บท
ตั้งค่า

ต้องการคนช่วย

“นั่นมัน...อะไรกัน...” หญิงสาวพึมพำชักมือกลับแล้วก้มเข้าไปมองให้แน่ใจ

พรึบ!!

“กรี๊ด!!” เธอร้องดังลั่นเมื่ออยู่ๆ ร่างอ๋องหนุ่มก็ลืมตาขึ้น มิหนำซ้ำอ๋องหนุ่มยังลุกมากรี๊ดตามเธอเสียงของทั้งสอง ดังจน ฝูโจวที่กำลังนั่งดื่มน้ำชาอยู่สวนหน้าเรือนพักถึงกับพ่นน้ำชาออกจากปากเขาทิ้งถ้วยชาแล้วกระโดดตัวเบาหวิวมุ่งหน้าไปยังจวนอ๋อง

“โจวหมิ่น เกิดอะไรขึ้น” ฝูโจวตะโกนถามด้วยความตกใจเมื่อได้ยินเสียงกรีดร้องของชายหนึ่งหญิงหนึ่งจากด้านใน

หลี่หลิงหลงได้สติเมื่อได้ยินเสียงของฝูโจวใกล้เข้ามารีบคว้ามือโจวหมิ่นที่กำลังลุกออกไปหาฝูโจวเอาไว้แล้วดึงหญิงสาวมากอดแนบอกและรีบใช้มือปิดปากเธอ

“เอ่อๆ นางตกใจเพราะเห็น เห็นหนูน่ะ ข้าเลยพลอยตกใจไปด้วย” หลี่หลิงหลงตะโกนบอกทั้งที่ใช้มือใหญ่ปิดปากโจวหมิ่นไว้แน่น แต่โจวหมิ่นนั้นตกใจอย่างเห็นได้ชัดดวงตาเบิกกว้างกลอกกลิ้งไปมาอย่างคนหวาดกลัว

“แน่ใจหรือขอรับท่านอ๋อง”

“นะ..แน่สิ เจ้าออกไปก่อนเดี๋ยวข้าจัดการเอง”

“ขอรับ” ฝูโจวลังเลและสงสัยแต่ก็ทำอะไรไม่ได้มากจึงยอมถอยกลับไป

“อื้อ อื้อ” แม้ว่าโจวหมิ่นจะร้องเรียกตามฝูโจวเต็มที่แล้ว มันก็เกิดเพียงเสียงอู้อี้

“นี่ เงียบฉันไม่ทำอะไรเธอหรอกฉันเองก็ตกในเหมือนกัน ฉันจะปล่อยเธอแน่ขอแค่เธอไม่ร้องเรียกฝูโจว ถ้าเธอเรียกเขาฉันจะหักคอเธอให้ตายไปเลย” หลี่หลิงหลงในร่างอ๋องซีฮันเค้นเสียงกระซิบลอดไรฟันข่มขู่ข้างหูหญิงสาว

“อื้อ อื้อ” โจวหมิ่นยังคงดิ้นทุรนทุรายเพราะเธอเริ่มหายใจไม่ออก หลี่หลิงหลงเองก็พอรู้ว่าเธอต้องการอากาศหายใจจึงยื่นข้อเสนอ

“สัญญากับฉันก่อนว่าเธอจะไม่ส่งเสียงเรียกฝูโจวเข้ามาฉันถึงจะปล่อย” โจวหมิ่นพยักหน้าดวงตายังคงเบิกโพลง

“จริงนะโจวหมิ่นฉันไม่มีคนช่วยฉันต้องการให้เธอช่วย”

โจวหมิ่นพยักหน้าอีกครั้ง หลี่หลิงหลงจึงค่อยปล่อยมือเธอออกเพื่อความแน่ใจว่าเธอจะไม่กรี๊ด หากเธอตุกติกจะได้คว้าไว้ทัน โชคดีที่โจวหมิ่นทำตามสัญญา

