บท
ตั้งค่า

บทที่ 3 ประหม่าไปเอง

สาวพยาบาลช่วยพยุงฉันลงจากเตียงหยั่ง ความร้อนยังทิ้งอุณหภูมิไว้บนใบหน้า แม้ร่างกายจะชาและเย็นจนแทบไม่มีแรงขยับ ดูท่าจะเป็นฉันคนเดียวที่ประหม่าไปเองสินะ

“ถ้าคนไข้ใส่เสื้อผ้าเสร็จแล้ว ไปนั่งรอบัตรนัดที่หน้าเคาน์เตอร์ได้เลยนะคะ”

“ค่ะ” ฉันตอบด้วยเสียงแผ่ว

“คนไข้หนาวหรอคะ”

“คะ?”

“ตัวสั่นเลย ฮ่าๆ”

พี่พยาบาลสาวหัวเราะแซวฉัน เพราะไม่รู้เบื้องลึกของสถานการณ์ ฉันฉีกยิ้มแห้งส่งกลับ ก้มใบหน้าหลบ คำตอบชัดเจนอยู่ในใจว่าที่ตัวสั่นมันไม่ใช่จากอากาศหนาว

หลังจัดเจงตัวเสร็จ ฉันเดินออกมานั่งรอบัตรนัดตามที่พยาบาลบอกจากที่ควรจะนั่งนิ่งๆ รอเจ้าหน้าที่เรียก ฉันกลับเหมือนคนสมาธิสั้น นั่งหันซ้าย หันขวา ชะเง้อคอมองหมอหนุ่มชุดกาวสีขาวที่เดินผ่านไปผ่านมา

“หนู..” คุณยายที่นั่งข้างกันสะกิดถาม

“คะ?”

“หาใครอยู่หรอลูก เห็นหันซ้ายหันขวานานแล้ว”

“เอ่อ ปะ เปล่าค่ะ”

“งั้นรบกวนช่วยนั่งนิ่งๆ หน่อยนะ หนูหันจนยายเวียนหัวแล้ว”

ยายตำหนิ พลางทำท่ากุมขมับให้ฉันเห็น เมื่อถูกเตือนฉันจึงยกมือไหว้ขอโทษและหันหน้าตรงดิ่งไม่มองทางอื่นอีก ยายเพียงยิ้มตอบจากนั้นนั่งดมยาหม่องต่อ

ตอนนี้ฉันแทบไม่เหลือความเป็นตัวเองเลย ในใจมันพะว้าพะวงแปลกๆ ทั้งๆ ที่ก็รู้ว่าเป็นเขา แต่กลับอยากเจออีกสักครั้งและถามคำถามโง่ๆ ว่า ....ใช่เขาจริงๆ ใช่ไหม

“...เชิญคุณเขมมิกาค่ะ”

เสียงเจ้าหน้าที่หน้าเคาน์เตอร์เอ่ยเรียกให้ฉันหลุดออกจากภวังค์ เมื่อเดินไปถึงจุดหน้าโต๊ะ เจ้าหน้าที่ยื่นบัตรใบเล็กๆ ให้แล้วแจงข้อมูล

“อีก 3 วันคนไข้มารับผลได้เลยนะคะ”

“เอ่อ มารับผล ต้องเข้าพบหมออีกไหมคะ”

“ถ้าแจ้งเบื้องต้นว่าไม่มีอะไรผิดปกติ ไม่ต้องเข้าพบค่ะ แค่มารับเอกสาร”

“อ่อ.....”

“มีข้อสงสัยอะไรไหมคะ เดี๋ยวแจ้งคุณหมอให้นัดตรวจอีกครั้งก็ได้ค่ะ”

“มะ ไม่ค่ะ ไม่สงสัย” ฉันรีบปฏิเสธ

“ค่ะ วันนี้เรียบร้อยแล้วค่ะ”

“ขอบคุณมากๆ นะคะ”

ฉันกล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ แล้วเดินออกมาที่หน้าตึกเพื่อกลับคอนโด เสร็จสิ้นภารกิจที่สุดจะอึดอัดแล้ว แต่ฉันยังใจสั่นไม่หาย แววตาที่เฉยชาของเขามันน่ากลัว อย่างกับคนละคนที่ฉันเคยรู้จัก

ท่าทางเขาเปลี่ยนไปอย่างกับพลิกฝ่ามือ อาจเพราะเติบโตขึ้นตามยุคสมัย คนเราก็ต้องปรับตัวให้เข้ากับสังคมนี่ถูกไหม แต่ที่แน่ๆ คงไม่ใช่เพราะเขาจำฉันไม่ได้หรอก ฉันไม่ได้ไปทุบหน้าใหม่ซะหน่อย แค่ฉีดโบท็อกเองหรือเพราะเหตุการณ์ระหว่างเราที่เกิดขึ้นในอดีต...

‘บ้าน่าาา คิดไปเองหรือเปล่า เดิมทีเขาไม่ใช่คนเจ้าคิดเจ้าแค้นนะ’

แม้จะจมอยู่ในความคิดตัวเองจนปวดหัว แต่มันก็หาเหตุผลไม่ได้เลย

บางอย่างในใจเริ่มปะทุขึ้นมา ทั้งรอยยิ้มของเขา น้ำตาของเขา ความสุข แม้กระทั่งความเศร้าแสนเจ็บปวดที่ฉันเป็นคนหยิบยื่นให้

‘วันนั้น ฉันทำเกินไปจริงๆ’

ปรื้นนน

รถแท็คซี่บีบแตรดังลั่น จนตัวฉันสะดุ้งโหยง ลุงคนขับชะเง้อหน้าถามผ่านกระจก พลางพึมพำบ่นที่ฉันยืนตรงป้ายรอรถแต่กลับไม่ยอมขึ้น

“อีหนู ขึ้นรึเปล่า”

“ขะ ขอโทษค่ะ... ขึ้นค่ะขึ้น”

ฉันรนรานขึ้นรถก่อนที่ลุงคนขับจะกินหัว หลังถึงคอนโดฉันก็ยัง

มูฟจากเขาไม่ได้ ทั้งหน้าตาที่หล่อล้ำ มาดแมนขึ้น ไม่เนิร์ดตี๋เหมือนสมัยมหา’ลัย น้ำเสียงเข้ม สายตาว่างเปล่า ไร้ความใสซื่อและกิริยาเย็นชากระชากวิญญาณสุดๆ

‘กรี้ดดดดด ฉันโง่ทิ้งเขาได้ยังไงนะ’

..เรื่องมันก็นานแล้วสิ ฉันเกือบจะลืมความผิดของตัวเองไปแล้ว พอเห็นเขาเพียงแวบเดียว ทุกๆ อย่างในอดีตก็ถูกฉายขึ้นซ้ำอีก

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel