บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 6 หัวหน้าชมรมคนใหม่

ฉันหลบหน้าหมอธันวาเนื่องจากน้อยใจที่หมอจะกลับไปหาคู่หมั้นที่เป็นมนุษย์ ใช่สิ! มนุษย์มีร่างกายเหมือนกัน ฉันมันแค่วิญญาณ จะเอาอะไรไปสู้...หึ

ฉันจะไปปรึกษามาณพก็ไม่ได้ เพราะมาณพยุ่งกับการแก้แค้นเพื่อนขาโจ๋ จนป่านนี้ฉันก็ยังไม่ได้ไปเตือนหมออลินดาเลย ฉันจะไปปรึกษาคุณตาเจ้าที่ ท่านก็ไม่อยู่ให้ปรึกษาแล้ว เพราะหลังจากที่ได้ปรับความเข้าใจกับลูกสาว คุณตาเจ้าที่ก็ไปสู่สุคติ

ส่วนป้าปราณีก็ยุ่งเพราะช่วงนี้ไม่รู้ว่าเพราะอะไร คนเป็นกลายเป็นวิญญาณเยอะเหลือเกิน ขนาดว่าป้ามาลัยไปช่วยแล้วนะ

ส่วนตัวฉันไม่มีกะจิตกะใจจะทำงาน อยากแค่นั่งเหม่อโง่ๆ ไม่สนใจอะไรเลย แต่จะทำอย่างไรได้ ตำแหน่งหัวหน้าแก๊งตัวใสมันค้ำคออยู่

เฮ้อ!!

อยากลาออกจากการเป็นหัวหน้าจังเลย

หลังจากที่ถอนหายใจเรียบร้อยแล้ว เอ้อ! ไม่ใช่ หลังจากที่ปลงได้แล้ว ฉันจึงไปทำหน้าที่รับวิญญาณใหม่ที่ห้องฉุกเฉิน

“ยินดีต้อนรับน้องใหม่สู่โลกวิญญาณ คุณเข้มแข็งจังนะคะ ยอมรับได้อย่างสงบ ถ้าให้ฉันเดา คุณคงเคยทำอาชีพประชาสัมพันธ์มาก่อนเป็นแน่”

ฉันเอ่ยขึ้นเบื้องหลังของหญิงสาวคนหนึ่งที่ร่างกายเต็มไปด้วยเลือดอาบ เธอกำลังยืนมองร่างกายของตนเองที่หมอกำลังทำการช่วยเหลืออย่างสุดความสามารถ ที่ด้านข้างมีร่างของชายหนุ่มคนหนึ่ง ถึงแม้จะมีบาดแผล แต่ก็ไม่หนักหนาถึงกับชีวิต

“ขอบคุณคุณค่ะที่มาต้อนรับ คุณเป็นยมทูตเหรอคะ แล้วทำไมคุณถึงคิดว่าฉันทำอาชีพประชาสัมพันธ์ละคะ ซึ่งฉันไม่ได้ทำอาชีพประชาสัมพันธ์ซะหน่อยค่ะ”

“ตายแล้ว! ยมทูตไม่สวยอย่างนี้นะคะ ฉันล้อเล่น ฉันไม่ใช่ยมทูตหรอกค่ะ ความจริงแล้วก็อย่างที่บอกว่าฉันเดาเอา เดาจากความสวยของคุณไงค่ะฉันเป็นหัวหน้าชมรมแก๊งตัวใส หรือก็คือหัวหน้าชมรมวิญญาณติดที่ที่ยังไม่ไปสู่สุคติค่ะ ฉันจะมารับวิญญาณใหม่ที่ยังตั้งตัวไม่ทัน เพื่อแนะนำการเป็นวิญญาณให้ทราบ แล้วคุณทำอาชีพอะไรล่ะคะ”

“ฉันทำงานฝ่ายการตลาดต่างหาก ฉันทำใจมาได้สักพักแล้วค่ะ แค่เสียใจที่ยังไม่ได้บอกความในใจกับเขาเลย ฉันแค่อยากให้แน่ใจว่าเขาจะปลอดภัย” วิญญาณสาวคนนั้นเอ่ยขึ้นด้วยเสียงราบเรียบไร้ซึ่งอารมณ์ใดๆ

“ฉันเข้าใจค่ะ การจากกันโดยที่เราไม่ได้ลา หรือยังมีเรื่องที่ค้างคาใจ มันเจ็บปวดเหลือเกิน”

“หือ! ดูเหมือนคุณเป็นวิญญาณมานานเหมือนกันนะคะ คุณมีคนที่ยังไม่ได้บอกความในใจเหมือนกันเหรอ อ้อ! ฉันชื่อเฟย์ค่ะ” เฟย์ วิญญาณสาวใหม่ถอดด้ามเอ่ยแนะนำตัว

“ยินดีที่ได้รู้จักนะคะพี่เฟย์ ฉันชื่ออัยย์ค่ะ เขาเป็นหมอชื่อธันวา ทำงานอยู่ที่โรงพยาบาลนี้แหละค่ะ เขาต้องกลับไปดูแลคู่หมั้นของเขา อัยย์เสียใจเลยหนีเขามา เราเลยจากกันแบบไม่ค่อยสวยเท่าไหร่น่ะค่ะ”

“อัยย์ เดี๋ยวนะ! อัยย์กำลังบอกพี่ว่า อัยย์มีแฟนเป็นหมอ แล้วหมอนี่เป็นวิญญาณหรือคนเป็น”

“คนเป็นค่ะ”

“เฮ้ย!! จริงดิ หมอมองเห็นน้องอัยย์เหรอคะ”

“ใช่ค่ะ ไม่รู้เพราะอะไร หมอเขามองเห็นอัยย์และยังสัมผัสร่างกายอัยย์ได้ด้วย

นี่อัยย์ก็อยากหนีไปอยู่เงียบๆ นั่งโง่ๆ แต่ด้วยหน้าที่มันค้ำคออยู่ อัยย์เลยต้องหาใครมาทำงานแทน แต่ตอนนี้อัยย์ยังหาใครมาทำแทนไม่ได้เลยค่ะ พี่เฟย์ถามอัยย์เยอะจัง มีอะไรหรือเปล่าคะ”

หรือพี่เฟย์จะเสียใจจนสติหลุดไปแล้ว ตอนแรกยังเงียบๆ เศร้าๆ อยู่เลย ตอนนี้กับตื่นเต้นไปซะได้

ฉัน...เป็น...งง

“พี่รู้แล้วว่าจะบอกลาเขายังไง น้องอัยย์ ต้องช่วยพี่นะ ช่วยบอกหมอธันวาไปบอกเขาให้พี่หน่อย พี่อยากให้เขาลืมพี่ อยากให้เขาอยู่ต่อไปอย่างมีความสุข ไม่ใช่เพื่อเขา แต่เพื่อพี่ พี่ไม่อยากเป็นห่วง ให้เขาต้องจมอยู่ในความทุกข์ไปตลอด

เพราะพี่รู้ รู้จักเขาดี”

“พี่เฟย์ อัยย์ช่วยพี่เฟย์ได้นะ แต่ถ้าให้หมอธันวาช่วย อัยย์ก็ต้องไปเจอเขาน่ะสิ อัยย์ไม่อยากเจอเขาค่ะ” ฉันเอ่ยตอบด้วยเสียงเบา ก็ฉันไม่อยากเจอนี่ ไม่งั้นจะหลบหน้าทำไม

“เอางี้น้องอัยย์ หลังจากที่พี่ได้บอกรักบอกลาเขาแล้ว พี่จะรับตำแหน่งหัวหน้าชมรมต่อจากน้องอัยย์เอง แบบนี้พวกเราก็วินวินกันทั้งสองฝ่าย น้องอัยย์จะหนีไปทำใจ นั่งชิลๆ โง่ๆ ที่ไหนก็ได้ตามสบายไม่ต้องห่วงแก๊งตัวใสเลย น้องอัยย์ว่าไง” พี่เฟย์เขย่าตัวฉัน จนฉันแทบจะกลายเป็นหวานเย็นแท่งไปแล้ว

ฉันคิดอยู่นาน ตอนแรกกำลังจะเอ่ยปากปฏิเสธ แต่พอเห็นสีหน้าท่าทางรอคอยด้วยความหวังแล้วก็ปฏิเสธไม่ลง

ฉันนี่...นางเอกชัดๆ

“ก็ได้ค่ะ” ฉันตอบออกไป

ดีล!!!

โห!!

พี่เฟย์สมกับเป็นนักการตลาด ปิดการขายได้อย่างสวยงาม แบบนี้ฉันก็ไม่ต้องห่วงแก๊งตัวใสแล้ว...ใช่ไหม

สรุป...นี่ฉันมาช่วยเหลือพี่เฟย์ หรือว่ามาโดนพี่เฟย์หลอกใช้กันแน่นะ

หลังจากที่ตกลงกันกับพี่เฟย์เรื่องการรับตำแหน่งใหม่ต่อจากฉันแล้ว ฉันเลยให้พี่เฟย์ไปเรียนรู้งานที่ชมรม รวมทั้งการพบปะป้าปราณี ป้ามาลัย และยังมีเวลาพาพี่เฟย์ไปแอบดูหมออลินดา หมอคนเดียวที่เห็นพวกเรา

พี่เฟย์ยังบอกว่า หมออลินดาดุจริง ถ้าวันไหนที่ต้องมารับวิญญาณที่ตึกฉุกเฉินต้องระวังตัวให้มาก

วันจันทร์หมอธันวาก็กลับมาทำงานตามปกติ ฉันแอบมองเขาอยู่ตั้งแต่เช้าจนเย็น เขาตามหาฉันไปทั่ว พร้อมกับขอร้องให้ฉันออกไปหาเขา แต่แบบว่า มันน้อยใจอะ จะให้ออกไปหาง่ายๆ ก็คงไม่เรียกว่างอนน่ะสิ

ฉันปล่อยเวลาให้ผ่านไปตั้งหนึ่งสัปดาห์ ถึงได้ปรากฏตัวให้เขาเห็น

“อัยย์ ขอบคุณที่ยอมออกมาพบผม ผมคิดถึงอัยย์มากเลยนะ ผมมีข่าวดีมาบอกด้วย” หมอธันวาเมื่อเห็นฉันปรากฏตัวเขาก็รีบเข้ามาสวมกอดฉันจนฉันอึดอัดไปหมด

ข่าวดี หึ!! ข่าวดีที่เขากำลังจะแต่งงานกับคู่หมั้นของเขาน่ะสิ

“คุณหมอคะ อย่าเพิ่งคุยเรื่องนี้เลยค่ะ ฉันมีเรื่องให้คุณหมอช่วย”

“อัยย์ครับ ทำไมเรียกผมซะห่างเหินแบบนั้นล่ะครับ แล้วอัยย์มีอะไรให้ผมช่วย” หมอธันวาเอ่ยถามพร้อมกับคลายอ้อมกอดออกเล็กน้อย

“เมื่ออาทิตย์ก่อน มีคู่รักคู่หนึ่งประสบอุบัติเหตุแล้วถูกนำส่งมาที่โรงพยาบาลนี้ ฝ่ายหญิงเสียชีวิต ฝ่ายชายรอด พวกเขายังมีห่วงบางอย่างที่ยังไม่ได้บอกกล่าว พี่เฟย์ ฝ่ายหญิงน่ะค่ะ เลยมาขอให้ฉันช่วย หมอพอจะเป็นตัวแทนเป็นสื่อกลางนำข้อความไปบอกฝ่ายชายให้หน่อยได้ไหม”

“ได้สิ ผมทำให้อัยย์ได้ทุกอย่าง”

ฉันเพิ่งสังเกตว่าหมอธันวามองไม่เห็นพี่เฟย์ ทั้งที่พี่เฟย์ยืนอยู่ข้างๆ ฉันนี่เอง หรือเขาเห็นและสัมผัสฉันได้คนเดียวกันนะ

หลังจากนั้นอีกสามวัน เมื่อหมออนุญาตให้เข้าเยี่ยมคนรักของพี่เฟย์แล้ว ฉัน พี่เฟย์ และหมอธันวาจึงไปทำห่วงครั้งสุดท้ายของพี่เฟย์ให้ลุล่วง

ฉันได้แต่กอดพี่เฟย์ไว้ในตอนที่พวกเราลอยออกมาจากห้องพักผู้ป่วยใน ฉันรู้ว่ามันเจ็บปวดและทรมานแค่ไหน

หลังจากที่พี่เฟย์ทำใจได้แล้วก็บอกว่าขอเวลาสามวันเพื่อทำใจ หลังจากนั้นเธอจะทำหน้าที่หัวหน้าชมรมให้อย่างเต็มที่

“อัยย์ครับ อย่าเพิ่งหนีผม เราต้องคุยกันก่อน ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าคุณเป็นใคร” หมอธันวาเอื้อมมือมาคว้าแขนฉันไว้หลังจากที่เขาเห็นว่าฉันจะหนีเขาไปอีกครั้ง

“รู้แล้วว่าฉันเป็นใคร...หรือคะ”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel