EP 3 : ใหญ่
...100,000.00 บาท
บ้าไปแล้ว นี่ฉันไปเจออะไรมา?
สามวันแล้วที่ว่างเมื่อไหร่ฉันเป็นต้องนอนมองเงินในบัญชี ไปแจ้งความดีไหมปิ๊งรัก แจ้งความไว้ว่าเงินนี้ฉันได้มาแบบมึนงงไม่รู้ว่าคนโอนมีเจตนาร้ายอะไรเพราะโอนเงินให้แล้วเขาก็หายไป
ไม่สบายใจเลยค่ะ ผู้ชายคนนั้นทรงดีมากนะแต่ความรวยวัดความดีไม่ได้ ไม่มีอะไรผิดพลาดตรงไหนหรอกมีแต่ความไม่น่าไว้ใจล้วน ๆ เลยที่ผู้ชายคนนั้นทำ
ไม่ไหว ๆ อยู่คนเดียวด้วยอันตรายเกินไป มิจฉาชีพรึเปล่าก็ไม่รู้ไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ดีกว่า
คิดแล้วก็ลุกจากเตียงแต่งตัวไปโรงพักกันค่ะปิ๊งรัก
ฉันเดินจากหอเพื่อไปหน้าปากซอยระหว่างทางก็เรียบเรียงคำที่จะคุยกับตำรวจในใจไปด้วย ตื่นเต้นสุด ๆ ไปเลยเพราะทั้งชีวิตไม่เคยไปแจ้งความเลยสักครั้ง นี่คือ My first time
...สวัสดีค่ะคุณตำรวจ หนูอยากจะมาขอแจ้งความเพราะหนูเจอผู้ชายหน้าตาหล่อมากท่าทางรวยมากเช่นกันจ้างงานให้ไปอยู่เป็นเพื่อน หนูคิดว่าเขาล้อเล่นแต่เขาดันโอนเงินเข้า...
“ไง”
ขวับ!
“เฮ้ย!” ฉันเห็นคนในความคิดนั่งยืนอยู่ตรงหน้าก็ถึงกับร้องด้วยความตกใจ
มาได้ยังไง!
“พร้อมทำงานรึยัง?”
“คะ?”
“พร้อมทำงานรึยัง”
“พี่จะบ้าเหรอ หนูจะไปพร้อมทำงานอะไรของพี่ได้ยังไง เจอก็ดีแล้วเอาเลขบัญชีมาเลยหนูจะโอนเงินคืนให้” เจอหน้าก็ดีจะได้รีบคืนเงินแต่ดูจากท่าทางแล้วไม่น่าจะได้คืนหรอกมั้ง จะหลอกฉันไปทำอะไรแน่ ๆ
“ขึ้นรถ” เขาบอกแล้วชี้มือไปที่รถคันหรูที่ไม่ใช่คันเดิม
“พี่ฟังหนูรึเปล่า! เอาเลขบัญชีมาไม่งั้นหนูจะไปแจ้งความนะ นี่หนูก็กำลังจะไปแจ้งความเรื่องเงินของพี่เนี่ย”
“ขึ้นรถ” โอ๊ย! อยากจะบ้าตาย! ฟังบ้างไหมเนี่ย! แล้วคิดอะไรอยู่ถึงคิดว่าฉันจะขึ้นรถไปกับคนแปลกหน้าง่าย ๆ
คิด!
อะ!!
ไร!!!
อยู่!!!!
“ได้ค่าจ้างแล้วคิดจะเบี้ยวรึไง”
“พี่คิดอะไรอยู่ ไม่รู้จักกันแล้วคิดว่าหนูจะขึ้นรถไปกับพี่เหรอ?”
“ฉันชื่อพฤกษ์ เธอชื่ออะไรล่ะ บอกมาจะได้รู้จักกันสักที”
“...” ไม่ได้หมายความแบบนั้นโว๊ย!
“บอกมาสิ”
“พี่บ้าป๊ะเนี่ย จะหลอกหนูไปทำอะไรก็แล้วแต่นะ แต่หนูไม่บ้าจี้ไปกับพี่แน่นอน”
“ฉันแค่อยู่คนเดียวเหงา ๆ เซ็ง ๆ เลยอยากหาเพื่อนไปอยู่ด้วยแก้เหงา บ้านฉันมันหลังใหญ่ไม่ได้คิดจะทำอะไรเธอหรอก ถ้าคิดจะเคลมเธอฉันไปนอนกับดารานางแบบดัง ๆ ดีกว่า หรือเธอคิดว่าอย่างฉันจะหาไม่ได้?”
“...” ฉันฟังเขาพูดพร้อมกับหรี่ตามอง ยังไงก็ไม่ไว้ใจอยู่ดี
“ขึ้นรถ สาบานว่าไม่ทำอะไร”
“รวยมากรึไงถึงจ้างคนไปอยู่เป็นเพื่อนแก้เหงา?”
“ทุกอย่างที่เธอเห็นฉันซื้อเงินสด” กวนประสาท!
“จริงจังใช่ไหมเนี่ยเรื่องจ้างงาน?”
“อื้ม”
“แล้วทำไมต้องมาจ้างหนู”
“ก็เห็นเธอมีน้ำใจช่วยฉัน แล้วเธอก็บอกว่าทำงานพิเศษระหว่างเรียนเลยจะจ้างแค่นั้น”
“...” ฉันเจออะไรอยู่วะเนี่ย
“งานของเธอคืออยู่บ้านเป็นเพื่อนเฉย ๆ ไม่ทำอะไรจริง ๆ แค่ไม่อยากกลับบ้านไปแล้วอยู่ในบ้านคนเดียว”
“พี่ก็จ้างแม่บ้านสิ”
“แม่บ้านกับเพื่อนร่วมบ้านมันเหมือนกันที่ไหน” ฉันจ้องหน้าเขาเลยค่ะ เขาดูดีกว่าวันนั้นเยอะเลย ก็แน่ล่ะสภาพโดนรุมกระทืบมันดูดีสู้สภาพปกติไม่ได้อยู่แล้ว ส่วนสายตาเขาที่มองฉันก็เป็นการเป็นงานสุด ๆ ไปเลย หน้าตาดูหล่อแบบไม่คิดร้ายกับใครแต่ถึงยังไงฉันก็ไม่ไปอ่ะ จ้างเป็นล้านยังไม่กล้าเอาตัวเองไปเสี่ยงกับผู้ชายแปลกหน้าเลย
“หนูไม่เล่นด้วยหรอก พี่ไม่ให้เลขบัญชีก็ไม่เป็นไรเดี๋ยวหนูไปแจ้งความให้ตำรวจติดต่อคืนเงินพี่เอง” ฉันบอกเขาแล้วเดินไปด้านไปที่รถของเขาที่จอดอยู่ไม่ไกลเพื่อถ่ายป้ายทะเบียนไว้ มีชื่อเขาในรายการย้อนหลังในแอพธนาคารค่ะแต่การมีหลักฐานยืนยันตัวตนของเขามากกว่าหนึ่งอย่างมันน่าจะสร้างความน่าเชื่อถือได้มากกว่า
ฉันถ่ายรูปเสร็จก็เดินจ่อเลย เขาก็ไม่ได้พูดอะไรอีกนะคะ เดินได้นิดหน่อยวินมอเตอร์ไซต์ผ่านมาฉันก็โบกเพราะกลัวโดนตาม โบกพี่วินไปสถานีตำรวจของเขตนี้ใช้เวลาไม่นานเพราะรถไม่ติดก็มาถึงแต่ใช้เวลานานมากเพื่อรอคิว -_-!
“เฮ้อ~ สักที!” ฉันรอคิวเกือบยี่สิบนาทีเพราะคนก่อนหน้าใช้เวลานานมากในการแจ้งความพอถึงคิวตัวเองก็โปรยยิ้มหวานสร้างความเอ็นดูให้คุณลุงร้อยเวร พอโดนถามว่ามาทำบ้าอะไรที่นี่ในวันนี้ฉันก็เริ่มต้นเล่าให้ฟังทันทีว่าโดนแบบนี้จะแก้ปัญหาวิธีไหนที่ปลอดภัยกับตัวเองที่สุด
“ไหนพี่ขอดูหลักฐานหน่อยน้อง” เล่าแบบติด ๆ ขัด ๆ ตะกุกตะกักอยู่พักหนึ่งก็เล่าจบ ตื่นเต้นค่ะ อย่างที่บอกว่านี่เป็นครั้งแรกเลยดีนะที่คุณลุงร้อยเวรใจเย็นพอสมควร พอคุณลุงร้อยเวรขอดูหลักฐานฉันก็รีบเอาประวัติย้อนหลังกับข้อความแจ้งเตือนเงินเข้าให้ดูทันที
“อื้ม~ ไม่น่าไว้ใจ ถ้างั้นเดี๋ยวพี่... / ไม่มีอะไรหรอกครับ แฟนผมงอนหาเรื่องเรียกร้องความสนใจไปทั่ว”
ขวับ!
“เฮ้ย! น่ะ นี่ไงคะคุณตำรวจ ผู้ชายคนนี้เลยค่ะ คุณตำรวจช่วยบอกให้เขาเอาเงินเขาคืนไปทีนะคะ” ฉันไม่คิดว่าเขาโผล่มาแต่พอโผล่มาปุ๊บปิ๊งรักก็รีบบอกคุณลุงร้อยเวรทันที การที่เขาโผล่มาได้จังหวะแบบนี้ทำฉันตื่นเต้นยิ่งกว่าตอนแอบหลบมุมในวันที่เขาโดนรุมกระทืบซะอีก
“คุณ...คนนี้เหรอ?” คุณลุงพี่ร้อยเวรอึ้งไปเลยค่ะ มองเขาตาค้าง ตกตะลึงในความหล่อค้ำฟ้าของเขาอยู่แน่นอน แต่คุณลุงร้อยเวรคะ! หล่อไม่ได้แปลว่าจะไว้ใจได้เสมอไปนะคะ!
“ใช่ค่ะ คุณตำรวจช่วยคุยกับเขาให้หนูทีนะคะหนูไม่อยากมีเรื่อง ถ้าเขา...”
ครืด~
พูดยังไม่จบเสียงลากเก้าอี้ตัวข้าง ๆ ก็ดังขึ้นก่อนที่เขาจะนั่งลงทำเอาฉันเหวอพูดต่อไม่ถูกเลย
“คือ... / ผมจะโอนเงินหลักแสนไปให้ผู้หญิงที่ไม่รู้จักทำไม พอดีเขาจับได้ว่าผมมีกิ๊กครับเลยโอนเงินไปง้อ แต่น้องเขาก็ยังไม่หายโกรธ” โอ้โห~ บอกตำรวจแบบนี้แถมยังบอกหน้าตาเฉยขนาดนี้ได้ยังไง???
“มะ ไม่ใช่นะคะ”
“นั่นสิครับคุณพฤกษ์”
ฮะ?
...คุณพฤกษ์?
คุณลุงร้อยเวรเรียกชื่อเขาทั้งที่ฉันเพิ่งเอาหลักฐานให้ดูแค่แป๊บเดียวนี่นะ? ฉันยังไม่ได้บอกเลยนะว่าเขาชื่ออะไร เมื่อกี้ที่ให้ดูหลักฐานในโทรศัพท์คุณลุงร้อยเวรอ่านก็จำชื่อเขาได้แล้วเหรอ?
“ครับ ขอโทษนะครับแต่ผมหวังว่าแฟนผมคงไม่โดนข้อหาแจ้งความเท็จ”
จะ แจ้งความเท็จ? แจ้งความเท็จบ้าบออะไร!
“ใครแจ้งความ... / ที่รัก หนูทำให้คุณตำรวจเสียเวลานะ” ฉันกำลังอ้าปากพูดเขาก็หันมามอง สายตาคมกริบดุดันมาก ทั้งที่ไม่ควรกลัวแต่ฉันดัน...กลัว
“ไม่เป็นไรครับคุณพฤกษ์ ลิ้นกับฟันกระทบกันเป็นเรื่องธรรมดาครับ แล้วนี่คุณพฤกษ์แค่มาเคลียร์เรื่องแฟนใช่ไหมครับหรือมาหาผู้กำกับด้วย ท่านอยู่นะครับ” ...นี่เขารู้จักถึงผู้กำกับเลยเหรอ? ถ้างั้นก็หมายความว่าที่นี่ไม่ใช่ความหวังของปิ๊งรักแน่ ๆ T^T
“ผมแค่มาเคลียร์เรื่องแฟนครับ ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมขอตัวก่อนดีกว่า ขอโทษอีกครั้งนะครับ”
“ไม่เป็นอะไรเลยครับคุณพฤกษ์” คุณลุงร้อยเวรคุยกับเขาสุภาพนอบน้อมมาก ท่าทางจะเส้นใหญ่ไม่ใช่เล่นฉันจะแย้งแต่ยังไม่ได้อ้าปากอะไรเขาก็หันมาแล้วจับข้อมือฉัน
“เฮ้ย!” ฉันอุทานด้วยความตกใจแต่เขาบีบมือฉันแน่ ยิ้มบาง ๆ แต่สายตากลับดูน่ากลัวแล้วก็ทำให้ฉันกลัวมากขึ้นด้วยการขยับมากระซิบใกล้ ๆ
“ออกไปดี ๆ อย่าทำฉันเสียเวลาในโรงพักนาน...อย่าคิดทำอะไรโง่ ๆ ล่ะ เห็นแล้วใช่ไหมว่าฉันใหญ่”