บทที่ 4
ร่างเพรียวในชุดนักศึกษาค่อนข้างรัดรูป เน้นสัดส่วน แบบชนิดที่ว่าถ้าหุ่นไม่ดีจริงๆ คงจะมีอะไรย้วยออกมาให้เป็นแน่ แต่มันดูดีมาก เมื่ออยู่บนเรือนร่างที่มีสัดส่วน 36-24-35 ของรสดาภา เสื้อนักศึกษาของเธอแม้จะปิดยันกระดุมเม็ดที่คอเสื้ออย่างไม่กลัวร้อนก็จริง แต่ความอลังการของอวัยวะบางส่วนก็ดันออกมาให้เห็นในเสื้อแบบกระชับพอดิบพอดีจากการสั่งตัด รสดาภาคงความเป็นขบถเล็กๆ ของเธอไว้กับเครื่องแบบที่สวม คือใส่เสื้อให้ไม่เหมือนคนอื่น และกระโปรงทุกตัวของเธอต้องเป็นกระโปรงสอบเอวต่ำและผ่าข้างด้านซ้าย
ใบหน้างดงามนั้นแต่เติมด้วยเครื่องสำอางแต่พองาม จุดเด่นอยู่ตรงนัยน์ตาสีเทาสวยซึ่งเป็นของจริงไม่ใช่คอนเทคเลนส์ จมูกโด่งปลายรั้นมีกระเล็กน้อย ไม่ได้ดูน่าเกลียด แต่มันกลับทำให้เจ้าหล่อนดูมีเสน่ห์อย่างบอกไม่ถูก ริมฝีปากที่เชิดขึ้นนิดๆ อย่างเป็นนิสัยยามมองใครต่อใคร ทำให้เธอดูหยิ่งอย่างบอกไม่ถูก เรือนผมยาวสลวยถึงกลางหลังหยักศกเป็นลอนใหญ่ตามธรรมชาติ มันม้วนเข้าหากันอย่างสวยงาม เมื่อยาวเจ้าตัวก้าวเดินฉับๆ มันก็เด้งดึ๋งๆ เหมือนเป็นสปริงชั้นดี
เรียวขายาวได้รูปเดินก้าวเร็วๆ ตรงเข้ามาหาเพื่อนของเธอทั้งสอง ที่รสดาภาคบหาเป็น ‘เพื่อนสนิท’ ตั้งแต่เธอเกิดมาก็เพิ่งจะมีคนที่เรียกได้เต็มปากว่าเพื่อนก็สองคนนี้นั่นแหละ ตั้งแต่เลิกดื้อเอาแต่ใจ เปิดใจไปกับอัยเรศแล้ว นิสัยหลายอย่างของรสดาภาก็ถูกเกลาให้ดีขึ้น เห็นได้ชัดเจนคือการเปิดรับมิตรภาพนี่แหละ แต่เพื่อนสนิทของรสดาภานั้น ก็...มีอะไรคล้ายๆ กันกับเธออยู่มาก
“สวยเด้ง แรดมาแต่ไกลเลยนะยะคุณเพื่อน”
เสียงแหลมเล็กเอ่ยทักขึ้นก่อนที่รสดาภาจะทันนั่ง เธอขึงตาใส่คนพูด ที่ยิ้มระรื่น ถ้าเป็นคนอื่นสายตาแบบนี้ของรสดาภาคงจะทำให้หนาวๆ ร้อนๆ ยกเว้นก็เธอคนนี้
“สวย ฉันรับไว้ ส่วนแรด ยกให้แกเลยลูกแพร”
“ปากร้าย ใจร้าย”
ลูกแพร หรือ แพรเพชรล้อม ค้อนให้เพื่อน เธอทำปากยื่น แล้วลุกขึ้น ท้าวเอว อวดเรือนร่างเล็กกะทัดรัด ในเครื่องแบบนักศึกษาที่ทั้งสั้น ทั้งฟิตไม่แพ้รสดาภา พร้อมกับทำหน้าเชิด
“คุณลูกแพร สวย แรง ต่างหากละยะ ไม่ใช่สวยแรด”
“อื้อ...เชื่อ...ว่าไม่แรด”
รสดาภาทำลากเสียง มองหน้ารูปไข่จิ้มลิ้มตรงหน้า แพรเพชรล้อมเป็นสาวตัวเล็ก สูงไม่ถึงร้อยหกสิบเซนติเมตร หน้าตาเธอน่ารักจิ้มลิ้ม ปากนิดจมูกหน่อย มีไฝตรงใต้ตาด้านซ้าย ที่โบราณเรียกว่าคนมีไฝแบบนี้คือไฝเสน่ห์ และเจ้าหล่อนก็พร้อมจะโปรยเสน่ห์ให้กับทุกคน โดยไม่ต้องรีรอ แพรเพชรล้อมรู้จักกับรสดาภาในคลาสเรียนวิชาเสริม เป็นหนแรก เด็กใหม่คนนี้ถูกใจเด็กเก่าขาเริดอย่างเธอ แพรเพชรล้อมไม่ใคร่จะมีเพื่อนผู้หญิงนัก เพราะเธอเป็นคนแรง กิริยาแบบพร้อมอ่อย แถมเป็นลูกคุณหนูที่ขับรถพอร์ช เคแมน รถสปอร์ตสุดหรู สีเหลืองเปรี้ยวปรี๊ดเหมือนบุคลิกของเธอ แต่พอมาเจอรสดาภาที่ขับรถสีชมพูเด่น แถมเป็นรถเฟอร์รารี่ ที่คงจะมีแค่ไม่กี่คัน หรืออาจจะเป็นคันเดียวในโลก มันก็ทำให้แพรเพชรล้อมอยากรู้จักเพื่อนใหม่คนนี้เอามากๆ ไหนจะด้วยบิดาที่ทำอาชีพเดียวกับเธออีก บิดาของแพรเพชรล้อมทำงานกำกับภาพยนตร์ ส่วนบิดาของรสดาภาก็เป็นผู้กำกับและผู้ผลิตภาพยนตร์ระดับฮอลลีวูด
เพราะเธอรู้สึกถึงพลังขบถเล็กๆ ในตัวรสดาภานั่นเอง
แล้วเมื่อแพรเพชรล้อมเกาะติดแม่สาวลูกครึ่งหน้าบึ้งคนนี้มากๆ เธอก็ยิ่งสนุก เทียวไล้เทียวขื่อ ยิ่งกว่าตามจีบผู้ชาย เลี้ยงข้าวบ้าง เลี้ยงน้ำบ้าง ตะโกนเรียก โบกมือทุกหนเมื่อเจอกันในคลาส เดินตามรสดาภา เรียกว่าตื้อเลยก็ว่าได้ในการอยากจะขอคบด้วย
รสดาภารำคาญแม่ลูกเจี๊ยบน้อยกึ่งเอ็นดู และแปลกที่มีคนมาเดินตามต้อยๆ ขอคบเธอ แล้ววันหนึ่งเธอได้รับความช่วยเหลือจากแพรเพชรล้อม ประโยคหนึ่งจากสาวเปรี้ยวทำให้รสดาภา ยอมคบกับเจ้าหล่อน
‘มีเพื่อนน่ะ มันก็ดีตรงเราไม่ต้องคุยกับตัวเองยังไงล่ะ แล้วเพื่อนก็ช่วยเหลือเราได้ด้วย เธอมีฉันมันก็ดีตรงอย่างน้อยก็มีคนทำให้เธอรำคาญ แล้วก็แอบยิ้มได้ยังไงละย่ะ แม่คนตาสวย’
นั่นคือก้าวแรก และเพื่อนคนแรก ของรสดาภา
“เมื่อคืนได้ไปกี่คนล่ะ”
รสดาภาแกล้งว่า เพราะรู้ๆ กันว่า แพรเพชรล้อมชอบ ‘ล่าเหยื่อ’ สาวตัวเล็กแต่แซบหัวเราะคิกคักชอบใจ แล้วก็หยิกเพื่อนอีกคนที่นั่งเอาหนังสือบังหน้าตั้งใจอ่านอย่างไม่สนใจว่า เพื่อนอีกสองคนกำลังพูดคุยอะไรกัน
“โอ๊ย! เจ็บนะ”
เสียงห้าวที่ถูกดัดให้เล็กลงดังขึ้น พร้อมกับหนังสือที่ลดลง เผยให้เห็นใบหน้าหวาน สวยเหมาะเจาะไปทุกส่วน คิ้วเรียวได้รูป นัยน์ตายาวรีวาวหวานสีน้ำตาลเข้ม จมูกโด่ง ริมฝีปากอิ่มสวยเคลือบสีพีช เรือนผมยาวล้อมกรอบรูปหน้า ยิ่งทำให้ดูโดดเด่น เครื่องแบบนักศึกษาที่สวม เรียบร้อยกว่าเพื่อนอีกสองคนอย่างเห็นได้ชัด ตัวเสื้อไม่ได้ฟิตเน้นหุ่นอะไร ตัดพอดีตัว กระโปรงก็ยาวคลุมเข่าลงมา แม้จะมีรอยผ่าเล็กน้อยพอให้เดินสะดวก ก็ยิ่งดูเรียบร้อย เจ้าหล่อนดูเป็นผู้หญิงตั้งแต่เรือนผม จนถึงปลายเท้าที่ห่อหุ้มด้วยรองเท้าคัชชูสีดำสองนิ้ว แบบตามระเบียบเป๊ะ
“เพราะนังต้าอี้ล่ะทำพิษ บอกล่ะว่าอย่าพูด อย่าพูด ให้ยิ้มอย่างเดียวไม่เชื่อ ผู้ชายเผ่นหมด เพราะนึกว่าฉันเป็นสปีชีส์เดียวกับมัน”
“เป็นสปีชีส์เดียวกับฉันมันเสียหายตรงไหน”
ต้าอี้ หรือ คริมา หรือ (อีกที) ชื่อเดิม ตฤณ ทำเสียงสะบัด แค่ฟังจากเสียง ก็รู้แล้วว่า เจ้าหล่อนจัดอยู่ในบุคคลเพศพิเศษ
“ก็ตรงมี...จะให้อธิบายไหมละยะ ว่าผู้หญิงมีไข่ ผู้ชายเค้าไม่ฟินนะ”
คำพูดของแพรเพชรล้อมทำเอารสดาภาหัวเราะคิก ส่วนคริมาทำหน้าเชิด
“เดี๋ยวก็ไม่มีแล้วย่ะ ไข่น่ะ จริงๆ เรียกไส้ติ่งก็ได้นะสำหรับฉัน อย่าไปฟังมันนะลิลลี่ มันนั่นแหละ แต่งหน้าเข้มยิ่งกว่าตัวแม่กระเทยของพวกฉันอีก หน้างิ้ว เสียงแหลม ท่าทางดัดจริตขนาดหล่อนน่ะ ยัยลูกแพร อยากกินผู้ชายอยู่ทุกเสี้ยววินาทีขนาดนั้น ใครไม่เผ่นก็แปลกล่ะ หล่อนจะหิวกล้วยอะไรตลอดเวลาย่ะ ยัยลูกแพร”
“แหมๆ ของมันลำแต้ๆ หนาเจ้า”
ประโยคหลังเจ้าหล่อนทำเสียงเล็กเสียงน้อย เป็นภาษาถิ่นทางเหนือ แล้วก็พานหันไปค้อนลมใส่รสดาภา
“ใช่สิ ของแบบนี้ สวยๆ อย่างฉันอะต้องหา แต่สวยแรงอย่างยัยลิลลี่น่ะ มีให้กินตลอดไม่ขาดปาก นี่ก็พี่ฉัตร คณะบัญชีที่มาเทียวส่งดอกไม้จีบเธอน่ะ ไปถึงไหนแล้ว a b c d?”
“z”
ตอบแล้วก็อมยิ้ม แล้วดึงเอาหนังสือตำราออกมานั่งอ่าน เลิกคุยสนุกกับสองสาว ปล่อยให้วิจารณ์กันไปว่า z ที่ว่าคืออะไร
“เหนือกว่า d อีกนะเพื่อนเรา z เลย ไอ้ z นี่ท่าไหนอะลิลลี่ ส่งไลน์มาที ฉันอยากลอง”
“หล่อนคิดให้มันสูงกว่าเหนือสะดือได้ไหม ยัยลูกแพร นี่พ่อแม่ส่งมาเรียนนะ ไม่ได้ส่งมาให้หล่อนหาผู้ชาย”
คริมาเอ็ดเอา แต่แพรเพชรล้อมกับยักไหล่ แล้วหัวเราะคิกคัก
“เรื่องเรียน เรื่องรอง เรื่องแรดเรื่องใหญ่จ้ะ”
ฟังสองสาวนั่นคุยไป รสดาภาก็แอบอมยิ้มไปด้วย นี่คือเพื่อนสนิทของเธอสินะ คนอย่างรสดาภาไม่ค่อยคบคนธรรมดาสักเท่าไหร่ หนึ่งสาวเป็นตัวจี๊ดประจำมหาวิทยาลัย ลูกไฮโซ เงินหนา บ้าแบรนด์ ทำตัวแรง เฟลิร์ตเล่นไปเรื่อย เลือกบ้างไม่เลือกบ้าง จึงล่ำลือกันว่าเธอง่าย และเป็นสาวล่าแต้ม ที่ไม่เคยขาดผู้ชาย
อีกสาว...แม้จะยังสาวไม่แท้ก็เถอะ คริมา ตัวท็อปอีกตัวของมหาวิทยาลัย รางวัลการันตรีระดับรองมิสทิฟฟานี่ สวย เริด เชิด กะเทยบิวตี้ฟูล คริมาดูเป็นคนหยิ่ง แต่จริงๆ ไม่ได้หยิ่ง เพียงแค่เข้าสังคมไม่เป็นก็เท่านั้น แม้จะมีคนชื่นชม แต่ก็ไม่ค่อยมีใครมาทักทาย ชื่นชมเธอเหมือนดารานักร้อง ชอบไปซุบๆ ซิบๆ แล้วก็มาขอถ่ายรูป ไม่รู้เลยว่ามันบั่นทอนความมั่นใจของคริมาไปโข และเมื่อสาวเผ็ดอย่างแพรเพชรล้อมมาทักทาย มาอยากรู้จัก ตอนแรกๆ ก็คล้ายรสดาภา คือรำคาญยัยลูกไก่ช่างตื้อ แต่เอาไปเอามา เธอก็กลายเป็นเพื่อนสนิทของแพรเพชรล้อม และตามมาสนิทกับรสดาภาด้วยอีกคน สองสาวเหมือนกันคือเข้าสังคมไม่ค่อยเป็น คริมาทำนิ่ง ส่วนรสดาภาเธอทำวางตัวให้ไม่มีใครอยากเข้าใกล้
จึงเป็นที่รวมของแก๊งสาวที่สวย รวย และเปรี้ยวเผ็ดเข็ดฟัน เป็นที่ซุบซิบกันว่า รสดาภาร้าย แรงไม่ต่างจากเพื่อนสาว ที่ทำหน้าสวยไม่สนใจที่ใครว่าเธอเป็นอย่างไร เพราะแพรเพชรล้อมบอกว่าตัวเธอก็คือตัวเธอ เธอชอบ มีความสุขเธอก็ทำ เธอไม่ได้ติดโรคป้องกันตัวดี และที่สำคัญที่แพรเพชรล้อมมักจะพูดลอยๆ เวลาได้ยินคนนินทาว่า เธอไม่ได้ ‘เอา’ ใครกลางมหาวิทยาลัย มีที่มีทางของเธอ
รสดาภาไม่เคยคิดจะแก้ข่าว เรื่องเป็นสาวแรง...และล่าแต้ม เธอไม่สนใจและถือมันเป็นเกราะ ดีเสียอีกพวกคนดีทั้งหลายจะได้ไม่มาอยากยุ่งกับเธอ ดูเหมือนอัยเรศจะได้ยินข่าวนี้เหมือนกัน บางทีท่านก็เหมือนจะเอ่ยเตือนลอยๆ แต่รสดาภาถือว่าตัวเองไม่ได้ทำ แล้วจะสนใจอะไรทำไม
ถ้าเธอสนใจสักนิด บางทีชีวิตของเธออาจจะไม่พลิกผันไปแบบนี้ก็เป็นได้...