อนพอดี"
"งั้นกูไม่เอาแล้ว"
กวินนาได้แต่หัวเราะในลำคอ เพราะเห็นศรัณจะรู้ทัน เพราะทุกครั้งที่กลับบ้านยายที่นครสวรรค์เธอมักจะมีของฝากพวกปลาเค็ม น้ำพริกปลาร้า แจ่ว รวมถึงขนมขึ้นชื่อของจังหวัดมาฝากทุกครั้ง
"มึงไม่ต้องหอบหิ้วมาเยอะหรอกนะ เอารถมอไซค์ไปอ่ะ" น้ำเสียงจริงจังขึ้นมานิดหนึ่ง กวินนาจึงเพียงพยักหน้าให้
กวินนาหอบโบนัสก้อนโตกลับบ้านที่นครสวรรค์ ในวันที่ผู้คนในกรุงเทพหลั่งไหลเดินทางออกต่างจังหวัด ด้วยจุดมุ่งหมายปลายทางเดียวกันคือ..บ้าน
บ้านยายที่นครสวรรค์ยังเป็นเซฟโซนให้เธออยู่เสมอ ทุกครั้งที่กลับมาก็ยังมีความรักความอบอุ่นรอต้อนรับอยู่ตลอดเวลา
ที่นากว่าร้อยไร่ในเขตอำเภอที่ห่างจากตัวจังหวัดพอสมควร แต่เดี๋ยวนี้ยายไม่ค่อยได้ทำเองแล้วนอกจากให้เช่าพอได้มีรายได้ไว้ใช้จ่าย นอกเหนือจากผักสวนครัวที่แม่ปลูกบางครั้งที่เหลือจากเก็บกิน ก็เก็บขายบ้าง รวมถึงไก่ไข่ที่แม่เลี้ยงไว้อีกสองโรงเรือนใหญ่ๆ จนเก็บขายเป็นรายได้หลักไปเสียแล้ว
"เดียร์ ไปกินข้าวก่อนเถอะลูก ยายทำกับข้าวเสร็จแล้ว" เสียงเรียกของแม่ทำให้เธอละมือจากอาหารไก่ถุงใหญ่ที่กำลังเทใส่รางข้าวให้ไก่กว่าหลายร้อยตัว
กลับมาที่บ้านเธอจะกลายเป็นที่รักของทุกคนทันที เดียร์ ที่แปลว่าที่รัก นั่นคือชื่อดั้งเดิมตั้งแต่เธอลืมตาออกมาดูโลก จนถึงชั้นประถมศึกษาปีที่สอง วันหนึ่งที่เธอกลับมาบ้านจึงได้บอกแม่ว่าจะเปลี่ยนชื่อ เพราะเพื่อนที่โรงเรียนล้อ เด็กชายตัวอ้วนน่าเกลียดชอบแกล้งเพื่อน มันเรียกเธอที่รักทั้งวัน หลังจากวันนั้นเธอจึงบอกทุกคนว่าเธอชื่อกวาง เดียร์ที่แปลว่ากวาง นานวันเข้าเพื่อนหลายๆ คนจึงได้ลืมว่าเธอชื่อเดียร์ไปเสียแล้ว
"จ้ะแม่ เดี๋ยวเสร็จแล้วค่ะ อีกนิดหนึ่ง"
"เอาไว้แบบนั้นแหละ เดี๋ยวน้าช่วยก็มาทำต่อ ยายทำปลาร้าหลนของโปรดหนูไว้ด้วย"
น้าช่วยคือคนแถวบ้าน ที่แม่จ้างมาช่วยทำสวน เก็บไข่ ให้อาหารไก่ รวมถึงทำความสะอาดเล้าไก่ แกเป็นคนแถวนี้อยู่กับหลานสาวอายุสิบขวบไม่มีอาชีพหรือแม้แต่ที่อยู่เป็นหลักแหล่งอาศัยเพิงกระต๊อบอยู่ข้างวัด แม่สงสารจึงให้มาทำงานที่ฟาร์มไก่ ซื้อบ้านน็อกดาวน์ให้อยู่แถวท้ายไร่ แถมยังช่วยส่งหลานสาวแกเรียนหนังสือที่โรงเรียนวัดใกล้บ้านอีกด้วย แต่เด็กน้อยมะลิก็น่ารักช่วยงานแม่เป็นอย่างดี
เงินโบนัสก้อนโตที่ได้มาเธอแบ่งเป็นสามส่วนให้แม่หนึ่งส่วน ยายหนึ่งส่วนและส่วนที่เหลือเป็นของตัวเอง แม้แม่กับยายจะบอกว่าให้เก็บไว้เองก็ตาม
บ้านปูนสองชั้นสไตล์เรียบง่ายเน้นการใช้งาน แต่มันก็ยังสวยงามเพราะเธอเป็นคนออกแบบเองกับมือ เทอร์เรซหน้าบ้านกว้างขวางมีโต๊ะไม้สักชุดใหญ่ตั้งอยู่ริมด้านในสุด ไว้สำหรับรับแขกบ้าง และยังรวมถึงทานอาหารในมื้อเช้าและมื้อเย็น ภาพเบื้องหลังที่ฉาบไปด้วยทิวทัศน์ทุ่งนากว่าร้อยไร่ราวกับภาพวาดผืนใหญ่ และเธอก็ชอบภาพนี้ที่สุด ภาพที่มีแม่กับยายพร้อมหน้านั่งทานข้าวในตอนเช้าแสงแดดอ่อนๆ สีทองสะท้อนบ่อน้ำกว้างข้างบ้านเป็นภาพที่สวยงามไม่น้อย
อิ่มเอมกับบรรยากาศทุ่งนามาห้าวัน วันแรกของปีใหม่ที่เธอจะต้องเดินทางกลับกรุงเทพเพื่อขึ้นเครื่องไปญี่ปุ่น ขากลับยายก็ยังเตรียมของฝากไว้ให้หลายอย่างเลยทีเดียว กระเป๋าเป้สะพายหลังใบใหญ่จึงมีแต่น้ำพริก ปลาเค็ม ปลาร้าเต็มกระเป๋า
กวินนาเดินทางไปญี่ปุ่นสามวัน และส่วนมากก็เพียงใช้ชีวิตอยู่ในโรงแรมเหมือนที่บอกศรัณนั่นแหละ เดินเล่นแถวหมู่บ้านใกล้โรงแรมบ้างเท่านั้น แค่นี้ก็เพียงพอสำหรับการชาร์จแบตให้ชีวิตเริ่มต้นศักราชใหม่ด้วยความสดชื่น
ของฝากสองสัญชาติที่ถือมาเต็มมือ ก่อนจะเข้าสำนักงานเธอยังแบ่งไว้ที่ประชาสัมพันธ์บริษัทเพื่อให้น้องนิ่มนำไปแบ่งกับน้องๆ แผนกอื่นด้วย
"น้ำหอมกูได้ไหมวะ" ศรัณเอ่ยทวงของขวัญทันที
"เออ น้ำปลาร้าหอมๆ เป็นของมึง" ศรัณจึงได้แต่ขมวดคิ้วมอง
ยังไม่ทันได้นั่งเก้าอี้ให้เรียบร้อย เพราะมัวแต่เอาของฝากไปวางไว้บนโต๊ะเพื่อนอีกสองคน พอดีกับที่จอมพลเดินเข้ามาพร้อมด้วยถุงของฝากเช่นเดียวกัน