EP 14 : ขอร้อง
“คุณพ่อ~ ฮึก~ คุณพ่อ~”
“คุณหนูขา คุณคิน คุณคินคุณหนูฟื้นแล้วค่ะ” หนูดีที่นั่งเฝ้าคุณหนูของตัวเองไม่ห่างบอกผมที่นั่งทำงานอยู่ที่โซฟาด้วยน้ำเสียงลนลานปนตื่นเต้น ผมได้ยินเสียงเธอละเมอตั้งแต่แรกแล้วเลยวางงานลงช้า ๆ แล้วเดินไปหยุดที่ขอบเตียงอีกฝั่ง
“ออกไปก่อนไป ไม่ต้องบอกพยาบาลล่ะ”
“คะ? เอ่อ...ค่ะ ๆ” หนูดีมีสีหน้างุนงงแต่ก็รับคำสั่งของผมก่อนจะรีบออกไป
“คุณพ่อ~ ฮึก~ คุณพ่อ~”
“...” ผมมองดูคนป่วยที่ใบหน้าซีดเผือดละเมอเรียกหาพ่อตัวเอง ถึงจะเกลียดคนที่เธอละเมอหาแค่ไหนแต่ผมก็ไม่ได้สารเลวจนถึงขั้นไม่เข้าใจความรู้สึกของคนที่สูญเสีย ผมเข้าใจและผมเข้าใจมันดี
“ชู่ว์~” ผมลูบหัวเธอช้า ๆ ระหว่างปลอบ แยมโรลน้ำตาไหลออกมาเสียงละเมอค่อย ๆ สงบลงแต่ไม่นานเธอก็ลืมตาขึ้น
“ปวดหัวไหม”
“...” เธอเงียบ เอาแต่มองหน้าผมแล้วน้ำตาก็ไหลออกมาช้า ๆ ผมเลยลูบหัวเธออีกครั้ง
“ปวดหัวรึเปล่า”
“โทรหา...โทรหาคุณพ่อให้หน่อยได้ไหม” เสียงแหบแห้งเอ่ยออกมา มันสั่นเครือ ตาคนที่เพิ่งฟื้นแดงก่ำแต่ก็มีประกายของความหวังให้ผมเห็น
“โทรไม่ได้หรอก เดี๋ยวค่อยไปหา”
“...คุณพ่ออยู่ที่ไหน โทรก่อนได้ไหม...โทรหาคุณพ่อให้ก่อน” เธอขอร้องผมเสียงสั่น ท่าทางของคุณหนูที่พร้อมเอาเรื่องผมตลอดเวลาหายไป เหลือแค่เด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่กำลังขอร้องผมด้วยความหวัง
“ดื่มน้ำก่อน” ผมบอกเธอพร้อมกับขยับไปรินน้ำให้ พอหันกลับมาเพื่อป้อนน้ำให้ดื่มก็เห็นสายตาของเธอที่สั่นไหวและมองผมอยู่ตลอด
“...”
“ดื่มน้ำก่อน” ผมยื่นแก้วน้ำไปใกล้ ขยับหลอดไปจ่อที่ปากแต่เธอไม่ยอมดูดน้ำ
“ขอโทรศัพท์หน่อย”
“ดื่มน้ำก่อน”
“ไม่... / อย่าดื้อ”
“...”
“เร็ว” ผมกดดันอีกครั้ง ไม่ได้ใช้น้ำเสียงหรือสายตาดุดันเพื่อบังคับแต่แค่ดุนิดหน่อยเพราะเธอดื้อไม่ยอมฟังที่ผมบอก
“...” สุดท้ายเธอก็ยอมดื่มน้ำตามที่ผมต้องการ ถึงจะแค่นิดเดียวแต่ก็ไม่เป็นไร ยังไงก็ดีกว่าไม่จิบเลย
“โทรได้ยัง” ผมหันไปวางแก้วน้ำเสียงของแยมโรลก็เอ่ยขึ้นมาอีกครั้ง
อ่าส์~ ผมหันกลับมาเห็นสายตาเธอที่กำลังมองผมด้วยความหวังมันยิ่งทำให้ผมอึดอัด
“...โทรไปก็ไม่มีใครรับหรอก” ผมเงียบไปพักหนึ่งถึงได้ตอบออกมา พอพูดจบสายตาเธอก็สั่นไหวพร้อมน้ำตาที่คลอออกมา เธอขยับตัวลุกขึ้นนั่งช้า ๆ ทุกการเคลื่อนไหวสายตาขอร้องที่มองมาที่ผมไม่เคยหายไปไหนเลย
“หมายความว่ายังไง~ นาย นายโทรก่อนสิ โทรก่อน โทร...ฮึก! โทรให้ก่อนเดี๋ยวคุณพ่อก็รับ ฮึก! โทรสิอคิน~ โทรสัก...”
หมับ!
เธอขอร้องผมแต่ยิ่งพูดเสียงเธอยิ่งสั่น ยิ่งร้อนรนกระวนกระวาย ยิ่งพูดก็ยิ่งเริ่มควบคุมสติไม่ได้และผมไม่อยากให้คนตรงหน้าอยู่กับความหวังที่เธอแค่พยายามสร้างขึ้นมาไปมากกว่านี้แล้วถึงได้ดึงเธอมากอดให้เธอซบลงที่อก
“เสียใจได้แต่อย่าร้องไห้จนเสียสติ...อย่าลืมว่ายังมีแม่ที่ต้องดูแล” ผมพูดออกไปเบา ๆ และหวังให้คำพูดประโยคนี้ของผมเป็นคำตอบที่ชัดเจนให้เธอว่าสิ่งที่เธอหวังไม่มีทางเป็นความจริงได้อีกต่อไป ผมไม่อยากพูดตรง ๆ ว่าพ่อของเธอตายไปแล้วเพราะไม่อยากให้คำนี้ไปกระทบความรู้สึกของเธอมากกว่านี้และทันทีที่ผมพูดจบร่างในอ้อมกอดของผมก็สะอื้นทีละนิดจนกลายเป็นการสะอื้นที่แรงมาก
“ฮึก! ฮื่อ ๆๆ ไม่จริง~ ไม่ ฮื่อ ๆๆ คุณพ่อยังอยู่~ ฮื่อ ๆๆ คุณพ่อยังอยู่~ ฮื่อ ๆๆ คุณพ่อ...ยังอยู่~ ฮื่อ ๆๆ” แยมโรลร้องไห้ฟูมฟายออกมาเรื่อย ๆ ผมที่กอดเธออยู่ลูบเธอเธอช้า ๆ ก่อนจะดันเธอออกเพื่อเช็ดน้ำตาให้ แยมโรลยอมให้ผมเช็ดน้ำตาให้เธอในขณะที่เธอเอาแต่ร้องไห้และมองสบตาผมด้วยอาการของคนที่เหมือนจะขาดใจ
“ฮึก! ฉันไม่เหลืออะไรแล้ว~ ฮื่อ ๆๆ ฉันไม่เหลืออะไร...อื้อ~”
ผมปิดปากที่เอาแต่ร้องไห้ฟูมฟายของเธอ จูบลงไปเบา ๆ แต่ก็ไม่ได้ปล่อยให้ปากเธอเป็นอิสระ มือผมสอดประคองต้นคอแล้วประกบลงไปหาริมฝีปากอวบอิ่มไม่ยอมปล่อย แยมโรลไม่ได้ดิ้นรนขัดขืนแต่น้ำตาของเธอก็ไหลออกมาไม่หยุด พอเห็นว่าเธอไม่ได้ขัดขืนอะไรผมถึงได้ผละออกแต่ไม่ได้ผละออกห่างไปไหนไกล ผมถอนริมฝีปากออกจากปากเธอแล้วจูบลงที่เปลือกตา มืออีกข้างที่ไม่ได้ประคองต้นคือก็วางลงที่แก้มเธอ
“เหลือสิทำไมจะไม่เหลือ...ยังเหลือผมที่อยู่ตรงนี้ไง”
หมับ!
“...ฮึก! ฮื่อ ๆๆ” จบคำพูดของผมก็กลายเป็นเธอเองที่เป็นฝ่ายโผเข้ามากอดผมไว้พร้อมกับปล่อยโฮออกมา ผมไม่ได้ห้ามถ้าเธอจะร้อง อยากร้องไห้จากการสูญเสียแค่ไหนก็ร้องออกมาเลยขอแค่อย่าร้องฟูมฟายจนกลายเป็นเสียสติก็พอเพราะนั่นคือสิ่งที่ผมไม่อยากให้เธอเป็น
และผมไม่ว่าเลยถ้าเธอจะร้องไห้...ในอ้อมกอดของผม
-เวลาต่อมา-
“กินข้าวรึยังหนูดี” ผมเปิดประตูห้องพักฟื้นออกไปถามแม่บ้านคนสนิทของแยมโรลที่นั่งเฝ้าอยู่หน้าห้อง
“ยังค่ะคุณคิน คุณหนูเป็นยังไงบ้างคะ”
“ไม่เป็นไรแล้ว ไปกินข้าวเถอะ”
“คุณคินล่ะคะ คุณคินทานก่อนดีกว่าค่ะเดี๋ยวหนูดีเฝ้าคุณหนูเอง”
“ไม่เป็นไร ไปเถอะ เอานี่ไปไม่ต้องเอามาคืนแล้วก็ไม่ต้องรีบกินล่ะ” ผมยื่นเงินให้หนูดีก่อนจะกลับเข้ามาในห้องอีกครั้ง มาถึงเตียงคนไข้ก็เห็นเธอนั่งเหม่อลอยพร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมาเป็นระยะ
“พักผ่อนไหม” ผมเดินไปหยุดยืนข้างเตียง
“...ไม่” เธอตอบแต่ไม่ได้มองผม เอาแต่นั่งเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง ผมถอนหายใจออกมาเบา ๆ ก่อนจะนั่งลงบนเตียงแล้วลูบหัวเธอช้า ๆ
“เดี๋ยวแม่ก็ออกจากห้องผ่าตัดนะ ไม่พักจะเอาแรงที่ไหนไปเฝ้าท่าน” ผมลูบหัวพร้อมเตือนสติเธอไปด้วย พอมีเรื่องแม่แยมโรลก็หันมามองผมทันทีมองพร้อมกับปากที่เม้มเข้าหากันเหมือนคนที่พยายามกลั้นไม่ไห้ปล่อยโฮออกมาอีกครั้ง
“คุณแม่...จะปลอดภัยใช่ไหม~”
“ครับ” ผมพยักหน้ารับช้า ๆ น้ำตาแยมโรลก็ไหลออกมา
“...ฮึก!”
“อานรินทร์ปลอดภัยอยู่แล้ว อาหมอเก่งใคร ๆ ก็รู้”
“ฮึก!”
“เดี๋ยวขอยานอนหลับคุณหมอให้ นอนพักผ่อนก่อนพรุ่งนี้มีอะไรต้องทำอีกหลายอย่าง” ผมบอกเธอจบก็ขยับตัวลุกจากเตียง
“อยากไปหาคุณพ่อ~” กำลังจะขยับไปกดปุ่มเรียกพยาบาลเพื่อขอยานอนหลับให้เธอแยมโรลก็พูดขึ้นทำให้ผมหันกลับมาหาเธออีกครั้ง
“พรุ่งนี้ พรุ่งนี้ถึงจะไปรับ...ท่านได้” ผมบอกพร้อมกับเช็ดน้ำตาให้เธอ ผมเข้าใจดีว่าตอนนี้ใจเธอไม่อยู่ตรงนี้หรอก เธอคงอยากไปหาศพของพ่อตัวเองแต่ไปก็ไม่มีประโยชน์เพราะยังอยู่ในขั้นตอนของนิติเวช
“ขอโทรศัพท์หน่อย”
“เดี๋ยวค่อยดู” ผมไม่รู้หรอกว่าเธออยากได้โทรศัพท์ไปทำอะไร แต่มันคงไม่พ้นเกี่ยวกับเรื่องการตายของพ่อเธอซึ่งแน่นอนว่าผมไม่อยากให้เธอรับรู้อะไรเพิ่มแล้วในตอนนี้
“จะห้ามทำไม เอาโทรศัพท์มา” เธอไม่ได้เสียงแข็งใส่ผม เธอขอร้องผมเสียงสั่น เธอในตอนนี้เป็นคุณหนูแยมโรลที่กำลังอ่อนแอมาก แล้วผมจะยื่นโทรศัพท์เพื่อมอบความอ่อนแอให้เธอมากไปกว่านี้ได้ยังไงวะ
“อย่าเพิ่งเสพข่าวดีกว่า เดี๋ยวช็อคขึ้นมาอีกมันจะแย่กว่าเดิม”
“แล้วจะให้ทำยังไง~ เกิดอะไรขึ้นกับคุณพ่อบ้างก็ไม่รู้ รู้แค่อย่างเดียวคือ...คุณพ่อตายแล้ว~ ฮึก! คุณพ่อฉันตายแต่ฉันไม่รู้อะไรเลยฉันใจจะขาดอยู่แล้วนายรู้บ้างไหม~ ฮื่อ ๆๆ”
“รู้ ผมรู้”
“ถ้ารู้ก็ช่วยเอาโทรศัพท์มาให้ฉันสักที ฮื่อ ๆๆ เอามาสักทีอคิน~”
“ให้ไม่ได้ อย่าเพิ่งรับรู้เรื่องแย่ ๆ เพิ่มไปมากกว่านี้ได้ไหม พักผ่อนก่อนเพราะนอกจากต้องดูแลแม่ พรุ่งนี้ยังต้องไปรับพ่อนะ”
“ฉันจะพักได้ยังไง~ คุณพ่อฉันตาย แม้แต่ศพคุณพ่ออยู่ที่ไหนฉันยังไม่รู้แล้วฉันจะพักผ่อนได้ยังไงอคิน~ ฮื่อ ๆๆ ฉันจะพักผ่อนได้ยังไง~”
หมับ!
เธอเริ่มฟูมฟายออกมาอีกครั้งผมเลยดึงเธอเข้ามากอดให้แน่นที่สุด
“กำลังจะขอยานอนหลับให้นี่ไง”
“ฉันไม่อยาก ฮึก! ไม่อยาก... / ขอร้อง ขอร้องแค่ให้พักผ่อนก่อนพรุ่งนี้จะได้มีแรงสู้กับทุกเรื่องให้ไหว...ฟังคำขอร้องของพี่สักครั้งได้ไหมแยมโรล”
