Chapter 8 เราเลิกกัน! ฉันเกลียดนายคีริน!
Chapter 8
เราเลิกกัน! ฉันเกลียดนายคีริน!
ฉันขับรถกลับจากพียูผับซึ่งเป็นผับของน้องชายที่มีหุ้นส่วนอยู่กับพายุ
“คีริน!” ฉันเปิดประตูห้องเข้ามาแล้วเรียกชื่อเขาเสียงดัง คีรินที่นอนหลับสบายโดยที่ใบหน้ายังคงมีบาดแผลอยู่สะดุ้งเฮือกตื่นขึ้น
“อื้อ อะไรวะเอิง! เรียกเสียงดังตกใจหมด”
เขาสบถด่าฉันเสียงดังเมื่อทำให้เขาตกใจ แต่แน่นอนว่าฉันไม่รอช้ารีบกระโดดขึ้นไปนั่งคุกเข่าบนเตียงแล้วหยิบหมอนขึ้นมาตีเข้าที่ตัวของคีรินเบาๆให้เขาลุกขึ้นนั่ง
“ตื่นเดี๋ยวนี้เลยนะไอ้สารเลว!”
คีรินที่เตรียมจะด่าฉันชะงักตัวลงแล้วจ้องหน้าฉันด้วยแววตาที่ตื่นตกใจ
“อะไรนะ เธอเรียกฉันว่าอะไรนะเอิง?”
“เรียกว่าไอ้สารเลวไง! เก็บข้าวของออกไปจากห้องฉันเลยนะ”
ฉันไล่เขาเสียงดัง ดวงหน้าสวยอาบไปด้วยน้ำตา มันเสียใจ มันเจ็บ มันจุกจนเกินจะบรรยาย ใจเหมือนจะฉีกขาดออกจากกัน
ฉันร้องไห้จนตอนนี้มันไม่เหลือให้ร้องแล้ว มีเพียงน้ำตาที่ไหลซึมขณะพูดไปด้วย
“ใครมันเอาอะไรไปฟ้องเธอ!? อย่าไปเชื่อคนอื่นนะเอิง เธอต้องเชื่อฉันสิ!”
คีรินจับเข้าที่ไหล่เล็กของฉันแล้วเขย่าเบาๆเพื่อเรียกสติ
“ไม่มีใครฟ้องอะไรทั้งนั้น! เลิกโกหกสักทีคีริน! บอกฉันทีว่าทำแบบนั้นทำไม แอบถ่ายคลิปตอนเรามีอะไรกันทำไม!!”
ฉันกระแทกเสียงใส่คีรินพร้อมกับตะโกนไปด้วยน้ำเสียงสั่นไปด้วย ไม่รู้ว่าดังจนไปรบกวนห้องข้างๆหรือเปล่า แต่อารมณ์ในตอนนี้มันยากจะควบคุม
“ไม่จริง ต้องมีคนเอามาฟ้องเธอ”
“เลิกโทษคนอื่น แล้วบอกมาทีว่าทำไปทำไม! เงินที่ให้มันไม่พอใช่มั้ย!?”
“ไม่ใช่สักหน่อย ไม่ได้ถ่ายอะไรทั้งนั้นแหละ”
คีรินตอบแบบนั้น แต่สีหน้าเขามันฟ้อง....ฟ้องว่าเขากำลังโกหก
“อย่ามาโกหก”
“เอิง...ให้โอกาสฉันนะ ฉันผิดไปแล้ว”
คีรินคุกเข่าลงบนเตียงให้ตัวเสมอฉันแล้วโอบกอดฉันเอาไว้อย่างแนบแน่นพร้อมกับกดหัวให้ซบเข้าที่แผงอกกำยำของเขา
แต่ในตอนนี้ฉันไม่ได้รู้สึกรักคีรินเลยสักนิด จากความรักมันแปรเปลี่ยนมาเป็นความโกรธ จากโกรธอีกหน่อยก็จะเป็นเกลียด
“เก็บข้าวของทั้งหมดแล้วออกไปจากคอนโดฉันได้แล้ว”
“แต่...”
“บอกให้ออกไป! รึจะให้ฉันเอาพวกของน้องชายมารุมกระทืบนายซะคีริน!” ฉันตวาดเสียงดังอีกครั้ง คิดว่าหากไล่เขาไปไม่ได้ก็จะให้พายุมาช่วย
แม้ว่าจะเป็นทางเลือกสุดท้ายที่คิดทำก็ตาม
“โถ่เว้ย! กูบอกให้ฟังไงเอิง! ฟังกู!”
จากที่สวมกอดฉันอย่างอ่อนโยนเขากลับโมโหร้ายราวกับหมาป่า
คีรินผลักฉันลงบนเตียงอย่างรุนแรงก่อนจะฉีกชุดเดรสสีดำแขนตุ๊กตาของฉันออกจนมันขาดวิ่น
“คี! หยุดนะ บอกให้หยุด!” ฉันผลักเขาออกอย่างสุดแรงแต่ก็ไม่ได้ผล คีรินตัวใหญ่กว่าฉันมาก
“ไม่ปล่อย เธอเป็นของฉัน แล้วก็จะเป็นตลอดไป”
“กรี๊ดด!!” ฉันทั้งผลักทั้งกรี๊ดแต่คีรินก็ยังคงซุกไซร้เข้ามาที่ซอกคอขาวนวลของฉันอย่างรุนแรง
ฉันพยายามทุบหลังของเขาแต่ก็ไม่เป็นผล คีรินพยายามขืนใจฉัน
“จะกรี๊ดให้ได้อะไรวะ ของมันก็เคยกันอยู่ทุกวัน ทำอย่างกับไม่เคยไปได้”
“หยุดนะ ฮึก ฮืออ ฉันจะแจ้งความจับนายข้อหาข่มขืน!!” ฉันกรีดร้องอย่างสุดเสียง มั่นใจมากว่ามันคงทะลุไปถึงคนข้างห้องได้ อยากจะขอความช่วยเหลือ
แต่ฉันก็ไม่เคยรู้จักและไม่เคยเจอกับเพื่อนข้างห้องเลย รู้เพียงว่ามีคนอยู่เพราะเคยได้ยินเสียงพาเพื่อนมาปาร์ตี้อยู่บ้าง
“ข่มขืน? โอ๊ย ฮ่าๆๆ ตลกว่ะเอิง ตำรวจหน้าโง่ที่ไหนมันจะมาเชื่อ อยู่กินกันแบบผัวเมียพอจะเอามาหาว่ากูข่มขืน ตลกว่ะ”
“กรี๊ด ปล่อยนะ! เราเลิกกันแล้ว ถ้านายทำอะไรฉันก็เท่ากับข่มขืน!!” ฉันทั้งผลัก ทั้งถีบ แต่ก็ไม่เป็นผลเลยสักนิด เคยบอกแล้วว่าคีรินเป็นเด็กทุนโควต้านักกีฬา และเขาก็แข็งแรงมากซะด้วยสิ
“คดีผัวเมียตำรวจไม่รับแจ้งความหรอกนะ เลิกสะดีดสะดิ้งแล้วอ้าขาออกดีๆเอิง อย่าให้ต้องใช้กำลัง”
เขาข่มเสียงต่ำ ฉันรู้สึกกลัวคีรินมาก ไม่เคยเห็นเขาในมุมนี้มาก่อนเลย
“ฮึกๆ ฮืออ”
ผัวะ!!!
“กรี๊ดดด!!” ฉันร้องตกใจอย่างสุดเสียงเมื่อจู่ๆร่างของคีรินที่คร่อมฉันอยู่ก็จากออกไปโดยมีคนคนหนึ่งกระชากคอเสื้อเขาขึ้น
ส่วนคีรินก็กลิ้งลงไปนอนอยู่ที่พื้น
ผัวะ!!! ผู้ชายคนนั้นถลาเข้าไปปล่อยหมัดหนักๆใส่หน้าของคีริน และแน่นอนว่าผู้ชายคนนี้คือ
“พายุ!! มาที่นี่ได้ยังไง!”
