Chapter 9 ลืมมันไม่ได้ ก็มาลงกับผมฃ
Chapter 9
ลืมมันไม่ได้ ก็มาลงกับผม
ฉันไม่พร้อมจะพูดอะไรกับพายุที่จู่ๆก็มาสารภาพว่าชอบฉัน ชอบมาตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เจอกัน
ฉันก็เลย...ตัดสินใจไล่เขากลับห้องไปตั้งแต่เมื่อคืน ฮืออ ก็คนมันยังเสียใจเรื่องที่เลิกกับแฟนอยู่นี่นา
จะให้มูฟออนเร็วมันก็ยังไงอยู่ ถึงคนมันจะเลวก็เถอะ
ตอนนี้ฉันนั่งอยู่ภายในห้องทำงานที่บริษัทและกำลังต่อสายโทรหาน้องชายสุดที่รักอย่างโอบอ้อม
ตู้ดด ตู้ดด
‘ฮัลโหล ว่าไงพี่เอิง โทรมาทำไมแต่เช้า?’
“นี่คือคำทักทายพี่สาวสุดที่รักของแกเหรอ”
แทนที่จะเป็นห่วงว่าพี่สาวโทรมาหามีอะไรเร่งด่วนรึเปล่า แต่ดูไอ้เจ้าน้องชายฉันมันตอบมาสิ
‘ก็รู้ว่าคงไม่มีอะไรด่วนหรอก สาวแก่ถึกทึนอย่างพี่ไม่ตายง่ายแน่นอน’
“โอบอ้อม!! ที่จะฟ้องพ่อ!”
‘ไม่กลัว’
“โอ๊ย เดี๋ยวฟาดซะเลยไอ้น้องบ้า”
‘แล้วสรุปโทรมามีไร’ เมื่อเห็นต่อความยาวจากความยืดไม่เข้าประเด็นกันสักทีโอบอ้อมก็ถามในทันทีว่าฉันโทรมามีอะไร
เนี่ยแหละประโยคที่ควรจะถามตั้งแต่แรกไม่ใช่มากวนตีน ฮึ่ย โมโหๆ
“พายุเอากุญแจสำรองพี่มาจากโอบใช่ไหม ทำไมเอาไปให้เขาอย่างนั้นล่ะ!”
‘ก็เห็นมันว่ามีเรื่องด่วน มีคนตามไปจะทำร้ายพี่’
“ฮะ?” งงไปหมด แล้วน้องบ้านี่ก็ให้ไปง่ายๆไม่ถามเลยรึไงว่าใครตามหรือใครจะทำร้าย
‘ตอนแรกผมก็จะไปด้วยแต่มันบอกว่าไม่ต้อง หายไปประมาณสามชั่วโมงก็โทรมาบอกว่าพี่ปลอดภัยดีแล้ว พอถามอะไรมันก็ไม่ยอมบอก ผมก็ไม่อยากจะถามเห็นเป็นเรื่องส่วนตัว’
โอบอ้อมค่อนข้างจะเป็นผู้ชายที่สุภาพหากอยู่กับคนอื่น น้องคงไม่อยากรุกล้ำความเป็นส่วนตัวของฉัน
“อืม...เข้าใจแล้วล่ะ”
ฉันเข้าใจทุกคำถามที่คาอยู่ในใจแล้ว
‘ไอ้คนที่มันจะทำร้ายพี่เนี่ย...มันเป็นแฟนพี่เหรอ?’
แน่ะ เมื่อกี้ยังบอกไม่อยากถามเพราะเป็นเรื่องส่วนตัวอยู่เลยทีแบบนี้ทำไมมาถาม
“อือ ไม่ต้องบอกพ่อกับแม่นะ”
‘มันจะทำอะไรพี่วะ ทำร้ายร่างกายเหรอ? แม่ง รู้งี้ตามไอ้พายุไปเมื่อคืนดีกว่า มันอ่ะดิเสือกขู่ไม่ให้ตามไป’
นี่พายุตามไปขู่โอบอ้อมถึงที่คอนโดเพื่อที่จะเอาคีย์การ์ดสำรองห้องของฉันมาจากน้องเลยเหรอ
คีย์การ์ดสำรองห้องของฉันจะเอาทิ้งไว้ให้โอบอ้อมหนึ่งชุด ส่วนคีย์การ์ดสำรองห้องของฉันก็จะมีหนึ่งชุดเช่นกัน พ่อแม่ให้เราต่างคนต่างพกติดไว้เผื่อพี่น้องติดต่อไม่ได้ฉุกเฉิน
“ไม่มีอะไรมากหรอก ตอนนี้เคลียร์กันได้แล้ว” เพราะไม่อยากให้เป็นเรื่องใหญ่เลยต้องบอกน้องไปแบบนั้น
‘เคลียร์ได้นี่คือเลิกกับมันแล้วใช่มั้ย?’
“อือเลิกกันแล้ว”
‘อยากรู้จักมันจัง ไอ้ผู้ชายหน้าไหนมันมาทำร้ายพี่สาวผม’
เหมือนจะพูดนิ่งๆ แต่น้ำเสียงของโอบอ้อมแสดงถึงความโกรธ
“ปล่อยไปเถอะโอบ ยังไงพี่ก็เลิกกับเขาได้แล้ว ควรจะยินดีกับพี่นะจ๊ะน้องรัก”
‘หึๆ ยินดีด้วยแล้วกันครับพี่สาวคนสวย’
คุยกันอีกนิดหน่อยฉันก็วางสายโทรศัพท์จากน้องชายลง
แต่ฉัน...ก็รู้สึกว่ามีเรื่องอยากจะคุยกับพายุอีกนิดหน่อย
ไม่สิยัยเอิง แกพึ่งเลิกกับแฟนสุดแสนจะเป็นที่รัก แต่วันถัดมาจะไปหาผู้ชายอีกคนเลยเนี่ยนะ ไม่ได้ๆ
ฉันนิ่งคิดสับสนในใจวนไปวนมา แต่แล้วเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นเรียกสติ
ติ๊งง
แชทจากพายุเด้งขึ้นมาหาฉัน
Payu : ทำไร
ErngAoey : มีอะไร?
ฉันพิมพ์ตอบกลับไป ไม่มีเรียนรึไงวันนี้
แต่เมื่อกี้โทรไปหาโอบก็เหมือนจะไม่ได้เรียนอยู่นะ แต่ไม่รู้ว่าสองคนนี้เรียนเซ็คเดียวกันรึเปล่า อาจจะลงคนละวิชากันก็ได้
Payu : เย็นชาจังพี่สาว
แน่ะ เล่นลิ้นอีกไอ้เจ้าเพื่อนน้องชายคนนี้ บางทีก็ทำเอาใจฉันหวิวหวั่นอย่างบอกไม่ถูกอยู่เหมือนกันนะ
ErngAoey : กำลังจะทำงาน
Payu : กำลังจะทำงานแต่มีเวลามาตอบผมได้ ผมคงสำคัญกับพี่มากเลยอะดิ
ผู้ชายหลงตัวเอง!
พอเห็นเขาพิมพ์มาแบบนั้นก็เลิกตอบทันที เดี๋ยวจะหาว่าฉันว่างอีก
Payu : เงียบเลย....อะๆ ไม่แกล้งละ เย็นนี้มารับที่มอหน่อยดิ
ErngAoey : กลับเองสิ
Payu : รถเสีย เข้าศูนย์อยู่
ไอ้พวกน้องชายพวกนี้มันเป็นอะไรกันเนี่ย รถขยันพังกันจริง เอาไปขับชนขอบปูนกันมารึไง
ErngAoey : แท็กซี่ก็มี
กลับกับโอบรึคีย์ก็ยังได้
Payu : อยากให้พี่คนสวยมารับ
ErngAoey : พี่ติดงาน
ฉันพยายามปฏิเสธ ใจยังเจ็บอยู่มากกับเรื่องของคีริน
ฉันเจ็บมามากแล้วกับความรัก มันพังมาถึงสามครั้ง
ครั้งแรก เลิกกับคีรินตอนเข้ามหาลัย
ครั้งสอง เลิกกับภีมเพราะเขานอกใจตอนเรียนจบ
ครั้งสาม เลิกกับคีรินอีกครั้งเพราะเขาถ่ายคลิปฉันไปขายแลกกับเงิน
และครั้งที่สี่...ฉันไม่อยากมีอีกแล้ว ไม่อยากให้มันเกิดขึ้นอีก
เจ็บมาขนาดนี้ จะไม่ให้ระแวงกับความรักที่กำลังจะเกิดอีกครั้งได้ยังไง?
Payu : มารับหน่อยนะ
Payu : นะครับพี่เอิง
เอาแล้วสิ เจอแบบนี้ฉันก็ใจอ่อนสิ
ErngAoey : ก็ได้
ฉันพิมพ์ตอบไปสั้นๆแบบนั้น แต่อย่าเข้าใจผิดน้า ที่ยอมไปรับเจ้าเด็กพายุไม่ใช่ว่าเพราะใจอ่อนแต่เป็นเพราะพายุช่วยให้ฉันเลิกกับคีรินและรู้ว่าเขาเลวแค่ไหน
เพราะฉะนั้นฉันจะถือว่าเป็นการตอบแทนที่ได้ช่วยฉันเอาไว้
ตกเย็น
ฉันขับรถยุโรปคันหรูที่พ่อซื้อให้ขับจากบริษัทมาจนถึงมหาวิทยาลัยเอเอ เป็นมหาลัยที่น้องชายฉันเรียนอยู่และฉันก็เป็นศิษย์เก่าของที่นี่ด้วยเช่นกัน
ฉันจอดรออยู่ที่หน้าคณะ ตอนนี้ก็เย็นมากแล้วแต่ก็ยังคงมีนักศึกษานั่งกันอยู่
รอได้ไม่นานพายุก็เดินตรงดิ่งเข้ามาหาฉันที่รถแล้วเปิดประตูข้างคนขับเข้ามานั่งในทันที
“ขอบคุณนะที่มารับ” ขึ้นมาได้ก็ยิ้มอย่างจริงใจให้กับฉันที่เป็นพี่สาวของเพื่อนในทันที
พายุในวันนี้สวมเสื้อช็อปวิศวะสีแดงพร้อมกับกางเกงยีนส์สีซีด ผมสีดำดูไม่ค่อยเป็นทรงตามสไตล์เด็กวิศวะที่ไม่ได้ดูแลภาพลักษณ์ภายนอกมากสักเท่าใด
“อือ ให้พี่ไปส่งที่ไหน?”
“ไปผับดิ ต้องเข้าไปทำงาน”
“ไปผับเลยเหรอ ไม่ต้องอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนไปเหรอ” ฉันปรายตามองพายุตั้งแต่หัวจรดเท้า ปกติตอนที่เห็นพายุที่ผับเขาจะสวมเป็นเสื้อเชิ้ตแขนยาวกับกางเกงสแล็คดูเหมือนคนวัยทำงาน
“ห้องวีไอพีมีทั้งห้องนอนแล้วก็ห้องน้ำ”
“งั้นเหรอ...”
พายุจ้องหน้าฉันอย่างตั้งคำถามก่อนที่จะยิ้มร้ายเจ้าเล่ห์ออกมาแล้วพูดด้วยน้ำเสียงกวนๆ
“รู้นะ อยากขึ้นคอนโดผมอะดิถามแบบนี้”
“บะ บ้า ทะลึ่งละ...”
ฉันรีบตอบปัดไปแบบนั้นและมองตรงไปข้างหน้าเพื่อที่จะขับรถออกไปจากหน้าคณะวิศวะ รู้เลยว่าหน้าตัวเองตอนนี้มันคงจะร้อนผ่าว ฮือ น่าอายชะมัด
ขับรถไป มองถนนไป หน้าก็แดงไป โอ้ย นี่มันหน้าคนหรือมะเขือเทศสุกเนี่ย
“หึ แซวนิดหน่อย หน้าแดงขนาดนี้เลยเหรอ?”
“อะไร เปล่าสักหน่อย อากาศมันร้อนเถอะ”
“แอร์ในรถปรับอยู่ที่ยี่สิบเอ็ดองศา เนี่ยนะร้อน”
“อือ ร้อน”
“หึ โอเค ร้อนก็ร้อน” พายุแค่นขำอยู่ในลำคอแต่ก็ยังไม่ถามอะไรฉันออกมา เราทั้งคู่นั่งรถกันเงียบๆจนกระทั่งมาถึงที่ผับของพายุที่น้องชายของฉันก็เป็นหุ้นส่วนอยู่ด้วยเช่นกัน
@พียูผับ
“ถึงแล้ว” ฉันเอ่ยบอกเสียงเรียบแล้วจอดที่หน้าผับ
“วนรถไปจอดที่จอดรถวีไอพีสิ”
“จอดทำไม? เดี๋ยวพี่ก็จะกลับแล้ว” คิดว่าส่งพายุเสร็จฉันก็จะกลับคอนโดในทันทีเพราะวันนี้รู้สึกเหนื่อยและเพลียมาก
“จะรีบกลับไปไหน เข้าไปดื่มกับผมก่อนดิ”
“แค่มาส่งอย่างเดียวก็พอแล้วจ้ะ ลงไปได้แล้ว”
“อะไรอ่ะ ไล่กันแล้วเหรอพี่สาว?”
พายุยังคงทำน้ำเสียงอ้อนมืออ้อนเท้า แหม จะน่ารักหรือน่าตีดีล่ะ
“พี่เหนื่อย อยากกลับไปพักผ่อน”
“อยู่คนเดียวนานๆมันก็อาจจะบั่นทอนหัวใจนะพี่สาว”
“ไม่หรอก พี่อยู่คนเดียวเก่ง”
โกหก...ฉันน่ะไขว่คว้าหาความรักจะตาย ก็อย่างว่า ความรักจากครอบครัวกับความรักจากแฟนมันคนละอย่างกันนี่นา
แต่พอมีรักแล้วมันไม่ดี มันต้องเจ็บ ฉันก็ไม่อยากจะสรรหามันอีกแล้ว
“อยู่คนเดียวมันดี แต่อยู่กับผมมันดีกว่านะ”
พายุยิ้มให้กับฉันพร้อมกับยกมือขึ้นลูบหัวของฉันอย่างแผ่วเบาด้วยความเอ็นดู แต่เดี๋ยวนะ ฉันโตกว่าเธอนะตาเด็กคนนี้!
“พอเลย ลงไปได้แล้วไป”
“ที่พี่เป็นแบบนี้ ยังลืมมันไม่ได้ใช่ป่ะ?”
พายุเอามือลงแล้วจ้องหน้าฉันพร้อมกับถามด้วยน้ำเสียงจริงจังซีเรียสทั้งที่ปกติพายุจะไม่ค่อยเป็นแบบนี้กับฉันสักเท่าไหร่
“เรื่องมันก็เพิ่งเกิดนะพายุ...”
ถ้าลืมได้สิแปลก แผลมันยังสด มันยังเจ็บอยู่มาก
“ลืมมันไม่ได้.. ก็เอามาลงกับผมดิ”
“!?” ฉันมองหน้าพายุอย่างไม่เข้าใจ ไม่เข้าใจว่าเขาจะสื่ออะไร
“เข้ามากับผมเถอะนะพี่เอิง...ผมอยากอยู่กับพี่คืนนี้”
ตึกตัก ตึกตัก เสียงหัวใจฉันเต้นสั่นระรัวพร้อมกับจ้องมองใบหน้าหล่อแสนมีเสน่ห์ของหนุ่มวิศวะรุ่นน้อง ใจเจ้ากรรมมันไม่รักดี...
“...ก็ได้” และในที่สุดก็แพ้ลูกอ้อนเจ้าเด็กคนนี้ซะได้ ฉันตัดสินใจที่จะวนรถไปจอดที่จอดรถวีไอพีที่พายุได้เสนอและตัดสินใจเข้าไปภายในผับกับเขา
นี่แกกำลังทำอะไรอยู่เนี่ยเอิงเอย
พายุเป็นรุ่นน้องแกสองปีเลยนะ
แต่ทำไมนะ...ทำไมใจถึงปฏิเสธเขาไม่ได้เลย