บท
ตั้งค่า

เงาทับซ้อนในคันฉ่องทองแดง

“เจิ้งหนานมัวทำอะไรอยู่เอาอาภรณ์ของพวกนางมาปิดร่างสตรีเหล่านั้นไว้สิ เจ้าจะยืนบื้อทำตัวเป็นสุภาพบุรุษแสร้งมองไม่เห็นอยู่ทำไม”

“อ่ะอ้อแฮะๆ ขอโทษทีข้าจะทำเดี๋ยวนี้ล่ะ แหมดุจังเลยนะขอรับพ่อฝูโจวผู้สุขุม” ว่าแล้วหลี่เจิ้งหนานก็หันหาอาภรณ์หลากสีที่กองอยู่บนพื้น ชายหนุ่มไม่รู้ว่าของใครเป็นของใครเขาไม่สนใจแค่รีบเอามันขึ้นมาปิดไว้ก็พอ ฝ่ายฝูโจวก็ดึงชุดของอ๋องซีฮันซึ่งพาดเอาไว้บนฉากกั้นมาคลุมปิดกายอ๋องหนุ่มที่กำลังนั่งเปลือยเปล่าตัวสั่นเป็นเจ้าเข้า

“ท่านอ๋อง เมื่อครู่เกิดเหตุอันใดขึ้นอย่างงั้นหรือขอรับ” ฝูโจวถามในขณะที่หลี่เจิ้งหนานห่มผ้าปิดร่างเปลือยเปล่าให้ผู้หญิงเหล่านั้นจนถึงคนสุดท้าย

“ฉะ ฉัน หนวดฉันขึ้นเต็มหน้าเลย กระจก กระจก เอากระจกมาให้ฉันทีสิ”

“ท่านอ๋องพูดเรื่องใดอย่างงั้นหรือขอรับข้าน้อยไม่เข้าใจ” ฝูโจวยังคงถามด้วยน้ำเสียงที่นิ่งสงบและเยือกเย็น

“นะหนวดไงหนวด ฉันหนวดขึ้นเต็มหน้าเลยดูสิ นี่ไง”

หลี่หลิงหลงในร่างอ๋องซีฮัน ผู้ดูแลผิวหน้าเป็นอย่างดีตกใจที่ตัวเองมีหนวดมากกว่าเรื่องตัวเองมีกะปู๋ชี้นิ้วเข้าหน้าตัวเองให้ผู้ชายสองคนดู ฝูโจวมีอาการงุนงงเล็กน้อยที่อ๋องซีฮันพูดจาแปลกไป ฝ่ายหลี่เจิ้งหนานนั้นกลั้นหัวเราะเอาไว้ไม่อยู่จนพ่นลมออกจมูกดังพรืดแล้วรีบยกมือปิดปาก

“ขำอะไรยะ ไปเอากระจกมาให้ฉันสิ” อ๋องซีฮันที่ตอนนี้ข้างในคือหลี่หลิงหลงหันไปตวาดใส่หลี่เจิ้งหนานจนเขาชะงักเมื่ออีกคนพูดแปลกๆ แต่ก็สูดหายใจเข้าลึกเม้มริมฝีปากไว้แน่นก่อนโน้มศีรษะลงเล็กน้อยแล้วเอ่ยขึ้น

“ข้าน้อยผิดไปแล้ว ขอท่านอ๋องได้โปรดเมตตาประทานอภัยโทษ ข้าน้อยด้อยปัญญาไม่เข้าใจสิ่งที่ท่านอ๋องเอื้อนเอ่ยจริงๆ ขอรับ”

เขาหัวเราะแห้งๆ รู้สึกขำในท่าทีของอ๋องหนุ่มเจ้านายเหนือหัวของตน ประสานหมัดขวาชนเข้าฝ่ามือซ้ายก้มหัวคำนับเหมือนซีรี่ส์จีนโบราณที่เธอเคยดู แต่ทว่าท่าทีของหลี่เจิ้งหนานหาได้หวาดกลัวคนที่เขากำลังขบขันเหมือนอย่างที่พูดด้วยซ้ำ

“อ่ะ เอ่อ..จริงด้วยสิ”

สิ่งที่หลี่เจิ้งหนานปฏิบัติทำให้หลี่หลิงหลงนึกขึ้นมาได้ว่าเธอไม่ได้อยู่ในโลกเดิมอีกแล้ว และที่นี่คือช่วงไหนของประวัติศาสตร์ก็ไม่รู้ หรืออาจจะไกลจนไม่ถูกบันทึกไว้เลยก็ได้

เมื่อคิดเช่นนั้นหลี่หลิงหลงก็ทำตัวไม่ถูกเริ่มกลัวตายเพราะเห็นดาบเล่มใหญ่ที่ทั้งสองคนถือไว้ข้างกาย หญิงสาวในร่างของชายสูงใหญ่ผู้มีตอหนวดเคราหนาอึกอักอยู่ในลำคอ สายตาเลิ่กลั่กกลอกกลิ้งไปมาขณะใช้ความคิด

“ท่านอ๋องต้องการสิ่งใดเช่นนั้นหรือโปรดพูดอีกสักครั้ง สิ่งใดคือฉันและสิ่งใดคือกระจก ข้าน้อยไม่เข้าใจคำพูดของท่านขอรับ” ฝูโจวถามขึ้น

“อ่ะ คือ..” เธอกดเปลือกตาลงแน่นขมวดคิ้วนึกทบทวนคำพูด ควรแทนตัวเองว่ายังไงและกระจกในยุคนี้เขาเรียกอะไร

“คือฉัน อะ เอ่อ ขะข้า..” ฝูโจวผู้ที่รอคอยคำตอบอย่างแข็งขันจ้องหน้าคมเขม็งจนคนข้างในพาร่างชายสะดุ้งเฮือกเมื่อหันไปมองชายหนุ่มร่างกายสูงใหญ่ยืนตระหง่านค้ำหัวตนอยู่

“ขะ ข้า คันฉ่องๆ ใช่แล้วเอาคันฉ่องมาให้ข้าทีสิ” ท่าทางที่ผิดแปลกของอ๋องซีฮันทำให้ฝูโจวเพ่งมองอ๋องหนุ่มโดยไม่วางตา

“คันฉ่องงั้นหรือ...ได้สิเดี๋ยวข้าน้อยจะไปเอามาให้ตอนนี้เลยขอรับ” หลี่เจิ้งหนานกล่าวแล้วเดินไปเอาคันฉ่องที่ทำจากโลหะขัดจนขึ้นเงาวาวบานใหญ่ทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าในกรอบไม้ที่ถูกสลักอย่างวิจิตรงดงามยกมาตั้งข้างเตียงนอนของอ๋องหนุ่มทำเอาหลี่หลิงหลงถึงกับอึ้ง

“ฮู๊ว หนักน่าดู เชิญท่านอ๋องยลโฉมท่านเองได้เลยขอรับ ว่าท่านหล่อเหลาสมชายชาตรีเพียงใด” หลี่เจิ้งหนานยังคงพูดจายียวนกวนประสาทไม่หยุดหย่อน

“ขอบใจมากนะ” หลี่เจิ้งหนานน้อมคำนับยิ้มให้เล็กน้อยแล้วถอยไปยืนที่เดิม เธอจ้องชายที่ยกคันฉ่องมาให้ทั้งรู้สึกคุ้นหน้าแต่นึกไม่ออกว่าเขาคล้ายใครแล้วหันมามองเงาสะท้อนของตัวเอง

ในคันฉ่องโลหะที่สร้างขึ้นจากทองแดงขัดจนเงาเบื้องหน้านั้นปรากฏภาพของชายร่างใหญ่อายุราวสามสิบปี กล้ามเนื้อที่ต้นแขนเป็นมัดๆ น่าเกรงขาม หลี่หลิงหลงลูบปลายคางและใต้จมูกด้วยมือที่สั่นเทาน้ำตาเริ่มเอ่อนอง

“นี่ฉันตายจากโลกนั้นแล้วจริงๆ เหรอ ฉันเกิดใหม่ในร่างของผู้ชายบ้ากามนี่เหรอ” หญิงสาวพูดพึมพำ นั่นทำให้ฝูโจวและหลี่เจิ้งหนานหันมองหน้ากันอย่างงุนงง

เมื่อหญิงสาวจ้องร่างนั้นอยู่นานดวงตาที่ถูกบดบังด้วยน้ำใสๆ ทำให้การมองเห็นเงาสะท้อนที่ไม่ค่อยชัดเจนอยู่แล้วดูขมุกขมัวหนักยิ่งกว่าเดิม แต่ทว่าไม่นานนักเงานั้นกลับค่อยๆ แปรผัน หลี่หลิงหลงเห็นเงาตัวเองทับซ้อนอยู่ในโลหะ หญิงสาวมีท่าทีที่เปลี่ยนไปทันทีและนั่นยิ่งทำให้เธอมั่นใจว่าเธอเกิดใหม่ในร่างชายโสมมคนนี้จริงๆ ร่างกายเธอจากโลกอื่นคงตายไปแล้ว วิญญาณเธอถึงได้มาสถิตอยู่ที่นี่ แล้วยังตื่นมาตอนที่กำลังสะบึมผู้หญิงอยู่อีก

‘หรือเพราะฉันหวงเนื้อหวงตัวมากเกินไป ฉันทำผิดอะไรพระเจ้าถึงได้ลงโทษฉันแบบนี้’ เธอนึก

หลี่หลิงหลงจ้องเงานั้นอยู่นานเหมือนดั่งว่าจะไม่ได้เจอใบหน้าที่สวยงามของตนเองอีกจนเธอสังเกตเห็นฝูโจวมายืนเป็นเงาอยู่ด้านหลังและเขากำลังขมวดคิ้วเข้าหากันแววตาคู่นั้นเต็มไปด้วยความสงสัย

“มีอะไรเหรอพี่ฝูโจว” หลี่เจิ้งหนานถามขยับเท้าเหมือนจะเดินเข้ามาดูด้วย สายตาของหลี่หลิงหลงเห็นฝูโจวกำมือเข้าฝักดาบแน่นจึงรีบเบือนหน้าหนีหันไปทางหลี่เจิ้งหนานและพูดขึ้นเพื่อเปลี่ยนบริบททันที

“เอ่อ..ข้า.. ข้าหมดเรื่องแล้ว ช่วยยกคันฉ่องออกไปที” หลี่หลิงหลงปรับตัวอย่างฉับพลันด้วยความจำเป็นเพราะกลัวดาบใหญ่ของทั้งสองคน เธอยังไม่อยากตายอีกรอบ

'ไหนๆ ก็มาเกิดใหม่ในร่างนี้แล้ว ฉันจะขอสวมรอยเลยแล้วกัน' หลี่หลิงหลงคิด

“ท่านอ๋องไม่รู้สึกสบายตรงไหนหรือเปล่า ข้าน้อยจะให้เจิ้งหนานไปตามหมอมาดูอาการให้” ฝูโจวพูดทั้งที่รู้สึกสงสัย เขาคิดว่าเขาตาฝาด หรือว่าอ๋องหนุ่มถูกปีศาจเข้าสิง

“เอ่อ ก็ดีนะพวกเจ้าออกไปก่อนได้ไหมข้าอยากพักรู้สึกเหนื่อยเหลือเกิน ตอนเช้าเอ๊ยรุ่งเช้าค่อยให้คนไปตามหมอมาดูอาการข้าก็ได้”

“แหมก็คงจะเหนื่อยอยู่หรอกท่านเล่นพวกนางซะหมดสติไปเลย” หลี่เจิ้งหนานพูดขึ้นอย่างลืมตัวทำเอาฝูโจวกลอกตามองเตือน

“อะ ข้าน้อยขอประทานอภัย เช่นนั้นหากท่านอ๋องไม่มีเรื่องอะไรให้รับใช้แล้ว ข้าน้อยขอตัวออกไปลาดตระเวนต่อ” เขาคำนับแล้วเดินออกไปเงียบๆ

“ถ้าเช่นนั้นข้าน้อยขอตัว” ฝูโจวคำนับแล้วกำลังจะถอยออก

“เดี๋ยวก่อน ท่านชื่อ..เอ่อๆ” หญิงสาวพยายามนึกชื่อชายร่างสูง

‘ฝูโจว จริงสิ’

“ฝูโจว เมื่อครู่เจ้าเห็นอะไรในคันฉ่องหรือไม่” ฝูโจวนิ่งไปสักพักก่อนตอบ

“กระหม่อมเห็นเพียงเงาของท่านอ๋องเท่านั้นขอรับ”

“แน่ใจเหรอ”

“ขอรับ”

“เช่นนั้นเจ้าช่วยบอกให้คนมาพาสตรีเหล่านี้ออกไปได้หรือไม่ข้าอยากอยู่เพียงลำพัง”

ฝูโจวหันมองร่างอิสตรีที่หลับไม่เป็นท่าเอาปลายอาวุธในมือที่หลับใหลอยู่ในฝักสะกิดก็ไม่ตื่น จึงคิดว่าคงไม่มีใครมาจับพวกนางแต่งตัวครั้นจะให้อุ้มออกไปแบบนั้นคงไม่ดีแน่และตนก็ไม่อยากไปปลุกน้องสาวให้มาจัดการเรื่องนี้แต่เสียงอีกคนก็พูดแทรกความคิดเขา

“ข้าเหม็นตัวเองเหลือเกินข้าอยากอาบน้ำล้างตัว กลิ่นเซ็กส์ เอ๊ยกลิ่นสตรีเหล่านั้นติดตัวข้า”

“ตอนนี้สาวใช้หลับหมดแล้ว อีกไม่กี่ชั่วยามก็จะฟ้าสางขอให้ท่านอ๋องอดทนไปก่อน ข้าน้อยจะบอกโจวหมิ่นมาเตรียมน้ำให้ท่านได้อาบแต่เช้าตรู่เองขอรับ”

“โอเค..อ่ะ เอ่อ ก็ได้ขอบใจเจ้ามากเจ้าไปเถอะ

“หากท่านไม่อยากนอนตรงนี้ท่านจะไปนอนม้ายาวตรงนั้นก็ได้นะขอรับ เดี๋ยวข้าจะให้คนมาเตรียมที่นอนให้ใหม่”

“อืม...แต่ตรงนั้นคงหนาวเพราะมันใกล้หน้าต่างถ้าอีกไม่กี่ชั่วยามก็สว่าง ข้าอดทนนอนกับพวกนางก็ได้”

เมื่อหลี่หลิงหลงบอกแบบนั้นฝูโจวก็พยักหน้าก่อนจะเดินจากไป เธอนอนแผ่หลาลงท่ามกลางผู้หญิงที่นอนอยู่อย่างระเกะระกะ แล้วลุกออกจากเตียงไปนั่งลงหน้าคันฉ่องเธอมองอยู่นานทั้งยกมือขึ้นลูบใบหน้าตัวเองที่ปรากฏอยู่บนแผ่นโลหะ หลี่หลิงหลงค่อยๆ ไถลตัวเหยียดแขนเอนกายลงนอนมองมันอยู่อย่างนั้นแล้วผล็อยหลับจนถึงเช้า

แก๊ก แอ๊ด เสียงเปิดประตูและฝีเท้า เดินเข้ามาด้านในห้องนอนนั้นไม่ได้ทำให้หลี่หลิงหลงในร่างบุรุษตื่นขึ้นมาเลยเพราะเธอเพลียหนัก

“ท่านอ๋องเจ้าคะ ท่านอ๋อง”

เสียงกังวานใสของสตรีเรียกขานอ๋องหนุ่มเพราะไม่เจอเขานอนอยู่บนเตียง เธอเดินไปทั่วแล้วก็ต้องไปสะดุดเท้าบุคคลที่เธอตามหานอนอยู่บนพื้นห้อง

“ตายจริง ท่านอ๋องเจ้าคะท่านอ๋อง” หญิงสาวยื่นมือไปหวังจะเขย่าปลุกเจ้าของหัวไหล่กำยำนั้นให้ตื่นแต่ก็ต้องชะงักกับภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้า

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel