บท
ตั้งค่า

บทที่ 8 ดาบทองสกุลหลิว

ถังเฟยหู่เก็บค้างคาวโลกันต์กลับเข้าสู่ห้วงวิญญาณจากนั้นจึงเรียกจิตวิญญาณอสรพิษมรกตออกมาแทน เขาควานหาของภายในห่อผ้าจากนั้นจึงหยิบผลึกอสูรระดับสองของแมงป่องม่วงออกมา เขายื่นมันให้แก่จิตวิญญาณงูพิษของตน มันอ้าปากแล้วดูดกลืนพลังวิญญาณทั้งหมดลงไปในทีเดียว

ร่างกายของอสรพิษมรกตใหญ่โตขึ้นอีกส่วนหนึ่ง ถึงแม้มันจะยังไม่สามารถพัฒนาสู่ระดับสองได้ แต่มันก็นับว่าแข็งแกร่งขึ้นอีกส่วนหนึ่ง ในตอนนี้จิตวิญญาณของชายหนุ่มคงจะตัวใหญ่เกินไปหน่อยถ้ามันยังจะพันรอบคอของเขาเหมือนเช่นเดิม มันเลื้อยตามนายของตนออกไปตรงเข้าสู่ใจกลางป่าอสูร

“คุณหนูขอรับ พวกเราใกล้ถึงแล้ว” หลิวฮวนกล่าวกับนายของตนซึ่งกำลังขี่หมาป่าสีทองตัวใหญ่เท่าวัวอยู่ เขาเป็นคนหนุ่มมีอนาคตไกลภายในสกุลหลิว อายุเพียงสิบแปดปีก็มีพลังปราณขั้นเจ็ดระดับสุดยอด ถึงแม้จะไม่ได้เป็นสายเลือดโดยตรงของสกุลหลิวแต่ก็ได้รับหน้าที่สำคัญเป็นผู้คุ้มกันคุณหนูและคุณชายของตระกูล

ที่ด้านหลังของหลิวฮวนนั้นคือสตรีผู้งดงามนางหนึ่งบนหลังหมาป่าสีทอง ความงามของนางถึงกับทำให้มวลหมู่ดอกไม้นานาพันธุ์ในป่าดูจืดชืดไป สมชื่อสตรีผู้งดงามที่สุดภายในเมืองฟูเจี้ยน อายุเพียงสิบห้าปีเท่านั้นกลับงดงามถึงเพียงนี้ นางคือคุณหนูแห่งตระกูลหลิว บุตรหลานอันเป็นที่รักแห่งตระกูลหลิว ผู้มีพรสวรรค์เทียบเท่าหลิวจิวฮุ่ย นางสามรถปลุกจิตวิญญาณของตนเองให้ตื่นขึ้นมาในระดับสาม มีระดับเทียบเท่ากับหลิวจิวฮุ่ยผู้เป็นพี่ชายบังเกิดเกล้าของนาง

“งั้นก็รีบไปเถอะ” นางรีบเข้าสู่ใจกลางป่าโดยไวโดยมีหลิวฮวนตามอยู่ข้างกายไม่ห่าง ถึงแม้ทั้งสองจะมีพลังที่มากมายเมื่อเทียบกับคนรุ่นเดียวกันในเมืองก็ตามที แต่ป่าอสูรนั้นก็ยังนับว่ามีอันตรายมาก

ผ่านมาสามวันแล้วหลังจากถังเฟยหู่ต่อสู้กับแมงป่องม่วง ชายหนุ่มรวบรวมวัตถุดิบจำนวนมากเสียจนเต็มห่อผ้าไปหมด แบกของใหญ่โตยิ่งกว่าขนาดของตัวเองเสียอีก ในหลายวันมานี้ถังเฟยหู่ได้รวบรวมผลึกอสูรระดับหนึ่งและสองจำนวนมาก และทั้งหมดกลายเป็นอาหารอันโอชะของอสรพิษมรกตไป ในตอนนี้จิตวิญญาณของชายหนุ่มมีขนาดเทียบเท่ากับผู้อื่นที่อยู่รุ่นเดียวกันในสกุลถังแล้ว นั่นเป็นเพราะจิตวิญญาณอสรพิษของถังเฟยหู่ หลังจากดูดกลืนผลึกอสูรไปเป็นจำนวนมากก็พัฒนาสู่ระดับสองจนได้

หนึ่งคนหนึ่งงูพิษเดินทางมาหลายวันแล้ว มันคงใกล้เวลาที่พวกเขาจะได้กลับสู่เมืองสักทีหนึ่ง สัมภาระทั้งหลายที่ได้เก็บเกี่ยวมาระหว่างทางก็เหมือนจะมากเกินไปที่เขาจะแบกมันไปไหนต่อไหนด้วยได้แล้ว คิดได้ดังนั้นเขาก็ได้หันหลังกลับไปและเดินกลับสู่ทางที่ตัวเองจากมา หนทางกลับสู่บ้านของตนเอง

โฮกกก

เสียงหนึ่งดังลั่นสนั่นไปทั่วทั้งผืนป่าจนดึงดูดความสนใจของชายหนุ่มเสียก่อน ถังเฟยหู่และจิตวิญญาณงูพิษจึงได้วิ่งไปตามเสียงร้องแปลกประหลาดนั่น ไม่รู้ว่าทำไมเสียงนั่นถึงฟังดูเจ็บปวดยิ่งนัก ภายในหัวใจของเขามันถูกบีบรัดอย่างประหลาด ทั้งสองนั้นได้ตามไปที่ต้นเสียงอย่างรวดเร็วก็ได้พบเข้ากับเหตุการณ์แปลกประหลาดแถวใจกลางป่าแห่งนี้ ถังเฟยหู่ได้พบเห็นคนสองคนหนึ่งชายหนึ่งหญิงกำลังใช้จิตวิญญาณของตนรุมโจมตีสัตว์อสูรตัวหนึ่งอยู่ มันเป็นสัตว์อสูรที่งดงามที่สุดที่ถังเฟยหู่เคยพบเห็น ขนหนานุ่มสีขาว หางขนาดใหญ่ฟูนุ่มทั้งเก้า มันราวกับเป็นหิมะขาวบริสุทธิ์ท่ามกลางความโหดร้ายของป่าอสูร แม้ร่างกายของมันจะเต็มไปด้วยบาดแผลและเลือด แม้ร่างของมันจะถูกพันธนาการไว้ด้วยอาคมดักวิญญาณซึ่งมีไว้ใช้เล่นงานสัตว์ร้ายทั้งหลาย แต่ก็ไม่อาจบดบังดวงตาอันงดงามดุจดวงดาราของมันได้เลย

จิ้งจอกหิมะเก้าหาง

“กับดักวิญญาณ ของแพงแบบนี้….สองคนนี้คงไม่ใช่คนธรรมดาเสียแล้ว คงต้องเป็นตระกูลใหญ่ อย่าไปยุ่งเลยจะดีกว่า…” ถังเฟยหู่หันหลังและเดินจากไปอย่างนั้น

โฮกก

แต่เสียงร้องของจิ้งจอกหิมะกลับหยุดยั้งเขาเอาไว้ หัวใจของเขาบีบรัดยิ่งกว่าเดิม ไม่ทราบว่าทำไมดวงตาที่งดงามดุจดวงดารานั้นกลับตราตรึงอยู่ในหัวของเขา ไม่อาจลบภาพของมันออกไปได้ ทั้งๆที่ตั้งแต่เข้าป่าอสูรมาเขาก็ฆ่าพวกสัตว์ทั้งหลายไปเป็นจำนวนมากแล้วก็ตาม แต่ความรู้สึกของเขาบ่งบอกว่ามันแตกต่างไป

เขาหันกลับไปทางจิ้งจอกนั้นและลอบเข้าไปใกล้ที่ต่อสู้มากกว่าเดิมเพื่อสังเกตสถานการณ์ คนทั้งสองที่ทำการต่อสู้อยู่นั้นผู้หนึ่งเป็นชาย ใช้จิตวิญญาณเสือเขี้ยวดาบซึ่งดูดุร้าย ส่วนหญิงสาวอีกผู้หนึ่งนั้นใช้จิตวิญญาณหมาป่าทองคำ เสียดายที่เขาไม่ทราบว่าพวกมันนั้นอยู่ในระดับใด ทั้งสองพยายามใช้จิตวิญญาณของตนรุมโจมตีอย่างต่อเนื่อง บาดแผลของจิ้งจอกหิมะนานไปยิ่งมีแต่มากขึ้น

“คุณหนูขอรับ จิ้งจอกหิมะนั้นไม่มีทางรอดแน่แล้ว” หลิวฮวนกล่าวกับหลิวจิวเลี่ยนด้านข้าง ความพยายามกว่าหลายวันในการตามล่าจิ้งจอกหิมะเก้าหางระดับสี่ก็สำเร็จจนได้ หากได้มันมาเป็นทรัพยากรละก็ จิตวิญญาณหมาป่าทองคำของนางคงพัฒนาไปได้อีกไกลนัก

“ฮ่าๆๆๆ! เพียงได้หัวใจและผลึกวิญญาณของมันมา จิตวิญญาณของข้าก็จะเหนือยิ่งกว่าท่านพี่! ต่อไปข้าจะได้กลายเป็นอันดับหนึ่ง! ข้าจะได้กลายเป็นผู้ที่เหมาะสมจะเป็นผู้นำตระกูล สกุลหลิวจะตกอยู่ในมือของข้า! ฮ่าๆๆๆ!” หลิวจิวเลี่ยนหัวเราะดังลั่นเมื่อภาพฝันที่นางวางไว้ใกล้จะเป็นจริงอยู่ตรงหน้าของนางแล้ว การตามล่าสัตว์อสูรในครั้งนี้เป็นความลับซึ่งไม่อาจให้ใครล่วงรู้ได้ หากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไปละก็ ทรัพยากรนี้จะหลงเหลือถึงมือนางอย่างงั้นเหรอ ของพวกนี้คงต้องตกไปอยู่ในมือของพี่ชายนางอย่างแน่นอน หลิวจิวเลี่ยนจะต้องได้ทุกอย่างๆที่นางต้องการ!

ตึก ตึก

หัวใจของนางเต้นระรัว อีกเพียงก้าวเดียวทุกๆอย่างก็จะอยู่ในมือของนาง หลิวจิวเลี่ยนก้าวเดินเข้าไปใกล้จิ้งจอกหิมะ ซึ่งมันเองก็มองหลิวจิวเลี่ยนด้วยความโกรธแค้นกลับมาเช่นกัน นางสะบัดมือไปด้านข้างเพื่อเรียกหมาป่าทองคำของนางมา มันได้แปลงกายของตนเองจนกลายเป็นอาวุธจิตวิญญาณระดับสาม ในมือของนางปรากฏดาบทองอยู่เล่มหนึ่ง ลวดลายหมาป่าบนนั้นช่างดูน่าเกรงขาม นี่คืออาวุธจิตวิญญาณประจำตระกูลของสกุลหลิวซึ่งทำให้พวกเขาโด่งดังและได้รับฉายา ดาบทองสกุลหลิว

นางเงื้อดาบขึ้นเพื่อที่ต้องการจะฟันจิ้งจอกหิมะให้ตายภายในดาบเดียว ขนาดกำลังจะฆ่านางยังสามารถยิ้มได้อย่างมีความสุข ไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลย ช่างเป็นรอยยิ้มที่อำมหิตยิ่งนัก เปลือกนอกที่งดงามของนาง ใครจะคาดคิดเล่าว่านางจะโหดเหี้ยมปานนี้

เข็มทิพย์ดอกเหมย ด้ายแดงชิงใจ!

ฟิ้วว! ฟิ้วว!

ก่อนที่หลิวจิวเลี่ยนจะได้ฆ่าจิ้งจอกหิมะดั่งที่นางหวังก็ได้มีเข็มสีดำพร้อมด้ายแดงเกี่ยวกันโดยรอบแขนของนางและยึดตรึงมันไว้กับพื้นดิน อีกทั้งด้ายแดงนี้ยังมีควันปราณสีเขียวเข้มพวยพุ่งออกมาอีกด้วย ทันทีที่ด้ายนั้นดึงรั้งแขนของนางไว้มันก็ได้แพร่พิษเข้าใส่ร่างของนางอย่างรวดเร็ว

“ใครกัน! ออกมาเดี๋ยวนี้!!” หลิวฮวนตะโกนอย่างเกรี้ยวกราดพร้อมกวาดมองไปโดยรอบตัว แต่ตัวเขาและจิตวิญญาณเสือเขี้ยวดาบกลับไม่สามารถค้นหาร่องรอยของศัตรูได้พบเลย ไม่เห็นแม้แต่เงา ห่างไปไม่ไกลนักในทิศทางด้านหลังของจิ้งจอกหิมะ ถังเฟยหู่ผู้กำลังหลบซ่อนตัวอยู่ สายตาของเขาเพ่งมองไปยังศัตรูทั้งสอง แต่แปลกยิ่งนักที่จิตวิญญาณเสือเขี้ยวดาบกลับไม่สามารถรับรู้ได้ถึงกลิ่นของเขา แต่นั่นก็เป็นเพราะหญ้าพงไพรซึ่งชายหนุ่มเก็บมาระหว่างทาง พืชชนิดนี้ปกติจะนำมาใช้เป็นเครื่องหอมที่ทำให้จิตใจสงบ กลิ่นของมันนั้นเป็นกลิ่นของป่าสมชื่อพงไพรของมัน ชายหนุ่มนำมันมาขยี้ตามตัวและเสื้อผ้าเพื่อซ่อนกลิ่นของตัวเองให้กลมกลืนไปกับป่าโดยรอบ หากไม่ใช่จิตวิญญาณหรือสัตว์อสูรที่ดีเด่นในด้านการแกะรอยแล้วละก็ คงไม่อาจสามารถหาตัวเขาพบได้ง่ายๆ

ฟิ้วว! ฟิ้วว! ฟิ้วว! ฟิ้วว! ฟิ้วว! ฟิ้วว!

เข็มทิพย์ดอกเหมย ดอกไม้แดงเริงระบำ!

เข็มหกเล่มจากทิศทางที่แตกต่างกันหมุนรอบบริเวณที่คนสกุลหลิวทั้งสองยืนอยู่ บังเกิดมายากลีบดอกไม้แดงปลิวไหวไปทั่ว บดบังทัศนวิสัยของทั้งสองคน ในสายตาของคนทั้งคู่แล้วพบเห็นแต่กลีบดอกไม้ลอยไปทั่ว ไม่อาจแม้แต่จะมองเห็นอีกฝ่าย

“คุณหนู!!”

“หลิวฮวน! เกิดอะไรขึ้น!” หลิวจิวเลี่ยนตะโกนถามพร้อมกับพยายามดึงด้ายปราณสีแดงที่พันธนาการแขนตัวเองออกไป นางปล่อยดาบทองของนางให้หล่นลงสู่พื้นจากนั้นจึงปลดรูปแบบอาวุธจิตวิญญาณออก แปลงมันให้กลับเป็นหมาป่าทองคำอีกครั้ง

กรรร

หมาป่าทองคำขู่คำรามก่อนจะลงเขี้ยวพยายามกัดให้ด้ายปราณนั้นขาดเพื่อปลดปล่อยนายของตนเอง ไม่นานนักด้ายปราณก็ได้ขาดออกจนนายของตนหลุดออกจากพันธการอันโหดร้าย แต่มันยืนอยู่ได้ไม่นานนักก็ต้องทรุดลงไปทั้งยืน เพราะด้ายปราณที่มันพึ่งกัดขาดไปอาบด้วยปราณห้าพิษ ตัวมันเป็นจิตวิญญาณประเภทสัตว์ป่า หาใช่ประเภทที่มีพิษหรือภูมิต้านทานพิษ และเป็นเช่นเดียวกับนายของมัน ความเจ็บปวดแล่นไปทั่วทั้งร่างจนนางถึงกับกรี๊ดร้องออกมา หลิวฮวนเองเมื่อได้ยินเสียงก็พอจับทิศทางของนายตนเองได้ เขาและจิตวิญญาณเสือเขี้ยวดาบรีบพุ่งตัวไปทางหลิวจิวเลี่ยนในทันที เมื่อมาถึงมันถึงกับเลือดขึ้นหน้าเมื่อเห็นสภาพของคุณหนูตระกูลหลิว นางและหมาป่าทองคำนอนหมอบอยู่บนพื้นตัวสั่นงันงกเพราะความเจ็บปวด ริมฝีปากและเล็บมือของนางกลายเป็นสีดำคล้ำ หลิวฮวนรีบพุ่งตัวเข้าไปหาหลิวจิวเลี่ยนในทันทีโดยไม่คิดสิ่งใด แต่ทันใดนั้นก็ได้มีเสียงบางอย่างมาจากสองทิศทาง ทั้งทางด้านบนและด้านข้างของหลิวฮวน เขาตื่นตกใจอย่างมากเพราะเสียงที่แสบแก้วหูนั้นราวกับเป็นเสียงของแหลมคมซึ่งกำลังแหวกอากาศมา หลิวฮวนเรียกเสือเขี้ยวดาบให้เปลี่ยนเป็นอาวุธจิตวิญญาณรูปแบบโล่ในชั่วพริบตา

เข็มทิพย์ดอกเหมย เข็มคู่ทะยาน

เพล้งง! เพล้งง!

หลิวฮวนป้องกันได้อย่างทันท่วงที ไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆจากอาวุธลับทั้งสองที่จู่โจมเข้ามา เดิมทีพลังของถังเฟยหู่นั้นไม่อาจเป็นแม้แต่คู่มือของทั้งหลิวจิวเลี่ยนและหลิวฮวนอยู่แล้ว แต่เป็นเพราะพิษอันร้ายกาจและการลอบโจมตีนี่เองที่ทำให้ทั้งสองคนกลายเป็นฝ่ายเสียเปรียบไปเสียได้

“ใครกัน! ไสหัวแกออกมาเดี๋ยวนี้! สกุลหลิวจะไม่ยอมปล่อยเจ้าไป!” หลิวฮวนตะโกนคำรามด้วยความโกรธ อาวุธลับทั้งหมดโจมตีมาจากหลากหลายทิศทางยากจะคาดเดาได้ว่าผู้ซัดอาวุธลับเหล่านี้ซ่อนตัวอยู่ที่ใดกันแน่

ถังเฟยหู่ซึ่งหลบซ่อนอยู่ไม่ไกลจากจุดนั้นหยิบเข็มดำออกมาเล่มหนึ่งจากนั้นจึงซัดใส่หลิวฮวนไปตรงๆแตกต่างจากครั้งก่อนๆที่มักจะใช้กลลวงหลากหลาย หนึ่งเข็มที่ปล่อยไปรวบรวมไว้ด้วยปราณห้าพิษที่มากมายเหนือกว่าเล่มอื่นๆก่อนหน้านี้มากมายนัก

เข็มทิพย์ดอกเหมย หนึ่งเข็มทะลวงฟ้า

“เหอะ! ลูกไม้เดิมใช้ไม่ได้ผลหรอก!!” หลิวฮวนแปรเปลี่ยนรูปแบบอาวุธจิตวิญญาณเป็นดาบทอง เขาใช้มันฟันใส่เข็มที่พุ่งเข้าใส่ตนเองอย่างแม่นยำ! เข็มดำเล่มนั้นถูกผ่าเป็นสองส่วนในทันที แต่แล้วสิ่งที่เกิดขึ้นก็คือปราณพิษที่อัดแน่นอยู่ภายในนั้นกลับระเบิดออกมากลายเป็นควันพิษปกคลุมไปทั่ว!

“อ็อก! บัดซบ!! ไอ้เจ้าคนต่ำช้า!!” หลิวฮวนกุมลำคอของตัวเองไว้พร้อมกับกระอักออกมาเป็นเลือด ดวงตาของมันกลายเป็นสีแดงก่ำ ใบหน้าของมันเต็มไปด้วยความเจ็บปวดเหลือทน เขารีบเปลี่ยนอาวุธจิตวิญญาณกลับเป็นรูปแบบโล่อีกครั้งหนึ่งเพื่อป้องกันการลอบโจมตีจากศัตรูที่ต่ำช้า ห่างออกไปในสถานที่ๆถังเฟยหู่หลบซ่อนตัวอยู่ เขายิ้มเยาะอยู่ในใจอย่างมีสุขที่ทุกอย่างเป็นไปตามแผน ชายหนุ่มเรียกเข็มดำเล่มหนึ่งมาอยู่ในมือจากนั้นปลอกแขนอสูรหมื่นเข็มก็แตกออกและรวมตัวเข้ากับเข็มหนึ่งเล่มที่ลอยอยู่บนฝ่ามือของถังเฟยหู่ โลหะสีดำถูกบีบอักและแปรเปลี่ยนรูปร่างกลายเป็นเข็มหนึ่งเล่มที่มีรูปร่างแปลกประหลาดของอสูร มีความหนาและแข็งราวกับหมุดเหล็กเล่มหนึ่ง นี่คืออีกรูปแบบหนึ่งซึ่งบรรจุอยู่ภายในอาวุธจิตวิญญาณนี้ ใช้มวลของอาวุธจิตวิญญาณทั้งหมดบีบอวดกลายเป็นเข็มหนึ่งเล่มที่ทรงพลัง ถังเฟยหู่มองไปยังหลิวฮวนด้วยสายตาแปลกๆ นี่อาจจะเจ็บไปบ้างสำหรับหลิวฮวน

ถังเฟยหู่ซัดอาวุธในมือออกไปด้วยวิชาที่ตัวเองคิดค้นขึ้นมาจากสองกระบวนท่าในชุดวิชาเข็มทิพย์ดอกเหมยรวมกับความสามารถของอาวุธจิตวิญญาณ เข็มเล่มสุดท้ายของชายหนุ่มถูกซัดออกไปด้วยความเร็วที่เหนือกว่าปกติเพราะพลังและน้ำหนัก แถมปลายของเข็มนั้นยังมีด้ายปราณสีแดงติดไปด้วย!

เข็มทิพย์ดอกเหมย หนึ่งเข็มทะลวงฟ้า ผสาน ด้ายแดงชิงใจ!

ฟิ้วววววววววว!!!

เข็มเล่มที่สองนี้พุ่งไปโดยมาจากทิศทางเดิมเหมือนเล่มก่อนหน้านี้ไม่มีผิดเพี้ยนแม้แต่น้อย หลิวฮวนสามารถรับรู้ได้ถึงเข็มอีกหนึ่งเล่มที่พุ่งเข้ามา เขาคลายรูปแบบอาวุธจิตวิญญาณออกและส่งเสือเขี้ยวดาบเข้าไปปะทะ เสื้อเขี้ยวดาบนั้นหลบอย่างรวดเร็วจากนั้นมันก็รีบพุ่งตัวไปหาศัตรูซึ่งซัดเข็มมา แต่ถังเฟยหู่เองก็ไม่ได้ชะล่าใจ ส่งพลังปราณผ่านด้ายปราณเพิ่มเข้าอีก เขาสะบัดมือกระแทกใส่ด้ายปราณไปกระทบกับเข็มที่กำลังพุ่งไป ทำให้มันเปลี่ยนทิศทางและวกกลับมา ปักเข้าไปยังกลางหลังของเสือเขี้ยวดาบในทันที เข็มดำเล่มนั้นปักเข้าไปในร่างของมันแต่แผลแค่นี้ไม่อาจทำอันตรายอะไรมันได้มากนัก หลิวฮวนเองก็ยิ้มอย่างมีชัย แต่นั่นเป็นเพียงชั่วพริบตาเดียวเท่านั้น เพราะวินาทีต่อมาหลิวฮวนต้องร้องโหยหวนอย่างเจ็บปวด เสียงกล้ามเนื้อระเบิดและฉีกขาดดังขึ้นตรงที่เสือเขี้ยวดาบอยู่ราวกับเสียงอัสนีบาตดังขึ้นข้างหูของหลิวฮวน จิตวิญญาณของเขาตายภายในชั่วพริบตาเดียว ในครรลองสายตาของเขาเห็นภาพที่เสือเขี้ยวดาบของตนเองกลายเป็นเศษเนื้อโดยไม่อาจตอบโต้ได้เลย ในละอองโลหิตสิ่งที่ปรากฎออกมาคือโครงกระดูกสีดำซึ่งมีดวงตาเป็นไฟวิญญาณสีแดงฉาน มันหันมองมาทางหลิวฮวนราวกับเป็นยมทูตที่กำลังพรากชีวิตของมันไป ตลอดชีวิตของชายชื่อหลิวฮวน ไม่เคยพบเจอกับความกลัวมาก่อน แต่หากให้อธิบายว่าสิ่งใดคือความกลัวละก็ เขาสามารถบ่งบอกได้เลยว่ามันคือสิ่งนี้!

เข็มดำเล่มสุดท้ายที่ถังเฟยหู่ซัดไปใส่เสือเขี้ยวดาบนั้นได้รวบรวมมวลทุกชิ้นของอาวุธจิตวิญญาณปลอกแขนอสูรหมื่นเข็มไว้ หากจะให้เปรียบเปรยละก็ มันคงราวกับเป็นการที่ถังเฟยหู่เขวี้ยงซัดอสูรทมิฬทั้งตัวออกไป เพราะแกนกลางหลักของอาวุธจิตวิญญาณนี้ก็คือส่วนปลอกแขน หาใช่ส่วนที่เป็นเข็มดำทั้งหมื่นเล่มไม่

โดยทั่วไปแล้วการคลายรูปแบบอาวุธจิตวิญญาณนั้นจะสามารถทำได้เมื่อผู้ใช้สัมผัสกับอาวุธและส่งพลังปราณเข้าไปสั่งการภายในอาวุธนั้นๆ แต่กับถังเฟยหู่นั้นต่างออกไป เขาได้ใช้ด้ายลมปราณในการเชื่อต่อกับอาวุธจิตวิญญาณ เมื่อเข็มดำเล่มนั้นปักเข้าไปยังร่างกายของเสือเขี้ยวดาบ เขาได้ปลดรูปแบบอาวุธจิตวิญญาณโดยผ่านด้ายปราณ ทำให้อสูรทมิฬกลับคือสู่ร่างของมันจากภายในร่างของเสือเขี้ยวดาบ แม้ว่าจิตวิญญาณหรือสัตว์อสูรทั้งหลายจะมีพลังป้องกันและผิวหนังที่หนาเพียงใด แต่หากเจอเล่นงานจากภายในแบบนี้ก็ แม้จะเป็นจิตวิญญาณระดับสี่ก็คงยากที่จะรอดไปได้ อีกทั้งการใช้วิธีนี้ยังประหยัดพลังกว่าการต่อสู้ตรงๆมากนัก พลังปราณของถังเฟยหู่ในตอนนี้นับว่ายังตึงมือเกินไปที่จะใช้จิตวิญญาณระดับสี่ในการต่อสู้จริง

ในตอนนั้นเองที่หลิวฮวนถูกดึงดูดความสนใจไปโดยอสูรทมิฬจนหมด ทำให้ถังเฟยหู่สามารถลอบเข้าไปช่วยจิ้งจอกหิมะเก้าหาง เขาค่อยๆแฝงตัวเข้าไปใกล้จุดที่จิ้งจอกหิมะถูกพันธนาการอยู่ เมื่อเข้าไปใกล้เขาก็ได้พบเห็นอาคมดักวิญญาณอย่างถนัดตาเป็นครั้งแรก มันเป็นอาคมซึ่งถูกร่ายโดยยันต์ฮู้สีแดงเลือดซึ่งมีลวดลายสีทองมากมายเขียนอยู่บนนั้น ยันต์ฮู้สีเลือดนั้นถูกแปะไว้อยู่บนพื้นเบื้องหน้าจิ้งจอกหิมะ ลวดลายสีทองนั้นลามออกมาจากฮู้สีเลือดที่อยู่บนพื้นราวกับเป็นรากไม้สีทองที่เกี่ยวพันธนาการร่างของจิ้งจอกหิมะเก้าหางไว้ เมื่อถังเฟยหู่เข้าไปใกล้ตัวมันนั้น ในคราแรกมันทำสีหน้าตื่นตกใจเพราะไม่เข้าใจสถานการณ์ที่เป็นอยู่ตอนนี้ อีกทั้งร้องขู่คำรามใส่ถังเฟยหู่ด้วยเสียงเบาๆอันอ่อนแรงของมัน แต่หลังจากที่มันดมกลิ่นของเขา มันก็มีท่าทีที่แปลกออกไป มันทำสีหน้าฉงนสงสัยจากนั้นมันก็เริ่มกลับมาสงบเสงี่ยม ไม่ร้องขู่อันใดอีก

แม้ชายหนุ่มจะแปลกใจกับท่าทีจิ้งจอกหิมะตัวนี้ก็ตาม แต่เขาก็ไม่ได้สนใจอะไรมากมาย เพราะสิ่งที่เขาต้องทำในตอนนี้คือพามันหนีออกไปในทันทีก่อนที่หลิวฮวนจะสังเกตเห็นตัวเขา เขาหยิบมีดพกของตนออกมาจากนั้นจึงทำการกรีดเลือดของตนออกมาแล้วทำการป้ายไปบนยันต์ฮู้สีแดงนั่น

อาคมนั้นแม้มีพลังมากและใช้งานง่ายก็จริง แต่ข้อเสียของมันคือการที่มันผลิตยากอย่างมากจึงทำให้มันราคาแพงตามไปด้วย อีกทั้งยังทำลายอาคมได้โดยง่ายโดยการทำให้ลวดลายอาคมบนแผ่นยันต์นั้นลบเลือนไป

ไม่นานหลังจากเลือดถูกชโลมลงไปบนแผ่นยันต์ฮู้สีแดงเลือดแล้ว อาคมที่เหมือนกับรากไม้สีทองสลายลงไปอย่างรวดเร็ว ปลดปล่อยให้จิ้งจอกหิมะกลายเป็นอิสระ เขาแบกจิ้งจอกตัวนั้นขึ้นบนหลังจากนั้นรีบวิ่งไปโดยทันที อสูรทมิฬเองก็รีบพุ่งตัวตามนายของตนเองไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน

หลิวฮวนเมื่อได้สติก็พยายามวิ่งตามไปทิศทางที่โครงกระดูกสีดำนั้นพุ่งตัวหายไป แต่ไปไม่เท่าไหรเขาก็ล้มลงอยู่ตรงนั้นเพราะอาการบาดเจ็บจากที่จิตวิญญาณของตนเองตายไปและถูกพิษจึงทำให้อาการบาดเจ็บของเขาร้ายแรงอย่างมาก หลิวฮวนล้อลงอยู่ตรงที่เคยจองจำจิ้งจอกหิมะเก้าหางไว้ เมื่อสังเกตเห็นว่าจิ้งจอกหิมะหายไปมันถึงกับโกรธจนแทบกระอักเลือดออกมา ที่พวกเขาทุ่มเทกันไปนานหลายวัน ความสำเร็จที่ใกล้จะอยู่ตรงหน้านี้ ความวาดฝันของคุณหนูถูกทำลายลงไปในทันทีโดยฝี แม้แต่หน้าของผู้ลงมือทำเขายังไม่แม้แต่จะรู้เลยด้วยซ้ำ อีกทั้งพวกเขาทั้งสองยังถูกพิษร้ายแรง ไม่รู้ว่าจะอยู่รอดจนเห็นวันพรุ่งนี้หรือไม่ แต่แล้วหลิวฮวนก็สังเกตข้อความบนพื้นข้างๆยันต์ฮู้สีแดงเลือดพร้อมทั้งยังมีขวดยาสองขวด ข้อความนั้นบอกไว้ว่าขวดหนึ่งคือยาถอนพิษและอีกขวดหนึ่งก็คือยารักษาอาการบอดช้ำภายใน หลิวฮวนกัดฟันด้วยความโกรธ แต่เขามีทางเลือกไม่มากนัก เขาหยิบยาถอนพิษออกมาลองกินดูก่อนที่จะนำมันไปให้คุณหนูหลิว เมื่อพบว่าพิษในร่างกายของเขาบรรเทาเบาบางลงมากนัก หลิวฮวนก็นำยาถอนพิษอีกหนึ่งเม็ดไปให้หลิวจิวเลี่ยน จากนั้นเขาก็ค่อยกินยารักษาอาการบอบช้ำภายในอีกเม็ดหนึ่งเข้าไป

“ทำพวกข้าเกือบตาย…แล้วมารักษา เหอะ! บัดซบ! คิดตบหัวแล้วลูบหลังอย่างงั้นเหรอ! ไส้หัวออกมาเดี๋ยวนี้ อ๊ากกกก!”

ทันใดนั้นป่าเบื้องหน้าของหลิวฮวนก็แปรเปลี่ยนกลายเป็นสีดำและแห้งเฉาตายลงไปในทันที จากนั้นก็มีเงาดำขนาดใหญ่พุ่งขึ้นสู่กลางอากาศจากที่ห่างไปไม่ไกลนัก ซากต้นไม้ที่แห้งตายถูกเงาดำนั้นพุ่งชนจนแตกกระจายเป็นผุยผง เศษไม้แห้งตายสีดำปลิวไสวไปทั่วทุกทิศทาง หลิวฮวนจ้องไปยังเงาเดานั้นตาแทบถลนออกมา เงาดำนั้นที่แท้ก็คือค้างคาวตัวใหญ่ตัวหนึ่ง แต่ไม่ทราบว่ามันคือจิตวิญญาณหรือทาสอสูรกันแน่ บนหลังของมันคือคนผู้หนึ่งในชุดผ้าสีดำ ผมยาวสีดำเงาของคนผู้นี้ลู่ไปกับลม อีกทั้งยังมีจิ้งจอกหิมะอยู่ด้วยกันบนนั้นกับคนผู้นี้ ที่ส่วนเท้าของค้างคาวตัวใหญ่นี้เกี่ยวเอาห่อผ้าขนาดใหญ่บินไปด้วยกัน หลิวฮวนพยายามจดจำทุกรายละเอียด ทุกๆอย่างที่เกี่ยวกับชายบนหลังค้างคาวคนนี้ ความแค้นในวันนั้นยากที่จะปล่อยผ่านไปได้

“ฝากไว้ก่อนเถอะ!!!” หลิวฮวนตะโกนอย่างคลั่งแค้น เสียงดังลั่นนี้สะท้อนก้องไปทั่วทั้งป่าจนทำให้ทุกผู้คนที่มาฝึกยุทธ์ภายในป่าถึงกับสันสะท้าน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel