ตอนที่ 6 อดีตเพื่อนชั่ว NC 18+
ในเวลาเดียวกันนั้นรินโกะกำลังยืนนิ่งอยู่ภายในห้องพักหรูสายตาคู่งามจับจ้องมองไปชุดนักเรียนที่วางอยู่บนเตียงแต่มันมีสองชุดด้วยกันซึ่งชุดหนึ่งคือชุดของนักเรียนหญิงส่วนอีกชุดเป็นชุดของนักเรียนชาย
“ปัญหาโลกแตก..รินจ๋าเธอจะเป็นชายหรือหญิง”
ในขณะที่ปากบ่นมือเรียวก็หยิบชุดนักเรียนทั้งสองขึ้นมาพลิกดูและลังเลใจที่จะเลือกชุดใดชุดหนึ่งแต่เมื่อสายตาเหลือบไปเห็นตัวเลขที่นาฬิกาติจิตอลก็ต้องถอนหายใจออกมา
คงต้องเลยตามเลยก่อนที่จะสายสินะ...
ณ โรงเรียนหรู
กรี๊ด!! หล่อเป็นบ้า!!!
“อร้ายยย!!เพื่อนใหม่น่ารักอ้ะ!!”
นักเรียนหญิงภายในห้องต่างส่งเสียงกรี๊ดกร๊าดด้วยความปิติเมื่อครูผู้สอนแนะนำเพื่อนใหม่ซึ่งเป็นหนุ่มหน้าหวานแลดูมีเสน่ทำเอานักเรียนหญิงหัวใจละลายไปตามๆกันต่างพากับจับจ้องมองมาที่หนุ่มหน้าหวานผู้มาใหม่ตาเป็นมัน
เมื่อเห็นว่านักเรียนหญิงในห้องเริ่มแสดงอาการจนเกินเหตุครูผู้สอนจึงจำต้องสั่งให้ทุกคนเงียบแล้วหันมากล่าวกับหนุ่มน้อยหน้าหวานผู้มาใหม่เพียงสองสามประโยคก่อนที่จะชี้บุ้ยชี้บ้ายไปยังโต๊ะที่ยังว่างริมหน้าต่าง
ข้างๆโต๊ะที่ว่างนั้นยังมีเด็กสาวหน้าตาจิ้มลิ้มนั่งอยู่ด้วย แต่ทว่าทันทีที่หนุ่มน้อยหน้าหวานเหลือบไปเห็นกลับมีสีหน้าเคร่มขรึมไปในบัดดลทำเอาคนถูกจ้องหน้าเจื่อน
ร่างบางในชุดนักเรียนชายเต็มสูทสุดเนี๊ยบเดินไปทรุดกายลงนั่งบนเก้าอี้ที่ยังว่างข้างๆเด็กสาวหน้าตาจิ้มลิ้มที่จ้องมองมาตาไม่กระพริบก่อนจะถามเสียงกระด้างกับคนข้างๆว่า
“มองอะไร..หน้าฉันเหมือนพ่อเธอเหรอ”
เหมยฮัว ถึงกับหน้าแดงซ่านด้วยความเดือดดาลเมื่อพบว่าคนมาใหม่ทำนิสัยเสียมารยาทกับเธอแต่ก็ต้องข่มใจไว้เพราะไม่อยากมีปัญหาด้วย ก่อนจะตัดสินใจเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่พยายามทำให้เป็นปกติที่สุด
“น...นายชื่ออะไรงั้นเหรอ”
“..........”
สิ่งที่ได้รับกลับมาเป็นเพียงความนิ่งเงียบไร้คำตอบหนุ่มน้อยหน้าหวานเบือนหน้าหนีหันไปทางหน้าต่างเหมือนจะไม่อยากคุยด้วยหรือแม้แต่จะเป็นมิตรก็หาไม่
หนุ่มน้อยหน้าหวานเมื่อเห็นว่าสาวน้อยที่นั่งอยู่ข้างๆเอาแต่นั่งจ้องมองมาตาไม่กระพริบเขาจึงตอบกลับไปสั้นๆ
“ไวโอเลต”
“เอ๋....นั่นมันชื่อผู้หญิงไม่ใช่เหรอ”
“แล้วหนักหัวเธอเหรอ...”
“นี่...ฉันไปทำอะไรให้นายมาก่อน..ทำไมต้องทำเหมือนกับเราเป็นศัตรูกันด้วย”
“หึ...เธอไม่มีเพื่อนบ้างเลยรึยังไง” รินโกะในคราบของหนุ่มน้อยหน้าหวานชื่อฉายาไวโอเลตถามโดยที่ยังนั่งมือเท้าคางมองออกไปนอกหน้าต่าง
เหมยฮัวไม่ตอบแต่มีสีหน้าหม่นหมองลงไปชั่วขณะซึ่งอาการนั้นสังเกตุเห็นได้อย่างชัดเจนจากคนที่นั่งอยู่ข้างๆ ไวโอเลตเหลือบมองนักเรียนคนอื่นๆที่ต่างพากันหันมามองที่เหมยฮัวเป็นตาเดียวบ้างก็ซุบซิบนินทาบ้างก็ด่าทอเบาๆ
เธอไม่รู้หรอกว่าอดีตคนที่เคยเป็นเพื่อนตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาหนึ่งปีนี้มีอะไรเกิดขึ้นกับเจ้าตัวแต่ตอนนี้เธอรู้ได้ทันทีว่าจะต้องอยู่ในสถานะการย่ำแย่เพราะถูกคนรอบข้างเกรียดชัง
“ฉัน..ไม่มีเพื่อนหรอก..แต่เมื่ออดีตเคยมีและเป็นเพื่อนรักเพียงหนึ่งเดียวในชีวิต..แต่สุดท้ายก็เป็นฉันเองที่ทำลายสายสัมพันธ์นั้นและสุดท้ายเธอคนนั้นก็ย้ายไปต่างประเทศและทิ้งฉันไป”
ไวโอเลตหัวเราะหึหึพร้อมกับแสยะยิ้มแน่ล่ะเมื่อหนึ่งปีก่อนเธอยังจำได้ทุกประโยคที่เธอคุยกับอดีตเพื่อนสาวคนนี้ มันเป็นวันสุดท้ายของคำว่าเพื่อนและหลังจากนั้นพวกเธอก็ไม่ได้พบเจอกันอีกจนกระทั่งวันนี้...
“เอ...รู้สึกเหมือนยัยนั่นจะนั่งอยู่ตรงนี้สินะ” มือเรียวจิ้มลงบนโต๊ะพร้อมกับทำสีหน้าเหยียดๆมาที่อดีตเพื่อนสาว ทำเอาเจ้าตัวนิ่งอึ้งไปชั่วขณะเมื่อเงยหน้ามองสบตาเธอ
เธอจำดวงตาฉันได้งั้นเหรอ...คงไม่มั้ง..
“นาย...รู้ได้ยังไง” เหมยฮัวถามอย่างพาซื่อ
“เธอชื่อเหมยฮัวใช่มั้ยล่ะ”
เหมยฮัวยิ่งทำสีหน้างุนงงเข้าไปใหญ่เมื่อพบว่าเธอรู้จักชื่อของเจ้าตัวได้ แต่รอยยิ้มที่ปรากฏบนใบหน้าของเธอค่อยๆเปลี่ยนเป็นยิ้มแสยะอีกครั้งก่อนจะพูดขึ้นอีกว่า “รินโกะรักเธอมากแค่ไหนเธอไม่รู้เลยสินะถึงได้กล้าพูดอะไรแบบนี้ออกมา”
“น...นายรู้จักเธอด้วย!!”
อะแฮ่ม!!
เสียงกระเเอมดังมาจากครูสาวผู้สอนที่ยืนอยู่หน้ากระดานดังขึ้นเมื่อนั้นทั้งสองจึงนิ่งเงียบไป แต่ไวโอเลตก็ยังมิวายนั่งจ้องมองใบหน้างามของอดีตเพื่อนรักด้วยความคิดถึง
เมื่อหนึ่งปีก่อนเธอทะเลาะกับเจ้าตัวจนถึงขั้นตัดขาดความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนที่มีมายาวนานและสุดท้ายเธอก็เดินทางไปที่อังกฤษเพราะเหตุนั้นเองถึงทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเธอและเหมยฮัวจบสิ้นลงเพราะการที่เธอทิ้งให้
เหมยฮัวต้องเรียนอยู่ที่โรงเรียนแห่งนี้ตามลำพัง
ในสายตาและความคิดของคนอื่นอาจเห็นเป็นเรื่องไร้สาระและน่าขบขันแต่ในสายตาของเธอมันเป็นเรื่องสำคัญและน่าเก็บมาคิดเพราะการที่เธอย้ายมาเรียนที่นี่เป็นครั้งแรกนั้นนานะเป็นคนจัดการให้โดยส่วนใหญ่พึ่งเส้นสาย
แต่ตรงกันข้ามกับเหมยฮัวที่ต้องลำบากสอบเข้ามาเพื่อที่จะได้เรียนที่เดียวกันกับเธอ เจ้าตัวต้องละทิ้งความฝันและโรงเรียนดีๆที่อยากเข้าไปเรียนเพียงเพื่อได้ใช้ชีวิตในรั้วโรงเรียนเดียวกันกับเธอ
แต่แล้วเธอต้องทำลายความหวังนั้นลงเมื่อเธอบอกกับเจ้าตัวว่าจะย้ายไปเรียนที่อังกฤษแต่เจ้าตัวไม่ยอมและพยายามโย้มน้าวเธอสารพัด มีหรือที่เธอจะฟังเพราะในตอนนั้นปัญหาในครอบครัวของเธอเองก็ยังไม่สงบและเธอต้องการจะหนีปัญหานั้นไป
เธอทะเลาะกันจนเหมยฮัวพูดในสิ่งที่เธอเองก็ไม่เคยคิดว่าจะได้ยินจากปากของเจ้าตัว คำพูดนั้นเธอยังจดจำได้ไม่มีวันลืมเลือนและมันยังคงคอยกรีดลึกลงไปในความรู้สึกของเธอ
“เราสองเป็นเพื่อนที่ดีมาโดยตลอด...ฉันยอมเสียสละทุกสิ่งเพื่อได้อยู่เคียงข้างเธอยอมละทิ้งความฝันเปลี่ยนแปลงตัวเองจยตอนนี้ฉันไม่เป็นตัวของตัวเองเพียงเพื่อจะได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับเธอ..แต่ดูสิ่งที่เธอมอบให้กับการทุ่มเทของฉันสิ..เธอทิ้งฉันเอาไว้ข้างหลังทั้งๆที่เราเคยสัญญาว่าจะไม่ทอดทิ้งกัน..แต่ดูเธอสิ..ดูสิ่งที่เธอกำลังทำสิ..”
12:00 p.m เวลาพักเที่ยง
หลังจากที่เดินไปต่อคิวซื้ออาหารและเดินกลับมาเพื่อจะหาที่นั่งรับประทานสายตาของไวโอเลตก็พลันเหลือบไปเห็นร่างงามในชุดนักเรียนของคนที่เป็นอดีตเพื่อนขณะนี้กำลังก้มหน้าก้มตารับประทานอาหารในถาด
โดยมีนักเรียนหญิงสามคนยืนอยู่ข้างๆเธอรู้ได้ทันทีว่านั้นสามคนนั้นมีจุดประสงค์อะไรแต่เพราะไม่อยากจะยุ่งด้วยเธอจึงหันหลังทำท่าจะเดินจากไปแต่ทว่ากลับต้องหยุดชะงักฝีเท้า
เพล้ง!!!
เสียงนั้นดังมาจากโต๊ะที่อดีตเพื่อนสาวนั่งรับประทานอาหารเธอหันไปมองก็พบว่านักเรียนหญิงสาวคนนั้นได้เดินออกไปจากบริเวณนั้นเสียแล้ว อดีตเพื่อนสาวยังคงนั่งนิ่งแต่เมื่อเธอสังเกตุมองดูดีๆจึงพบว่าบริเวณเสื้อและแก้มมีเศษอาหารเลอะอยู่เต็มไปหมด
แต่ที่น่าสมเพชยิ่งกว่านั้นก็คือหยาดน้ำใสๆที่ไหลรินอาบแก้มทั้งสองเธอส่ายหน้าช้าๆด้วยความสมเพชในใจอยากจะทำเป็นไม่เห็นแต่อีกใจก็อดไม่ได้ที่จะสงสาร
เธอตัดสินใจเดินตรงไปที่ร่างนั้นวางถาดอาหารไว้บนโต๊ะอย่างไม่แยแสก่อนจะเอื้อมมือฉุดแขนให้ร่างนั้นลุกขึ้นยืน ท่ามกลางสายตาของนักเรียนคนอื่นๆที่จ้องมองมาเป็นตาเดียว
“ฮึก...ปล่อย!!”
“ยังปากดีอีกเหรอ..ตามฉันมาไม่งั้นเจอดีกว่านี้แน่แล้วอย่าหาว่าฉันไม่เตือน”
“ฮือ..ทำไมทุกคนต้องรังเเกฉันด้วย”
น้ำตาไม่ได้ทำให้คนเลือดเย็นอย่างเธอสงสารหรือเห็นใจเลยแม้แต่น้อย ตรงกันข้ามเธอกลับรู้สึกชอบที่ได้เห็นคนที่เป็นอดีตเพื่อนต้องเจ็บปวด
ไม่มีฉันเธอก็อยู่ไม่ได้...ยัยโง่..
เธอได้แต่เดินไปบ่นในใจไปโดยมีอดีตเพื่อนสาวที่เดินเตาะแตะตามหลังมามือก็เช็ดน้ำตาร้องไห้เหมือนเด็กเห็นแล้วขัดใจคนเป็นเพื่อนเสียจริง
ปัง!!
เสียงเท้าถีบประตูห้องน้ำหญิงดังขึ้นทำเอาทุกคนที่อยู่บริเวณนั้นสดุ้งตกใจแต่ยิ่งไปกว่านั้นก็คือมีนักเรียนชายหน้าหวานยืนอยู่ที่หน้าประตูพร้อมกับนักเรียนหญิงที่ยืนร้องให้น้ำตาคลออยู่ด้านหลัง นักเรียนหญิงคนอื่นๆยืนนิ่งเหมือนถูกสาบโดยแทบจะลืมไปเลยว่าที่ๆเขาอยู่เป็นห้องน้ำหญิง
“ไสหัวไปให้หมด!!” เธอพูดเสียงเฉียบขาดกับทุกคนภายในนั้นเพียงไม่กี่อึดใจทุดคนที่ใช้ห้องน้ำอยู่ภายในนั้นก็เผ่นแนบไปไม่มีเหลือแม้แต่คนเดียว
ไวโอเลตฉุนเเขนเหมยฮัวที่เอาแต่ยืนร้องห่มร้องให้ไม่ยอมหยุดก่อนจะเดินไปหยุดอยู่ที่หน้าห้องน้ำพลันนั้นเองเหมยฮัวก็ร้องถามเสียงหลง
“น...นายจะทำอะไรน่ะ”
ซ่าาา!!!
ร่างงามในชุดนักเรียนตัวเล็กบางถึงกับสั่นสะท้านเมื่อน้ำเย็นเฉียบฉากจากครุใบใหญ่ที่วางตั้งอยู่ริมห้องโดยฝีมือไวโอเลต
เหมยฮัวพูดไม่ออกในใจอยากจะกรีดร้องออกมาให้สุดเสียงสมกับความอัดอั้นภายในใจ ที่วันๆถูกแต่เพื่อนที่โรงเรียนรุมกลั่นแกล้งแม้กระทั่งเพื่อนใหม่ที่เธอหวังจะเป็นมิตรด้วยแต่เขากลับทำเช่นนี้กับเธอได้อย่างเลือดเย็น
“ฮือ....ไอ้เลว...ไอชั่ว..”
“เออ...ฉันชั่ว..ถึงชั่วก็เพื่อนเธอจำไว้” พร้อมกันนั้นมือเรียวก็คว้าหมับที่เสื้อนักเรียนตัวบางซึ่งขณะนี้เปียกน้ำจนแนบชิดกับเนื้อเนินอกเผยให้เห็นสิ่งที่ซ่อนอยู่ภายในเนื้อผ้าบางนั้นอย่างชัดเจน
แคว่ก!!
เหมยฮัวสดุ้งสุดตัวเมื่อเสื้อนักเรียนตัวบางถูกมือเรียวเล็กของหนุ่มน้อยหน้าหวานกระชากหลุดออกจากร่าง แต่ก่อนที่จะได้ร้องออกมากระโปงก็ถูกถอดกระชากตามไปอีกตัว
จนในตอนนี้เหลือเพียงบราสั้นสีสาวที่เปียกชุ่มน้ำและชั้นในตัวจิ๋วที่หมิ่นเหม่ใบหน้างามแดงซ่านทั้งอายทั้งโกรธและเสียใจในการกระทำของคนตรงหน้า แต่แล้ววินาทีนั้นเองบราเซียและชั้นในตัวจิ๋วก็ถูกกระชากออกไปอีก