Chapter 2 มุกไม่ฮาพาผู้ชายเครียด
Chapter 2
มุกไม่ฮาพาผู้ชายเครียด
@คอนโดพี่พายุ
“ไอ้ยุ มึงพาเด็กปีหนึ่งมากินเหล้าที่ห้องมันจะไม่มีปัญหาแน่นะ?”
“จะมีปัญหาอะไรล่ะวะ ไม่ได้เข้าร้านเหล้าสักหน่อย”
“น้องมันเพิ่งจะอายุสิบแปดสิบเก้า”
“อย่ามาทำหัวโบราณเลยไอ้คีย์ ทีมึงไปฟาดเด็กสิบแปดสิบเก้าบนเตียงกูยังไม่พูดอะไร
“ไอ้สัดนี่!”
พี่พายุกับพี่ครามกระซิบกระซาบอะไรกันซักอย่างฉันเองก็ไม่ได้ยิน แต่ที่รู้ๆตอนนี้ฉันมาอยู่ในห้องผู้ชายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“เป็นอะไรไปริน รู้จักพี่พายุกับพี่ครามแล้วเหรอ?”
คิมถามฉันขึ้นมาเมื่อเห็นว่าฉันแอบลอบมองไปทางพี่พายุกับพี่คีย์
“เปล่าหรอก”
ฉันตอบไปแบบนั้นทั้งที่เคยเจอพี่คีย์มาแล้วครั้งหนึ่ง พวกเราทั้งสี่คนเข้าไปทักทายรุ่นพี่
“หวัดดีพี่คีย์พี่พายุ นี่เพื่อนผมนะชื่อริน”
แทนแนะนำ พี่พายุหน้าโหดหันมามองข้างฉันก่อนจะกระตุกยิ้มขึ้นมุมปาก
“น้องคนนี้ก็อยู่โยธา?”
“ใช่ค่ะ หนูอยู่โยธาปีหนึ่ง”
ยิ้มตอบไปแบบนั้น ส่วนพี่คีย์ก็มองฉันไม่วางตา ฉันมั่นใจว่าพี่เขาต้องจำฉันได้อย่างแน่นอน (มั่นหน้าไว้ก่อน)
“ไม่เคยเห็นหน้าเลยอ่ะ นี่ไม่เคยเข้าร่วมกิจกรรมเลยงั้นดิ?”
พี่พายุทำเสียงดุแต่แววตาดูเหมือนจะพูดเล่นนะ ฉันเองก็ไม่มั่นใจเพราะพี่แกก็เป็นเฮดว๊ากซะด้วยจะโหดก็ไม่แปลก
“เอ่อ ค่ะ พอดีพ่อแม่หนูไม่ให้มาเข้าร่วมกิจกรรมรับน้องพี่ก็เลยอาจจะไม่คุ้นหน้า”
“มึงจะไปเค้นน้องมันทำไมเยอะแยะ ไม่ได้เข้ากิจกรรมคณะอยู่สักหน่อย”
พี่คีย์พูดขึ้นเสียงเรียบเมื่อเห็นว่าพี่พายุเริ่มเค้นฉัน
“เออโทษที ลืมไปว่าตอนนี้ไม่ได้เป็นเฮดว๊ากฮ่าๆ”
พี่พายุตอบขำๆ ลักษณะท่าทางของทั้งสองค่อนข้างต่างจากเมื่อตอนเย็นใช้ได้เลยนะ
“พี่ชื่อพายุนะ ส่วนเพื่อนสนิทพี่ชื่อไอ้คีย์”
“สวัสดีค่ะ พี่พายุ พี่คีย์”
ฉันเอ่ยออกไปแล้วยิ้มทักทายรุ่นพี่ทั้งสองคนโดยที่โปรยสายตาใส่พี่คีย์มากที่สุดเพราะรู้สึกถูกตาต้องใจยังไงบอกไม่ถูก
พี่คีย์เองก็มองหน้าฉัน สายตาคู่คมแสนจะหล่อเหลาแต่กลับเดาไม่ได้เลยว่าในใจเขานั้นคิดอะไรอยู่
พวกเราพากันมานั่งที่โซฟาในโซนห้องรับแขกของคอนโดพี่พายุ นั่งดื่มกันไปสักพักเพื่อนๆฉันก็เริ่มเมา พี่พายุก็เริ่มจะมึนส์มีเพียงพี่คีย์ที่ไม่ได้ดื่มในวันนี้
ฉันเลือกชอบคนไม่ผิดสินะเนี่ย น่ารักชะมัดอยู่ในวงเหล้าแต่ไม่กินเหล้า แตกต่างจากไอ้เจ้าเพื่อนสามตัวของฉันจริงๆ ส่วนพี่พายุเฮดว๊ากที่แสนจะน่านับถือตอนนี้ก็เละเหมือนหมา
ส่วนตัวฉันนั้นไม่ได้ดื่มเลยมีเพียงน้ำอัดลมเท่านั้นที่อยู่ในแก้ว ตลอดระยะเวลาการดื่มฉันก็เอาแต่มองหน้าพี่คีย์สุดหล่อหวานใจยัยรินดา (สถาปนาให้เขามาเป็นหวานใจ แต่เขายังไม่แลมองฮืออ)
“ฮ้าวว เริ่มง่วงแล้วอ่ะ”
พี่พายุยกมือขึ้นปิดปากหาวแล้วบิดขี้เกียจพร้อมกับเสียงกระดูกที่ดังลั่น
กร๊อบบ
“หูย พี่ยุทำไมกระดูกมันลั่นขนาดนั้น คนแก่ก็เงี้ย”
ฟิล์มทักขึ้นมาเมื่อได้ยินเสียงพี่พายุบิดขี้เกียจ
“เฮ้ยๆ ให้มันน้อยๆหน่อย กูก็แก่กว่าแค่สองปีแหละวะ”
ที่พายุตามกลับมาแบบนั้นส่วนฉันก็ได้แต่นั่งอมยิ้มเพราะขำอยู่ในใจ
“นี่มันก็ดึกแล้ว ให้น้องกลับได้แล้วมั้งน้องผู้หญิงก็อยู่ด้วย”
พี่คีย์ดูเหมือนจะเป็นห่วงฉันนะถึงพูดขึ้นมาแบบนั้น
“ไม่เป็นไรค่ะ หนูอยู่ได้”
รีบตอบกลับแบบนั้นเพราะอยากจะอยู่ให้ใกล้ชิดกับพี่เขามากกว่านี้ อยากยืนมองหน้าหล่อๆนี้ไปนานๆ
แต่พอตอบไปแบบนั้นพี่คีย์กลับส่งสายตาร้ายกาจมาให้ฉัน คงจะโกรธที่ฉันไม่ฟังหรือเปล่านะ?
“ไม่ต้องห่วงพี่คีย์ ไม่มีใครสักหน่อยมีแค่พวกเรา”
ฟิล์มตอบไปแบบนั้น แต่สีหน้าพี่คีย์ก็ยังดูไม่ค่อยพอใจอยู่ดี
“มันดูไม่ดีพาผู้หญิงมากินเหล้าดึกๆดื่นๆ แถมเป็นห้องผู้ชายอีก”
“มึงนี่มานหัวโบราณเจงๆไอ้คีย์~ พวกกูกำลางสนุกกานอยู่ มีมึงไม่มาวคนเดียว~ งั้นก็ไปส่งน้องมานเด้!”
พี่พายุตอบมาแบบนั้น คำพูดคำจาตอนนี้รวนไปหมดแล้ว ลิ้นพันกันจนแทบจะฟังไม่รู้เรื่อง
“นั่นเด้ะเพ่! พวกผมน่าจะกลับห้องไม่หวาย สงสัยต้องนอนห้องพี่พายู้วว”
คนที่ตอบขึ้นมาคือคิมซึ่งดูเหมือนจะเมามากที่สุด และที่สำคัญเราเดินทางมาโดยใช้รถยนต์ของคิมดูท่าคงจะกลับไม่ได้แล้วล่ะแบบนี้
“อะไรพวกมึงวะเนี่ย แดกกันก็เมาเละดูไม่ได้เลย”
“งั้นพี่คีย์ก็ช่วยไปส่งหนูหน่อยได้ไหมคะ”
“...”
พูดประโยคนั้นบอกมาพี่คีย์ก็ปรายตามามองหน้าฉันที่นั่งอยู่เยื้องๆกับพี่เขา
“ถ้าพี่ไม่ไปส่งก็ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวหนูนอนกับพวกเพื่อนๆที่นี่ก็ได้”
ฉันยิ้มยิงฟันตอบ อยากจะมีเวลาอยู่กับพี่เขาบนรถสักแป๊บนึงก็ยังดี จะได้มีเวลาสวีทหวานแหววกันบนรถ ถนนมืดๆกับไฟสีส้มสลัว วิวกรุงเทพในยามค่ำคืนกับแอร์ในรถเย็นฉ่ำ อ๊ายๆ คิดอะไรอีกแล้วเนี่ยยัยรินเอ๊ย
เวลาต่อ
21.00 นาฬิกา
บรื้นนน
“ว๊าย!”
โอเคค่ะ ตอนนี้ฉันอยู่บนรถกับพี่คีย์เป็นที่เรียบร้อยแล้วแต่มันไม่ใช่อย่างที่คิด ฮืออ
“ยืนดีๆ”
น้ำเสียงเรียบเอ่ยขึ้นมา ตอนนี้พี่คีย์พาฉันขึ้นมาบนรถเมล์ ใช่ค่ะรถเมล์....ไม่ได้กลับรถยนต์ส่วนตัวอย่างที่คิด
“ขะ ขอโทษค่ะ”
ฉันตอบไปแบบนั้น ทั้งที่ตอนนี้คนก็ไม่ควรเยอะแล้วแต่คงเพราะว่าวันนี้เป็นวันพิเศษอะไรซักอย่างคนเลยเยอะเป็นพิเศษทำให้ฉันกับพี่คีย์ต้องยืนห้อยต้องแต่งกันไปมา
“ขอเกาะแขนได้มั้ยคะ...หนูกลัวตก”
ฉันไม่ได้เอามือจับที่ห้อยบนรถเมล์แต่ว่าไปควงแขนพี่คีย์ที่กำลังห้อยแขนตั้งฉากอยู่แทน
ด้วยความที่ฉันก็ไม่เคยนั่งรถเมย์อะนะ ปกติพ่อแม่จะรับส่งตลอดตอนเรียนมอปลาย ขึ้นมหาลัยเวลาไปเรียนฉันก็เรียกแกร๊ปไม่ก็นั่งแท็กซี่เอา
“แล้วแต่”
ตอบมาแบบนั้นแต่ยังไงตอนนี้ฉันก็เกาะแขนพี่คีย์ไว้แล้วล่ะ
ถึงแม้จะลำบากอย่างที่ไม่เคยเป็น แต่ใจดวงน้อยมันก็เต้นตึกตัก
บ้าจริง นี่ฉันคลั่งรักพี่เขาขนาดขนาดนี้เชียวเหรอ? ฉันแอบลอบมองพี่คีย์โดยเงยหน้าขึ้นไปมองคนที่สูงร้อยแปดสิบเซนติเมตร เขาทำหน้านิ่งและมองตรงไปข้างหน้า
บรื๊นน เอี๊ยดดด
“อร๊าย!”
เพราะรถเมล์ที่เบรคกระทันหันทำให้ตัวฉันเกือบจะเสียหลักล้มไปด้านหน้า แต่โชคดีที่พี่คีย์ปล่อยมือจากห่วงที่แขวนเอาไว้จับแล้วมาประคองตัวฉันเอาไว้ไม่ให้ล้ม
“ยืนดีๆสิ”
เขาทำเสียงดุ ฉันรีบยิ้มเจื่อนแล้วยืนขึ้นทรงตัวเองในทันที
“แหะๆ ขอโทษค่ะ พอดีเป็นการขึ้นรถเมล์ครั้งแรกของหนูเลย”
ฉันยืนเกาะแขนพี่คีย์ไปอีกสักพักก็ถึงป้ายที่ฉันควรจะต้องลุก แน่นอนว่าพี่เขาเป็นคนบอกว่าถ้าฉันอยู่คอนโดตรงนี้ก็ต้องลงที่ป้ายนี้
“พี่ไม่ต้องลงมาส่งหนูแบบนี้ก็ได้นะคะ เดี๋ยวหนูเดินเข้าไปที่คอนโดเองก็ได้”
คอนโดฉันเองก็อยู่ติดหน้าถนนแต่ว่ามันจะต้องเดินย้อนกลับไปนิดหน่อย
“ไม่เป็นไร มันมืดแล้วเดี๋ยวเดินไปส่ง”
เขาตอบมาแบบนั้นก่อนจะเดินนำหน้าฉันไป ส่วนฉันก็ได้แต่ลอบอมยิ้มในใจ
“เอาล่ะรินรดา! ชอบไปแล้วก็ต้องจีบให้มันสุด”
ถึงแม้พี่เขาจะไม่ได้รวย ไม่ได้มีรถยนต์ต้องนั่งรถเมล์ไปเรียนทุกวัน แถมหน้ายังโหดเหมือนอยู่ในโหมดหมากลัวแต่ทำไงได้ก็มันคลั่งรักไปแล้ววว
“ทรงโจรแต่โดนใจจริง หุๆ”
ฉันพึมพำกับตัวเองในใจพร้อมกับมองแผ่นหลังกำยำที่เดินอยู่ตรงหน้าไปด้วย แม้ผิวจะขาวเผือกแต่หน้าพี่คีย์โหดมากหากเผลอสบตากับพวกนักเลงคงจะโดนรุมกระทืบ
เพราะหน้าพี่แกนอกจากจะนิ่งแล้วยังกวนตีนอีกต่างหาก
“พึมพำอะไร?”
พี่คีย์หันมามองฉันที่ยืนหัวเราะคิกคักอยู่คนเดียว
“ปละ เปล่าค่ะ”
เราสองคนเดิมต่อกันมาเงียบๆ เดินมาสักพักก็ส่งฉันถึงหน้าคอนโด
“รีบเข้าไปสิดึกแล้ว”
“พี่คีย์คะ..”
ฉันเรียกชื่อพี่เขาเสียงหวานพร้อมกับทำสายตาหยาดเยิ้ม เอาจริงก็ไม่เคยทำแบบนี้กับใครเลยนะเพราะตอนมอปลายก็เรียนหญิงล้วน ไม่เคยมีแฟนเพราะพ่อแม่เคร่งมาก
ตอนนี้ออกมาอยู่เองเป็นครั้งแรกเพราะมาเรียนมหาวิทยาลัย เจอพี่คีย์หน้าหล่อเข้าไปถึงกับใจสั่น
“อะไร”
สายตาเขาหันมองฉันพร้อมกับถามด้วยน้ำเสียงเหมือนหาเรื่อง สมแล้วที่เป็นพี่ว๊าก
“หนูขอจีบพี่ได้ไหมคะ?”
ฉันถามไปตรงตรงพร้อมกับยืนบิดตัวไปด้วยสีหน้าแดงระเรื่อ
“ฮะ?”
พี่คีย์ขมวดคิ้วมุ่นแล้วทำหน้านิ่งไปเลย ฉันเองก็ไม่เคยจีบใครมาก่อนก็ไม่รู้หรอกนะว่าต้องจีบยังไงก็เลยถามตรงๆซะเลย
“ขอจีบได้ไหมคะพี่ว๊ากวิศวะ?”
ถามออกไปตรงๆอีกครั้งเมื่อพี่คีย์ดูเหมือนจะฟังไม่ถนัด
“หึ เป็นเด็กเป็นเล็กตั้งใจเรียนก่อนดีกว่ามั้ย”
กระตุกยิ้มมุมมุมปากแล้วบอกด้วยน้ำเสียงเย็นชา อ๋าา มันกร้าวใจซะจริง
“เรียนส่วนเรียนรักส่วนรักสิคะ”
“โทษที พี่มันรักไม่ยุ่งมุ่งแต่เรียน”
ปึ้กก เหมือนโดนหนามกุหลาบแทงปึกเข้าที่อก นี่กำลังปฏิเสธฉันอยู่หรือเปล่านะ
“ไม่เป็นไรค่ะ ขอแค่หนูได้ตามพี่อยู่ห่างๆก็พอ”
ฉันยิ้มสู้ตอบไปแบบนั้น มันถูกใจไปแล้วจะให้ถอยนี่ไม่เอาหรอกนะ
“ดื้อด้าน เข้าไปนอนได้แล้วไป”
“อยากยืนคุยกับพี่อีกแป๊บค่อยเข้า”
ตอบแบบนั้นพร้อมกับยิ้มตาหยี
“ดึกแล้ว”
“ดึกแล้วไง? ยืนคุยกันซักแป๊บไม่เป็นไรหรอกค่ะ”
“เข้าไปนอนได้แล้วมันดึกมากแล้ว”
พี่คีย์ข่มเสียงต่ำอย่างดุๆอีกครั้งทำให้ฉันต้องก้มหน้างุดและพยักหน้ารับ
“ก็ได้ค่ะ...”
“...”
“ชื่อพี่คีย์แปลว่ากุญแจใช่ไหมคะ?”
“อืม ทำไม?”
“ถ้าพี่คีย์เป็นกุญแจ งั้นหนูจะเป็นกลอนประตู”
พูดพร้อมกับบิดตัวม้วนต้วนอีกรอบด้วยความเขินอาย มันจะเป็นมุกจีบผู้ชายได้ไหมนะแบบนี้
“ฮะ?”
พี่คีย์นิ่งไป ทำไมอ่ะ มุกฉันมันไม่ฮาเหรอ? ไม่เห็นพี่เค้าจะเขินตัวม้วนแบบฉันเลยอ่ะ
“แหะๆ งั้นหนูขอตัวขึ้นไปนอนก่อนนะคะไว้เจอกันพรุ่งนี้นะ”
น่าอายชะมัด มุกไม่หาพาผู้ชายเครียด ขึ้นห้องไปนอนดีกว่าเรา
“อือ ขึ้นไปดูดขวดนมนอนเลยไป”
พี่คีย์พูดไล่หลังส่วนฉันก็หันไปยิ้มให้พี่แกเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่จะเดินขึ้นห้องไป
ไม่เป็นไร
วันนี้จีบไม่ติด...พรุ่งนี้ก็จีบใหม่
เดี๋ยวจะสรรหามุกตลกๆมาจีบพี่ทุกวันเลยนะคะพี่คีย์ขา...
ฉันขึ้นมาอาบน้ำเสร็จก็ล้มตัวลงนอนกับเตียงด้วยความเหนื่อยอ่อน
“หวานใจของหนูเป็นพี่ว๊ากวิศวะ แล้วแบบนี้จะสรรหามุกไหนไปจีบพี่ดีละคะเนี่ย”
อมยิ้มกับตัวเองเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่จะหลับไปโดยที่ในใจก็เอาแต่คิดว่าพรุ่งนี้จะจีบพี่คีย์ยังไงดี...