EP 4 : อยากมีเพื่อนร่วมบ้าน...ชั่วคราว
ปัง!
“...” ฉันนั่งตัวแข็งหลังจากโดนจับยัดเข้ามาในรถหรู ยิ่งคนที่เพิ่งยัดฉันเข้ามาเดินอ้อมแล้วขึ้นรถบ้างฉันก็ยิ่งตัวแข็ง เกร็งไปหมด เกร็งจนฉี่แทบราดขึ้นมาดื้อ ๆ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่มีวี่แววว่าจะปวดฉี่เลย
นี่แกกำลังเจออะไรเหรอปิ๊งรัก T^T
เขาขึ้นมานั่งบนรถไม่พูดไม่จาอะไรนอกจากขับรถออกมาเลย
...โดนอุ้ม
ฉันกำลังโดนอุ้ม และแน่นอนฉันต้องโดนพาตัวไปทำมิดีมิร้ายแน่ ๆ
ฉันจะโดนฆ่าข่มขืนไหม แล้วจะโดนแค่ข่มขืนรึเปล่าหรือถึงขั้นโดนรุมโทรม...
“จะพาไปดูที่ทำงานของเธอ ไม่ต้องคิดอะไรไปไกลฉันไม่เอาเธอไปฆ่าข่มขืนหรอก” ขับรถออกมาได้ห้านาทีเขาก็พูดขึ้นเหมือนรู้ทันความคิด
“...หนูบอกว่าไม่ทำไง”
“เธอรับเงินไปแล้ว”
“แต่หนูไม่ได้ตกลงตั้งแต่แรกนะคะ”
“ให้เลขบัญชีเท่ากับตกลง”
OoO!
เขาไม่ฟังเลยใช่ไหมเนี่ย!
เวรของกรรม กรรมของเวร เวรของกู! T^T
คิดอะไรอยู่ทำไมฉันต้องไปอยู่เป็นเพื่อนผู้ชยแปลกหน้าด้วย เขาคิดอะไรอยู่และใช้อะไรคิดเนี่ย!
“พี่คะคือหนูว่าเราน่าจะคุยกันดี ๆ นะ หนูดูจากหน้าตาพี่แล้วพี่น่าจะมีความรู้มีการศึกษาที่สูงม๊าก~ หนูว่าพี่ต้องรู้ว่าการรับงานแบบที่พี่จ้างมันไม่ใช่เรื่องที่ตัดสินใจง่ายสำหรับทุกคน ยิ่งกับคนไม่รู้จักก็ยิ่งยากหรนเป็นผู้หญิงด้วยมันก็ยิ่งไม่มีทางที่จะรับงานนี้ได้เลยนะคะ”
“...”
“พี่คะ พี่ฟังหนูรึเปล่า”
“...”
“...” ฉันพูดไม่ออกเลย ได้แต่นั่งมองเสี้ยวหน้าด้านข้างของเขา ในใจก็กลัวไปหมดแต่ขับมาได้ไม่นานเขาก็เลี้ยวเข้าซอยหนึ่งที่เห็นป้ายหน้าซอยปุ๊บใคร ๆ ก็รู้ว่าซอยนี้คือย่านคนรวยที่ไม่ใช่แค่รวยแต่ต้อง รวย รวย ร้วย รวย รวย แบบองค์เทพสามตามาดลใจ -_-
“พี่คะ หนูกลัวนะ ปล่อยหนูไปเถอะนะคะ” ขับเข้าซอยฉันก็ยิ่งกลัว ไม่เคยเข้ามาในซอยนี้เพราะไม่มีเหตุผลที่ต้องมาพอเข้าปุ๊บก็ โอ้โห~ รั้วแต่ละรั้วสูงท่วมหัว ไม่มีร้านค้าริมทาง ไม่มีรถเข็น ไม่มีวินมอเตอร์ไซต์ ทุกอย่างดูรวยไปหมดแม้แต่ฟุตบาทข้างถนนยังดูแตกต่าง สภาพแบบนี้ถ้าเขาเลี้ยวเข้าไปในบ้านหลังใดหลังหนึ่งที่ทุกหลังรั้วสูงจนมองไม่เห็นข้างในแล้วฆ่าหมกศพฉันขึ้นมา แม้แต่เศษซากเส้นผมก็คงปลิวออกมาข้างนอกไม่ได้แน่ ๆ
T^T
“หน้าฉันดูเป็นคนเลวมากรึไง” เสียงเขาราบเรียบมากก่อนที่รถจะตีไฟเลี้ยวไปที่หน้าประตูรั้วที่ดูอลังกาลและทันสมัยมาก ๆ ก่อนที่ประตูรั้วจะเปิดออกเอง
“หน้าฉันดูเป็นคนเลวมากรึไง”
หน้าพี่ดูไม่เป็นคนเลวหรอกค่ะ หน้าพี่ดูเป็นคนหล่อต่างหากล่ะ ^_^!
เอาแล้วปิ๊งรัก มัวแต่สนใจตอบคำถามของเขาจนสุดท้ายรถเขาก็ขับเข้ามาจอดในบ้านที่หลังใหญ่มาก~ ไม่ได้ใหญ่หรูหราอลังกาลแบบคฤหาสน์แต่ใหญ่มาก ใหญ่ โมเดิร์นทันสมัยสุด ๆ ไปเลย
“พี่คะ...” เขาขับรถเข้าจอดที่โรงจอดขาฉันก็สั่น หน้าซีด คอแห้งผากไปเลย ส่วนเขาพอจอดรถเสร็จก็หันมามองหน้าฉัน
“ฉันจะพูดเป็นครั้งสุดท้ายว่าฉันไม่คิดจะทำอะไรไม่ดีกับเธอ และฟังฉันจะพูดยาว ๆ เป็นครั้งสุดท้ายเหมือนกัน ช่วงนี้ฉันเบื่อ ๆ แค่อยากให้มีคนมาอยู่ในบ้านเป็นเพื่อนเฉย ๆ แค่สามเดือนก็พอฉันจ่ายให้เธอเดือนละแสน ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้นแค่กินข้าวเป็นเพื่อนเวลาที่ฉันอยู่บ้าน วันไหนฉันดูบอลถ้าเธอมีเวลาก็มาดูเป็นเพื่อนบ้างก็พอ”
“...จริง?” ฉันงง อึ้ง ไม่อยากเชื่อว่าจะมีคนจ้างคนมาอยู่เป็นเพื่อนแบบเขาจริง ๆ งานสบาย ๆ อยู่บ้านหรูหราแถมเงินเดือนยังเป็นแสน
“อื้ม”
“แล้วทำไมต้องเป็นหนู”
“ไม่ใช่เพราะเธอสวยแน่นอน”
“เอ้า!” แต่ฉันก็ว่าฉันสวยนะ หรือฉันไม่สวย? แต่ใคร ๆ ก็ชมว่าสวยนะหรือเขาโกหกฉันกันทั้งหมด?
“ฉันกำลังเบื่อที่กลับมาบ้านแล้วมันเงียบอยู่พอดี อีกอย่างเธอช่วยฉันไว้ ถือว่าตอบแทนที่เธอมีน้ำใจ”
“พี่คะหนูช่วยไม่ได้หวังอะไรตอบแทน ถ้าอยากตอบแทนพี่เลี้ยงชาไข่มุกหนูสักแก้วก็ได้ค่ะ”
“หึ ๆๆ เธอนี่ตลกดีนะ อยู่ที่นี่แหละฉันไม่ทำอะไรจริง ๆ”
“...” มันจะจริงเหรอคะ?
“เข้าไปดูที่ทำงานของเธอได้แล้ว” เขาบอกแค่นี้แล้วเปิดประตูรถลงไปเลย ไม่รอด้วยนะคะ เดินเข้าบ้านไปแบบไม่สนใจแขกอย่างฉันสักนิด แต่เอ๊ะ! ฉันใช่แขกรึเปล่านะ? เหมือนจะไม่ใช่แน่เลย ^_^!
เอาไง?
เอาไง??
เอาไง???
เอายังไงต่อดีปิ๊งรัก ลงรถแล้วเดินกลับเองไหม? ฉันหันไปมองที่ประตูรั้วที่ห่างออกไปจากตัวบ้านเกือบร้อยเมตร ประตูรั้วขนาดใหญ่ปิดไปแล้ว ประตูเล็ก ๆ ก็ไม่น่าจะเปิดได้เพราะเห็นเป็นแบบดิจิตอล
“...จะตายไหมปิ๊ง” T^T
ฉันไม่มีทางเลือกถูกต้องใช่ไหมคะ พอไม่มีทางเลือกก็เลยส่งโลเคชั่นหาเพื่อนรักอย่างพรีรตาพร้อมกับบอกว่า เราอยู่ที่นี่นะ จากนั้นก็เรียกพลังลมปราณเข้าร่างแล้วลงจากรถเดินไปที่ตัวบ้าน
“สวัสดีค่ะ”
“ว้าย! เอ่อ...คะ? สะ สวัสดีค่ะ” ก้าวขาผ่านธรณีประตูได้แค่ขาซ้ายก็มีเสียงผู้หญิงดังขึ้น เขาบอกว่าจ้างมาอยู่เป็นเพื่อนก็ต้องคิดว่าเขาอยู่คนเดียวอยู่แล้วไงแต่พอมีเสียงผู้หญิงดังทักทายฉันก็ตกใจเพราะคิดว่าเป็นผีบ้านผีเรือนแต่พอเห็นหน้าก็รู้ว่าไม่ใช่
“นายสั่งให้พาคุณไปดูห้องค่ะ เชิญค่ะ”
“เอ่อ...ค่ะ” บอกพี่คนนั้นว่าไม่รับงานนี้เขายังไม่ฟังเลยแล้วถ้าบอกคนอื่นคิดว่าคนอื่นเขาจะฟังไหม ก็คงไม่ฟังเหมือนกัน ฟังจากคำพูดของผู้หญิงคนนี้น่าจะเป็นลูกน้องแต่ก็ไม่น่าจะเป็นแม่บ้านนะแต่งตัวดีทันสมัยมาก
ผู้หญิงคนนี้หน้านิ่งมาก พูดจบก็เดินนำพาฉันเดินไปที่บันไดแล้วพาขึ้นชั้นบน เดินไปพอประมาณเพราะบ้านหลังใหญ่ก็ถึงห้องหนึ่ง เธอเปิดประตูเข้าไปฉันก็ไปหยุดที่หน้าประตูแล้วชะเง้อคอมองสำรวจเผื่อมีผู้ชายประมาณสิบเก้าคนแอบซุ่มอยู่ในห้องเพื่อรอเผด็จศึกฉันไงคะ ก็แน่นะเผื่อที่นี่เป็นโปรดักชั่นหนังโป๊ที่ถ่ายแนวล่อลวงหญิงสาวมารุมโทรม T^T
“เข้ามาสิคะฉันจะได้แนะนำห้องให้” เธอเห็นฉันไม่เดินตามก็หันมามองด้วยสีหน้านิ่งเพราะกับบอกด้วยน้ำเสียงเป็นทางการแต่แอบดุทำฉันกลัวเหมือนกันนะ
“เอ่อ...ค่ะ” เอ่อ...ค่ะ เอ่อ...ค่ะ เอ่อ...ค่ะ ในสถานการณ์ตึงเครียดที่ไม่รู้ว่าชีวิตจะอยู่รอดปลอดภัยในสถานที่ใหม่และคนแปลกหน้าก็คงพูดเป็นอยู่แค่นี้แหละปิ๊งรักเอ๊ย~ T^T
ฉันตามเข้าไปพี่ผู้หญิงเขาก็พาเดินดูห้องซึ่งห้องนี้ก็ไม่มีอะไรมากหรอกค่ะมีแค่ความ สวย สวย สวย และส๊วย~
“ชอบห้องรึเปล่า?”
ขวับ!
“เอ่อ พี่คะ คือ... / ขอเวลาสักครู่ครับแอริน” กำลังจะพูดกับพี่เขาที่มาตอนไหนก็ไม่รู้นั่นแหละแต่เขาพูดแทรกก่อนซึ่งแน่นอนว่าไม่ได้พูดกับฉัน
“ค่ะนาย” พี่ผู้หญิงที่อยู่ข้างหลังฉันเอ่ยสั้น ๆ แล้วเดินผ่านฉันออกไปและสวนกับเขาที่เดินเข้ามา
“พี่จะจ้างหนูจริง ๆ เหรอคะ?” คือเท่าที่ดูแล้วเหมือนจะจ้างตามที่บอกจริง ๆ เลยค่ะจากตอนแรกที่กลัวพอเข้ามาแต่ไม่โดนอะไรที่น่ากลัวก็เริ่มจะไม่กลัวแล้ว
“ไม่จ้างแล้วจะโอนเงินค่าจ้างให้ทำไม”
“ก็...เฮ้อ~ หนูงง ๆ นิดหน่อยแต่เอาเถอะค่ะ เหมือนพี่จะเส้นใหญ่มากแน่ ๆ ไม่ว่ายังไงพี่ก็คงลากหนูมาทำงานให้พี่จนได้ถูกไหมคะ” ฉันถามแบบปลง ๆ ออกมาเลย
“ก็คงน่าจะประมาณนั้น” โห~ ไม่ต้องตอบแบบแสดงความคิดเห็นเลยค่ะ หนูว่าต่อให้ปฏิเสธจนขึ้นโรงขึ้นศาลพี่ก็ลากคอหนูมาทำงานอยู่บ้านเป็นเพื่อนให้พี่ได้แน่นอน -_-
“จะจ้างเดือนละแสนเลยเหรอคะ” ฉันถามถึงค่าจ้างด้วยความไม่แน่ใจ มันเยอะมาก ๆ เลยนะ
“บอกไปแล้ว”
“ไม่เยอะไปหน่อยเหรอคะ”
“เยอะสิ เลขาฉันทำงานหนักทั้งวันยังได้เงินเดือนไม่ถึงครึ่งของเธอเลย แต่รับไปเถอะฉันอยากตอบแทนที่เธอช่วยฉัน”
“ถ้างั้นจ่ายค่าจ้างแค่นี้ก็พอค่ะ ทำสามเดือนใช่ไหมคะ หนูตกลงก็ได้”
“ไม่ได้หรอกฉันบอกไว้แล้วว่าจ้างเท่าไหร่ก็ตามนั้น”
“แต่... / อยู่ที่นี่ไม่ต้องกลัวอะไร ทำตัวตามสบาย แต่ขอแค่จำกฎสำคัญไว้อย่างเดียวก็พอ”
“อะไรเหรอคะ” เขาพูดแทรกก่อนเลยต้องพับเรื่องที่กำลังจะแย้งเพราะเขาบอกว่ามีกฎสำคัญไงคะ
“ฉันแค่เหงาอยากมีเพื่อนร่วมบ้านชั่วคราว...ห้ามแอบชอบฉันเด็ดขาด”