“โจวหมิ่นตอนนี้ข้าแค่อยากอาบน้ำมาก เจ้าจะช่วยข้าได้ไหมร่างกายของท่านอ๋องที่พวกเจ้ารักเต็มไปด้วยกลิ่นคาวโลกีย์ข้าเหม็นตัวเองจะแย่อยู่แล้ว ข้าขอแค่ให้เจ้าช่วยนำทางข้าไปอาบน้ำก็พอ” โจวหมิ่นได้ยินดังนั้นก็พยักหน้าแล้วลุกขึ้นเดินนำทางหลี่หลิงหลงไปยังอ่างอาบน้ำส่วนตัวของอ๋องซีฮัน

“แต่ว่าน้ำยังไม่ร้อนเลยนะเจ้าคะ ข้าเกรงว่าร่างกายของท่านอ๋องจะหนาวสั่นจนท่านไม่สบายได้ เดี๋ยวข้าน้อยจะจัดการทำน้ำอุ่นให้ขอท่านโปรดรอสักประเดี๋ยว”

“เหรอ ต้องทำยังไง”

“ต้องไปก่อไฟอีกห้องหนึ่งเพื่อให้เกิดความร้อนไหลเวียนเขามาที่นี่แล้วน้ำจะเริ่มอุ่นเจ้าค่ะ ท่านอ๋องจะลงไปแช่ได้อย่างสบายตัว”

“เหรอไปสิเดี๋ยวข้าไปช่วย”

“เอ่อคงจะไม่ดีกระมังเจ้าคะ เดี๋ยวท่านพี่จะตำหนิข้าน้อยได้”

“ใครคือพี่เจ้าเหรอ”

“เอ่อ พี่ฝูโจวคือพี่ชายข้าน้อยเจ้าค่ะ”

“หา!!!”

‘ฉิบหาย น่ะ นี่ฉันไปขู่ฆ่าน้องสาวผู้ชายคนนั้นเหรอ ตายล่ะวา’ หลี่หลิงหลงยืนนึกอ้าปากหวอหลังอุทานออกมาอย่างตกใจความคิดที่จะโดนฝูโจวเชือดแล่นผ่านเข้ามาจนก้อนเนื้อกลางอกมันเย็นเฉียบ

“ท่านอ๋อง..เป็นอะไรไปหรือเจ้าคะ”

“ห๊ะ เปล่าๆ ไม่เป็นไรหรอกข้าอยากช่วยเอาไว้ข้าจะชี้แจงกับฝูโจวเอง ไปกันเถอะนำทางข้าไปทีข้าอยากอาบน้ำเร็วๆ เหม็นคาวเป็นบ้า ข้าแทบจะอาเจียนออกมาอยู่แล้ว” ว่าแล้วหลี่หลิงหลงในร่างอ๋องซีฮันก็ยกแขนใหญ่นั้นขึ้นมาดม

“อี๋ นี่ไม่อาบน้ำเป็นปีเลยรึไงเนี่ย” โจวหมิ่นเมื่อเห็นท่าทีอ๋องซีฮันที่เคยขึงขังดุดันเปลี่ยนไปเป็นคนละคนเธอก็หัวเราะคิก

“เจ้าหัวเราะอะไรงั้นเหรอปกติอ๋องซีฮันไม่อาบน้ำรึไง” หลี่หลิงหลงบ่น แต่ยิ่งโจวหมิ่นได้ฟังสำเนียงไม่คุ้นหูมากเท่าไหร่เธอยิ่งขำ

“ถ้าเช่นนั้นเชิญทางนี้เจ้าค่ะ” หลี่หลิงหลงเดินตามโจวหมิ่นไปช่วยเธอทำทุกอย่างที่ตนพอจะทำได้แล้วกลับมารอที่ห้องอาบน้ำ โจวหมิ่นใช้มือกวนน้ำดูอุณหภูมิที่พอเหมาะแล้วหันมามองหน้าอ๋องซีฮัน

“ตอนนี้น้ำใช้ได้แล้วเจ้าค่ะ เชิญท่านอ๋องลงอ่างอาบน้ำได้เลยเดี๋ยวโจวหมิ่นจะไปเตรียมอาภรณ์ไว้ให้” หลี่หลิงหลงพยักหน้าแล้วเปลื้องผ้าออกทันทีเธอแทบจะกระโดดลงอ่างโดยไม่ต้องถอดเสื้อคลุมสีขาวออกเมื่อโจวหมิ่นบอกว่าน้ำใช้ได้แล้ว

หลังจากชำระร่างกายจนหนำใจเธอก็ดึงผ้าที่พาดอยู่บนฉากกั้นมาสวมใส่แล้วก็เดินออกมา แต่ก็ต้องชะงักกึกเมื่อเห็นโจวหมิ่นยืนถือผ้าสีเทาอีกชิ้นหนึ่งรออยู่พร้อมสายคาดเอวสีดำวางอยู่บนโต๊ะใกล้ๆ กับคันฉ่องทองเหลืองนั่น ทั้งยังมีผ้าผูกผมสีเทาวางอยู่ข้างกันอีกด้วย หลี่หลิงหลงไม่กล้าแม้แต่จะเข้าไปใกล้มันเพราะกลัวว่าโจวหมิ่นเห็นเงาทับซ้อนของตนเองอีก

“คือ ข้าต้องใส่อีกชั้นเหรอ”

“ต้องใส่เจ้าค่ะ ข้างนอกอากาศหนาว เดี๋ยวท่านอ๋องจะไม่สบายนะเจ้าคะ”

“ก็ได้แต่ว่า” เธอที่อยู่ในร่างชายสูงใหญ่ลังเลชี้นิ้วไปที่คันฉ่อง

“ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ ท่านค่อยเล่าให้ข้าฟังก็ได้” หลี่หลิงหลงได้ยินก็รู้สึกวางใจพยักหน้าหงึกๆ ก้าวเท้าเดินเข้าไปหาเธอให้ช่วยใส่เสื้อคลุมอีกชั้นและรัดสายคาดเอวให้

“โจวหมิ่นเจ้าต้องคอยทำแบบนี้ให้เขาทุกวี่ทุกวันเหรอ” หลี่หลิงหลงถามในขณะกางแขนขึ้นให้อีกฝ่ายผูกสายคาดเอว

“ถ้าเป็นเมื่อก่อนก็ใช่.. แต่ว่าหลังๆ ข้าไม่ค่อยได้เข้ามาที่นี่หรอกเจ้าค่ะ เชิญท่านอ๋องนั่งลงก่อนเจ้าค่ะ” หลี่หลิงหลงทำตามอย่างว่าง่าย โจวหมิ่นหยิบเอาหวีที่ผลิตจากไม้ขัดเงาอย่างดีมาหวีผมให้ร่างอ๋องซีฮัน เส้นผมของเขายาวจนเกือบถึงเอว

“เจ้าเป็นภรรยาเขาเหรอ”

“ไม่ใช่เจ้าค่ะ”

“แล้วทำไมพี่ชายเจ้าถึงยอมให้เจ้ามาปรนนิบัติเขาถึงห้องล่ะ”

“พวกเราดูแลกันเหมือนพี่น้องเจ้าค่ะ ท่านพ่อของท่านอ๋องชุบเลี้ยงเราสองคนพี่น้องมาตั้งแต่ยังเล็ก ท่านพี่บอกว่า ตอนนั้นข้ายังแบเบาะอยู่เลยเจ้าค่ะ” เธอเล่าขณะผูกผม

“เรียบร้อยแล้วเจ้าค่ะ”

“อ่าวแล้วพ่อแม่ของพวกเจ้าล่ะ”

“ท่านพี่บอกว่าท่านพ่อกับท่านแม่ตายเพราะถูกโจรปล้นระหว่างเดินทางไปเมืองหลวงเจ้าค่ะ ท่านแม่ทัพได้ช่วยพวกเราสองพี่น้องเอาไว้ หากไม่ได้ท่านพวกเราคงถูกฆ่าตายทั้งครอบครัว”

“ข้าเสียใจกับเจ้าด้วยนะ แล้วแม่ทัพคือใครเหรอ”

โจวหมิ่นพยักหน้ายิ้มอ่อนก่อนตอบเมื่อร่างด้านหน้าถามต่อ

“เป็นบิดาของท่านอ๋องซีฮั่นเจ้าค่ะ”

“พวกเขาเป็นเชื้อสายราชวงศ์เหรอ”

“ไม่ใช่เจ้าค่ะ แต่เพราะคุณงามความดีเลยได้รับการแต่งตั้งเป็นอ๋องทั้งสอง พ่อลูก แต่เพราะอ๋องซีฮันประพฤติตัวไม่ดีเท่าไหร่เลยถูกสั่งให้มาประจำการที่นี่”

“ไม่ดียังไงเหรอ”

“ก็แค่ขัดใจบิดาไม่ยอมแต่งงานกับผู้หญิงที่ท่านเลือกให้ กับเสเพลเรื่องผู้หญิงเท่านั้นเจ้าค่ะ นอกนั้นก็ไม่มีอะไร ข้าก็ไม่เข้าใจท่านอ๋องเหมือนกันว่าท่านจะขัดใจบิดาไปทำไม”

“งั้นซีฮันก็ทำถูกบางทีเขาอาจมีนางในใจอยู่แล้ว ว่าแต่ที่นี่คือที่ไหนเหรอ”

“ที่นี่คือ แคว้นฝูเจี้ยน เมืองฝูโจวเจ้าค่ะ”

“หืม แผ่นดินใหญ่เหรอ”

“แผ่นดินใหญ่ ท่านหมายความเช่นไร”

“แผ่นดินใหญ่หมายถึงประเทศจีนทั้งหมด”

“ประเทศจีนทั้งหมด” โจวหมิ่นครุ่นคิดหลังถอยไปยืนด้านข้างเมื่อผูกผมให้ร่างอ๋องซีฮันเสร็จเรียบร้อย

“โจวหมิ่นด้อยปัญญาจึงไม่เข้าใจเรื่องที่ท่านพูดเลยแม้แต่น้อย”

“เอาเถอะไม่เป็นไร แล้ววันๆ อ๋องซีฮันต้องทำอะไรบ้าง”

“ก็ออกลาดตระเวนตามจุดต่างๆ ตามด่านรอบเมืองตรวจรายงานการเคลื่อนไหวทางการทหารของหัวเมืองอื่นในแคว้นฝูเจี้ยนเจ้าค่ะ”

“โว๊ะ ข้าจะทำได้ไหม” โจวหมิ่นได้ยินแล้วก็ยิ้ม

“ข้าว่าท่านทำได้อยู่แล้ว ไหวพริบท่านเป็นเลิศ ว่าแต่ท่านบอกจะเล่าเรื่องท่านให้ข้าฟัง....”

“เรื่องของข้าอย่างงั้นเหรอ...”

หลี่หลิงหลงชะงักมองโจวหมิ่นอย่างเลื่อนลอยหันมองคันฉ่องโลหะยกมือขึ้นแตะเงาสะท้อนในแผ่นทองแดงตรงหน้ายิ่งจ้องนานเท่าไหร่เงาของเธอก็ยิ่งชัดเจน

“เจ้าคงเห็นข้าผ่านคันฉ่องนี่แล้วใช่ไหม” โจวหมิ่นมองร่างเบื้องหน้าด้วยแววตามุ่งมั่นกระหายในความจริงทั้งยังผงกหัวอย่างเชื่องช้า

“ที่ที่ข้าจากมาช่างแสนไกล

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel