ตอนที่ 8 เศรษฐีสาวพันล้าน
เหมยฮัวเดินช้าๆออกมาหน้าโรงเรียนด้วยอาการเหม่อลอย ในหัวนึกถึงแต่ใบหน้าหวานของชายหนุ่มที่ไม่รู้ว่ามาดีหรือร้ายเพราะเขาทำราวกับว่าเธอนั้นเป็นแค่สิ่งของที่ไม่มีชีวิตจิตใจ
แต่เขาก็ช่วยเธอไว้...
ในใจนึกเถียงตัวเองแต่อีกใจนึงก็นึกถึงใบหน้าหวานของอีกคน ซึ่งไม่รู้ว่าขณะนี้เจ้าตัวไปอยู่ที่ไหนและไม่รู้ว่าป่านนี้ยังคงจดจำคนที่เคยเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่ยังเด็กอย่างเธอได้หรือป่าว
ยังคงโกรธฉันอยู่หรือป่าวนะ....
แต่แล้วเมื่อเมื่อเธอแหงนหน้าจะมองท้องฟ้าสายตาก็ไปหยุดชะงักอยู่กับร่างบางที่ยืนเอนกายพิงรถ สายตาของผู้เป็นเจ้าของร่างบางเหมือนจะมองมาที่เธออยู่ก่อนแล้วและเหมือนจะมองมานานมากแล้วด้วย
“อ....เอ่อ..นาย..”
“ไปขึ้นรถ”ไวโอเลตสั่งเสียงเรียบพลางหลี่ตามอง
“ท..ทำไมล่ะ”
“ฉันสั่ง...แล้วอย่าถามให้มากความ” น้ำเสียงนั้นเฉียบขาดและเยือกเย็นจนคนฟังเย็นวาบสะท้านไปถึงสันหลัง เหมยฮัวไม่มีทางเลือกจึงจำต้องเดินอ้อมเข้าไปนั่งภายในรถของเขา
ขณะที่นั่งอยู่ภายในรถไวโอเลตขับรถไปพลางก็สังเกตุอาการของแม่กวางน้อยของเธอไปพลางโดยมองผ่านหางตาเพราะไม่อยากให้เจ้าตัวรู้สึกอึดอัดใจ เธออยากจะชวนพูดแต่เพราะเป็นคนพูดไม่เก่งจึงทำได้แต่นั่งเงียบและทำหน้าที่ขับรถไป
“อ...เอ่อ..นี่ไม่ใช่ทางไปบ้านของฉันนี่”
เหมยฮัวพูดเสียงสั่นด้วยความหวาดกลัวเมื่อเห็นว่ารถที่กำลังเเล่นไปนั้นไม่ได้ไปตามเส้นทางที่บอกเอาไว้แต่เเรก แต่คนข้างๆยังคงนิ่งเงียบไม่แม้แต่จะหันมาสนใจ
แต่จู่ๆเหมยฮัวถึงกับต้องร้องแหวดังลั่นเมื่อรถคันงามแล่นไปตามถนนด้วยความเร็วก่อนจะดริฟท์ยาวไปตามเส้นทางโค้งที่เต็มไปด้วยรถลาวิ่งพล่านไปมา
บรืน! บรืน! ฟิ้ววว!!
เสียงเครื่องยนต์ดังกระหึ่มเบาๆพร้อมกับเสียงเทอร์โบที่ดังเป็นเอกลักษณ์ของรถมาสด้าrx7 เมื่อรถเเล่นเข้าสู่ทางตรงไวโอเลตกลับชะลอความเร็วลง แต่เมื่อถึงเส้นทางโค้งกลับเร่งความเร็วแล้วดริฟท์อย่างบ้าคลั่งทำเอาคนนั่งข้างๆใจเต้นรัวเร็วอย่างตื่นตระหนก
แม้จะเคยผ่านการดริฟท์มาอย่างช่ำชองแต่ครั้งนี้มันต่างกันราวฟ้ากับเหวเพราะการขับที่เน้นความรวดเร็วและความสวยงามในการดิฟท์แต่กลับไม่ห่วงความปลอดภัยเลยแม้แต่น้อยทำเอาคนนั่งไปด้วยจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
“ฉันเคยคิดที่จะออกไปเปิดโลกกว้าง..แล้วก็ทำสำเร็จจนสุดท้ายก็กลับมาที่นี่อีกครั้ง ที่โตเกียวเมืองแห่งการดริฟท์..ฉันกลับมาเพราะเห็นกำลังบ้าดริฟท์กัน..เลยจะกลับมารื้อฟื้นความทรงจำ”
ไวโอเลตร่ายยาวด้วยน้ำเสียงราบเรียบเเววตาคู่งามที่มองออกไปยังถนนเบื้องหน้านั้นเต็มไปด้วยความว่างเปล่าอันเป็นนิสัยและเอกลักษณ์ของเธอ
“นาย..ไม่ใช่พวกไกจินหรอกเหรอ”
“ฉันเกิดและเติบโตในโตเกียว..ฉันเคยไปอยู่ที่จีนและเกาหลีแต่ที่สุดท้ายคืออังกฤษและก็พึ่งจะกลับมาโตเกียวเมื่อคืนที่ผ่านมานี้เอง”
เหมยฮัวฉุกคิดในคำพูดของไวโอเลตเพราะสิ่งที่พูดมามันช่างคล้ายคลึงกับรินโกะเพื่อนรักเสียเหลือเกินเพราะรินโกะนั้นผ่านพบอะไรมามากมาย
แถมยังต้องแบกรับกับปัญหามานับไม่ถ้วนด้วยตัวคนเดียว จนสุดท้ายก็แบกรับภาระและปัญหามากมายคนเดียวไม่ไหวก่อนที่จะตัดสินใจหนีปัญหาเหล่านั้นไปอยู่ที่อังกฤษ
รถคันงามเคลื่อนผ่านเข้าไปในประตูเหล็กที่ถูกเปิดออกด้วยการใช้เลเซอร์สแกนก่อนจะค่อยๆแล่นเข้าไปจอดที่โรงรถขนาดใหญ่พอๆกับโดม
ภายในนั้นเต็มไปด้วยรถมากมายหลายสิบคันและส่วนใหญ่เป็นรถซุปเปอร์คาร์ทั้งนั้นและอาจจะมีบ้างที่เป็นไฮเปอร์คาร์ ส่วนที่เหลือเป็นรถประเภทตกแต่งสายสำหรับการดริฟท์โดยเฉพาะ
ปึก!!
ไวโอเลตใช้เท้าปิดประตูรถเพราะมือทั้งสองต้องใช้อุ้มแม่กวางน้อยที่หลับปุ๋ยไม่รู้สึกตัว เธอถอนหายใจออกมาเบาๆกับอาการขี้เซาของเจ้าตัว
ไวโอเลตอุ้มร่างของแม่กวางน้อยขี้เซาของเธอเดินเข้าไปยังด้านในของตัวบ้านที่หรูหรามีมูลค่าเกือบพันล้านบ้านหลังนี้เธอต้องใช้เงินเป็นจำนวนมากและมากกว่าราคาเดิมเกือบเท่าตัว
เพราะต้องใช้เงินทุนสร้างโรงรถขนาดใหญ่เพื่อกักเก็บซุปเปอร์คาร์หลายสิบรันของเธอนั่นเองแต่เงินเหล่านั้นก็ใช่ว่าจะหามาได้ง่ายๆและไม่มีทางที่คนรุ่นราวคราวเดียวกับเธอจะหาเงินมาได้มากมายก่ายก่ายกองเช่นนี้
“งืม....ที่นี่ที่ไหน..” เหมยฮัวรู้สึกตัวขึ้นกลับพบว่าตัวเองกำลังนอนอยู่บนเตียงนุ่มสีขาวเมื่อกวาดตามองไปรอบๆห้องกลับต้องตกตะลึงเมื่อมองไปเห็นหนังกระจกห้องที่เป็นกระจกตั้งแต่พื้นจรดเพดานทำให้สามารถมองออกไปเห็นวิวทิวทัศน์ที่เป็นเมืองและเเสงสีในยามค่ำคืนได้อย่างชัดเจน
“สวยจัง..บ้านของไวโอเลตงั้นเหรอ”
เหมยฮัวกวาดตามองไปรอบๆห้องนั้นอีกครั้งเพราะมันช่างน่าอยู่และดูหรูหราซึ่งบ่งบอกถึงฐานะของเจ้าของห้องที่น่าจะเป็นถึงมหาเศรษฐีพันล้าน แต่พอนึกถึงใบหน้าหวานของชายหนุ่มก็ยิ่งทำให้นึกไม่ออกเลยว่ามันจะเป็นตามที่เธอคิด
เขาเป็นลูกคนรวยงั้นเหรอ
ทำได้แต่ถามในใจกับตัวเองแต่แล้วเมื่อก้มลงมองดูที่ข้างกายก็พบว่ามีชุดนอนสีขาวตัวใหญ่วางไว้ที่ข้างกาย พร้อมกับกระดาษโน๊ตที่เขียนด้วยลายมือบรรจงแลดูคุ้นหูคุ้นตาเป็นอย่างมาก
ตื่นแล้วก็รีบอาบน้ำแต่งตัวเสียใหม่ถ้าหิวก็เดินลงมาชั้นล่าง เเล้วร้องเรียกเดี๋ยวฉันจะเดินไปหา
ทำไมลายมือดูคุ้นจนน่าแปลก
“โอ้ยไม่รู้แล่ว..คิดมากไปก็ปวดหัว!!” เหมยฮัวลุกลงจากเตียงหันไปหยิบชุดเสื้อยืดสีขาวสำหรับใส่นอนแต่แล้วก็ต้องถอนหายใจออกมาเบาเมื่อเหลือบไปเห็นบราเซียผ้าลูกไม้สีขาวตัวบาง
นายหน้าหวานนี่เอาใจใส่ผู้หญิงดีชะมัดท่าทางจะเป็นพวกเพลย์บอยล่ะมั้ง..
คิดได้เพียงแค่นั้นเหมยฮัวก็รีบเดินเข้าไปอาบน้ำที่ห้องน้ำขนาดใหญ่ที่มีบานกระจกกั้นเป็นประตูทางผ่าน แม้แต่ห้องน้ำยังกว้างขวางพอๆกับห้องนอนเธอคงไม่ต้องสงสัยเลยว่าเจ้าของบ้านจะรวยขนาดใหญ่
แม้แต่คฤหาสน์หรูอันเป็นบ้านของเธอก็ยังเทียบกับที่นี่ไม่ติด แบบนี้คงไม่ใช่เเค่เศรษฐีพันล้านแล้วกระมังคงต้องเป็นหมื่นเป็นเเสนล้านเสียแล้ว
คงไม่มีใครบ้าบิ่นเท่าเจ้าของบ้านนี้แน่เพราะเมื่อเธอแช่น้ำในอ่างจากุชชี่แล้วจะหยิบเอาบราเซียคู่นั้นมาเปลี่ยนถึงได้สังเกตุเห็นว่าส่วนที่เป็นลูกไม้สีขาวนั้นเป็นเกร็ดเพรชสีขาวสะท้อนแสงเเพรวพราวระยิบระยับทำเอาเธอไม่กล้าใส่เพราะมันมีราคาเเพงติดอันดับโลกเลยก็ว่าได้
ไวโอเลตนั่งจิบไวน์ไปพลางก็อ่านหนังสือไปพลางขณะนั่งอยู่ที่ห้องโถงชั้นล่างของตัวบ้านโดยมีเมดสาวสองคนยืนดูอยู่ห่างๆบางครั้งถึงจะเดินมารินไวน์ใส่แก้วให้เธอ
“คุณชายคะเธอลงมาแล้วค่ะ” เมดสาวคนหนึ่งพูดขึ้น
ไวโอเลตละสายตาไปจากหน้าหนังสือที่กำลังอ่านก่อนจะเหลือบหันไปมองที่ร่างงามของแม่กวางน้อยของเธอ ร่างนั้นอยู่ในชุดชุดนอนสีขาวตัวใหญ่ส่วนแขนเสื้อนั้นยาวกว่าแขนของเจ้าตัวเสียอีก ชายเสื้อส่วนล่างยาวต่ำลงมาถึงต้นขาขาวดูแล้วเซ็กซี่บาดใจคนมองเหลือเกิน
กร๊อบ!!!
“น...นายหญิงคะเป็นอะไรหรือป่าวคะ” เสียงเมดสาวร้องขึ้นด้วยความตกใจเมื่อจู่ๆแก้วไวน์ที่เธอกำลังจิบอยู่นั้นแตกละเอียดคาปากของเธอ
“ไม่เป็นไรเผลอใจไปหน่อยนึกว่าเป็นเนื้อ”