บทย่อ
“นี่เอาอย่างนี้ไหม วันไหนอายุเยอะแล้ว เราได้กลับมาเจอกันอีก ถ้าต่างคนต่างยังไม่มีใคร เรามาคบกันเองไหม” พิชาวีร์ปรายตามองคนพูดแล้วหัวเราะ “เอาสิ” ก่อนจะตอบรับอย่างไม่ได้คิดอะไร เพราะรู้ดีว่าอีกฝ่ายก็แค่พูดเล่นเท่านั้น ด้วยความที่สนิทกันเรื่องอ่ำกันเล่นแนว ๆ นี้ ระหว่างเธอกับภูผามีเยอะแยะเต็มไปหมด “อ้าว ๆ จำคำตัวเองพูดด้วยนะ” ภูผาทักท้วงพร้อมกับชี้หน้าหญิงสาวยิ้ม ๆ “บอกตัวเองเถอะ” พูดจบพิชาวีร์ก็ลุกขึ้นบิดขี้เกียจ “เรามาแต่งงานกันไหม” พิชาวีร์ถึงกับสำลักน้ำลาย มองหน้าคนที่ขอตัวเองแต่งงานแล้วหันซ้ายหันขวาว่าผู้ชายตรงหน้าคือภูผาตัวปลอมหรือเปล่า ก่อนจะยืนมือไปอังหน้าผากว่ามีไข้ หรือไม่ก็นอนไม่พอสมองเลยรวน “กี่นิ้ว” “สอง” “กี่นิ้ว” “ห้า” “กี่นิ้ว” “จะถามเพื่อ” ภูผาดึงมือของหญิงสาวลงพร้อมกับถามอย่างหงุดหงิด ทำอย่างกับเขาเพิ่งล้มหัวฟาดพื้น “แกไม่ปกติ” พิชาวีร์ยังคงมองชายหนุ่มตรงหน้าด้วยสายตาที่ยังระแวง “แกสิไม่ปกติ ฉันจริงจังนะเนี่ย”
ตอนที่ 1 สัญญาเด็กม.ปลาย (1)
ตอนที่ 1
สัญญาเด็กม.ปลาย
ในวันสุดท้ายของการสอบปลายภาคของเด็กม.หกอย่างพิชาวีร์มันเหมือนยกภูเขาออกจากอก ความเคร่งเครียดทั้งหมดเลือนหายไปตั้งแต่ได้ส่งกระดาษคำตอบ แม้ผลยังไม่ออก แต่เธอก็มั่นใจว่าผ่านทุกวิชาแน่นอน ดังนั้นก่อนกลับบ้านเลยซื้อขนมกับน้ำแวะมานั่งทอดอารมณ์ริมแม่น้ำ ให้ลมเย็น ๆ พัดเอาความล้าจากการอ่านหนังสือมาตลอดทั้งอาทิตย์ไปให้พ้นจากตัว
“เฮ้อ...สบายจริง ๆ เลย” หญิงสาวใช้มือค้ำพื้นด้านหลังพลางเอนตัวลงเล็กน้อย หลับตาพร้อมกับเงยหน้าขึ้นรับความเย็นจากสายลม ก่อนเปลือกตาเธอจะเปิดขึ้นเมื่อมีบางสิ่งเคาะเข้าที่หน้าผาก
“มานั่งทำอะไรตรงนี้” ภูผาเปิดยิ้มใส่ดวงตากลมโตนั้น ก่อนจะเดินมาทรุดตัวลงนั่งข้าง ๆ พร้อมกับถือวิสาสะหยิบขนมขึ้นมากิน และน้ำของอีกฝ่ายขึ้นมาดื่ม
“ก็นั่งเฉย ๆ สอบเสร็จแล้วก็ไม่ต้องรีบกลับไปอ่านหนังสือแล้วนี่” พิชาวีร์บอกก่อนจะหยิบแก้วน้ำที่ภูผาเพิ่งวางลงมาดื่มต่ออย่างไม่ถือสา เพราะเรียกได้ว่าทั้งเขาและเธอสนิทกันมาก บ้านใกล้กัน เรียนด้วยกันมาตั้งแต่อนุบาลยันม.หก
“จริงด้วย แล้วนี่ตกลงแกจะไม่ไปเรียนต่อมหาลัยที่เดียวกับฉันจริง ๆ เหรอ”
“ห่างกันบ้างเถอะ” พูดจบพิชาวีร์ก็หันมามองหน้าภูผาแล้วหัวเราะเบา ๆ “ฉันจะไปสอบเข้ามหาลัยที่เชียงใหม่ แม่อยากให้เรียนด้วยส่วนเวลาว่างก็ให้เข้าไปช่วยงานของน้าที่ร้าน จะได้มีรายได้เสริม แล้วแกก็จะไปเรียนมหาลัยเอกชนที่เคยบอกใช่ไหม”
“อื้อ เราจะได้แยกกันจริง ๆ แล้วสินะ คิดแล้วก็ใจหายเหมือนกัน” ภูผาพูดเสียงแผ่ว ก่อนจะถอนหายใจ หันไปมองหญิงสาวที่นั่งพยักหน้าหงึกหงัก แล้วแกล้งผลักศีรษะอีกฝ่ายอย่างหมั่นไส้กับความไม่รู้ร้อนรู้หนาวอะไรเลย
“อะไรเล่า” พิชาวีร์บ่นงึมงำพร้อมกับลูบศีรษะของตัวเองป้อย ๆ “แกจะมาอาลัยอาวรณ์เพื่อนอย่างฉันทำไม แฟนแกน่ะแฟนแก ไปเรียนด้วยกันไหม”
“แฟน คนไหนล่ะ” ภูผาย้อนถามอย่างยียวน ได้ยินอย่างนั้นพิชาวีร์ได้แต่ทำเสียงฮึในลำคอ กลอกตามองบน ใจอยากจะถีบมันสักครั้งอย่างหมั่นไส้
“แล้วมีกี่คนละ”
“ไม่มีเลย” พูดจบก็หัวเราะเสียงดังเมื่อเห็นสีหน้าตกใจของหญิงสาว “แล้วยัยหยกห้องสามล่ะ”
“อืม...” ภูผาครางพร้อมกับทำหน้าตาเหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่าง “ก็แค่คุย ๆ ยังไม่ได้ตกลงอะไรเลย ตอนนี้ก็ต้องมาแยกกัน คงทางใครทางมันแล้วล่ะ”
“แล้วพวกแกไม่ได้คุยกันเลยเหรอ สมัยนี้อยู่คนละที่มันก็ติดต่อกันได้”
“จบแค่นี้ก็ดีแล้วล่ะ ความสัมพันธ์ทางไกลไม่ไหวหรอก”
“มันจะไกลแค่ไหนกันเชียว”
“ต่างประเทศ”
พิชาวีร์นิ่งไปเล็กน้อยก่อนจะแย้ง “ต่างประเทศแล้วไง การติดต่อสื่อสารสมัยนี้ล้ำจะตายไป”
“ช่างเถอะไม่ไหวก็คือไม่ไหว แล้วแกล่ะ” ภูผาย้อนถามกลับไปบ้าง เห็นอย่างนี้แต่พิชาวีร์ก็มีหนุ่ม ๆ มาชอบหลายคนทีเดียว
“ไม่มี” พิชาวีร์ตอบแบบไม่เสียเวลาคิด
“จริงอะ อย่ามาโกหก เมื่อวันก่อนฉันยังเห็นไอ้โต้งมันคุยกับแกอยู่เลย” ภูผาแย้ง เพราะคนที่พูดถึงนั้น มาถามเรื่องของพิชาวีร์จากเขาเองโดยตรงเลย
“มันก็เข้ามาคุยไปทั่วนั่นแหละ ใครไปหลงกลมันก็บ้าแล้ว” พิชาวีร์บอกอย่างไม่ใส่ใจ เพราะเพื่อนร่วมชั้นคนนี้แม้จะเป็นคนหน้าตาดี แต่ก็หลงตัวเองและมั่นหน้าสุด ๆ ในโรงเรียนนี้มีด้วยเหรอผู้หญิงที่มันไม่จีบหรือเข้าไปพูดหยอดเขาน่ะ
อ้อ มีคนหนึ่ง ป้าแม่บ้าน...
“จริงด้วย” ภูผาบอกก่อนจะหัวเราะ แล้วเงียบไป “นี่พวกเรารู้จักกันมานานแค่ไหนแล้วนะ” เขาถามขึ้นลอย ๆ ทอดสายตามองไปที่เส้นขอบฟ้า
“ตกเลขหรือไง ตอนนี้แกกับฉันอายุเท่าไหร่ก็รู้จักกันเท่านั้นแหละ” พิชาวีร์ตอบเสียงเยาะ
“สิบแปดสิบเก้าปี นานมากเลยนะ ได้แยกกันบ้างก็ดีเหมือนกัน เริ่มเบื่อหน้าบวม ๆ ของแกละ โอ๊ย!” พูดจบภูผาก็ต้องอุทานเสียงหลงเมื่อมีฝ่ามือตบป้าบเข้าที่ศีรษะเต็มแรง
“ปากเสีย เขาเรียกหน้าตามีน้ำมีนวลย่ะ”
“เล่นแรง” ภูผาโอดครวญเสียงกลั้วหัวเราะ ก่อนจะนึกสนุก “นี่ เอาอย่างนี้ไหม วันไหนอายุเยอะแล้ว เราได้กลับมาเจอกันอีก ถ้าต่างคนต่างยังไม่มีใคร เรามาคบกันเองไหม”
พิชาวีร์ปรายตามองคนพูดแล้วหัวเราะ “เอาสิ” ก่อนจะตอบรับอย่างไม่ได้คิดอะไร เพราะรู้ดีว่าอีกฝ่ายก็แค่พูดเล่นเท่านั้น ด้วยความที่สนิทกัน เรื่องอ่ำเล่นแนว ๆ นี้ ระหว่างเธอกับภูผามีเยอะแยะเต็มไปหมด
“อ้าว ๆ จำคำตัวเองพูดด้วยนะ” ภูผาทักท้วงพร้อมกับชี้หน้าหญิงสาวยิ้ม ๆ
“บอกตัวเองเถอะ” พูดจบพิชาวีร์ก็ลุกขึ้นบิดขี้เกียจ แล้วก้มลงเก็บขยะและยัดมันใส่มือของภูผา “ฉันซื้อ แกก็เอาไปทิ้งละกัน”
“รอด้วยสิ” ภูผารีบวิ่งเอาขยะในมือไปทิ้งแล้วรีบตามพิชาวีร์ที่เดินนำไปก่อน โดยไม่มีท่าทีว่าจะรอเขาแม้แต่น้อย