บท
ตั้งค่า

บทที่ 1

หัวหน้าชมรมแก๊งตัวใส

ว้าย!! เจ็ดโมงเช้า สายแล้ว สายแล้ว เกือบลืมไปแล้วไหมล่ะ ฉันต้องรีบไปแล้ว พวกพี่ๆ พยาบาลส่วนใหญ่ที่มาทำงานกะเช้า มักเริ่มซุบซิบกันก่อนจะเริ่มงานตอนแปดโมงเช้าซะด้วยสิ วันนี้จะมีเรื่องอะไรให้เมาท์บ้างก็ไม่รู้ ช่วงนี้หัวข้อเมาท์มอยก็ไม่ค่อยน่าสนใจเท่าไหร่เสียด้วยสิ เอาเป็นว่า ขอให้หัวข้อวันนี้น่าสนใจ หรือเกี่ยวกับหนุ่มหล่อหน้าตาดีทีเถอะ เพี้ยง!

ว่าแล้วฉันก็ยกมือขึ้นท่วมหัวขอพรแล้วลอยไปทางแผนกผู้ป่วยนอกที่มีการนัดตรวจตามปกติ ไล่ไปทีละแผนก

ลอย!!?

อ้าว! ก็ลอยน่ะสิคะ อุ๊ย! ขอโทษค่ะ ฉันยังไม่ได้บอกหรือคะว่าฉันน่ะ เป็นวิญญาณ แถมเป็นวิญญาณความจำเสื่อมซะด้วยสิ ฉันฟื้นลืมตาตื่นขึ้นมาก็จำได้แค่ว่าตนเองชื่ออัยย์ จะอัยย์อะไร นามสกุลอะไร อายุเท่าไหร่ อย่าได้ถามนะคะ เพราะตอบไม่ได้เหมือนกันค่ะ แต่ช่างมันเถอะ คิดไปก็ปวดหัวเปล่าๆ

แต่เช้าๆ แบบนี้ ฉันขอไม่แวะไปแผนกฉุกเฉินน้า อยากรู้ใช่ไหมล่ะ เอ้า จะบอกให้ก็ได้ ก็หมออลินดาน่ะสิ หมอแผนกฉุกเฉินที่ทั้งสวย ทั้งเก่ง ยังเห็นและสัมผัสกับวิญญาณเช่นพวกเราได้ ที่สำคัญหมออลินนะ! ดุ๊...ดุ ย้ำว่าโคตรดุเลย บางคืนนะ ตอนที่เกิดอุบัติเหตุรถชนกัน พวกเวรเปลหามคนเจ็บเข้ามา วิญญาณหวงเตียงบางตนไม่ยอมหลบ แค่หมออลินดาตวาดครั้งเดียว เหล่าวิญญาณพวกนั้นลอยกระเจิงหนีไปไกลสามร้อยล้านปีแสงเลย ไม่ดุแค่ผีนะ มนุษย์คนอื่นที่ประพฤติตัวไม่ถูกต้อง หมออลินก็ดุ...จ้า

“อัยย์ เธอมาช้านะ ที่นั่งเต็มแล้ว” มาณพทัก เขาเป็นเพื่อนรุ่นน้องที่เคยช่วยฉันจากพวกวิญญาณอันธพาลสมัยที่ฉันเพิ่งเป็นวิญญาณใหม่ๆ ที่ยังเงอะงะ หาจุดยืนยังไม่ได้ ถึงแม้มาณพจะเป็นวิญญาณเด็กช่างที่ชอบต่อยตีก็เหอะ แต่วิญญาณวัยรุ่นแบบนั้น พลังยังไม่แข็งแกร่งพอ มาณพเป็นคนฉลาด รู้ว่าตนเองช่วยไม่ได้ก็ไปตามคุณตาเจ้าที่มาช่วย

ลืมเล่าไปว่ามาณพเคยจีบฉันด้วยละ แต่ว่าฉันไม่ชอบคนที่อายุน้อยกว่า อีกอย่าง ใจฉันเหมือนกำลังรอคอยบางอย่าง มาณพกับฉันจึงเป็นเพื่อนซี้กันมาตั้งแต่ตอนนั้น พวกเราสัญญากันไว้ว่าจะเป็นเพื่อนกัน และอยู่ด้วยกันตลอดไป จนกว่าจะถึงเวลาที่ต้องจากกัน

“มาณพ แค่ห้านาทีเอง ขอบใจนะที่จองที่นั่งให้ มีเรื่องอะไรน่าสนใจไหม”

ฉันนั่งลงข้างๆ มาณพที่ใจดีจองที่นั่งไว้ให้ฉันด้วย

“ขืนมาช้าสิ รับรองว่าอัยย์ไม่ทันวิญญาณตนอื่นแน่ ยิ่งอัยย์ตั้งชมรมแก๊งตัวใส วิญญาณใหม่พวกนั้น เรียนรู้การเป็นวิญญาณได้เร็วขึ้น ปรับตัว และยอมรับสภาพตัวเองมากขึ้น พวกเขาถึงได้เริ่มปฏิบัติการจุ้น...เรื่องมนุษย์มากขึ้นด้วย ก็นะ ทำไงได้ การเป็นวิญญาณมันน่าเบื่อจะตาย ไม่เห็นมีอะไรให้ตื่นเต้นนอกจากลอยไปลอยมา ฟังเรื่องเมาท์มอยของเหล่ามนุษย์เท่านั้นเอง”

มาณพเอ่ยตอบฉันเสียยืดยาว ราวกับเป็นคุณตาวัยแปดสิบไปซะได้

“เฮ้! มาณพ อัยย์แค่ถามสั้นนิดเดียว ตอบมาซะหายใจแทบไม่ทัน เอ๊ย! ลืมไปว่าพวกเราไม่หายใจแล้ว”

อย่างที่มาณพพูด หลังจากที่ฉันอยู่รอดมาหลายเดือนด้วยความลำบากในการดำเนินชีวิตในการเป็นวิญญาณมือใหม่ ฉันจึงตั้งชมรม และตั้งตัวเป็นหัวหน้า ‘แก๊งตัวใส’ เพื่อช่วยสอนวิธีการ ‘ดำเนินชีวิต’ ให้กับวิญญาณที่เพิ่งตายใหม่ๆ แล้วไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไร พวกเขาจะได้ไม่ลำบากเหมือนกับฉัน

ทำไมต้องแก๊งตัวใส อืม...ก็แบบว่าไม่มีร่างกายไง ดูๆ แล้วก็เหมือนวุ้นใสๆ จริงมะ น่ารักออก

ฉันเป็นหัวหน้าแก๊ง คุณตาเจ้าที่เป็นผู้อาวุโส ป้าปราณี วิญญาณที่อยู่มานาน เป็นคนคอยให้ความรู้ เพราะคุณป้าปราณีเป็นครูมาก่อน หน้าที่นี้จึงเหมาะสมที่สุด สำหรับฉันกับมาณพ มีหน้าที่ไปดักทุบหัว เอ๊ย! ไม่ใช่ละ ไปรับวิญญาณขณะที่ออกจากร่าง วิญญาณมักจะไม่รู้สึกตัวว่าตนเองตายไปแล้ว ถ้าเกเรหน่อย มาณพก็จัดการให้สงบลงได้ตามวิถีเด็กช่าง งานนี้มีเจ็บตัวกันบ้าง อิอิ!!

ตอนที่เปลี่ยนแปลงจากคนเป็นกลายเป็นวิญญาณ มันจะเปลี่ยนสถานะเหมือนเราดูแวมไพร์ทไวไลท์เลยเชียวละ เหมือนตอนที่เบลล่าเปลี่ยนร่างนั่นแหละ

“อัยย์ เหม่ออะไรอยู่ ไม่ทันได้ฟังพี่พยาบาลเมาท์กันล่ะสิ นั่นหัวข้อสุดฮิตที่อัยย์ต้องกรี๊ดเชียวละ”

มาณพเขย่าแขนฉันให้ตื่นจากภวังค์ความคิด

“หัวข้ออะไร” ฉันรีบเอ่ยถามขึ้นด้วยความสนใจทันที

“ฟังเอาเองดิ”

มาณพบอกพร้อมกับพยักพเยิดไปทางพี่พยาบาลสองคนที่กำลังเมาท์กันอยู่หลังเคาน์เตอร์บริการ

“ปราง เธอได้ยินข่าวหมอธันวาจะกลับมาประจำที่แผนกกายภาพบำบัดแล้วหรือเปล่า” พี่พยาบาลร่างอวบผิวขาวจัดที่ชื่อมะนาวเอ่ยถามเพื่อนพยาบาลอีกคน

“อย่าบอกนะว่า หมอธันวาที่ไปฝึกงานที่ต่างประเทศเมื่อสองปีก่อนนะ”

“ใช่แล้ว วันจันทร์หน้าหมอธันวาจะกลับมารับตำแหน่งหัวหน้าแผนกด้วยนะ น่าอิจฉายัยส้มจีนจัง ได้ทำงานกับคนหล่อทุกวันเลย” พี่พยาบาลมะนาวยังสาธยายไม่หยุด

“ฉันก็ชอบหมอธันวานะ คนอะไรหล่อวัวตายควายล้ม” พี่ปรางเอ่ยขึ้นมาลอย ๆ

“ส่วนฉันชอบหมอริสละ อวบๆ แบบฉันถ้าได้ตีสนิทกับหมอริสอาจจะหุ่นดี สวยขึ้นมาก็ได้” พี่พยาบาลร่างอวบเอ่ยบ้าง

“อย่างนี้ หมอริสแผนกศัลย์ก็มีคู่แข่งแล้วสิ แล้วเธอว่าระหว่างหมอธันวากับหมอริส คนไหนหล่อกว่ากันล่ะ” มาณพเอ่ยถามอัยย์บ้าง

“หมอริสฉันเห็นแล้ว หล่อจริงนั่นแหละ แต่หมอธันวายังไม่เคยเห็น วันจันทร์ต้องตามไปพิสูจน์ซะแล้ว” อัยย์เอ่ยขึ้นพร้อมกับยิ้มชั่วร้าย ในขณะที่มาณพได้แต่ส่ายศีรษะไปมาในความบ้าคนหล่อของเพื่อนตัวใส

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel