บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 8 หึงแหละดูออก

“อัยย์ คุณพูดเหมือนกับจำผมไม่ได้” หมอคนนี้ประหลาด พูดออกมายังกับเรารู้จักกัน

“คุณหมอคะ ฉันงงและสับสนไปหมดแล้ว รบกวนอธิบายให้ฟังหน่อยได้ไหมคะ”

“ขอพี่ตรวจร่างกายน้องอัยย์ก่อน เสร็จแล้วเราค่อยมาคุยกัน”

“พี่เหรอคะ ฉันจำไม่ได้ว่าเรารู้จักหรือสนิทกันถึงเรียกพี่เรียกน้องนะคะ” ฉันเอ่ยท้วงออกไป แต่ก็ยอมให้หมอตรวจร่างกาย

เมื่อกระบวนการตรวจร่างกายเสร็จสิ้นลง ถึงแม้ว่าเขาจะหน้าตาหล่อเหลา ดูดี และดูอบอุ่นก็เถอะ แต่ฉันไม่ยักกะจำได้ว่าเคยรู้จักผู้ชายคนนี้

ด้วยเพราะนอนติดเตียงมาหลายเดือน ทำให้ฉันมีร่างกายที่ผอมมาก ผิวที่เคยขาวใสกลับซูบซีด เหี่ยวแห้ง ใบหน้าซูบตอบ แต่หมอบอกว่าทำกายภาพไม่กี่เดือน กินอาหารที่มีประโยชน์ และนวดบำบัดด้วยอีกทาง ฉันจะกลับมาแข็งแรงตามเดิมในไม่ช้า

“พี่ชื่อว่าธันวา เป็นคนช่วยชีวิตน้องอัยย์ไว้ตอนน้องอัยย์เจ็ดขวบ น้องอัยย์สัญญาว่าจะเป็นเจ้าสาวของพี่เมื่อโตขึ้น น้องอัยย์เรียกพ่อกับแม่พี่ว่า ลุงทัศน์กับป้าตา พวกท่านจึงคาดหวังว่าเราสองคนจะแต่งงานกัน”

“ฉันไม่ยักจำได้ว่ารู้จักคุณหมอนะคะ เหมือนในสมองของฉันไม่มีคุณหมอเลยด้วยซ้ำ แต่ฉันจำทุกคนได้หมดค่ะ คุณพ่อ คุณแม่ ลุงทัศน์ ป้าตา หรือแม้แต่พี่คเชนทร์ก็ตาม”

“ไม่แปลกที่น้องอัยย์จะไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับพี่ เพราะเราไม่ได้เจอกันอีกเลยตั้งแต่น้องอัยย์อายุได้เจ็ดขวบ”

“แล้วสิบกว่าปีมานี่ คุณหมอไปอยู่ที่ไหนมาล่ะคะ แล้วทำไมถึงกลับมาตอนนี้” ฉันถาม

“เพราะว่าในตอนที่น้องอัยย์ไม่ได้สติ น้องอัยย์กับพี่เราเจอกันน่ะสิ”

“เจอกันเหรอคะ! ก็ต้องเจอกันอยู่แล้ว ถ้าคุณเป็นหมอของฉัน ไม่เห็นแปลกเลย แต่ฉันไม่ได้สติ จะไปจำหมอได้ไงคะ”

“ไม่ใช่เจอกันที่นี่ เราเจอกันที่โรงพยาบาลที่พี่ทำงานอยู่ต่างหาก”

“คุณหมอนี่แปลก ยิ่งพูดยิ่งสับสน เอาเป็นว่าตอนนี้ฉันจำคุณหมอไม่ได้ และสำหรับวันนี้ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ” ฉันยกมือไหว้ อย่างน้อยก็ในฐานะที่อายุน้อยกว่า

“พี่จะมาดูแลน้องอัยย์ตอนวันเสาร์อาทิตย์ที่พี่หยุดงาน จนกว่าน้องอัยย์จะเริ่มเดินได้และแข็งแรงนะครับ” หมอธันวาบอกก่อนที่จะเก็บเครื่องมือต่างๆ ลงกระเป๋าแล้วนำไปวางไว้มุมหนึ่งของห้อง

“ตรวจเสร็จแล้วไม่กลับเหรอคะ” ฉันเอ่ยถามด้วยความแปลกใจ ที่เห็นเขากลับมานั่งลงบนเก้าอี้ตามเดิม

“พี่จะเป็นคนดูแลน้องอัยย์ตลอดวันเสาร์อาทิตย์ ดังนั้นเราจะได้อยู่ด้วยกัน และเราจะได้เรียนรู้กันไงครับ”

เหอะ! ถามฉันสักคำไหมว่าอยากเรียนรู้ไปด้วยกันหรือเปล่า

ฉันเลยเงียบและล้มตัวลงนอนโดยไม่สนใจคนที่นั่งอยู่ข้างเตียง ก่อนจะพลิกตัวหันหลังให้และหลับไปด้วยความอ่อนเพลีย

เหตุการณ์เป็นเช่นนี้ไปอีกหนึ่งเดือน ฉันเริ่มแข็งแรงและสุขภาพร่างกายที่ดีขึ้น ฉันลงมาเดินเล่นในสวนในตอนเช้าได้โดยไม่เหนื่อยมาก ผิวที่เคยซีดเซียวเริ่มกลับมาเนียนใสเหมือนเดิม ใบหน้าที่ซูบตอบเริ่มเต่งตึงขึ้นตามวันเวลา

หมอธันวายังคงมาหาและช่วยทำกายภาพบำบัดให้ทุกวันเสาร์อาทิตย์ แต่ฉันยังคงรักษาความห่างเหินและความสัมพันธ์แค่หมอกับคนไข้เท่านั้น

ซึ่งแตกต่างจากพี่คเชนทร์หรือพี่ซัน เพื่อนรุ่นพี่ที่รู้จักกันมาตั้งแต่ฉันอายุได้สิบห้าปี พี่ซันจะแวะมาหาฉันสัปดาห์ละประมาณสามครั้ง เมื่อฉันแข็งแรงพอที่จะออกไปนอกบ้านได้ ในวันแรกพี่ซันก็พาไปกินชาบูแถวทองหล่อ

ฉันก็ไม่พลาดที่จะเช็กอิน โพสต์ภาพและแคปชั่นเก๋ๆ ลงโซเซียล

พี่ซันน่ารักที่สุด ขอบคุณที่พาน้องมากินชาบู

มันเป็นภาพที่พี่ซันคีบเห็ดส่งให้ถึงปากของฉัน ถ้ามองเผินๆ ก็คู่รักที่ไปกินข้าวกันดีๆ นี่เอง

[บันทึกพิเศษ: ธันวา]

ผมถึงกับควันออกหูจนเกือบสะกดอารมณ์ไม่อยู่ เมื่อได้เห็นภาพและแคปชั่นนั่น ถ้าไม่ติดว่ามีเคสผ่าตัดรออยู่ ผมคงได้ถือกุญแจขับรถไปที่ห้างนั้นแล้ว

เพราะกว่าน้องอัยย์จะรับผมเป็นเพื่อนในแอปดังสีฟ้า ผมถึงกับต้องหว่านล้อมสารพัด แม่เจ้าประคุณก็เล่นตัวไปตั้งสองสัปดาห์ถึงยินยอมรับผมเป็นเพื่อน

วันนี้ออกนอกบ้านได้วันแรก ทำไมถึงเป็นไอ้หน้าหล่อคนนั้นที่เป็นคนพาน้องอัยย์ไปกินข้าวด้วย จะรออีกหนึ่งวันก็ไม่ได้หรือไง เพราะพรุ่งนี้ผมก็จะไปหาอยู่แล้ว

นี่คงเป็นกรรมที่ตามสนองผม ที่ผมปล่อยปละละเลยน้องอัยย์มากว่าสิบปีใช่ไหมนะ ทั้งที่แม่ผมบอกย้ำมาตลอดว่าน้องอัยย์คิดถึงและพยายามแค่ไหนที่จะให้เธอดีพอสำหรับผม

ความสัมพันธ์ที่เขาพยายามจะสานมันกลับไม่เคยเกินเลยเกินกว่าคำว่าหมอกับคนไข้

คงถึงเวลาที่เขาจะต้องกลับไปสานต่อธุรกิจที่บ้านแล้ว ไม่เช่นนั้น คาดว่าน้องไอคงถูกมคปด.เป็นแน่

[จบบันทึกพิเศษ: ธันวา]

ในตอนเย็นวันนั้น ใบลาออกของหมอธันวา สิริภัทรสกุล ก็วางอยู่บนโต๊ะทำงานของผู้อำนวยการโรงพยาบาลเป็นที่เรียบร้อย

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel