EPISODE - 03 / 1
ครืน~ ฮึ่ม!
"อื้อ" ฉันสะลึมสลือรู้สึกตัวเพราะหูได้ยินเสียงฝน
"พี่พิมพ์" รู้สึกหายใจไม่ทั่วท้องเลยร้องหาพี่เลี้ยงออกไป
ฉันมักจะเป็นแบบนี้ทุกครั้งในคืนฝนตก ความหลังในอดีตมันทำให้ฉันอึดอัดและทรมานทุกครั้งยามเมื่อฝนพรำ
กุกกัก แกร๊ก!
หูได้ยินเสียงดังกุกกักอยู่หน้าประตูห้องนอน คงเป็นพี่พิมพ์ เพราะก่อนที่ฉันจะคล้อยหลับพี่พิมพ์บอกจะตามขึ้นมาหลังจากจัดการข้าวของด้านล่างเสร็จ
แม้จะผ่านมาแล้วสามวันหลังจากที่ถูกเนรเทศให้มาอยู่บ้านเล็กหลังนี้ ฉันกับพี่พิมพ์สองคนก็ยังจัดข้าวของและความเรียบร้อยบ้านช่องไม่เสร็จดี อาจจะเพราะมันรกมากและมีหลายอย่างต้องซ่อมแซม "พี่พิมพ์คะ วากลัว"
เสียงดังหน้าห้องเงียบไป ฉันเลยเรียกพี่พิมพ์อีกครั้ง
"..." บุคคลในชื่อไม่ขานรับ
สายตาที่กำลังปรับให้เข้ากับความมืดได้ของฉันมองเห็นเงาตะคุ่มๆ อยู่ปลายเตียง ตัดสินใจจะเอื้อมมือไปเปิดไฟที่หัวเตียง แต่ต้องชะงัก หลับตาปี๋ ดึงผ้าห่มคลุมโปงจนมิดหัวเมื่อเสียงฟ้าผ่าดังลั่น
เปรี้ยง!
อึดอัด ทรมาน หายใจไม่ออก หัวใจฉันเต้นถี่เพราะเสียงฟ้าร้องก่อนหน้า
"อย่านะ ออกไป วากลัวแล้ว" ฉันพึมพำไม่เป็นเสียง พร้อมกับสติที่ดับวูบลง
และภาพเหตุการณ์ในอดีตที่กำลังผุดแทรกขึ้นมาแทน
ตอนนั้นฉันอายุย่างสิบแปด หลังจากเสียแม่ไปประมาณห้าดือน จิตใจฉันยังไม่หายดี เอาแต่เก็บตัวเงียบอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมของตัวเอง
จนวันหนึ่ง นารันแม่เลี้ยงที่เพิ่งแต่งงานหมาดๆ กับพ่อฉันเข้ามาหา เธอพาผู้ชายอายุมากกว่าฉันประมาณห้าหกปีมาในห้อง ทั้งคู่พยายามพูดหว่านล้อมให้ฉันออกจากห้องตามคำสั่งนายใหญ่ของบ้าน
'วาวา ไปกับเฮียนะ เดี๋ยวเฮียพาไปเล่นข้างนอก'
ตอนนั้นฉันกลัวและหวาดระแวงทุกคน ยิ่งคนแปลกหน้าฉันยิ่งไม่อยากเข้าใกล้
'ไปกับพี่เขาสิลูก พี่วิทย์มีที่เที่ยวสนุกๆ พาไปหลายที่เลย'
นารันพูดเกลี้ยกล่อมฉันอีกแรง '...' ฉันมองหน้าทั้งสองคนด้วยความหวาดกลัว
ถ้าเธอออกไป คนร้ายสองคนนั่นอาจจะกลับมาเล่นงานเธออีกครั้งนะวาวา
เสียงด้านนึงของจิตใจค้านฉัน แต่อีกด้านกลับบอกว่า
ไม่เป็นไร มีคนอยู่ด้วยจะไม่มีใครทำร้ายเธอ
สุดท้ายฉันเลือกฟังเสียงหลัง ออกไปข้างนอกตามคำขอร้องของทั้งสองคน
'เฮีย จะพาวา ไปไหนคะ' ตอนนี้ท้องฟ้าครึ้มมาก
มันยังอยู่ในหน้าฝนที่ไม่ถูกต้องตามฤดูกาลของประเทศไทย
'ไปมีความสุขไง' ประมวลคำว่าความสุขไม่ถูก รอยยิ้มน่ากลัวของนาวิทย์ทำให้ฉันไม่กล้าซักไซ้และหวาดระแวง จวบจนกระทั่ง รถคันหรูเคลื่อนตัวมาถึงตึกแห่งหนึ่ง
ผับเหรอ? ด้านนอกดูเหมือนเป็นผับ ตกแต่งด้วยไฟหลากสี
มีคนเดินเข้า-ออก ไม่หนาตานัก แต่ละคู่ที่เข้าไปสะดุดตาฉัน
ชาย-หญิง กอดประคองกันผ่านประตูกระจกมืด ผู้หญิงนุ่งน้อยห่มน้อยจนน่ากลัว ส่วนผู้ชายส่วนใหญ่จะเป็นคนมีฐานะ สวมทองเต็มไปหมด
'เฮีย' ขาฉันแข็งทื่อ ไม่กล้าขยับตามแรงดึงรั้ง
'ฉันจะพาเธอไปมีความสุขไง เปิดหูเปิดตาเสียบ้าง อุดอู้อยู่ในห้องแคบๆ แบบนั้นน่าเสียดายออก' สายตาโลมเลียและน้ำคำที่แฝงไปด้วยอะไรสักอย่างทำให้ฉันดิ้นหนี
'ปล่อย วาจะกลับบ้าน'
ฉันพยายามสะบัดมือออกจากกุมมือใหญ่ที่บีบรัดข้อมือจนแทบร้าว
'จะเล่นตัวทำไม ซิงๆ แบบเธอของโปรดฉันเลย'
มะ ไม่นะ ตอนนี้ฉันเข้าใจแล้วว่าตัวเองพลาด สองแม่ลูกคู่นี้ไม่เคยอยากทำดีกับฉันจากใจจริง 'ช่วย ด้... อึก' ฉันดิ้นและร้องให้คนช่วยแต่ถูกหมัดหนักๆ ต่อยเข้าท้องหนึ่งที
มันจุก จนแทบเข่าทรุดกับพื้น
'ห้องเดิมฉันมีคนใช้ยัง'
'ว่างสำหรับคุณนาวิทย์เสมอครับ'
'ดี'
หูได้ยินบทสนทนาของคนสองคน ร่างกายคุดคู้เพราะความจุกที่อยู่ในอ้อมกอด
นาวิทย์เคลื่อนที่ไปตามแรงก้าวเดินของเขา
ตุบ ฟุบ
จากที่จุกอยู่แล้ว จุกเพิ่มอีกรอบ เมื่อนาวิทย์โยนฉันลงบนที่นอนขนาดกำลังพอดี
'อย่าคิดหนี เพราะเธอจะไม่เจอแค่ฉันคนเดียว'
คำขู่น่ากลัวนั้นทำให้น้ำตาฉันรินไหล
'ฮึก อึก ป๊า ม๊า ช่วยวาด้วย' พร่ำร้องเรียกให้พวกท่านทั้งสองมาช่วยเหลือ
จะเป็นไปได้ไหม ใครก็ได้ช่วยฉันที
แกร๊ก! เสียงประตูหน้าห้องดังขึ้น ฉันแกล้งหลับตาเพราะไม่รู้ว่าใครเข้ามา
'ลุกขึ้น อย่าลีลาถ้าเธอไม่อยากตกเป็นของเฮียวิทย์' เสียงนี้ฉันจำได้
จิราหลานสาวนารัน เธออยู่ที่นี่ด้วยเหรอ? 'จ.. จิรา’ ฉันเรียกเธอเสียงแผ่ว
'เร็วสิ เดี๋ยวเฮียก็ออกมาก่อน' ได้ฟังคำเธอฉันรวบรวมแรงฮึดทั้งหมด ลุกขึ้นกุมท้องเดินตามเธอออกจากสถานที่บ้าๆ แห่งนี้
'ฉันส่งเธอได้แค่นี้ ส่วนนี่เงิน ไว้โทรให้ใครก็ได้มารับเธอที่ xxxx'
จิราส่งเศษเหรียญให้ฉันพร้อมกับบอกว่าตอนนี้ฉันอยู่ส่วนไหนของโลก
ฮึ่ม! เปรี้ยง! เสียงฟ้าร้อง ฟ้าคำรามราวกับคำขู่ของปีศาจร้าย
ฉันนั่งตัวสั่นงันงกด้วยความกลัวอยู่ใต้ต้นไม้ริมทาง 'ติน รีบมาสิ'
ก่อนหน้าฉันโทรหาตินให้มารับตามที่จิราบอกแล้ว ฉันรู้ว่าตินอยากซักไซ้ฉันว่ามาได้ยังไงแต่เพราะน้ำเสียงฉันสั่นเครือจนเขาไม่กล้าถามต่อ
'เฮ้ยพวก ดูสิเราเจออะไร'
ฉันสะดุ้งด้วยความสั่นกลัว วัยรุ่นขี้ก้างสามคนกำลังมองมาทางฉัน
‘ยะ อย่าเข้ามานะ’ ฉันที่นั่งยองๆ อยู่ ค่อยๆ ถอยหลังไปจนร่างติดต้นไม้
‘ไม่ต้องกลัว ฝนตกพรำๆ แบบนี้ ไปกับพวกพี่ดีกว่า’ คนที่หนึ่งพูดขึ้น พร้อมกับสายตาน่ากลัวกวาดมองฉันตั้งแต่หัวจรดเท้า
‘มะ ไม่เป็นไร’ ฉันกอดอกตัวสั่นงันงก ทั้งกลัวพวกเขาและทั้งหนาวเพราะฝน
‘พวกพี่สามคนไม่ใช่คนไม่ดี มามะ ไปกับพวกพี่แล้วน้องจะมีความสุข’
‘กึก!’ ฉันกัดปากตัวเองแน่นจนได้กลิ่นคาวเลือด สายตาของคนที่สองที่พูดเมื่อกี้เหมือนตอนนาวิทย์หลอกล่อฉันไม่มีผิด