Chapter 6 พรุ่งนี้เราจะกลับด้วยกัน
Chapter 6
พรุ่งนี้เราจะกลับด้วยกัน
[ คีย์ Part]
“เอารถที่บ้านไปขับสิ แกจะดึงดันนั่งรถเมล์ให้ลำบากทำไมวะ?”
หลังจากนั่งรถเมล์มาถึงมหาวิทยาลัยผมก็แยกย้ายกับรินรดารุ่นน้องที่มาแอบชอบ แต่ก็เจอเรื่องเหนือความคาดหมาย พ่อของผมมาดักที่หน้าคณะโชคดีที่แยกกับยัยน้องรินไปแล้ว
“พ่อมาได้ไงเนี่ย?” ผมกับพ่อเราสนิทกันมากเพราะพ่อเลี้ยงมาตั้งแต่เล็ก ส่วนแม่ทิ้งไปตั้งแต่ผมยังเด็ก
“ก็เพื่อนแกมันมาฟ้องพ่อว่าแกไม่ยอมเอารถที่ซื้อให้มาขับ คอนโดพ่อก็ซื้อให้ รถพ่อก็ซื้อให้ ทำไมไม่เอามาใช้วะไอ้ลูกชาย?”
“อ้าว สวัสดีครับคุณลุง” ไอ้พายุเห็นผมกับพ่อยืนคุยกันมันก็เดินเข้ามาร่วมด้วยสงสัยมันจะมาถึงก่อนอยู่แล้ว
“เอาเรื่องอะไรไปฟ้องพ่อกูอีกนะเนี่ยมึง”
ผมหันไปดุไอ้พายุ รู้แหละว่ามันหวังดีแต่ไม่อยากให้มันเอาปัญหาหนักใจไปบอกพ่อ แค่เรื่องงานที่บริษัทพ่อก็เครียดมากพออยู่แล้ว
“ก็แค่อยากให้มึงมูฟออนจากรักเก่าได้”
“เหอะ คนอย่างกูมูฟไปนานแล้วเว้ย” ผมพูดความจริงนะ ทุกวันนี้ใช้ชีวิตอย่างสมถะไม่ได้อวดว่ารวยอะไรก็เพราะมูฟออนจากรักเก่ามานานแล้ว พายุมันเป็นเพื่อนผมตั้งแต่สมัยมัธยมทำให้รู้เกี่ยวกับทุกเรื่องของชีวิต
“ไม่รู้หรอกนะจะลืมไม่ลืม แต่ก็ใช้ชีวิตให้มันปกติเถอะลูก” พ่อคงกลัวว่าผมจะเป็นปมฝังใจ ตั้งแต่แม่ทิ้งไปพ่อก็ไม่เคยมีเมียใหม่อีกเลย
“ผมก็ใช้ชีวิตปกตินะพ่อไม่ได้ทุกข์อะไรสักหน่อย” ผมพูดความจริงนะแต่พ่อก็ดูเหมือนไม่อยากจะเชื่อ
“งั้นก็ขึ้นไปเรียนกับพายุซะ เดี๋ยวขากลับจะให้ลูกน้องไปเอารถที่คอนโดมาให้ขับกลับ”
“โถ่พ่อ...”
“แล้วนั่นถือถุงอะไรอยู่ในมือ ทำไมเหมือนของผู้หญิงเลย?”
พ่อถามพร้อมกับมองมาที่ถุงผ้าสีขาวลายการ์ตูนหวานแหววที่ยัยน้องทิ้งไว้ให้ผมเมื่อเช้า
“เปล่า ไม่มีอะไร” ผมรีบปฏิเสธแล้วกำถุงผ้าไว้แน่น
“เฮ้ย แต่ถุงนี้มันเหมือนของน้องรินเพื่อนของพวกไอ้ฟิล์มเลยนะ”
“ถุงผ้าแบบนี้คนใช้เยอะแยะไอ้พายุ” ผมหันไปมองมันด้วยสายตาพิฆาต ส่วนพ่อผมได้แต่สงสัย
“หึ รีบมีแฟนได้แล้วลูกชาย อย่าเอาแต่เรียน พ่อส่งแกมาเรียนมหาลัยไม่ได้อยากจะให้เรียนเก่งแข่งกับใครหรอกแค่อยากให้ได้ใช้ชีวิตวัยรุ่น” พ่อผมเดินมาตบบ่าผมเบาๆ
“ไม่มีหรอกฟงแฟน ผมก็ใช้ชีวิตไปแบบนี้แหละ” ตอบไปแบบปัดๆส่วนไอ้พายุกับพ่อผมได้แต่มองหน้ากันแล้วยิ้ม
“งั้นเดี๋ยวผมขึ้นไปเรียนก่อนนะพ่อ แล้วเย็นนี้จะกินข้าวด้วยกันไหม?” อุตส่าห์บินจากเชียงใหม่มาที่กรุงเทพคงจะไม่ใช่แค่มาเยี่ยมลูกชายคนเดียวแน่ๆ
“เดี๋ยวพ่อดูก่อนว่างานเสร็จมั้ย พอดีวันนี้ลงมากรุงเทพเพราะมาคุยธุระกับรุ่นน้องที่ทำธุรกิจอยู่ด้วยกัน”
“อือ งั้นเจอกันตอนเย็นแล้วกันพ่อเดี๋ยวผมไปเรียนก่อน”
“โอเค เจอกันลูกชายเดี๋ยวคืนนี้พ่ออาจจะไปนอนด้วย”
“เคครับ” ตอบพร้อมล้วงกระเป๋าเสื้อช็อปสีแดงเดินขึ้นไปเรียนส่วนไอ้พายุก็ยืนคุยอะไรอยู่กับพ่อนิดหน่อย สองคนนี้แม่งต้องมีความลับอะไรกันแน่เลย
“ไม่ต้องห่วงนะครับลุงคณิต เดี๋ยวผมจะหาเมียให้มันเอง”
“ยังไงก็ฝากดูแลลูกชายลุงทีแล้วกันนะพายุ แล้วสรุปไอ้เจ้าของถุงผ้านี่ยังไงเนี่ย?”
“ถุงมันเหมือนของรุ่นน้องผมเลย แต่ก็ไม่มั่นใจ”
”หึ ยังไงก็ฝากจับตาดูความสัมพันธ์ของลูกชายลุงกับรุ่นน้องคนนั้นทีละกัน”
“ได้ครับลุงคณิต ไม่ต้องห่วงผมจัดการให้เอง”
ทางด้านของรินดา
“ทำไมล่ะคะแม่? โถ่ แต่หนูเรียนเลิกก็เย็นแล้ว” ฉันคุยโทรศัพท์กับแม่อยู่หน้าห้องเรียน แต่จู่ๆคุณแม่ก็โทรมาบอกว่าจะให้ไปกินข้าวเย็นด้วยกันที่บ้าน
‘คุณลุงที่ทำธุรกิจอยู่กับคุณพ่อเขาจะมาทานข้าวที่บ้าน ลูกชายเขาก็มาด้วยนะลูก’
“ไว้หนูบอกอีกทีได้มั้ยคะ กว่าจะเลิกก็เย็นแล้ว”
‘ก็ได้จ้ะ ยังไงเลิกเรียนโทรหาแม่นะ’
“โอเคค่า ไว้โทรไปนะคะ” คุยกับแม่เสร็จฉันก็วางโทรศัพท์ลงแล้วเดินกลับเข้าไปในห้องเรียน ตอนเย็นฉันไม่อยากจะไปไหนเลยเพราะตั้งใจจะไปตามติดชีวิตพี่คีย์สุดที่รัก
ตอนเย็น
เวลา 16.00 น.
“ไปไหนต่อวะริน กลับหอเลยปะ?” ฟิล์มเอ่ยถาม ตอนนี้พวกเราทั้งสี่คนเดินลงมาจากตึกเรียน แต่ฉันเองก็ยังไม่มั่นใจเลยว่าจะโทรหาแม่ดีมั้ย
“อาจจะกลับบ้านอะ เห็นแม่ว่าจะมารับไปกินข้าวด้วย”
“แล้วให้ไปส่งปะวันนี้?” คิมถามขึ้นมา คงคิดว่าแม่ฉันจะมารับที่มหาวิทยาลัยล่ะมั้ง
“ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวอาจจะรอแม่มารับที่นี่อะ พวกแกกลับกันก่อนได้เลยนะ”
ฉันรู้ว่าถ้าไม่บอกไปแบบนี้เพื่อนๆต้องไม่ยอมแน่ คงจะรอรับให้ฉันกลับพร้อมกัน
ที่บอกแบบนั้นไม่ใช่ว่ารอแม่มารับอะไรหรอก แต่อยากจะไปดักรอพี่คีย์มากกว่า
“งั้นพวกกูกลับกันก่อนนะ บายมึง” คิมพูดขึ้นแล้วทั้งสามก็เดินจากไป ต่างคนก็ต่างเอารถยนต์มา เรียกได้ว่ารวยกันยกแก๊งจริงจริ๊ง
“กลับเลยปะมึง” สามหนุ่มเดิมมาทางนี้พอดี พี่พายุคุยกับพี่คีย์ส่วนพี่โอบก็เดินชิวๆ
“ว่าจะไปกินข้าวกับพ่อก่อนว่ะ เห็นชวนไปกินข้าวกับคนรู้จัก”
“พี่คีย์คะ! ^o^” ฉันวิ่งยิ้มร่าเข้าไปหาพี่คีย์สุดที่รักในทันที ทั้งสามทำหน้าเหวอเมื่อเห็นฉันวิ่งยิ้มสดใสเข้าไปหาอย่างกับกำลังกระโดดเข้าหาทุ่งลาเวนเดอร์
“สรุปมึงกับน้องรินนี่ยังไงกันเนี่ย” พี่พายุยิ้มแซวด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์
“ไม่มีอะไรทั้งนั้น” รีบปฏิเสธอย่างไว ไม่รักษาน้ำใจน้องเล้ย
“พี่คีย์จะกลับแล้วเหรอคะ หนูขอกลับด้วยสิ” ฉันไม่สนใจทักทายใครทั้งนั้น โฟกัสแค่พี่คีย์สุดหล่อคนเดียวเท่านั้น
“ทำไมไม่กลับกับเพื่อน” น้ำเสียงราบเรียบย้อนถามมาแบบนั้นทำเอาฉันหน้าเจื่อน พี่ทั้งสองมองด้วยความเอ็นดู พี่โอบที่แสนจะอบอุ่นยิ้มให้ฉัน ส่วนพี่พายุก็ยิ้มสู้เป็นกำลังใจให้
“ก็อยากกลับกับพี่คีย์นี่คะ” ฉันทำน้ำเสียงอ้อนแล้วทำหน้าให้เหมือนแมว (พยายามทำตัวให้ดูน่ารักที่สุดในสายตาพี่เขา มั่นหน้ามากยัยรินเอ๊ย)
“โห พูดมาขนาดนี้งั้นพี่กับไอ้โอบขอตัวก่อนละ เชิญคุยกันตามสบายเลยครับผม” พี่พายุพูดพร้อมกับกอดคอพี่โอบเอาไว้แล้วลากออกไปจากตรงนี้
สรุปตอนนี้คือเหลือฉันกับพี่คีย์ เรายืนมองหน้ากันอยู่อย่างนั้นจนพี่คีย์ทนไม่ไหวต้องแพ้สายตาอันแสนจะน่ารักบ้องแบ๊วของฉัน
“ทำไมต้องรอกลับพร้อมพี่? ทำไมไม่กลับกับเพื่อน”
“ก็บอกแล้วนี่คะว่าชอบพี่คีย์ อยากไปกับพี่”
“หึ แต่โทษทีวันนี้พี่ติดธุระ”
“จะไปไหนเหรอคะ?” ยังไม่ยอมแพ้ ยิ้มสู้ต่อไป
“ไปกินข้าวกับพ่อ”
“น่าเสียดายจัง…”
พอบอกว่าจะไปกินข้าวกับพ่อแบบนี้ฉันก็ไม่กล้าตื๊อต่อ กลัวว่าจะทำให้พี่คีย์รำคาญ
“อือ ไว้วันหลังนะ”
ฮะ…พี่คีย์บอกว่าเอาไว้วันหลังงั้นเหรอ? แสดงว่าฉันเองก็ยังมีหวังสินะ ไม่ใช่ว่าสิ้นหวังไปซะทีเดียว จากที่ตอนแรกทำหน้าหดหู่ตอนที่พี่คีย์บอกจะไปกินข้าวกับพ่อ ตอนนี้ฉันกลับแปรเปลี่ยนมายิ้มกว้างสดใสในทันที
“ได้เลยค่ะ…ไว้วันพรุ่งนี้พี่คีย์ต้องกลับพร้อมหนูให้ได้เลยนะ”
“อืม ไว้กลับด้วยกัน”
พี่คีย์พูดพร้อมกับเอามือล้วงกระเป๋าทั้งสองข้างแล้วเดินหันหลังจากฉันไป ส่วนฉันก็ได้แต่อมยิ้มกับตัวเอง
พรุ่งนี้ก็จะได้กลับบ้านพร้อมพี่คีย์อีกแล้วสินะยัยริน เอาน่าทนหน่อย แค่วันเดียวเองวันนี้พี่เขาต้องไปกินข้าวกับพ่อ
ส่วนเราก็กลับไปกินข้าวกับแม่ดีกว่า
ฉันแยกย้ายกับพี่คีย์เพราะพี่คีย์เดินไปอีกทางซึ่งเป็นทางลานจอดรถ สงสัยว่าพ่อเขาจะมารับล่ะมั้งวันนี้ ส่วนตัวฉันต้องเดินไปอีกทางเพื่อรอแท็กซี่
รอสักพักแท็กซี่ก็ผ่านมาฉันจึงรีบขึ้น
“ค่าแม่ หนูอยู่บนแท็กซี่แล้วนะ อีกไม่เกินครึ่งชั่วโมงคงถึงร้านอาหาร”
ฉันคุยกับแม่ผ่านทางโทรศัพท์ ร้านที่แม่นัดอยู่ไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยมากนัก
‘มาเร็วนะลูก คุณลุงเขามาแล้ว ลูกชายคุณลุงก็กำลังจะมา’
“ค่ะ แม่…กรี๊ดดดดด”
บรื้นนน เอี๊ยดดด โครม!
‘ริน! ยัยริน! เกิดอะไรขึ้นลูก!!’
ตู๊ดดด ตู๊ดดด ตู๊ดดดด