EP 8 : ถ้ามีฉัน
“ไม่ได้”
“คะ?”
“ไม่ได้ไง...ฉันไม่ให้เธอไปดูแลลูกค้าประจำคนนั้น เหมือนจะบอกเธอไปแล้ว”
“รู้ค่ะ แต่พ่อเขาใหญ่มาก ๆ ขอร้องล่ะนะคะเขาโมโหมาหลายรอบแล้ว ถ้าขัดใจเขาอีกเขาทำให้ร้านเดือด... / ถ้าไม่อยากให้ร้านเดือดร้อนก็ลาออก เธอลาออกมันก็เอาเรื่องร้านไม่ได้”
“ฮะ? ดะ...ได้ไง จะลาออกเพราะเรื่องแค่นี้ได้ไง นี่มันงานนะคะ ลาออกแล้วจะเอาเงินที่ไหนชะ... / เงินจากฉันนี่ไง ไม่ต้องไปดูแลใคร ลาออกซะแล้วฉันจะดูแลเธอเอง”
OoO
“...คะ~” เขา...
“ลาออกซะแล้วฉันจะดูแลเธอเอง”
“...” พูดเล่นใช่ไหม?
“ไม่สนใจเหรอ?”
“...” เชื่อไหมคะว่าฉันเอาแต่มองหน้าเขาอย่างกับจะจ้องหาเศษขี้ตาในหนังตาชั้นใน ฉันเชื่อหูในสิ่งที่ได้ยิน ฉันได้ยินเต็มสองหู หูไม่ฝาดด้วยเพราะวันนี้ก่อนออกมาทำงานเพิ่งแคะขี้หูไป
“ไม่พูดอะไรหน่อยเหรอ”
“...” จะให้พูดอะไร อยู่ดี ๆ ก็มาบอกให้ลาออกจากงานที่สร้างรายได้ไม่ใช่น้อย ๆ แล้วตัวเองจะดูแลฉันเองเนี่ยนะ บ้าไปแล้วมันใช่เรื่องเล่น ๆ เล็ก ๆ ที่ไหนกัน ฉันพูดอะไรไม่ออกหรอกทำได้แต่มองเขาด้วยความอึ้งแล้วส่ายหน้าเบา ๆ เพื่อบอกว่าไม่มีอะไรจะพูดแค่นั้น
“หึ ๆๆ” ขำอะไร ท่าทางของฉันมันน่าขำเหรอ ก็คนมันอึ้งไง ตัวเองพูดจาให้คนอื่นอึ้งตกใจเองแล้วจะมาขำแบบนี้ทำไมล่ะ T^T
“ขำ...ขำอะไรคะ” ถึงจะเป็นการขำแบบหัวเราะเบา ๆ ในลำคอแต่คนโดนขำมันก็ทำหน้าไม่ถูกนะ
“ขำหน้าเธอตอนนี้ไง”
“...” เออถ้าเรื่องหน้าตาก็พอรู้อยู่ว่าคงดูน่าขำแต่ไม่ต้องบอกก็ได้เพราะยิ่งรู้ว่าขำหน้าฉันมันก็ยิ่งทำให้ฉันเสียความมั่นใจ T^T
“ตกลงว่าไง เธอว่าดีไหม” ยังเรียกความมั่นใจที่โดนเขาขำเบา ๆ ให้ตัวเองไม่ได้ก็โดนถามเรื่องที่ทำให้หน้าตามันน่าขำ แต่ครั้งนี้ฉันว่าฉันดึงสติตัวเองมาได้เร็วพอสมควรนะคะ ฉันสูดอากาศให้เต็มปอดแล้วอ้าปากพูดทันที
“ชาไม่ได้เป็น... / รู้”
“คะ?” พูดได้สี่คำมาพูดแทรกว่ารู้ แล้วรู้อะไรของเขา?
“รู้ไง รู้ว่าเธอไม่ใช่ผู้หญิงที่จะให้ใครมาเลี้ยงหรอก”
“คะ?” คือฉันเข้าใจนะที่เขาพูดออกมา แต่ที่ คะ? ต่อนี่คืองงว่า แล้วยังไง? รู้ว่าฉันไม่ให้ใครเลี้ยงแล้วเขาจะมาเสนอทำไม อะไรของเขากันเนี่ย?
“ล้อเล่น”
“คะ?”
“ล้อเล่นไง รู้ว่าเธอไม่ใช่ผู้หญิงแบบนั้นไม่งั้นป่านนี้เธอคงนอนสบายในคอนโดหรู ๆ ไปแล้ว ไม่ออกมานั่งทำงานดึกดื่นทุกคืนแบบนี้หรอก ถ้าเล่นแรงเกินไปขอโทษด้วยนะ”
“...ค่ะ ไม่เป็นไรค่ะ” ก็ไม่ได้โกรธตั้งแต่แรกอยู่แล้วแค่งง ๆ เฉย ๆ แต่อารมณ์ตอนนี้มันเป็นเขิน ๆ นะ
“รู้ว่าเธอไม่ใช่ผู้หญิงแบบนั้นไม่งั้นป่านนี้เธอคงนอนสบายในคอนโดหรู ๆ ไปแล้ว ไม่ออกมานั่งทำงานดึกดื่นทุกคืนแบบนี้หรอก”
ประโยคนี้พี่เขากำลังชื่นชมฉัน ฉันมั่นใจล้านเปอร์เซ็นส์ >///<
ฮือ~ เขาน่ารักจังเลย~
แต่เดี๋ยวก่อนปั้นชา จะมาขงมาเขินนานไม่ได้นะ คุยเรื่องจำเป็นให้เสร็จและเรียบร้อยก่อนไม่งั้นอู่ข้าวอู่น้ำของแกแย่แน่
“ถ้างั้นตกลงว่าอาทิตย์หน้า / ไม่มีทาง”
“ไม่ได้ค่ะ ขอร้องนะคะไม่งั้นเกิดเรื่องใหญ่แน่”
“หึ ๆๆ พ่อมันใหญ่มากเลยรึไง”
“ระดับรัฐมนตรีใหญ่ไหมล่ะคะ” ฉันว่าฉนน่าจะบอกเขาไปแล้วนะว่าพ่อพี่แท็คใหญ่แค่ไหน แต่พอย้ำอีกรอบเขาก็ยิ้มบางเหมือนขำแล้วอยู่ ๆ ก็หันหน้าไปจับพวงมาลัยแล้วขยับเกียร์อย่างกับจะขับรถต่อซะงั้น
“ถ้ากลัวก็ลางาน แต่ไม่ต้องลาหรอก ไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้น....ฉันใหญ่กว่ารัฐมนตรี” ประโยคสุดท้ายเขาหันมาตอบแล้วยิ้มกวน ๆ มาให้แต่ฉันนี่ทำหน้าปวดประสาทออกมาแล้ว
“พี่ตัสชาซีเรียสนะคะ” ฉันลืมความหล่อของเขาที่ทำให้ใจเขินไปชั่วขณะเพราะตอนนี้ฉันซีเรียสสุด ๆ ไปเลย
“ซีเรียสทำไม เรื่องแค่นี้เอง”
“ก็พ่อเขาเป็น... / คิดว่ามันจะรวยเท่าฉันรึเปล่า” รอให้พูดให้จบก่อนสิ!
“ก็...ไม่รู้หรอกค่ะ ไม่รู้เรื่องส่วนตัวลูกค้าขนาดนั้น”
“หึ ๆๆ ถ้างั้นก็รู้ไว้ซะว่าตึกนั้นฉันเป็นเจ้าของ” เขาบอกแล้วชี้ไปที่ตึกหนึ่งที่อยู่ไกลมาก ๆ แต่มองเห็นได้ชัดมากเพราะว่ามันเป็นตึกที่สูงเฉียดฟ้า ที่สำคัญเป็นตึกที่...สูงที่สุดของประเทศนี้
“คะ?” ขี้โม้รึเปล่า ตึกนั้นอ่ะนะ ที่มือเรียวยาวของเขาชี้อยู่มันตึกนั้นแน่ ๆ ฉันมั่นใจ แต่ที่ไม่มั่นใจคือเขาเป็นเจ้าของจริง ๆ เหรอ จะบ้า~ ลูกค้าฉันที่หล่อและดูรวยมาก ๆ จะรวยจนถึงขั้นเป็นเจ้าของตึกที่สูงที่สุดของประเทศเลยเหรอ
“อยากไปดูวิวข้างบนไหม”
“ฮะ?”
“ไปได้นะ เดี๋ยวพาไปตอนนี้เลย” เขาบอกแต่แทนที่ฉันจะตอบฉันกลับหยิบโทรศัพท์มือถือมากดหาข้อมูลอะไรบางอย่างแทน
“จุดชมวิวปิดแล้วค่ะ” ฉันได้ข้อมูลเรียบร้อยก็เงยหน้ามาบอกเขา ชั้นที่เปิดบริการสำหรับชมวิวของตึกปิดไปแล้ว ปิดตอนตีสองแต่ตอนนี้จะตีสองยี่สิบนาทีแล้วค่ะ วันนี้ปิดให้บริการแล้วไม่สามารถขึ้นไปชมวิวได้แล้ว
“หึ ๆๆ แล้วยังไง”
“ก็ไปไม่ได้ไงคะ พี่เป็นเจ้าของจริงป้ะเนี่ยถึงไม่รู้ว่าปิดแล้ว” จะขี้โม้อะไรไม่เช็คข้อมูลเลย ชิส์~
“หึ ๆๆ เธอตลกว่ะ โอเค ๆ ถ้างั้นไปเลยนะ”
“คะ?”
“ไปเลยไงจะได้รู้ว่าเป็นเจ้าของจริงรึเปล่า” เขาหันมาตอบแล้วยิ้มขำบาง ๆ ก่อนจะหันกลับไปมองถนนพร้อมกับเปลี่ยนเส้นทางทันที
“พี่ตัส...ไปจริงเหรอคะ” ฉันถามเพราะไม่แน่ใจ จะไปจริง ๆ เหรอ ไปแล้วจะขึ้นได้ยังไงเสียเวลาเปล่า ๆ เอ๊ะ! หรือว่าความจริงแล้ว...เขาแค่อยากหาเรื่องขับรถวนเล่นเพื่อต่อเวลาที่จะได้อยู่ใกล้แกกันนะยัยปั้นชา~ >///<
“อื้ม”
“แต่มันหมดเวลาขึ้นแล้วนะคะ พี่เป็นเจ้าของพี่ไม่รู้เหรอ”
“หึ ๆๆ เธอนี่ทั้งตลกทั้งซื่อบื้อเลยนะ ถ้าไม่ใช่เจ้าของแล้วจะกล้าพาเธอไปทั้งที่ปิดให้ขึ้นแล้วได้ยังไง”
“ก็...” ก็จริงของเขานะคะ ถ้าไม่ใช่เจ้าของแล้วจะกล้าพาฉันไปทั้งที่มันปิดแล้วได้ยังไง โอ้ย~ ปล่อยไก่โชว์โง่อีกแล้วปั้นชา~ T^T
“แต่ชาไม่ได้อยากดูวิวนะคะ” ฉันไม่รู้หรอกว่าเป็นเจ้าของจริงรึเปล่าหรืออาจจะเป็นลูกหลานของเจ้าของก็ได้ แต่ฉันว่าไม่ไปดีกว่า ดึกมากแล้ว ถึงเขาจะหล่อและเคยไปส่งฉันที่หอมาแล้วแต่ก็ใช่ว่าจะไว้ใจได้ล้านเปอร์เซ็นต์ซะที่ไหนล่ะ
“ก็ไม่ได้ตั้งใจจะพาไปดูวิว” ฮะ? อะไรของเขาวะเนี่ย อยู่ใกล้ผู้ชายคนนี้สมองฉันตกอยู่ในสภาวะงงบ่อยมากเลยนะ
“แล้วจะไปทำไมคะ โอเค ๆ เชื่อแล้วค่ะว่าเป็นเจ้าของตึก” สงสัยพูดแล้วไม่อยากเสียหน้าเลยจะพาไปยืนยันให้ได้มั้ง พอฉันบอกออกไปเขาก็หันมามองแล้วยิ้มขำ
“หึ ๆๆ ของแค่นี้ฉันไม่เอามาอวดให้เสียเวลาหรอก แต่ที่ทำแบบนี้เพราะอยากให้เธอมั่นใจว่าแค่ลูกรัฐมนตรีแค่นั้นมารังแกเธอไม่ได้หรอก...ถ้ามีฉันเธอไม่จำเป็นต้องกลัวใครทั้งนั้น”