บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 2 หมอธันวาไอดอลของสาวๆ

ช่วงเช้าของทุกวัน ถ้ามีเวลาว่างฉันก็จะไปตามตึกต่างๆ เพื่อเยี่ยมเยือนเหล่าวิญญาณทั้งหลาย วันนี้ก็เช่นกัน

“สวัสดีค่า~” ฉันส่งเสียงไปก่อนตัวซะอีก

“อ้าวหนูอัยย์ วันนี้ทำไมมาเยี่ยมพวกป้าได้นะ” คุณป้ามาลัยและวิญญาณสี่ห้าตนนั่งคุยกันในห้องพักแพทย์เสมือนกับมนุษย์ที่แอบอู้งานมานั่งซุบซิบพร้อมกับแก้วเครื่องดื่มวางอยู่บนโต๊ะ

“อัยย์อยู่ว่างๆ น่ะค่ะ เลยมาเยี่ยมป้าๆ ก่อน เดี๋ยวจะแอบไปดูหน้าคุณหมอธันวาที่เพิ่งมาใหม่ พี่พยาบาลบอกว่าเริ่มงานวันนี้แล้ว เห็นว่าหล่อขั้นเทพ ไม่รู้พี่เขาคุยเว่อร์ไปหรือเปล่า” อัยย์ตอบพร้อมกับนั่งลงตรงเก้าอี้ที่ว่างอยู่

“มาก็ดีแล้ว หนูอัยย์ วันนี้คุณตาเจ้าที่เอาของเซ่นมาให้ด้วยละ” ป้ามาลัยเอ่ยขึ้น

อนึ่ง คุณตาเจ้าที่ก็คือคุณตาที่ดูแลเหล่าวิญญาณในโรงพยาบาลแห่งนี้มาตั้งนมนานแล้ว เห็นว่าที่ดินที่ใช้สร้างโรงพยาบาลนี้เป็นของคุณตาขณะที่ยังมีชีวิตอยู่ แต่เพราะท่านมีห่วงบางอย่างที่ยังตัดไม่ขาด เลยยังไม่ไปสู่สุคติเสียที

ทุกวันพระ เหล่าวิญญาณทั้งหลายก็จะได้ผลบุญไปด้วย ถึงแม้ว่าเราจะเป็นวิญญาณติดที่ แต่ก็ไม่ใช่ผีร้าย เรื่องแสงสว่าง บทสวดพระจากศาสนาทั้งหลาย รวมไปถึงคาถาปราบผีจึงใช้กับพวกเราไม่ได้ผลสักอย่างค่ะ ดังนั้นจึงไล่พวกเราไปไหนไม่ได้ นอกจากพวกเราจะหมดห่วงแล้วไปสู่สุคติด้วยตนเอง

“ของเซ่นเหรอคะ มีอะไรบ้างเนี่ย”

“จัดเต็มเลยละหนูอัยย์ วันพระใหญ่ด้วย” ป้ามาลัยหยิบของบางอย่างให้ฉันอีกด้วยนะ

วิญญาณจะกินได้ก็ต่อเมื่ออาหารนั้นผ่านการเซ่นไหว้แล้วเท่านั้นค่ะ

“โชคดีไปนะหนูอัยย์ ที่ไม่ใช่ไข่ต้มร้อยฟอง” ป้ามาลัยเย้า

“ฮะๆๆ ไข่ต้มน่ะ เขาเอามาเซ่นเพราะคนถูกหวยนี่คะป้ามาลัย...เอาเป็นว่าอัยย์เอาขาไก่แค่ขาเดียวพอค่ะ ขอบคุณมากนะคะที่แบ่งปัน”

“ไม่เป็นไรจ้ะ ว่างๆ ก็มาคุยกับพวกป้าอีกนะ ป้าว่าจะไปช่วยปราณีสอนวิญญาณใหม่เหมือนกัน รู้สึกเบื่อๆ น่ะ” ป้ามาลัยเสนอความคิดเห็น

“ป้าปราณีต้องดีใจแน่ค่ะที่มีคนไปช่วย ช่วงนี้อุบัติเหตุเยอะเหลือเกิน อัยย์กับมาณพทำงานไม่หวาดไม่ไหวเลยค่ะ”

ฉันเอ่ยตอบ ในมือก็ถือขาไก่อันโตติดมือไปด้วย ก่อนลอยออกจากห้องพักแพทย์เพื่อมุ่งตรงไปยังตึกเวชศาสตร์การฟื้นฟู

คงยังไม่ได้บอกอย่างเป็นทางการสินะคะ ว่าฉันน่ะเป็นพวกคลั่งไคล้เหล่าผู้ชายหน้าตาดี ถึงจะไม่รู้ว่ามันเกี่ยวกับนิสัยก่อนกลายเป็นวิญญาณไหม แต่แค่ได้มองหน้าพี่หมอหล่อๆ มันก็กระชุ่มกระชวยไปทั้งหัวใจแล้วค่ะ ชายหนุ่มสวมสุดกาวน์นั่นคือ ‘เดอะเบสต์’ ค่ะ

แค่คิดก็ตื่นเต้นแล้วสิ...

แล้วทันใดนั้นเอง ช่วงเวลาที่รอคอยก็มาถึง เสียงฝีเท้าก้าวเดินเข้ามาในแผนกมุ่งตรงไปยังห้องทำงานส่วนตัวซึ่งฉันมานั่งรอบนโต๊ะทำงานในห้องพร้อมกับกินขาไก่ไปด้วยอยู่ก่อนแล้ว

ราวกับแสงสว่างจ้า คุณหมอธันวาเดินเข้ามาในห้องทำงานด้วยชุดกาวน์สีขาวและสีหน้าเรียบเฉย ในมือถือกระเป๋าเอกสารสีน้ำตาลเข้มสุดหรู ทว่าสิ่งเหล่านั้นแม้จะทำให้คุณหมอดูดีแค่ไหน แต่ก็สู้หน้าตาที่เสริมออร่าความดูดีเป็นทุนเดิมอยู่แล้วไม่ได้เลย

ไม่ไหว!! นี่มันหล่อเกินภาพถ่ายไปแล้วนะ

หล่อวัวตายควายล้มเสียด้วย

ขอย้ำอีกครั้งนะคะ ว่าไม่ได้โอเวอร์แอคติ้งเลย ยืนยันได้จากฉันที่ตอนนี้อ้าปากค้างลืมกัดขาไก่ไปเรียบร้อยแล้ว

[บันทึกพิเศษ: ธันวา]

ผมชื่อธันวา สิริภัทรสกุล หรือหมอธันวา วันนี้เป็นวันแรกที่ผมได้กลับมาทำงานที่โรงพยาบาลศิริแพทย์แห่งนี้ในตำแหน่งหัวหน้าแผนกเวชศาสตร์ฟื้นฟู หรือพูดง่ายๆ ก็คือแผนกกายภาพบำบัดนั่นแหละครับ หลังจากที่ไปศึกษาดูงานที่ต่างประเทศมาเกือบสองปี พอกลับมา ผมก็เจอทั้งหมอและพยาบาล ทั้งคนเก่าและคนใหม่

พวกเราถือว่าเริ่มต้นด้วยดีในการประชุมแผนงานในวันแรกนี้ หลังจากที่ไปรายงานตัวกับท่านผู้อำนวยการมา ผมจึงเดินกลับมาที่ห้องทำงานของผม

ก่อนที่ผมจะชะงักไปเล็กน้อย เพราะตอนนี้ในห้องทำงาน กลับปรากฏสาวน้อยคนหนึ่งที่กำลังกัดน่องไก่ อ้าปากค้าง นั่งอยู่บนโต๊ะทำงานของผม ตาคู่โตนั้นกำลังจ้องมองมายังผม ทำให้ผมอดขำในใจไม่ได้

ผมกำลังจะเอ่ยต่อว่าออกไปว่าไม่ควรไปนั่งบนโต๊ะทำงาน ก่อนที่จะหุบปากลงแทบไม่ทัน เพราะหญิงสาวร่างเล็ก หน้าตาน่ารัก ผมยาวสลวยถึงกลางหลังนั้น...ไม่มีขา

สมองที่ประมวลผลไวยิ่งกว่าไมโครชิปคอมพิวเตอร์บอกได้เลยว่า ผมกำลังเจอดีเข้าซะแล้ว แต่ก็นะ กับเรื่องวิญญาณแล้ว หมออย่างพวกเราไม่เคยอยู่บนเส้นของความหวาดกลัว เธอคนนี้ก็เหมือนหญิงสาวธรรมดา แถมสวยซะด้วย

ไม่รู้อะไรดลใจ เพียงเสี้ยววินาทีเดียวเท่านั้น ผมก็เดินเข้าไปนั่งยังโต๊ะทำงานตามปกติ เสมือนว่าผมไม่เห็นอะไร สิ่งใด หรือใบหน้าสวยๆ นั้นเลย

[จบบันทึกพิเศษ: ธันวา]

ตอนแรกฉันดีใจแทบเนื้อเต้นที่คิดว่าในโรงพยาบาลนี้มีใครบางคนมองเห็นฉันได้นอกเหนือจากคุณหมออลินดา แต่ฉันคงต้องผิดหวัง เพราะหมอธันวาไม่ทักทาย ไม่ดุอะไรฉันเลย ที่ฉันดันไปนั่งบนโต๊ะทำงานของเขาเช่นนั้น

เฮ้ย!!!

ฉันรีบกระโดดลงจากโต๊ะทำงานแทบไม่ทันเมื่อคุณหมอสุดหล่อเตรียมวางกระเป๋าเอกสารลงบนตักฉัน ฉันกระโดดลงมายืนข้างโต๊ะด้วยความรีบร้อน

ทำให้เนื้อไก่มันติดคอฉันน่ะสิ

อ๊อก!!

ฉันพยายามตบหน้าอกตนเองเพื่อให้เนื้อไก่มันหลุดออกมา แต่ไอ้เนื้อไก่เจ้ากรรมมันกำลังทำให้ฉันขายหน้า

มันไม่ออก!! มันจุกไปหมด!!

อัยย์ ทำไงดี?

เป็นวิญญาณก็ยังลำบาก โคตรทรมานเลย...มันจุก

ฮะ ฮะ ฮะ!!!

เสียงหัวเราะของหมอธันวาทำให้ฉันเผลอหันกลับไปมอง นึกว่าคุณหมอหัวเราะท่าทางของฉัน แต่ไม่ใช่ เพราะคุณหมอกำลังก้มมองมือถือตนเอง สงสัยดูคลิป TT อยู่เป็นแน่

คุณหมอเดินไปเปิดตู้เย็นตัวเล็กภายในห้องทำงาน รินน้ำเปล่าใส่แก้ว จิบไปอึกหนึ่ง แล้วถือมาวางไว้บนโต๊ะทำงาน ก่อนจะปิดมือถือแล้วหย่อนลงไปในกระเป๋ากางเกง

ฉันฉวยโอกาสคว้าเอาแก้วน้ำมาดื่มเพื่อให้เนื้อไก่ที่ติดคอหลุดลงท้องไป

เฮ้ย!!!

“อายอุดอ้า อันอว้าแอ้วอ้ำอื่มอ้าย”

(“มายบุดด้า ฉันคว้าแก้วน้ำดื่มได้”)

แฮก แฮก!!! กว่าเนื้อไก่เจ้ากรรมจะหลุดลงท้องไป ฉันถึงกับเป็นหมาหอบแดดไปเลยละค่ะ

[บันทึกพิเศษ: ธันวา]

ท่าทางที่น่าตลกและความพยายามที่จะแก้อาหารติดคอมันทำให้ผมถึงกับหัวเราะออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ ไม่น่าเชื่อว่าเป็นวิญญาณก็อาหารติดคอได้

ผมจึงแกล้งหยิบมือถือออกมาเพื่อไม่ให้เป็นที่สงสัย และรินน้ำใส่แก้วมาไว้ให้พร้อมกับอธิษฐานอนุญาตให้เธอดื่มได้

ไม่น่าเชื่อว่าเธอจะดื่มน้ำนั่นได้จริงๆ

การกลับมาเมืองไทยในครั้งนี้ ผมคงไม่เหงา คงมีเรื่องสนุกให้ตื่นเต้นอีกมากเลยเชียวละ

[จบบันทึกพิเศษ: ธันวา]

หลังจากที่กลับมาคีพลุคสวยเหมือนเดิม เสมือนว่าไม่กี่นาทีก่อนหน้าไม่ได้ทำเรื่องขายหน้าอันใดไว้ ฉันก็เริ่มปฏิบัติการแนะนำตัวก่อนเลย ใช่มะ? คนเราเจอกันครั้งแรกก็ต้องแนะนำตัวก่อนใช่ไหมล่ะ

“ฉันขอแนะนำตัวหน่อยนะคะ ถึงแม้ว่าคุณหมอจะมองไม่เห็นฉันก็ตาม ฉันชื่ออัยย์ ยินดีที่ได้รู้จัก และต่อไปนี้อัยย์จะจีบคุณหมอนะคะ โปรดเตรียมตัวให้พร้อมด้วย พรุ่งนี้อัยย์จะมาหาใหม่ค่ะ คุณว่าที่แฟน”

อัยย์พูดจบแล้วเธอก็ส่งจูบโดยการเป่าลงบนมือน้อยๆ และหันหลังลอยจากไป

แค่ก!! แค่ก!!

ธันวาที่ได้ยินเช่นนั้นในตอนที่เขายกแก้วน้ำแก้วเดิมขึ้นดื่มถึงกับสำลักน้ำหน้าดำหน้าแดง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel