บทที่ 2 พี่หมอคนนั้น!
ก็อกๆ
“ขออนุญาตค่ะ….”
“เชิญครับ”
สิ้นเสียงอนุญาติ ฉันเปิดประตูห้องตรวจเข้าไป หมอผู้ชายตัวสูงในคราบชุดกาวสีขาวสะอาดตา ยืนดื่มกาแฟหันหลังให้อยู่ เพียงแค่มองแผ่นหลังกว้างนั้น ใจก็เต้นแรง ตึกตักจั๊กจี้อย่างบอกไม่ถูก (ตามประสาสาวโสด) หุ่นของเขาน่านอนกอด เส้นผมสีดำสลวยเงางาม ผิวขาวฉบับลูกผู้ดีมีเงิน เส้นเลือด เส้นเอ็นกล้ามเนื้อ โผล่ที่หลังมือ มันกร้าวใจฉันสุดๆ
ฉันนั่งรอที่โต๊ะซักประวัติ แอบเหล่ตาสำรวจ จากช่วงเอวที่ไร้พุง เลื่อนขึ้นไปที่อกกล้ามโต คอเรียวใหญ่ ที่มีลูกกระเดือกบอกความเป็นชาย และใบหน้าตี๋คม ภายใต้แว่นของเขา ฉันหุบยิ้มแทบไม่ทัน ตาเบิกโพลง เสียงอุทานเอ่ยผ่านโคนลิ้นอย่างห้ามไม่ทัน
“พะ พี่ติณณ์…”
‘กรี้ดดดด คนตรวจภายในคือพี่ติณณ์ แฟนเก่าสมัยมหา’ลัยของฉันงั้นหรอ !!’
ฉันอ้าปากพะงาบๆ ขยี้ตาแรงๆ ไปสองสามครั้ง พยายามดึงสติตัวเองว่านี่ไม่ได้ฝันอยู่ ทำไมฉันไม่ถามพยาบาลก่อนนะว่าหมอเป็นใคร ถ้ารู้ว่าเป็นเขาคนนี้ฉันคงยกเลิกนัดตรวจแล้ว
“...คุณเขมมิกา นัดตรวจภายในประจำปีนะครับ”
“....”
ไร้เสียงตอบรับ เพราะฉันกำลังมือสั่น ใจเต้นแรงจนแทบจะเป็นลมอยู่ เขามองฉันด้วยหางตา ใบหน้าหล่อของเขาเฉยชาเหมือนคนไม่รู้จักกันมาก่อน เขาดูไม่ตื่นเต้น โตกตากหรือประหม่าอย่างฉัน อาจจะเพราะรู้อยู่แล้วว่าฉันคือหนึ่งในคนไข้ของวันนี้
เขาหยิบเอกสารมากรอกข้อมูล แล้วเอ่ยถามโดยไม่หันมามองกับคู่สนทนา
“คนไข้เคยมีเพศสัมพันธ์หรือยังครับ”
“คะ เคยแล้วค่ะ” ฉันตอบด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก
“กับแฟนใช่ไหมครับ”
‘เดี๋ยวนะ ถามแบบนี้ไม่ได้ด่าว่าฉันสำส่อนใช่ไหม’
“กับแฟน….ค่ะ”
“ล่าสุดเมื่อไรครับ” เขายังยิงคำถามด้วยอาการเฉยชาเช่นเดิม
“......”
ฉันเม้มปากนิ่งใส่เป็นคำตอบ เพราะกำลังคิดสวนทางอยู่ในใจ มันก็เป็นคำถามในรูปแบบทั่วไปที่หมอก่อนๆ เคยถามด้วยหน้าที่ปกติ แต่พอมาเป็นเขา ทำมันถึงรู้สึกว่ามันไม่ปกตินะ
“ถ้าไม่ให้ความร่วมมือ ก็กลับได้เลยนะครับ หมอไม่มีเวลามานั่งรอคำตอบคนไข้ทั้งวัน”
เขาพูดติด้วยเสียงหงุดหงิด แล้วเงยหน้าขึ้นมองฉัน ทันทีสายตาผสานกัน ดวงตาของเขามันดูว่างเปล่า และน่ากลัวกว่าที่ฉันเคยเห็น
‘..เขายัง โกธรฉันอยู่สินะ…’
“....เมื่อ 6 ปีที่แล้ว”
เสียงตอบเบาๆ เปล่งออกเหมือนลมติดในคอ เขาเงียบไปพักใหญ่ ก่อนจะถามคำถามที่ทำให้ฉันเงยหน้ามองเขาอีกรอบด้วยความสงสัย
“กับใคร...”
“ปกติการตรวจนี่ถามด้วยหรอคะว่า คนไข้ไปเอากับใครมา”
ฉันถามกลับเสียงแข็ง เพราะเริ่มหงุดหงิดกับคำถามที่ลึกเกินเหตุนั้นเขาเลี่ยงที่จะตอบ เบือนใบหน้าหนี แล้วกดปุ่มโฟนบนโต๊ะเรียกพี่พยาบาล
“ค่ะ คุณหมอ”
“พาคนไข้ไปเตรียมตัวได้เลยครับ”
“ค่ะ.. เชิญคนไข้ตามพยาบาลมานะคะ จะพาไปเปลี่ยนผ้าถุงและขึ้นเตียงตรวจค่ะ”
ฉันยิ้มเล็กๆ ให้พยาบาล ก่อนจะลุกออกไปโดยไม่ล่ำลาหรือขอบคุณเขา
ห้องตรวจแอร์ฉ่ำจนขนลุก เตียงขาหยั่ง และฉันที่นอนถ่างขารอหมอ ถึงจะประหม่าอยู่บ้าง แต่เขาก็เคยทำเรื่องอย่างว่ากับฉันแล้วนิ คงไม่ต้ององต้องอายอะไรกันแล้วมั้ง!
ครืดดดด
ไม่ถึงห้านาทีเขาก็เดินเข้ามา จากนั้นหยิบถุงมือทางการแพทย์สวมใส่แล้วเปิดผ้าถุงที่คลุมปิดส่วนลับออก
ลมเย็นๆ ปะทะกลีบดอกไม้ที่เบ่งบานอ้าซ่าบนขาหยั่งเตียง ฉันขนลุกซู่ เหงื่อออกตามไรผม นอนหลับตาหลบความอายที่เกาะกุมจิตใจ ทั้งๆ ที่ก็เคยตรวจอยู่ทุกปี ทำไมฉันต้องมาประหม่าตอนนี้ด้วยนะ
“จะรู้สึกปวดหน่วงนิดนึงนะครับ”
สิ้นคำเตือนจากหมอ คีมเหล็กเย็นๆ ก็ถูกสอดเข้าในช่องแคบ ความวูบวาบเริ่มก่อตัวในช่องท้อง ใบหน้าฉันร้อนผ่าว ลมหายใจติดๆ ขัดๆ ไม่สม่ำเสมอ ฉันจิกเล็บลงกับเบาะฟูกเตียงตรวจ มืออีกข้างกำชายผ้าถุงไว้แน่น
“โดยรวมปกติครับ ไม่มีตกขาว ก้อนเนื้อ หรือส่วนที่ดูอักเสบ..”
“....” ฉันพยักหน้าตอบรัวๆ ทั้งที่ยังหลับตาปี๋ใส่เขาอยู่
กิจกรรมนั้นดำเนินไปอย่างเงียบๆ จนน่าอึดอัด เสียงกุกๆ กักๆ ของเครื่องมือดังเป็นระยะ เพียงอึดใจ เขาก็ดึงอุปกรณ์ออกจากส่วนนั้น
แกร้ก
“สะ เสร็จแล้วใช่ไหมคะ” ฉันหลี่ตาขึ้นถาม
“ครับ”
เมื่อหมอให้สัญญาณว่าเขาหมดหน้าที่แล้ว พยาบาลจึงเข้ามารับบทต่อ ผ้าถุงถูกปิดคลุมส่วนลับที่น่าอาย สายตาที่ไร้อารมณ์นั้นยังจ้องมองฉันตลอดเวลา และเดินออกจากห้องตรวจไป