Chapter 6 คลิปแอบถ่าย
Chapter 6
คลิปแอบถ่าย
“อ๊ะ เป็นอะไรไปน่ะคี ทำไมหน้ามีแผลเต็มเลย”
ฉันกลับมาจากทำงานวันนี้ก็ไม่เจอคีรินแฟนสุดที่รัก แปลกใจมากนะ พยายามโทรหาตั้งหลายสายแต่ก็ไม่รับเลย พอเขากลับมาก็มีสภาพเละเทะแบบนี้แล้ว
“อ่า โทษทีที่ไม่ได้บอกเอาไว้ก่อน พอดีไปเจอเพื่อนเก่ามา”
“คี! ทำไมหน้าตาเป็นแบบนี้ เพื่อนเก่าที่ไหน? ทำไมถูกทำร้ายมา”
ฉันเดินเข้าไปหาแล้วยกมือขึ้นลูบแผลบนใบหน้าเบาๆด้วยความเป็นห่วง เพื่อนเก่าอีท่าไหนทำไมหน้าเละได้ขนาดนี้
“อย่าถามมากเลยเอิง เจ็บอยู่”
เขาตัดบท ฉันรีบคล้องแขนเขาพาเดินมานั่งที่โซฟาโซนนั่งเล่นและเอาไว้รับแขก
“นั่งก่อนนะ มา เดี๋ยวฉันทำแผลให้”
คีรินยอมให้ฉันทำแผลให้อย่างว่าง่าย โถ คงจะเจ็บมากสินะ น่าสงสารจังเลยแฟนฉัน จู่ๆก็ได้แผลกลับมาเต็มหน้าแบบนี้
“โอ๊ย เบาหน่อยดิวะเอิง คนไม่ใช่ควาย”
เขาสบถโวยวายเสียงดัง คงจะเพราะฉันทำแผลให้แรงเกินไป
“โทษที จะทำให้เบามือลงนะ”
ฉันว่าไปอย่างนั้นพร้อมกับพยายามเบาแรงมือลง
ทำแผลได้สักพักในที่สุดก็เสร็จเรียบร้อย ใบหน้าหล่อของคุณแฟนตอนนี้ช้ำเลือดช้ำหนองดูไม่ได้เลยล่ะ
“เจ็บมากมั้ย เล่าให้ฟังได้ยังว่าเกิดอะไรขึ้น?” ฉันถามด้วยความเป็นห่วงอีกครั้ง
“เอิง เธอมีน้องชายกี่คนนะ นอกจากคนที่ชื่อโอบแล้วยังมีคนอื่นอีกปะ?” จู่ๆก็ถามขึ้นมา ปกติคีรินไม่ค่อยถามเกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวฉันสักเท่าไร
“ก็ไม่นะ มีแค่โอบคนเดียว ส่วนคนอื่นก็เป็นแค่ลูกพี่ลูกน้องห่างๆ”
“งั้นเหรอ..” คีรินนิ่งไป ฉันขมวดคิ้วมุ่นแล้วถามกลับด้วยความสงสัย
“มีอะไรรึเปล่าคี? มีคนมาทำร้ายนายแล้วบอกว่าเป็นน้องฉันเหรอ?” ใครล่ะจะทำแบบนั้น และต่อให้โอบรู้ว่าคีรินเป็นแฟนฉันก็คงไม่ถึงขั้นต่อยหรอก เจอกันแล้วต่อยเลยแบบไม่มีเหตุผลฉันก็ว่ามันแปลกไปนะ
“เปล่า ไม่มีอะไร เจ็บมากแล้วฉันขอไปนอนก่อนดีกว่า” คีรินว่าอย่างนั้นก่อนที่จะลุกขึ้นแล้วเดินเข้าไปนอนภายในห้องนอนไม่คุยอะไรกับฉันอีก นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย? เป็นอะไรก็ไม่ยอมเล่าให้ฟัง
ติ๊งง
“อ๊ะ ใครโทรมาตอนนี้เนี่ย...” ฉันเห็นว่าตอนนี้ก็ดึกแล้ว เวลาประมาณห้าทุ่มก็ไม่น่าจะมีใครโทรมาแล้วนะ
เป็นเบอร์แปลกๆ...เอ มิจฉาชีพรึเปล่านะ จะรับไม่รับดีล่ะ ครุ่นคิดกับตัวเองไปมาแต่ในที่สุดก็ตัดสินใจรับไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน ในใจลึกๆกลัวว่าจะเป็นคนรู้จักมีธุระเร่งด่วนยามดึกขึ้นมา
“สวัสดีค่ะ ใครคะ?”
‘พี่เอิง ผมเอง...’
ถึงแม้ว่าจะไม่ได้พูดชื่อออกมา แต่น้ำเสียงแหบพร่าทรงเสน่ห์ที่แสนจะคุ้นหูนี้ทำให้ฉันนึกถึงคนอื่นไม่ได้เลย นอกจาก...
“พายุ!? เอาเบอร์พี่มาจากไหนเนี่ย?”
‘ก็วันที่เอาเอกสารไปให้ที่บริษัทผมขอเลขาพี่มา’
“มีอะไรรึเปล่า โทรมาดึกเชียว”
ฉันถามไปแบบนั้นทั้งที่ภายในใจสุดแสนจะสับสน
‘ออกมาหาผมหน่อยดิ มีเรื่องอยากจะคุยด้วย’
“มีอะไรก็คุยตอนนี้เลยก็ได้”
การจะให้ฉันออกไปไหนมาไหนกับผู้ชายสองต่อสองมันก็แปลกๆนะ ที่สำคัญฉันเองก็มีแฟนแล้วด้วย คีรินก็เข้าไปนอนแล้วหากเขารู้ขึ้นมาจะทำยังไง
‘เรื่องสำคัญมาก ต้องคุยต่อหน้าเท่านั้น’
“อ่า ถ้างั้น...ถ้างั้นก็ได้ ว่าแต่จะให้พี่ไปเจอที่ไหน?”
พอบอกว่าเป็นเรื่องสำคัญมากๆเข้าฉันก็ไม่กล้าปฏิเสธ กลัวว่ามันจะเป็นเกี่ยวเรื่องกับน้องชายอย่างโอบอ้อม หรืออาจจะสำคัญกว่านั้นซึ่งก็คาดเดาไม่ได้เลยว่าเรื่องอะไร
‘มาเจอผมที่ผับ’
“โอเค อีกครึ่งชั่งโมงเจอกัน” ถ้ารถไม่ติดอะนะ
ฉันวางสายโทรศัพท์จากพายุลงแล้วเดินเข้าไปในห้องนอนเพื่อที่จะบอกกับคีริน แต่ก็พบว่าเขานอนอยู่น่าจะเจ็บมากจากบาดแผล เพราะฉะนั้นฉันไม่กวนจะดีกว่า
ฉันเดินออกมาจากห้องนอนแล้วหยิบกระเป๋าสะพายข้างสีดำใส่โทรศัพท์และกุญแจรถพร้อมกับกระเป๋าเงินก่อนจะเดินลงมา
@พียูผับ
พอมาถึงฉันก็โทรหาพายุในทันที เขาส่งลูกน้องให้มารับและพาเดินขึ้นไปจนถึงชั้นวีไอพี
มันเป็นห้องเดิมที่ฉันเคยมาเมื่อรอบที่แล้วตอนมาขอส่วนลด
“นั่งก่อนสิ” พายุชี้ให้ฉันมานั่งที่โซฟาด้านข้างเขา ฉันเดินเข้าไปแล้วนั่งลงพร้อมกับวางกระเป๋าสะพายข้างลูกเล็กสีดำจากแบรนด์ดังราคาแพงลงบนโต๊ะ
“มีเรื่องสำคัญอะไรงั้นเหรอถึงเรียกพี่มาถึงที่นี่?”
นั่งปุ๊บก็ยิงคำถามที่สงสัยในทันที ก็เล่นชวนฉันมาดึกๆดื่นๆแบบนี้ก็ต้องแปลกใจเป็นธรรมดา สำคัญขนาดไหนกันนะ
“พี่มีแฟนยัง?” คำถามของพายุทำเอาฉันขมวดคิ้วมุ่นแล้วมองหน้าเขาอย่างไม่เข้าใจ
“มีแล้ว นี่เรียกพี่มาตั้งไกลเพื่อถามเรื่องแค่นี้เหรอ?”
มันใช่เรื่องไหมเนี่ย ฉันออกจากคอนโดแล้วรีบบึ่งรถมาที่นี่เพราะคิดว่ามีอะไรสำคัญเกี่ยวกับน้องชายไม่ก็เรื่องที่สำคัญกว่านี้ แต่นี่ให้มาเพื่อเรียกมาถามว่ามีแฟนไหมเนี่ยนะ มันน่าตีจริงเด็กคนนี้
“มันไม่ใช่คำถามแค่นี้สักหน่อย”
“แล้วมันสำคัญอะไรล่ะ?” นี่มันเรื่องของฉันไม่ใช่เรื่องของเขาสักหน่อย เป็นแค่เพื่อนน้องชายไม่มีสิทธิ์จะมาถามเรื่องส่วนตัวอย่างนี้ด้วยซ้ำ
“สำคัญดิ...สำคัญกับใจผม”
“...”
เจอพายุตอบมาแบบนั้นฉันก็เงียบนิ่งอึ้งไป หน้าฉันเหวอมากเลยล่ะตอนนี้เพราะไม่คิดว่าพายุจะมาพูดอะไรแบบนี้
“บ้าแล้ว...พี่จะไปสำคัญอะไรกับพายุขนาดนั้นล่ะ”
ฉันตอบอ้อมแอ้มไม่เต็มเสียงนัก
“แฟนพี่เอิงนี่ชื่อไอ้คีรินใช่ไหม?”
“หืม นายรู้ได้ยังไงพายุ?” สีหน้าของฉันตอนนี้สลับจากหน้าเหวอมาเป็นขมวดคิ้วมุ่นอีกแล้ว รู้สึกสับสนไปหมดว่าวันนี้มันเรื่องบ้าอะไรกัน
“เห็นแผลที่หน้ามันไหมล่ะ”
“นี่นายเป็นคนทำคีรินเจ็บเหรอ ทำอย่างนี้ทำไมพายุ!”
ฉันมองหน้าเขาอย่างเอาเรื่อง ยิ่งได้ยินแบบนี้ก็ยิ่งโกรธ คิดว่าเป็นใครมาจากไหนถึงคิดจะทำร้ายใครก็ได้
“ก็มันทำตัวเลวใส่พี่ก่อน”
“ทำตัวเลว? คีรินไม่เคยทำอะไรกับพี่อย่างนั้นนะ เราสองคนรักกันมาก” ฉันเชิดหน้าขึ้นแล้วตอบไปอย่างนั้น คนอื่นจะมารู้ดีไปกว่าเราทั้งคู่ได้ยังไง
“พี่ยังไม่เห็นด้านเหี้ยๆของมัน”
“ไม่จริง คีรินไม่มีทางทำอะไรลับหลังพี่” ฉันเถียงไปอย่างนั้นทั้งที่ก็ยังไม่รู้เหมือนกันว่าพายุหมายถึงอะไร คีรินนอกใจฉันเหรอ?
“ไว้ใจมันมากเกินไปแล้ว” พายุตอบเสียงเรียบและจ้องหน้าฉันที่นั่งอยู่โซฟาข้างเขา แววตาคู่นั้นช่างว่างเปล่า ว่างเปล่าเหลือเกิน...ฉันเดาใจพายุไม่ถูกเลย
“แล้วคีรินไปทำอะไรให้ล่ะ คีรินทำอะไรนายถึงต้องมาโกรธขนาดนี้ ทำร้ายร่างกายกันมันก็มากเกินไปแล้วนะ”
ฉันไม่รู้หรอกว่าแฟนฉันทำอะไรผิดนักหนา แต่พายุไม่ควรมายุ่งในเรื่องนี้เลย
“มันถ่ายคลิปตอนเอากับพี่มาขายให้ผม”
“...!?”