Chapter 5 ใจอ่อนกับหนูได้ยังคะ?
Chapter 5
ใจอ่อนกับหนูได้ยังคะ?
“งั้นไปห้องพี่มั้ยล่ะ?” เอ่อ อึ้งไปเลยสิคะเจอผู้ชายชวนไปห้องแบบนี้
“ถ้าพี่ให้ไปหนูก็จะไปจริงนะ” อย่าไปกลัวยัยริน สู้กลับสิคะรออะไร แต่ก็ดูเหมือนพี่คีย์จะทำหน้าอึ้งไป
“นี่เธอต้องเป็นผู้หญิงยังไงกันวะเนี่ย ผู้ชายชวนไปห้องก็ไป” พี่คีย์คงสุดจะทนถึงกับต้องพูดมาแบบนั้น
“ก็ถ้าจะบอกว่าหนูง่าย หนูก็ง่ายกับพี่คนเดียวอะค่ะ” ฉันยิ้มตอบพร้อมกับเอามือไขว้หลังแล้วกระโดดไปยืนหน้าพี่คีย์พร้อมฉีกยิ้มหวาน
“ฮะ?” พี่คีย์ถึงกับอึ้งไปเลย คงเกิดมาไม่เคยเจอผู้หญิงสวยๆอย่างฉันมาจีบสินะ โฮะๆ (มั่นหน้าเป็นที่หนึ่ง)
“แล้วสรุปเราจะไปไหนกันต่อดีคะ?”
“กลับห้อง”
“ห้องพี่?”
“ห้องเธอนั่นแหละ โว้ะ! ผู้หญิงบ้าอะไรวะเกิดมาพึ่งเคยเจอ”
พี่คีย์หันมาดุฉันทำเอาฉันถึงกับต้องอมยิ้มออกมา ผู้ชายอะไรทำไมน่ารักจังเลยนะ
เราเดินกันมาสักพักก็ขึ้นมาบนรถเมล์ โชคดีที่วันนี้มีที่นั่งฉันจึงได้นั่งข้างพี่คีย์โดยที่ฉันนั่งริมหน้าต่างส่วนพี่เขานั่งริมทางเดิน
“ดีจังเลยนะคะที่มีที่นั่ง”
“ปกติไม่เคยนั่งรถเมล์รึไง?” คงจะเห็นท่าทางเงอะงะของฉันเลยอดถามขึ้นไม่ได้
“ปกติไม่แท็กซี่ก็แกร็บค่ะ แล้วพี่คีย์ล่ะคะ นั่งรถเมล์ทุกวันเลยเหรอ?”
“อือ อยู่หอถูกๆไกลมอนิดหน่อย ตื่นเช้าสักตีห้าหกโมงนั่งรถเมล์เข้ามาเรียน ถ้าตื่นสายเดี๋ยวจะไม่ทัน”
“เหนื่อยแย่เลยสิคะแบบนี้ พี่คีย์ขับรถเป็นมั้ย?”
“ก็เคยฝึกอยู่ แต่บ้านพี่จนไม่มีรถยนต์หรอกนะ”
พี่คีย์ตอบมาแบบนั้น โถ่ น่าสงสารจังเลยพ่อหนุ่ม
“แต่ก็ขับเป็นนี่ งั้นเอางี้มั้ย หนูไปออกรถมาสักคันให้พี่คีย์ขับพี่จะได้ไม่ต้องเหนื่อยตื่นเช้ามาโหนรถเมล์ทุกวัน”
“บ้า ผู้หญิงบ้าอะไรเกิดมาพึ่งเคยเจอ”
“ก็พี่บอกบ้านพี่จนแล้วมันลำบาก งั้นมาคบกันหนูสิคะ รับรองเลยว่าจะดูแลพี่คีย์เป็นอย่างดี”
ฉันยิ้มร่า พี่คีย์มองหน้าฉันแล้วนิ่งไป
“โทษที ถึงพี่จนแต่ก็มีศักดิ์ศรีนะน้อง ไม่เกาะผู้หญิงกินเว้ย”
ดูท่าพี่แกจะไม่ชอบใจสักเท่าไรที่ฉันพูดแบบนั้น อ้าว ไอ้เราก็หวังดีอยากให้พี่คีย์สุดที่รักสบายที่สุด
“ไม่เอาก็ไม่เอาสิคะ ไม่เห็นต้องมาขึ้นคำหยาบใส่น้องเลย”
ฉันทำหน้าเบะปากเหมือนจะร้องไห้เพราะโดนดุ
“โทษที นั่งนิ่งๆแล้วก็เงียบๆไปเลยไป รบกวนคนอื่นเขา”
พี่คีย์แม้จะเอ่ยขอโทษแต่ก็ยังดุไม่หยุด ได้ยินแบบนั้นฉันก็เลยนั่งนิ่งเงียบเพราะคนเริ่มขึ้นมาเยอะ กลัวจะเสียงดังในที่สาธารณะแล้วรบกวนคนอื่น
นั่งรถเมล์กันไปสักพักก็ถึงป้ายรถเมล์ข้างคอนโดฉัน พี่คีย์เองก็ลงมาส่งจนถึงหน้าคอนโด
“ขึ้นไปบนห้องหนูก่อนมั้ยคะ? แวะดื่มน้ำหน่อยมั้ย?”
เห็นว่าพี่เขาอุตส่าห์มีน้ำใจเลยอยากจะชวนขึ้นไปดื่มน้ำกินขนม
“ไม่ล่ะ เชิญเธอตามสบาย”
พี่คีย์พูดพร้อมกับหันหลัง คงเตรียมจะเดินกลับหอราคาถูกที่เขาบอกเอาไว้สินะ
“ยังไงก็ขอบคุณพี่คีย์มากนะคะที่มาส่งหนู ใจดีจังเลย”
ฉันยิ้มให้พี่คีย์อีกครั้ง
“อืม”
“พรุ่งนี้หนูจะทำข้าวกล่องไปให้เป็นการขอบคุณที่มาส่งในวันนี้ ยังไงพรุ่งนี้ต้องกินให้ได้เลยนะคะ ห้ามปฏิเสธแล้วนะรู้มั้ย”
ฉันตะโกนไล่หลังไปแบบนั้น ไม่รู้หรอกนะว่าพี่คีย์จะกินไม่กิน แต่ฉันตั้งใจว่าจะต้องทำให้พี่คีย์ทุกวันให้ได้! อุดมการณ์แน่วแน่มากยัยรินรดา ล็อคเป้าหมายแล้วต้องไปให้สุด! เฮ้!
ทางด้านของคีย์
[ คีย์ Part ]
ผมเดินออกมาทางป้ายรถเมล์สักพักก่อนที่ยัยรินรดารุ่นน้องจอมเอ๋อจะขึ้นไปบนห้องเรียบร้อยแล้ว ผมทิ้งระยะอยู่ประมาณเกือบจะครึ่งชั่วโมงก่อนจะหยิบคีย์การ์ดห้องขึ้นมาแล้วเดินไปยังคอนโดที่ส่งรินรดาขึ้นไป
ใช่แล้วล่ะ…ผมพักอยู่ที่เดียวกับริน
เป็นคอนโดที่พ่อซื้อเอาไว้ให้ตอนลงมาเรียนที่กรุงเทพ บ้านผมอยู่เชียงใหม่และทำธุรกิจอยู่ที่นั่น
“ยัยเอ๋อเอ๊ย”
เข้ามาภายในห้องก็ทิ้งตัวลงนอนกับที่นอน มันบังเอิญจริงๆนะที่ผมกับยัยเด็กนั่นอยู่คอนโดเดียวกัน แต่ผมไม่อยากจะเปิดเผยฐานะให้ใครได้รู้หรอก
ชีวิตแม่งมีแต่ผู้หญิงไม่จริงใจเข้ามา พอรู้ว่ากูรวยหน่อยแม่งอ้อนเอาๆ จะเอานั่นเอานี่ ไอ้ผมมันก็โง่ซื้อให้ทุกอย่าง สรุปพอคุณเธอไปเจอคนที่คิดว่ารวยกว่า เปย์หนักกว่า แม่งทิ้งเฉย
เป็นไอ้โง่ทีได้แต่ยืนมองผู้หญิงคนนั้นหนีไปกับผู้ชายอีกคน เหอะๆ บอกเลยว่ากู ไอ้คีย์ ณคีริณ อินทรารัตนารส จะไม่มีทางกลับไปโง่แบบเดิมซ้ำสอง!
ส่วนรถยนต์อะมี! รถยุโรปพ่อซื้อทิ้งไว้ให้ ผมก็จอดไว้ใต้คอนโดไม่ค่อยได้ใช้
ตลอดระยะเวลาที่เรียนมหาลัยมาสามปีแทบไม่เคยมีสาวไหนมาจีบ จะมาจีบก็เข้าหาแค่ไอ้พายุกับไอ้โอบ ไอ้โอบก็อบอุ่น รูปหล่อ พ่อรวย สาวเข้าหาเยอะ ส่วนไอ้พายุแม้จะหน้าโหดเป็นเฮดว๊ากแต่ก็รวยและเปย์หนัก ไม่แปลกที่สาวจะเยอะ
ส่วนผม ไอ้คีย์บ้านจนภาพลักษณ์ติดลบ สาวสวยๆฮ็อตๆแทบไม่มีเข้ามา มีเข้ามาหาบ้างแต่ก็หน้าตาทั่วไปและผมเองไม่ได้สนใจอยากจะคบใครในตอนนี้
อยากจะเรียนให้จบช่วยที่บ้านทำงานก่อน ความรักเอาไว้ทีหลังก็ยังได้
จะแปลกใจก็ตรงที่ยัยเด็กปีหนึ่งจอมเอ๋อเข้ามาจีบนี่แหละ
ทั้งสวย ทั้งน่ารัก บ้านก็ดูจะรวย มาสนใจอะไรผมวะ?
แถมยังบอกจะออกรถมาให้ผมขับอีก บ้า บ้าไปแล้ว!
เช้าวันต่อมา
ฉันตื่นมาด้วยจิตใจอันแสนจะแจ่มใส ทำข้าวกล่องไว้ให้พี่คีย์ด้วยแหละอิอิ เมนูวันนี้คือข้าวผัดกุ้งกับน่องไก่ทอด โชคดีที่ฉันชอบทำอาหารทานเองประจำวัตถุดิบจึงไม่เคยขาดเลย
ลุกขึ้นอาบน้ำแต่งตัวพร้อมถักเปียสองข้างแล้วก็รีบวิ่งลงมาพร้อมกับกระเป๋าผ้าสีชมพูสำหรับใส่ไอแพดไปเรียน ส่วนอีกมือก็ถือกระเป๋าใส่กล่องข้าวสองกล่อง
“อืม ถ้าไปแท็กซี่ก็น่าจะไม่ได้เจอพี่คีย์ ลองไปรอที่ป้ายรถเมล์ดีมั้ยนะ”
ป้ายรถเมล์อยู่ไม่ไกลจากคอนโดมากฉันเลยตัดสินใจเดินไปรอที่ป้ายรถเมล์ และก็ไม่ผิดคาด
โชคดีชะมัดที่วันนี้พี่คีย์น่าจะเรียนเช้าเลยมาที่ป้ายรถเมล์แห่งนี้
“พี่คีย์! ^o^”
ตะโกนเรียกพี่เขาเสียงใสแล้ววิ่งยิ้มร่าเข้าไปหา พี่คีย์เองก็เหมือนจะตกใจที่เจอฉัน
“ริน มาได้ไงเนี่ย? ไหนว่านั่งแท็กซี่กับแกร็ป”
ฉันรีบเข้าไปยืนประชิดตัวพี่คีย์ในทันที
“ก็คิดว่าถ้ามารอที่ป้ายรถเมล์อาจจะเจอพี่”
“แล้วถ้าพี่ไปรอป้ายอื่น ไม่ใช่ป้ายนี้ล่ะ?”
“ก็ไม่รู้สิ….ก็คงอดเจอ” ฉันตอบเสียงเจื่อน นั่นสิเนอะ เดินมาตั้งไกลน่องจะปูดเพื่อมาป้ายรถเมล์ ถ้าไม่เจอพี่คีย์คงเสียเที่ยวแย่เลย
“ทำอะไรไม่ค่อยคิดเลยนะ…ตั้งแต่เรื่องข้ามถนนวันนั้นแล้ว”
พี่คีย์ดุทำเอาฉันถึงกับหน้าหงอ ผู้ชายคนนี้ทำไมชอบดุกันนักนะ
“หนูทำกล่องข้าวมาให้พี่ค่ะ ยังไงก็ต้องรับไว้นะ”
ฉันยัดเยียดกล่องข้าวที่ถือมาในวันนี้ให้พี่คีย์ จะไม่ยอมให้เขาปฏิเสธเป็นครั้งที่สอง
“มีใครเคยบอกปะว่าเธอมันดื้อมาก?”
ถามน้ำเสียงดุแต่ก็ยื่นมือมารับกล่องข้าวอย่างง่ายดาย แบบนี้แสดงว่าเริ่มเปิดใจแล้วใช่มั้ยคะพี่คีย์ขา?
“ก็มีบ้างค่ะ พ่อแม่ก็ชอบบ่น แต่หนูไม่ฟังหรอก”
“เด็กเอาแต่ใจ ดื้อ”
“อิอิ งั้นวันนี้ขอนั่งรถเมล์ไปเรียนกับพี่นะคะ”
“อือ แค่วันนี้วันเดียว”
“ทำไมล่ะคะ? ทุกวันไม่ได้เหรอ?”
“ป้ายรถเมล์ไม่ได้ใกล้คอนโดขนาดนั้น จะเดินให้น่องปูดมารอตรงนี้ทำไม นั่งแท็กซี่ไปแบบที่เธอเคยทำสิ”
มันก็จริงอย่างว่าแหละ เดินทีก็น่องปูด แต่ก็อยากเจอหน้าพี่คีย์ก่อนไปเรียนจะได้มีกำลังใจนี่นา
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ถ้าจะต้องเดินน่องปูดแต่ได้เจอหน้าพี่คีย์ก่อนไปเรียนก็คุ้มแล้ว”
“เหอะ พูดแบบนี้กับทุกคนรึเปล่า?”
ใบหน้าหล่อเอียงคอสงสัยแล้วถามออกมา คงจะคิดว่าฉันไล่จีบคนอื่นไปทั่วงั้นสินะ บอกเลยว่าไม่จ้ะ!
“ไม่ค่ะ พูดกับพี่คนเดียว”
“หึๆ โอเค จะยอมให้นั่งรถเมล์ไปด้วยก็ได้”
“เริ่มใจอ่อนแล้วใช่มั้ยคะ?”
“ไม่อ่ะ”
ตอบอย่างเย็นชา
บรื้นน
รถเมล์มาจอดที่ป้าย พี่คีย์รีบเดินขึ้นไปโดยไม่รอฉัน ฉันเองก็รีบสาวเท้าเดินตามให้ทันแต่แล้วก็…
ปึ้กก
“ว้าย!”
ล้มหน้าแหกไปเลยสิคะ ฉันยังทรงตัวได้ไม่เก่งนักเพราะไม่ค่อยได้ขึ้นรถเมล์ ฮืออ อายจัง โชคดีที่กล่องข้าวของฉันอีกกล่องอยู่ในกระเป๋าสำหรับใส่อาหารโดยเฉพาะจึงไม่หกกระจายออกมา
“ซุ่มซ่ามจริง รีบลุกขึ้นเร็ว”
พี่คีย์ที่เดินนำไปนั่งรีบเดินกลับมาแล้วยื่นมือให้ฉันจับยันตัวลุกขึ้น ฉันก้มหน้าแล้วรีบเกาะชายเสื้อช็อปเดินตามพี่คีย์ไปนั่งริมหน้าต่าง ส่วนพี่คีย์นั่งริมทางเดิน
อายจังเลยฮืออ คนทั้งรถเมล์มองมาที่ฉันเป็นตาเดียวกัน
“อายเหรอ?”
พี่คีย์ถาม ฉันพยักหน้างึกงัก
“คราวหน้าก็เดินดูทางให้มันดี ขึ้นมาบนรถแล้วต้องทรงตัวให้แข็ง”
“หนูให้พ่อออกรถให้ดีกว่า เดี๋ยวให้พี่คีย์เอาไว้ขับไปรับไปส่ง”
“ไม่เอาเว้ย!”
“ล้อเล่นค่า แหะๆ”
แหม ถ้าลูกสาวอ้อนขอรถมีเหรอพ่อฉันจะไม่ให้ แต่พี่คีย์เองก็ดูจะไม่ได้อยากขับรถงั้นไม่เอาก็ได้
แม้จะเจอเรื่องหน้าอับอายบนรถเมล์ แม้จะร้อนจากอากาศและมลภาวะภายนอก แต่ก็ต้องยอมรับว่าอีกใจนึงฉันมีความสุขมากๆที่ได้นั่งไปเรียนพร้อมกับพี่คีย์แบบนี้
อยากจะมีเวลาอยู่ใกล้ชิดกับพี่เขาไปนานๆจังเลย…