EP.5 | ซ้อมใหญ่...(ไปมั้ย)
"เอาละน้าาาาา พร้อมแล้วค่าคุณพี่"
"เลิกเล่นได้แล้วครับเฌอ มาจริงจังกัน"
สองหนุ่มสาวกำลังพยายามซ้อมเดินมาเจอกันจากระยะไกล เฌอกำหนดสถานการณ์สมมุติให้ว่า ห่างกันไม่นานก็คิดถึงเสียแล้ว
'มันต้องความรู้สึกแบบนี้ ถึงจะเรียกว่าร้อนใจเลยรีบแต่งงาน'
หญิงสาวบอกกับเขา
ร่างสูงพยายามเดินมาหาเธอจากอีกฟากของสนามหญ้าหน้าบ้านพักตากอากาศ ลานซ้อมขนาดใหญ่ที่ว่าที่ภรรยาบอกให้คิดว่ามีสายตาคนเป็นสิบเป็นร้อยจ้องมองอยู่
คนเดินแข็งเหมือนหุ่นยนต์ ทำเอาอดีตนักแสดงสาวหัวเราะ
สายตาภริศเบิกกว้างราวกับตกใจและกลัวสิ่งที่กำลังพุ่งมา
"พี่ภริศศศศศค้าาาา"
เธอวิ่งเข้ามาหา แล้วกระโดดกอดเขาเต็มแรง
ร่างหนารับเธอไว้เต็มๆ จนแทบกระอัก
"บอกว่าอย่าเอาแต่เล่นไงครับ"
"คุณแหล่ะที่ไม่เข้าใจ
ต้องทำให้รู้สึกแบบนี้สิคะ
ตื่นเต้นดีใจที่ได้เจอ
อยากจะรับฉันไว้ทั้งตัวและหัวใจ
ไม่ใช่ทำหน้าเหมือนเห็นสัตว์ป่าวิ่งมาแบบนี้"
"แต่เฌอบอกเราเดินมาเจอกันหลังจากห่างกันไปสักพักนี่"
"คุณไม่เคยร้อนใจเพราะใครสินะ ผู้หญิงสักคน....คุณคิดสิคะ...ผู้หญิงที่ทำให้คุณมัวแต่เดินไม่ได้ ต้องวิ่งแล้ว....เดี๋ยวเธอจะรอช้า รอนานไป หรือเดี๋ยวเธอจะหายไป
เฮ้ออออ รู้สึกเหมือนกำลังทำงานที่บริษัทเลย"
"ทำไมเครียดหรอ ผมแสดงแย่มากเลยหรอ"
"อื้อ รู้สึกเหมือนเป็นผู้กำกับการแสดง"
"เอาน่า...เดี๋ยวผมจะซ้อมให้หนักขึ้น"
"เนี่ย มันต้องปลดล็อคก่อน อย่าคิดแต่ว่าจะดีขึ้นเพราะซ้อมสิคะ การซ้อมมันก็ดี
แต่คุณภริศต้องรู้สึกรักฉันจริงๆให้ได้ คุณถึงจะถ่ายทอดออกมาได้ดี
แล้วการซ้อมหนัก จะเป็นการซ้อมนำเสนออารมณ์ที่ถูกต้องตรงวัตถุประสงค์ของการแสดงนั้นๆ"
"เฌอ....ผมเริ่มอยากเห็นคุณกลับไปแสดงอีกครั้งแล้วนะ คุณดูมีจิตวิญญาณนักแสดงมากเลย"
"ขอบคุณสำหรับคำชมนะคะ แต่คุณจะทำฉันอดขึ้นเป็นผู้บริหารหญิงมั้ย"
"พักแป๊บนึงละกัน"
เขาเดินมาจูงมือหญิงสาวให้มานั่งที่เก้าอี้พักสักหน่อย
อากาศยามบ่ายคล้อย แต่ก็ร้อนอบอ้าว ไม่มีลมเย็นๆ พัดมาให้ชื่นใจ แต่อย่างน้อยก็มีเสียงนกร้องกับเสียงแมลงที่ทำให้รู้สึกถึงธรรมชาติอยู่บ้าง
ภริศนั่งเหยียดขาที่เมื่อยเพราะโดนสั่งให้เดินหลายรอบ แล้วก็เปลี่ยนมาพิงพนักให้ดีๆ ตามบุคลิกเคยชินของผู้บริหารหนุ่ม มือคว้าแก้วน้ำอัดลมที่มีน้ำแข็งเต็มแก้วจนหยดน้ำเกาะข้างๆเต็มไปหมด เขายกดื่มเพื่อดับกระหาย
"ฉันตัดสินใจจริงจังแล้วนะ" เฌอเอ่ยบทสนทนาขึ้น
"ต่อไป ฉันจะเรียกคุณว่าพี่ภริศ"
เขาพยักหน้ารับ "ผมจะเรียกคุณว่า เฌอ ไม่ก็ ที่รัก"
เฌอหยิบแก้วน้ำทรงสูงของตัวเองขึ้น มะนาวหั่นฝานบางๆเสียบที่แก้วประดับไว้ เธอหันหลอดยาวจ่อเข้าปาก นั่งพิงไปกับพนักเก้าอี้ มองดูฝ่ายชาย
"และคุณคือผู้ชายที่ฉันตกหลุมรัก รักจนยอมพึ่งพา รู้สึกขาดคุณไม่ได้ อยากจะอยู่ด้วยตลอดเวลา หวงแหนสุดๆ อยากจะครอบครองคุณไว้คนเดียว และฉันจะยอมเป็นของคุณคนเดียว"
โพล๊ะ!!!
สายตาแน่วแน่ของดลยา ลูกสาวคนเดียวของบริษัทผู้ผลิตภาพยนตร์ที่เคยรุ่งเรืองในอดีต ทำเอาเขาเผลอปล่อยแก้วน้ำร่วงลงบนสนามหญ้าเขียวชะอุ่ม
ร่างบางลุกขึ้นจากเก้าอี้
มือเล็กกระชากสาบเสื้อบริเวณหน้าอกของเขาให้เข้ามาใกล้ ใบหน้ามั่นใจ บ่งบอกการตัดสินใจที่เด็ดขาดนั้นหมายถึงการกระทำที่จะไม่เหลาะแหละหรือโลเล
เธอโน้มตัวลงมาหาคนที่นั่งอยู่ สีหน้าคาดไม่ถึงของเขา ไม่สามารถยับยั้งอะไรได้
ปากนุ่มสีพีชประทับลงที่ปากหนาของเขาอย่างช้าๆเนิ่นนาน เธอค่อยๆขยับปากทีละนิด กดจูบลงไปอย่างตั้งใจ ขอให้ส่งผ่านความรู้สึกนี้ไปถึงอีกคนได้
มือหนาค่อยๆยกขึ้นมาประคองหลังเธอไว้
ส่วนอีกข้างดึงข้อมือเล็กให้ลงมานั่งที่ตักเขา
สองคนตามค่อยๆ ส่งจูบซับให้กันอย่างบางเบา จนเริ่มหนักแน่นมากขึ้น
มือเล็กที่ถูกจับไว้กำแน่นไปพร้อมความรู้สึกที่จริงจังของเธอ ความปรารถนาจะสำเร็จ และก้าวสู่การเป็นผู้บริหารอันดับหนึ่งของที่บริษัทให้ได้
ภริศกุมมือเธอไว้อย่างอ่อนโยน เขาค่อยๆ เว้นระยะกับร่างบาง หัวใจที่เต้นแรงตอนนี้รู้สึกว่าต้องพูดสิ่งสำคัญออกไป เขามาเพื่อทำสิ่งนี้ มาเพื่อเป็นกำลังสำคัญให้กับเธอ
เธอช่างสดใส แต่ก็มีความเข้มแข็ง
และแม้เธอจะเป็นคนเด็ดเดี่ยว...แต่ก็ดูโดดเดี่ยวไม่ต่างกับเขาเลย
สายตามั่นคงของภริศ ส่งตอบกลับให้หญิงสาวอย่างตั้งใจ
"ผมจะเป็นทุกอย่างให้คุณเอง"
เขาพูดแล้วจูบเธอตอบ
เรียวปากเล็กที่เริ่มจูบก่อนนั้นถึงกับหยุดไปครู่หนึ่ง เมื่อเขาเริ่มจูบตอบสนอง และมันไม่ใช่จูบผิวปากหรือจูบแอคติ้งแบบที่เธอเคยเจอ
มือหนาดันหลังหญิงสาวไว้ แล้วลูบหลังเธอเบาๆ แต่ไม่ใช่การปลอบใจ เขาส่งลิ้นค่อยๆยกกลีบปากเล็กให้อ้าออกเพื่อรับเขา
คนที่ไม่เคยมีแฟน...และไม่เคยถูกจูบอย่างลึกซึ้งแบบนี้ เริ่มตื่นเต้นแต่รู้ว่า ถอยไม่ได้
เธอตัดสินใจปล่อยเขานำ
เรียวปากนุ่มถูกจูบซับความหวานซ้ำไปมา พอเธอเผยอปากมากขึ้น เขาก็สอดลิ้นเข้าภายในทันที
เนินอกขยับขึ้นลงเพราะเธอหายใจแรงและเร็ว เขารุกของจริงแล้ว ภริศ ไม่ใช่หุ่นยนต์ที่กำลังจูบ ร่างบางรู้สึกผิดที่เคยคิดว่าเขาคงไม่ถนัดอะไรแบบนี้ แต่ไม่ใช่เลย เขาคือผู้ชายโดยแท้จริง
ลิ้นสากสอดเลียลิ้นเล็ก เขาดูดดึงกวาดต้อนจนอีกฝ่ายจนมุม ยอมเขาไปหมดราวกับโพรงปากเล็กนี้เป็นของเขาแต่แรก
"อืมม"
จูบที่ราวกับเขาจับมือพาเธอบินไปบนฟ้าแล้วท่องไปบนเมฆ เหมือนกับบอกว่าต่อไปนี้ เธอจะไม่ต้องต่อสู้คนเดียวอีกต่อไป จงมีอิสระในการทำทุกอย่างอย่างที่ต้องการได้เลย
เขาเริ่มจูบรุนแรงขึ้นเหมือนเร้าอารมณ์อีกฝ่ายจนเจ้าตัวต้องพยายามเบรกด้วย
ชายวัย 30 มองคนตรงหน้าที่นั่งบนตักของเขา เธอหายใจเหนื่อยหอบเพราะเขา เธอหงุดหงิดเพราะเขา เธอหัวเราะก็เพราะเขา และตอนนี้เธอกำลังจะก้าวไปข้างหน้าอีกขั้นเพราะเขา
"มาเป็นแฟนพี่นะสักเดือนแล้วเรามาแต่งงานกัน"
"ค่ะ" เสียงตอบที่ยังสั่นเพราะถูกจูบแบบนั้น
ทำเอาอีกฝ่ายต้องเอ่ยถาม
เผื่อเธอจะต้องการเหมือนกัน
"เข้าบ้านกันมั้ย"