“มึงมันเลว ทำแบบนี้กับพี่เอิงได้ไงวะ ไอ้ชาติหมา!”
“อั่ก มึงอีกแล้ว มึงแม่งมาเสือกเหี้ยอะไรกับพวกกูวะ กูอยู่ของพวกกูดีๆ ไอ้หน้าอ่อน!”
คีรินลุกขึ้นแล้วยกมือขึ้นปล่อยหมัดไปบนหน้าของพายุจนขึ้นเป็นรอยริ้วแดง พายุเองก็ตัวถลาไปเช่นกัน
ถึงพายุจะแข็งแรงแค่ไหน...แต่คีรินก็นักกีฬาเก่า ถ้าตัวตัวกันแน่นอนว่าสูสี เอ๊ะ รึพายุจะแพ้? โอ๊ยไม่สินังเอิง นี่ไม่ใช่เวลามาเปรียบเทียบกันว่าใครจะแพ้ชนะ
“หยุดเลยนะคีริน!” แม้จะงงที่พายุเอาคีย์การ์ดห้องฉันมาจากไหน แต่ฉันก็ไม่รอช้ารีบกระชากตัวคีรินออกมาไม่ให้ตั้งท่าจะเข้าไปต่อยพายุต่อ
พายุไม่ควรเจ็บตัวเพราะฉันเลย
ฉันนี่มันตัวปัญหาจริงๆ...
“ผู้หญิงบอกเลิกแล้วก็เก็บข้าวของออกไปสักทีสิวะ หรือว่ามึงจะให้กูเอาพวกมารุมกระทืบ?”
“หยุดเลยพายุ พูดกันดีๆก็ได้” ฉันพยายามห้ามเพราะกลัวเรื่องมันจะแรงไปมากกว่านี้ สาเหตุที่พายุกับคีรินมีเรื่องกันมันเป็นเพราะฉัน
ไม่ควรให้พวกเขาทำร้ายร่างกายกันไปมากกว่านี้อีกแล้ว
“เธอเชื่อมันเหรอ? เชื่อมันเหรอว่าฉันทำแบบนั้นอะเอิง ฉันจะทำไปทำไมวะ หืม?”
คีรินเลิกสนใจพายุแล้วหันมาโฟกัสฉันแทน คีรินเดินเข้ามาใกล้ฉันแล้วกระชากแขนเล็กเข้าหาตัวเอง ฉันพยายามขัดขืนแต่แรงก็สู้เขาไม่ได้เลย
“มึงหยุดรุ่มร่ามได้ละ ออกไปซะ!”
พายุตวาดใส่และกระชากแขนของคีรินที่เหนี่ยวรั้งแขนของฉันเอาไว้
“มึงจะเสือกอะไรกับพวกกูนักหนาวะ ไอ้เหี้ยเอ๊ย!”
คีรินตวาดใส่พายุด้วยความโมโห ส่วนฉันในตอนนี้ยืนมองหน้าแฟนตัวเองพร้อมกับน้ำตาอุ่นๆที่ไหลรินลงมาอาบแก้มนวล ไม่คิดเลยว่าคีรินจะเป็นคนแบบนี้
ตลอดระยะเวลาที่คบกันมาฉันไม่เคยสังเกตุเลยสินะ ทำไมนะ....ทำไมถึงทำกันได้ลงคอ กล้าแอบถ่ายคลิปตอนเรามีอะไรกันได้ยังไง เพราะกลิ่นเงินมันหอมหวลมากเลยงั้นสินะ
“จะไปดีๆหรือจะให้กูโทรเรียกพวกมา กูจะนับหนึ่ง...”
“ไอ้กุ๊ยเอ๊ย หมาหมู่ฉิบหาย”
“สอง...”
“ไอ้เวร! เออ กูไปก็ได้ ก็ไม่ได้อยากจะอยู่นักหรอก” ได้ยินแบบนั้นน้ำตาที่ไหลอาบแก้มอยู่แล้วก็ยิ่งไหลออกมามากกว่าเดิม
คำนั้นของคีริน ‘ก็ไม่ได้อยากจะอยู่นักหรอก’ มันกรีดลึกลงไปในใจของฉัน เจ็บชะมัด นี่เขาไม่ได้รักอะไรในตัวฉันเลยมาตั้งแต่แรกแล้วอย่างนั้นเหรอ
สรุปที่คิดว่ารักกัน ที่เป็นแฟนกัน คือฉันเข้าใจผิดคิดเข้าข้างตัวเองไปคนเดียวใช่มั้ย?
คีรินกวาดข้าวของในห้องน้ำและเสื้อผ้าของตัวเองเข้ากระเป๋าลากสำหรับเดินทางใบโตอย่างลวกๆ เขารวบอะไรได้ก็เอาไปหมดเลย
ส่วนฉันยืนร้องไห้อยู่ต่อหน้าพายุ ฉันร้องไห้โฮออกมาอย่างสุดจะกลั้น ปล่อยให้ไหลพรากออกมาโดยไม่อายรุ่นน้องอย่างพายุเลยสักนิด มันเสียใจจนเกินจะเก็บเอาไว้คนเดียวไหว
“ฮึกก ฮืออ”
“กูไปละ ไว้ถ้าเจอมึงข้างนอกกูเล่นแน่”
คีรินเดินมาชี้หน้าพายุอีกครั้งก่อนจะเดินจากไป
“ฮึก ฮือออ” ฉันมองตามหลังคีรินแล้วร้องไห้โฮออกมา
พายุยกมือขึ้นบีบที่ไหล่มนของฉันเบาๆเพื่อเป็นการให้กำลังใจ
“อย่าร้องไห้เลย คนเลวแบบมันไม่คู่ควรกับน้ำตาของพี่หรอก”
“ฮึกๆ ฮือออ”
ยิ่งพายุพูดแบบนั้นก็ยิ่งทำให้ฉันร้องหนักกว่าเดิม นั่นสินะ คุณหนูเอิงเอยที่แสนจะเพอร์เฟ็กต์ทำไมต้องมาร้องไห้คร่ำครวญให้กับผู้ชายที่ไม่เห็นคุณค่าของเราด้วยล่ะ
“ยิ่งพี่ร้องมากเท่าไหร่ ผมก็ยิ่งเจ็บมากเท่านั้น”
“ฮึกก ฮืออ ก็คนมันเสียใจนี่...อึ่ก ว่าแต่ ทำไมถึงดีกับพี่ขนาดนี้ล่ะ?” พายุทำดีกับฉันมากจริงๆ ดีจนฉันรู้สึกผิดที่ตอนแรกต่อว่าเขาไป ก็มันรับได้ยากนี่นา
จู่ๆมีเพื่อนน้องชายเดินมาบอกเราว่าแฟนเรากำลังแอบถ่ายคลิปตอนเราเอากันไปขาย ใครจะทำใจเชื่อได้ง่ายๆล่ะ จริงมั้ย?
“เพราะผมชอบพี่”
“...!?”
“ชอบตั้งแต่วันแรกที่เคยได้เจอ”
“...” ฉันพูดไม่ออกเลยเมื่อได้ยินแบบนั้น มันตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ
ตั้งแต่วันแรกที่เราได้เจอกันเลยงั้นเหรอ
ย้อนกลับไปเมื่อสองปีก่อน
วันปฐมนิเทศน์นักศึกษาใหม่
คณะวิศวกรรมศาสตร์
“ตอนเย็นพี่จะมารับนะรู้มั้ย มารอหน้าคณะนะโอบ”
เอิงเอยในวัยยี่สิบเอ็ดปี เรียนอยู่ปีสามมหาวิทยาลัยเดียวกันกับผู้เป็นน้องชาย
เธอเรียนอยู่คณะบริหารธุรกิจ ส่วนน้องชายที่อายุน้อยกว่าสองปีเรียนอยู่คณะวิศวกรรมศาสตร์
“รู้แล้วน่า บ่นจู้จี้ยิ่งกว่าแม่อีกนะ”
“ก็แกพึ่งขึ้นมาเรียนที่กรุงเทพวันแรกจะไม่ให้พี่ห่วงได้ยังไง ไหนจะไม่ยอมซื้อคอนโดอยู่ที่เดียวกับพี่อีก”
พี่สาวสุดสวยไม่เข้าใจใยน้องชายจึงตีตัวออกห่าง แม่อุตส่าห์ตั้งใจจะซื้อคอนโดเพิ่มให้น้องชายอีกห้อง แต่น้องชายกับบอกว่าขอคนละที่กับพี่สาว
เอิงเอยคิดเป็นอื่นไปไม่ได้นอกจากเจ้าน้องชายคนนี้จะแอบหนีเที่ยวร้านเหล้ากับคั่วผู้หญิง
เธอเองก็เป็นนักศึกษาและอายุห่างจากน้องเพียงสองปีทำไมจะคิดตามไม่ทัน
“ผมโตแล้วน่าพี่เอิง เลิกบ่นได้ละ”
โอบอ้อมพูดพร้อมกับส่ายหัวเบาๆอย่างหน่ายใจที่พี่สาวทำตัวเหมือนแม่เข้าไปทุกวัน
“โอบ!” เสียงเรียกชื่อน้องชายดังขึ้นทำเอาหญิงสาวในชุดนักศึกษากระโปรงทรงเอสุดแซ่บหันไปตามเสียงเรียก
ร่างสูงกว่าร้อยแปดสิบเซนติเมตร ใบหน้าหล่อเหลาคมคายแต่แอบดุดัน ผิวขาวเนียนละมุน ผมสีดำขลับเริ่มยาวละต้นคอดูไม่เรียบร้อย พร้อมกับดวงตาคู่คมแสนมีเสน่ห์ที่ไม่อาจทำให้เอิงเอยละสายตาไปไหนได้
เขาเองก็จ้องเธอเหมือนกัน...จ้องจนแทบจะหลอมละลาย
“เอ้า มองเข้าไป มีปัญหาอะไรกับพี่สาวกูครับไอ้พายุ”
โอบอ้อมรู้จักกับพายุและคีย์ก่อนวันปฐมนิเทศน์ ทั้งสามคนเริ่มสนิทกันจากค่ายรับน้องก่อนเปิดเทอม
“ไม่ยักรู้ว่ามึงมีพี่สาว”
พูดพร้อมกับยังจ้องไม่เลิก
“แล้วทำไมกูจะต้องรายงานมึงครับ หืม? พี่ไม่ใช่เมีย”
“สวย”
“เอ๊ะ?” เอิงเอยมองหน้าพายุแล้วทำสีหน้าตกใจพร้อมอุทานออกมา
“อะไรๆ พอเลย ไม่ต้องมาทำเจ้าชู้ใส่พี่สาวกูเลยนะ”
“ไม่ได้ทำเจ้าชู้ แค่ชมว่าพี่มึงสวยดี”
คำนั้นยังคงตราตรึงอยู่ในใจของเอิงเอย แม้จะพยายามลืมแต่ก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงหน้าของเพื่อนน้องชายคนนี้อยู่บ่อยๆ
พายุ...เจ้าเด็กแสบจอมเจ้าชู้ที่มาชมผู้หญิงว่าสวยทั้งที่รู้จักกันครั้งแรก
ปักเรดแฟล็กธงแดงไว้ในใจได้เลยว่า หล่อแค่ไหนก็จะไม่ยุ่ง!