บท
ตั้งค่า

พิชิตใจ ตำราที่ 4 : ลูกสะใภ้

หญิงสูงวัยผู้เป็นมารดานั่งมองลูกชายของเธอกับหญิงสาวผู้เป็นเลขาส่วนตัวของเขา ตั้งแต่มานั่งร่วมโต๊ะอาหารพวกเขาทั้งคู่ก็เอาแค่เงียบใส่กัน ไม่มีใครพูดอะไรออกมา

“อะแฮ่ม” เธอแกล้งไอ และแอบมองไปยังทั้งคู่อีกครั้ง แต่พวกเขาก็ยังนั่งนิ่งไม่ขยับ

“นี่แม่ทานข้าวร่วมกับหุ่นยนต์อยู่เหรอเนี่ย” เมื่อทนไม่ไหวเธอจึงเลือกที่จะเป็นคนเปิดประเด็นนี้เอง

“...” ทั้งคู่ยังคงเงียบ ลูกชายของเธอเอาส้อมเขี่ยข้าวในจานพร้อมกับมองไปยังเทียนไขที่นั่งมองจานข้าวอยู่ฝั่งตรงข้าม

“ทั้งคู่เปิดปากคุยกับแม่เดี๋ยวนี้!” เมื่อทนต่อไปไม่ไหวเธอจึงต้องใช้ไม่แข็งและเสียงแกล้งดุพวกเขา

“ค่ะคุณป้า” ในที่สุดเทียนไขก็ยอมพูด

“...” ยกเว้นแต่ลูกชายของเธอที่ยังคงเงียบอยู่

“เทียน ธาดาทำอะไรให้หนูไม่พอใจบอกป้ามาเลยลูก”

“คุณป้าคะ เทียนมีเรื่องจะถาม” เธอนั่งคิดอยู่นานจนในที่สุดก็ตัดสินใจที่จะพูดมันออกมา

“ถามมาเลย”

“ธาดาขึ้นเป็นผู้บริหารแล้วตามที่เทียนเคยสัญญากับคุณป้าเอาไว้ว่าจะอยู่เป็นเลขาจนเขาขึ้นบริหารงานเต็มตัว ตอนนี้เขาก็เป็นไปตามนั้นแล้ว เทียนจะลาออกจากการเป็นเลขาของเขาได้หรือยังคะ”

เคร้ง!

สิ้นเสียงพูดของเทียนไข ธาดาก็โยนช้อนส้อมในมือลงบนจานด้วยความหงุดหงิด เขาแอบคิดมาตลอดว่าเธอต้องมีเรื่องนี้อยู่ในใจ

“...” แม่ของธาดาได้แต่แอบมองปฏิกิริยาของลูกชายของเธอ ซึ่งตอนนี้ดวงตาแข็งกร้าวมองไปยังหญิงสาวที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม

“เทียนจะขอลาออกสิ้นปีนี้นะคะ ก็คือ... อีก 5 เดือนข้างหน้า” ประโยคท้ายเธอตั้งใจเว้นวรรค และเงยหน้ามองไปยังบุคคลที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม และพูดเน้นย้ำให้เขาเข้าใจ

“ไม่อนุญาต” ธาดาที่นั่งฟังมานานในที่สุดก็เปิดปากพูด

“ฉันลาออกกับคุณป้า ไม่ใช่คุณธาดาค่ะ” น้ำเสียงเย็นชาของเธอเวลาเรียกชื่อเขามันเป็นสิ่งที่เขาไม่เคยชอบเอาซะเลย

“ฉันไม่ให้ออก ใครก็ทำอะไรไม่ได้”

“เทียนเป็นคนตกลงกับคุณป้า ขอให้เป็นไปตามที่เราเคยคุยกันไว้ด้วยนะคะ” ธาดาจ้องมองไปยังเทียนไข ซึ่งตอนนี้เธอก็ทำเป็นไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาสักนิด

“อีกห้าเดือนใช่มั้ย” เมื่อเริ่มเห็นว่าทั้งคู่จะต้องทะเลาะกัน เธอจึงพูดขัดบทสนทนาของพวกเขาเอาไว้

“ใช่ค่ะ” เทียนไขขานรับ และมองไปยังผู้ชายคนหนึ่งที่กำลังเดินเข้ามา เขาโน้มตัวด้านหลังและกระซิบพูดกับเธอ

“ผู้หญิงเมื่อเช้าเธอไม่ยอมไปครับ เธอยืนยันจะต้องพบคุณธาดาให้ได้” ถึงจะเป็นเพียงเสียงกระซิบ แต่ผู้เป็นแม่ก็หูดีพอที่จะได้ยินบางประโยคและจับใจความได้เอง เธอปาดสายตามองไปยังลูกชายที่ยังคงนั่งจ้องหน้าเทียนไขไม่ละสายตา

“เทียนขอตัวแป๊บนะคะ” เธอหันมาบอกพวกเขาทั้งคู่ และลุกขึ้นเดินตามหลังผู้ชายออกไป

ปึง! เมื่อประตูห้องรับประทานอาหารปิดลง ผู้เป็นแม่ก็หันกลับมาหาลูกชายของเธอทันที

“ธาดามัวทำอะไรอยู่ฮะ!” เธอล่ะเหนื่อยใจกับลูกชายจริงๆ ทำให้ผู้หญิงหลงหัวปักหัวปำมานักต่อนัก แต่กับเทียนไขดันทำให้เธอรู้สึกด้วยยังไม่ได้

“ก็ทำงานไงครับ” เขาตอบไม่ตรงคำถาม เพราะรู้อยู่แก่ใจว่าคำถามของแม่มันหมายถึงอะไร

“ธาดา ลูกก็รู้ว่าแม่หมายถึงอะไร”

“ครับ”

“หลายปีที่ผ่านชะล่าใจเกินไปหรือเปล่า ไม่คิดหาวิธีมาทำให้เทียนชอบลูกบ้างเลยเหรอ”

“ทำแล้ว แต่วิธีเบาใช้ไม่ได้กับยายนั่นครับแม่” ที่ผ่านมาก็ไม่เคยทำอะไรยายนั่นเลยด้วยซ้ำ มีเพียงแต่เผลอตัวไปบ้าง แต่เพราะกลัวเธอจะห่างจากเขาเลยพยายามจะไม่ทำให้เธอลำบากใจไปมากกว่านี้ แต่ดูแล้วที่ผ่านมาจะชะล่าใจไปหน่อย ผลที่ออกมาตอนนี้คือเธอกำลังจะมาขอลาออกเพื่อหนีจากเขาไป

“แกน่ะชะล่าใจเกินไปคิดว่าเทียนไขจะรู้สึกแบบตัวเอง แต่ตรงกันข้ามหนูเทียนมองลูกเป็นแค่เพื่อนมาตลอด” ยิ่งพูดก็เหมือนยิ่งตอกย้ำ

“เทียนจะไม่ได้ลาออกหรอก” พอกันทีกับวิธีอยู่ใกล้ชิดให้ยายซึนนั่นมารักเขาเหมือนที่เขากำลังเป็น ถ้าไม่ไล่ต้อนก็ไม่จนมุมสินะ

“แล้วอีกอย่าง ถ้ายังไม่เลิกยุ่งกับผู้หญิงก็อย่าหวังว่าเทียนเขาจะมาสนใจแก ฉลาดทุกเรื่องยกเว้นเรื่องของเทียนไข แม่ล่ะปวดหัวกับแกจริงๆธาดา”

“ไม่เห็นยายนั่นจะเอ่ยปากสั่งแบบแม่บ้างเลย” ขอแค่พูดออกมาเขาก็พร้อมจะทำตามทุกอย่างทันที

“ก็เพราะแกมันงี่เง่าไง เขาเลยไม่อยากพูดด้วย ถ้าจะยุ่งไปเรื่อยแบบนี้ทำไมไม่หาเป็นตัวเป็นตนไปเลย มีไปก่อนแล้วก็เลิกทำให้เทียนเขาเห็นว่าแกไม่ได้มั่ว แต่ตอนนี้ก็ไม่ทันแล้วใช่มั้ย เขาเห็นแกมาตลอดสิบปี” เธอพูดพร้อมกับยกมือกุมขมับตัวเอง ลูกชายที่ไม่ได้เรื่องคนนี้ เธอทำทุกอย่างตามคำขอร้องของลูกเธอมาตลอด ให้เทียนไขมาอยู่ข้างๆแต่เขาก็ชะล่าใจทำเหมือนว่าเธอจะไม่หนีไปจากเขาได้

“ลูกแม่เป็นผู้ชายนะครับ” เรื่องแบบนั้นมันก็ต้องมีกันบ้าง ส่วนเทียนไขแทบจะยืนห่างกันเป็นกิโล จะเข้าใกล้ก็ต้องหาจังหวะดีๆ ไม่งั้นก็โดยยายนั่นสวนกลับมาอีก

“เป็นผู้ชายแล้วยังไง ไม่คิดจะมีเมียดีๆกับเขาเหรอ แต่ถึงแกจะไปคว้าเอาผู้หญิงที่ไหนมาแม่ก็ไม่ยอมรับหรอกนะ” เขารู้ว่าแม่รักเทียนไขมากแค่ไหน แล้วแม่ก็รู้ว่าเขาชอบเธอมากแค่ไหนเช่นกัน

“ได้ครับ ผมจะยุ่งแค่เทียนคนเดียว แม่เตรียมตัวจัดการฝั่งครอบครัวเทียนให้ด้วยนะ”

“ธาดา อย่าทำอะไรที่เทียนไม่สมยอม” เธอออกปากเตือนลูกชายของตัวเอง

ธาดาเป็นคนใจร้อน แต่จะใจเย็นเมื่อมีเทียนไข แต่ตอนนี้เขากำลังใจร้อนเพราะเรื่องของเธอ นั่นหมายความว่าทุกอย่างที่เขาทำต่อจากนี้มันจะเกิดขึ้นจริงตามความต้องการของตัวเขาเอง

“ไม่มีทางที่เธอไม่สมยอม” ก็ความลับระหว่างพวกเขามันมีแค่เราทั้ง 2 คนเท่านั้นที่รู้

“แต่เวลาที่ผ่านมาเกือบสิบปี คิดว่าเทียนเขาจะไม่รู้สึกกับลูกของแม่บ้างเลยเหรอ” ผู้เป็นแม่ถามด้วยความสงสัย

“เดาอะไรได้ด้วยเหรอครับเทียนไขน่ะ”

“แล้วลูกล่ะ เดาอะไรหนูเทียนเขาได้ด้วยหรือไง”

“ไม่ต้องเดาครับ ผมรู้จักเทียนดีกว่าใคร” ถ้ารู้แบบนี้จัดการไปตั้งแต่แรกก็จบแล้ว

“ปากเก่งไปเถอะ ทำให้มันสำเร็จแล้วกัน”

“แม่รู้แค่ว่าสิ้นปีนี้เทียนจะไม่มีทางได้ลาออกก็พอ” ผู้เป็นแม่หันกลับมามองที่ลูกของเธอ ก่อนที่จะพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“พ่อกับแม่ตัดสินใจแล้วนะ”

“เรื่องอะไรครับ”

“ลูกสะใภ้ของแม่ต้องเป็นเทียนไขเท่านั้น” คำพูดของแม่ทำให้เขาเผยยิ้มอย่างพอใจ สายตามองตรงไปยังร่างบางที่กำลังเดินกลับเข้ามา เทียนไขมองรอยยิ้มของผู้ชายตรงหน้า ในใจก็รู้สึกถึงลางสังหรณ์ว่าจะมีอะไรเกี่ยวข้องกับเธอ ความรู้สึกแปลกๆจากรอยยิ้มและสายตาของเขา

“รู้แล้วครับ มันเป็นของเธอมาตั้งแต่แรกแล้ว”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel