บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 5 คู่หมั้นตัวจริง

[บันทึกพิเศษ: ธันวา]

งานที่ทำว่าเหนื่อยแล้วยังไม่เหนื่อยเท่ากับที่ต้องมาตามใจคน คนหนึ่งก็มารดาบังเกิดเกล้า อีกคนก็แฟน คนกลางอย่างผมจะทำยังไงดี

ตั้งแต่วันนั้นผมก็ไม่ได้คุยและเจอกับอัยย์อีกเลย เธอหลบหน้าและหายไปจากชีวิตของผม จนกระทั่งถึงวันศุกร์ตอนเย็น ผมก็ขับรถยนต์กลับบ้านของพ่อกับแม่

ผมคงยังไม่ได้เล่าว่า บ้านของพ่อแม่อยู่ใจกลางกรุงเทพฯ เลยครับ ผมอยู่มาตั้งแต่เด็ก ก่อนที่จะไปเรียนต่อเมืองนอก กลับมาครั้งล่าสุดนี้ ผมก็นอนคอนโดใกล้โรงพยาบาล หรือนอนที่ห้องพักแพทย์แทน

ลูกสาวเพื่อนของแม่นี่คือ ชื่ออะไรหน้าตายังไง ผมก็จำไม่ได้ละ! ผมไม่ได้สนใจ ผมช่วยไว้ตอนที่เด็กคนนั้นตกลงไปในสระน้ำในงานวันคล้ายวันเกิดอายุสิบห้าปีของผมแค่นั้นเอง เด็กน้อยนั่นดันมาประกาศต่อหน้าทุกคนว่าจะเป็นเจ้าสาวของผมเพื่อตอบแทนบุญคุณที่ช่วยชีวิต ทั้งที่ตอนนั้นอายุแค่เจ็ดขวบเอง

ผมเป็นหนุ่มแล้วนะ มีเด็กอ้วนขี้เหร่มาสารภาพรัก ทำให้ผมอายเพื่อนมาก ใครจะไปรักลง!!

จริงไหมล่ะ? ผมเลยไปเรียนต่อเมืองนอก จบมาก็มาทำงานที่เขตนนทบุรี แล้วพอรู้ว่าเธอคนนั้นเริ่มโตและผมอาจจะต้องแต่งงานกับเธอจริงๆ ผมถึงได้หนีไปดูงานที่ต่างประเทศเสียสองปี ก่อนที่จะกลับมาทำงานที่เดิมได้สามสี่เดือนนี่แหละ

บ้านผมถือว่าเป็นครอบครัวมีฐานะครอบครัวหนึ่ง บ้านผมทำธุรกิจนำเข้าเครื่องมือแพทย์ เห็นคุณพ่อบอกว่าถ้าผมไม่รับช่วงต่อ ท่านก็จะขายบริษัทให้เพื่อนไปทำต่อ แล้วเกษียณอายุมาอยู่บ้านทำสวนตามประสาคนแก่ ว่างั้น!

“ตาธันมาแล้ว ดีใจที่ลูกกลับบ้านสักที แม่กับคุณพ่อคิดถึงลูกนะครับ” คุณแม่ของผมถลาเข้ามากอดผมไว้เมื่อเห็นผมเดินเข้าไปยังห้องรับแขกที่ท่านทั้งสองนั่งพักผ่อนอยู่

“คิดถึงคุณแม่คุณพ่อเช่นกันครับ แต่งานยุ่งมาก ช่วงนี้จะมีการปรับตำแหน่งด้วย ผมในฐานะหัวหน้าแผนกเลยยิ่งยุ่งไปใหญ่” ผมเอ่ยตอบคุณแม่ก่อนพากันนั่งลงบนโซฟาสีน้ำตาลเข้มสไตล์วิคตอเรียน

“ยุ่งเพราะทำงานหรือยุ่งเพราะมีสาวๆ กันแน่” คุณพ่อได้โอกาสเอ่ยแซวผม ก่อนที่จะปิดหนังสือพิมพ์วางไว้บนโต๊ะรับแขก

“ไม่มีเรื่องสาวๆ หรอกครับ ใครจะมาชอบหมอแบบผม สาวๆ ชอบให้คนรักเอาใจใส่ ผมไม่ใช่คนนั้นแน่นอนครับ”

“หน้าตาลูกออกจะหล่อเหลา ใครไม่สนใจลูก แม่ถือว่าตาถั่วแล้วละ แม่ว่านะ”

“ช่างเถอะคุณ ธัน ลูกจะขึ้นไปอาบน้ำก่อนไหม เสร็จแล้วจะได้มากินข้าวเย็นกัน วันนี้พอรู้ว่าลูกจะกลับมานอนที่บ้าน แม่ของลูกก็จัดชุดใหญ่ไฟกะพริบเลยละ” คุณพ่อเอ่ยตัดบทสนทนาของผมกับแม่

“ก็ดีครับ เหนียวตัวเหมือนกัน วันนี้มีเคสหนักๆ หลายเคสเลย” ผมเลยขอตัวพ่อกับแม่ขึ้นไปอาบน้ำและลงมากินมื้อเย็นด้วยกัน

เช้าวันถัดมา บนโต๊ะอาหารมีข้าวต้มกุ้งตัวโตๆ ส่งกลิ่นหอมฉุย ควันลอยอ้อยอิ่งอยู่บนโต๊ะอาหาร มีถ้วยเครื่องปรุงแก้วใสสำหรับปรุงตามใจชอบวางไว้อยู่ข้างๆ

“คุณแม่ หอมจังเลยครับ นานแค่ไหนแล้วครับที่ผมไม่ได้กินข้าวต้มฝีมือคุณแม่ คิดถึงตอนเด็กๆ เวลาที่คุณแม่บังคับให้กินข้าวต้มกุ้งตอนเช้าก่อนไปโรงเรียนตลอด”

“หอมก็กินเยอะๆ เสร็จแล้วไปเยี่ยมหนูอัยย์พร้อมกับแม่”

“ผมปฏิเสธไม่ได้ใช่ไหมครับ” ผมถามออกไปด้วยความละเหี่ยใจ

“ตาธัน หนูอัยย์ไม่ดีตรงไหน ฮึ”

“คุณแม่ครับ ผมแค่ไม่รู้จัก และไม่คิดที่จะทำตามคำพูดของเด็กๆ หรอกนะครับ อีกอย่าง ผมสงสารลูกของผมที่ต้องเกิดมาขี้เหร่เหมือนแม่น่ะครับ”

“ลูก!! ขี้เหร่เหมือนแม่!! หมายความว่าไงตาธัน”

“ก็ตอนเด็กๆ ยัยนั่นขี้เหร่จะตาย แถมอ้วนเป็นหมู ถ้าผมแต่งงานกับยัยนั่น ลูกที่เกิดมาคงขี้เหร่เหมือนแม่ ผมสงสารลูกนะครับ คงถูกเพื่อนๆ ล้อแน่เลย”

ภาพที่ผมจำได้เกี่ยวกับลูกสาวเพื่อนคุณแม่ก็เป็นแบบนั้นไม่ใช่เหรอ ผมไม่ผิดนะ!

“ตาธัน ลูกเข้าใจผิดไปใหญ่แล้ว หนูอัยย์นอกจากไม่ขี้เหร่ น้องยังสวยมาก น้องเป็นดาวคณะเภสัชเลยนะลูก ถ้าหนูอัยย์ขี้เหร่ ผู้หญิงทั่วกรุงเทพคงไม่มีใครสวยแล้วละ”

“ฮะ!!! ยัยหมูอ้วนนั่นน่ะนะ สวย คุณแม่ไม่ต้องมาหลอกผมหรอกครับ ผมสัญญาแล้วว่าจะไปเยี่ยมหนูอัยย์ของคุณแม่ ผมก็จะรักษาสัญญาครับ”

หลังจากนั้นผมจึงก้มหน้ากินข้าวต้มอย่างฝืดเฝื่อน เพราะหนึ่งผมคิดถึงอัยย์ ไม่รู้จะเข้าใจผิดไปถึงไหน สองผมไม่อยากไปเยี่ยมว่าที่คู่หมั้นที่ผมรู้มาตั้งแต่เป็นวัยรุ่นแล้วว่าเด็กอ้วนคนนั้นจะมาเป็นเจ้าสาวของผมในวันหนึ่ง

*****

“คุณแม่ครับ นี่คือหนูอัยย์ของคุณแม่ ว่าที่คู่หมั้นผมหรือครับ” ผมเงยหน้าขึ้นมาจากร่างบางที่ผอมจนเห็นได้ชัดเจน แต่ยังคงหลงเหลือเค้าโครงใบหน้าเดิมให้ใจสั่นขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่

“ใช่แล้วจ้ะ นี่คือหนูอัยย์ ไอยเรศ น้องประสบอุบัติเหตุรถชนที่ปากทางเข้าโรงพยาบาลที่ลูกทำงานอยู่ น้องเป็นเจ้าหญิงนิทรามาหลายเดือนแล้ว”

“คุณป้าครับ ผมขอโทษนะครับที่ไม่ได้มาเยี่ยมน้องเลย ผมนี่เป็นคนที่ใช้ไม่ได้จริงๆ” ผมหันหน้าไปยกมือไหว้ขอโทษคุณป้าไอลดา เพื่อนรักคุณแม่

“ป้าไม่ว่าอะไรธันหรอกลูก ป้ารู้ว่าธันต้องทำงานยุ่ง แต่ถ้าน้องอัยย์รู้ว่าธันมาเยี่ยมลูกสาวป้า น้องต้องดีใจแล้วรีบหายลุกมาให้ป้าได้ชื่นใจแน่”

ป้าลดาเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ก่อนจะยกผ้าเช็ดหน้าขึ้นซับน้ำตา

“คุณป้าครับ คุณแม่ครับ ผมสัญญาว่าต่อไปนี้ผมจะเป็นคนดูแลและรักษาน้องเองครับ และผมอาจจะหาทางช่วยให้น้องฟื้นขึ้นมาในเร็ววันก็เป็นได้ครับ”

“จริงหรือตาธัน เกิดอะไรขึ้น ทำไมลูกถึง...”

“คุณแม่ครับ ลืมเรื่องเก่าๆ ไปซะนะครับ ผมจะเป็นคนใหม่ ผมรู้สึกผิดต่อน้องจริงๆ ที่ละเลยน้องมาหลายปี

คุณป้าลดาครับ ผมอยากรู้จักน้องให้มากยิ่งขึ้น คุณป้าพอมีอัลบั้มรูปตั้งแต่น้องยังเล็กถึงปัจจุบันไหมครับ ผมขอยืมหน่อย ผมอาจจะทำให้น้องฟื้นขึ้นมาได้ครับ”

ผมเอ่ยบอกคุณแม่ก่อนที่จะหันมาถามคุณป้าลดา

“มีจ้ะ ธันรอป้าแป๊บนะ เดี๋ยวป้าไปเอามาให้”

“ขอบคุณครับ”

อัยย์ที่รัก ผมเจอแล้ว ผมเจอร่างของคุณแล้ว รอผมก่อนนะ อีกไม่นานเราจะได้อยู่ด้วยกันซะที

[จบบันทึกพิเศษ: ธันวา]

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel