บทที่ 4 อดีตที่เกือบลืม
ย้อนกลับไปเมื่อ 6 ปีก่อน
ครืดดดดด ครืดดดดดดด ครืดดดด..
ฉันกดตัดสายทันทีที่เห็นเบอร์ขึ้นโชว์ เพราะกำลังอินเลิฟ ดูหนังกับหนุ่มฮอตเดือนคณะวิศวะอยู่
ติ้ง
สายที่ไม่ได้รับ 26 สาย
ข้อความที่ยังไม่อ่าน 37 ข้อความ
“น่ารำคาญชะมัด..” ฉันพึมพำ แล้วกดปิดเครื่องทันที
หลังหนังจบกะว่าจะไปหาอะไรหวานๆ ทานต่อ ฉันควงแขนหนุ่มหล่อข้างกายเดินเฉิดฉายฝ่าสายตาของหนุ่มๆ สาวๆ ที่อิจฉาตาร้อนในความเหมาะสมของเรา
เดือนวิศวะ x ดาวบัญชี
ไม่มีใครเหมาะสมไปกว่านี้แล้วแหละ
“ไปกินไอติมต่อไหมครับคนสวย”
“ไปสิคะ จะได้อยู่ด้วยกันนานๆ” ฉันหยอดเสียงหวาน แล้วกอดแขนเขาแน่น
“แหม พูดงี้พี่ก็เขินแย่สิ” เขาหยิกแก้มฉันเบาๆ แล้วพาเดินออกจากโรงหนัง
ทันทีที่ขาก้าวพ้นหน้าประตูทางออก หนุ่มหน้าตี๋ใส่แว่น เสื้อคณะสีขาวที่บ่งบอกว่าเขาเป็นนักศึกษาคณะแพทย์เด่นท่ามกลางผู้คนที่ยืนรายล้อม เขายืนถือโทรศัพท์ที่คาสายเป็นเบอร์ฉัน
“เขม..”
“พี่ติณณ์…”
“นี่หรอ กิจกรรมของคณะที่เขมบอก”
เขาเอ่ยเสียงสั่น สายตาที่เต็มไปด้วยความโกธรและผิดหวังจ้องมองฉันผ่านม่านน้ำที่เอ่อขอบตาอยู่
“อ่าาาา คือ..” ฉันอึกอักหาคำแก้ตัวไม่ได้ รถไฟชนกันรอบนี้ดูท่าจะรุนแรงกว่าที่คิด
“กลับเดี๋ยวนี้!” เขาก้าวเข้ามากระชากแขนฉันให้หลุดจากมือหนุ่มเดือนวิศวะ
“เฮ้ย อะไรวะไอ้แว่น มึงไม่เห็นหรอว่ากูเดทกับน้องเขมอยู่”
“เขมเป็นแฟนผม...”
“แฟนเหี้xไรครับ เขาบอกกูว่าโสดแล้ว” พ่อหนุ่มวิศวะเปิดสกิลอ้อนบาทา พลางดิ่งมากระชากแขนฉันกลับ
ชิบxายของแทร่
ผู้คนเริ่มมุงดู หันซุบซิบกันสนุกปาก บ้างก็แอบยกมือถือขึ้นมาถ่ายละครรักสามเศร้านี้ ด้วยความอายฉันรีบสะบัดแขนพ่อหนุ่มวิศวะ
“เขมขอเคลียร์ให้จบก่อนนะ”
“นี่เขมจะไปกับไอ้เอ๋อนั่นจริงดิ ไหนว่าเราจะไปเที่ยวกันต่อไง”
“คะ คือเขมไม่อยากค้างคา...”
“แม่งเอ้ย เซ็งชิบ!”
เขาสบถเสียงดัง แล้วเดินแหวกผู้คนออกไป ฉันรีบลากตัวพี่ติณณ์ออกมาจากประตูห้าง ก่อนที่ข่าวจะลงหน้าหนึ่งของมหา’ลัย
ทันทีที่เข้ามาอยู่ในรถ เขานิ่งเงียบ ไม่มีคำพูดใดออกมาสักคำ ลมหายใจที่ถอนทิ้งรอบที่ร้อยของเขายิ่งกดดันให้ฉันต้องเป็นฝ่ายเริ่มพูด
“คือ ขะ เขม…”
“พี่เชื่ออะไรเขมได้บ้าง”
“....”
“ครั้งที่เท่าไรแล้ว ที่พี่จับได้ว่าเขมแอบคุยกับคนอื่น จนครั้งนี้ถึงขั้นมาเที่ยวด้วยกัน”
“เขม .. ขอโทษ”
“ขอโทษหรอ หึ ขอโทษครั้งที่เท่าไรแล้วเขม เขมจะทำแบบนี้ไปถึงเมื่อไร ไหนสัญญาว่าจะเลิกเจ้าชู้ พี่ให้โอกาสเขมทั้งชีวิตไม่ได้หรอกนะ”
“ก็เขมเหงานี่!!!!” ฉันตะหวาดเสียงแหลมออกไป เพื่อหาข้อแก้ต่างว่ามันก็ไม่ใช่ความผิดฉันทั้งหมด
“....”
“เขมเบื่อที่ต้องนั่งรอพี่ว่าง เขมเบื่อที่ต้องไปไหนมาไหนคนเดียว เขมอยากมีคนคุย คนระบายบ้าง ไม่ใช่แค่ รอ รอ รอ! ”
“เขมก็รู้ว่าพี่กำลังฝึกงาน ต้องวนวอร์ดหนักแค่ไหน ไหนจะเรียนอีก แค่ให้ผ่านช่วงนี้…”
“ช่วงนี้ของพี่มันกี่ปีวะ!”
“....”
“เขมอยากไปดูหนัง ไปหาของอร่อยๆ กิน ไปเที่ยวเหมือนแฟนคู่อื่น มีเวลาอยู่ด้วยกันบ่อยๆ แล้วทำไมเขมทำได้แค่รอล่ะ พี่ไม่มีเวลาให้เขมเลย คุยกันแทบจะอาทิตย์ละหน เจอกันแค่เดือนละครั้ง แม่งมีแฟนก็เหมือนไม่มี!”
“.....”
“เขมเกลียดที่ต้องคอยรายงานตลอดเวลา ทั้งๆ ที่เขมไม่รู้อะไรเกี่ยวกับพี่เลย ข้อความก็เป็นแชทหนักขวา เขมเดือดร้อนอะไรพี่ก็มาช่วยไม่ได้”
“แล้วจะให้พี่ทำยังไง! พี่ก็พยายามที่จะหาเวลาให้เขมแล้ว จะให้พี่ทิ้งคนไข้ ทิ้งเรียน ทิ้งอนาคตมาอยู่กับเขมงั้นหรอ”