ตอนที่4 เกินต้าน
ซ่า!! ซ่า!!
สมกับที่เป็นวันซวยของฉันเสียจริง ทันทีที่อาจารย์ปล่อย ฉันรีบวิ่งลงจากตึกเพราะจะรีบไปขึ้นรถหน้ามอ ยังไม่ทันที่ฉันจะวิ่งถึงชั้นหนึ่งเสียงฝนก็สาดลงมาอย่างบ้าคลั่ง
ฉันที่ยืนอยู่ตรงนี้มาเกือบครึ่งชั่วโมงอย่างคนสิ้นหวัง และเริ่มรู้สึกหนาวเพราะละอองฝนสาดเข้ามา
สุดท้ายฉันก็ทนไม่ไหว วิ่งฝ่าฝนออกไปอย่างน้อย ๆ มันก็คงดีกว่ายืนแข็งตายใต้ตึกบริหาร ฉันยกแฟ้มขึ้นปิดหัวเพื่อความสบายใจ เพราะมันไม่ได้ช่วยอะไรเลย
ฝนที่กระหน่ำตกเหมือนฟ้าร่วง ทำให้ตอนนี้ฉันรู้สึกได้ว่ามันเปียกเข้าไปยันกางเกงใน ช่างชุ่มฉ่ำเสียจริง
ปั๊ก!!
แควก!!
“โอ้ยย…” ซินเซียร้องออกมาสุดเสียงเพราะเดินสะดุดกับขอบฟุตบาท
ร่างเล็กเซถลาเสียการทรงตัวจนล้มลงไป เข่าและมือกระแทกพื้นอย่างแรงจนรู้สึกแสบ กระโปรงทรงเอฉีกขาดขึ้นสูงจนเห็นเนินขาอ่อน
ซินเซียยกมือเล็กที่กำลังสั่นเทาขึ้นมาดู เห็นเลือดสีสดกำลังไหลซึมออกมา ขอบตาเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดง หยดน้ำใส ๆ ไหลลงมาแข่งกับสายฝน
เอี๊ยด!!
ซินเซียหันไปมองตามเสียงก็เห็นว่ามีรถสปอร์ตสีดำขับมาจอดข้างๆ ก่อนที่เจ้าของรถจะลดกระจกลงจนเห็นใบหน้าหล่อที่กำลังหงุดหงิด
เขามองมาด้วยสายตาเรียบนิ่งที่แฝงไปด้วยความไม่สบอารมณ์ ท่าทางของเขาดูน่ากลัวกว่าตอนเจอกันที่ผับมาก
“ขึ้นรถ” เขาพูดออกคำสั่งสั้นๆ แต่ด้วยความตกใจ และความกลัวทำให้ซินเซียนิ่งไปไม่ขยับ น้ำตาที่ไหลก็ยิ่งทะลักออกมาอย่างไม่มีเหตุผล
คารอสไม่พูดอะไรเขาเปิดประตูรถฝ่าสายฝนลงมาอุ้มคนตัวเล็ก คนถูกอุ้มแบบไม่ทันตั้งตัวรีบตวัดแขนกอดรัดคอเขาอัตโนมัติ
สายตาคมเหลือบมองรอยขาดที่กระโปรงเล็กน้อย ทำเอาแก้มใสๆ ของคนโดนมองร้อนผ่าวจนขึ้นสีแดงระเรื่อ
คารอสอุ้มซินเซียไปวางลงตรงที่นั่งข้างคนขับ ก่อนที่เขาจะวิ่งอ้อมไปขึ้นอีกฝั่ง คารอสหันไปหยิบเสื้อช็อปโยนใส่ตักคนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ เพราะเห็นเธอนั่งสั่งกอดตัวเองตัวแน่น ก่อนจะเหยียบคันเร่งออกไปทันทีโดยไม่พูดอะไร
“ฉะ…ฉันอยู่คอนโดเดียวกับเจฟ” ซินเซียพูดขึ้นเสียงสั่นเพราะความหนาว ถึงแม้เขาจะเบาแอร์และมีเสื้อของเขาคลุมอยู่
“…” เขาไม่ตอบอะไร สายตายังคงจ้องมองพื้นถนน ฝนที่ตกหนักทำให้มองแทบจะไม่เห็นทาง บนรถมีเพียงเสียงหยดน้ำตกกระทบหลังคารถดังเป็นจังหวะ
คารอสตอนเปียกฝนคะแนนเต็มล้านไม่หัก ผมที่เซ็ทไว้เป็นทรงตกลงมาปรกหน้าเล็กน้อย เสื้อนักศึกษาสีขาวแขนยาวที่ถูกพับไว้แบบลวก ๆ แนบไปกับเนื้อจนเห็นมัดกล้าม
หยดน้ำตรงซอกคอขาวค่อยๆ ไหลลงไปที่ไหปลาร้า อื้มม…เซ็กซี่มากจริงๆ ซินเซียลอบกลืนน้ำลายลงคอ คนอะไรเซ็กซี่เป็นบ้าเลย
“มองจนน้ำลายหกขนาดนั้นเป็นโรคจิตหรือไง?” คารอสปรายตามองใบหน้าหวานที่จ้องมองเขาตาไม่กะพริบ
เสียงของคารอสทำเอาซินเซียสะดุ้งโหยง เผลอมองเพลินจนหน้าเข้าไปใกล้เขามาก เธอช้อนตามองคนหน้าดุ ก่อนจะยิ้มแห้ง ๆ เป็นการกลบเกลื่อน และรีบดึงตัวเองกลับมานั่งที่เดิม ไร้คำแก้ตัวใด ๆ เพราะสมองหยุดประมวลผลชั่วขณะ แก้มทั้งสองข้างแดงเป็นลูกตำลึงด้วยความเขินอาย
“โอ้ยย…”
ซินเซียทำอะไรไม่ถูก ได้แต่ต่อว่าตัวเองในใจที่ทำเรื่องน่าอายลงไปต่อหน้าเขา จนเผลอเอามือข้างที่เป็นแผลตีเหม่งตัวเองจนร้องเสียงหลง
เธอรีบยกมือมาเป่าเพื่อคลายความเจ็บ คารอสแอบมองการกระทำป้ำๆ เป๋อๆ ของเธอด้วยสายตาเรียบนิ่งแต่มุมปากเผลอกระตุกยิ้มออกมาอย่างลืมตัว
คารอสเอื้อมมือไปเปิดเพลงบนรถ [อยากขยับเข้าไปใกล้เธอ~ อยากรู้จักตั้งแต่ได้เจอ~ ใจฉันสั่นเมื่อได้ยินเสียงเธอ~ ตั้งแต่วันแรกเจอก็เผลอเอาไปคิดละเมอ ~]
บ้าจริง!! คนที่กำลังเสียอาการนั่งลุกลี้ลุกลนก้มหน้าทำตัวไม่ถูก หัวใจเต้นแรงจนแทบจะทะลุออกมาจากอก รู้สึกร้อนวูบวาบในกายจนหน้าแดงหูแดง จนลืมความเจ็บที่แผล
เพลงแบบนี้บรรยากาศแบบนี้หรือว่า… ซินเซียแอบหันไปมองเสี้ยวหน้าคมของคนข้างๆ อื้ม..นิ่งสนิทเหมือนเดิม มันคงบังเอิญสิ่นะ
ไม่ได้!! ไม่ได้!! ฉันจะมาหวั่นไหวกับผู้ชายที่พึ่งเจอกันแค่สองครั้งไม่ได้ ใจเย็นไว้ซินเซียอย่าเป็นผู้หญิงใจง่ายเขาแค่หน้าหล่อ หุ่นเซ็กซี่ ซิกแพคแน่นแค่นั้น!! ไม่มีอะไรน่าสนใจสักนิด
ซินเซียปลอบใจตัวเองแต่เหมือนยิ่งคิดยิ่งแย่ ไม่รู้ว่าตอนนี้ที่ตัวแดงจวนจะแปลงร่างเป็นไอ้มดแดง มันเป็นเพราะโดนสะเก็ดฝนหรือคนข้าง ๆ กันแน่
ซินเซียกัดปากเบา ๆ สายตาเจ้ากรรมก็ยังไม่วายเหลือบไปมองความเซ็กซี่ของคนข้าง ๆ ที่มือหนึ่งจับพวงมาลัย และมืออีกข้างยกขึ้นเท้าคางวางแขนพาดกับขอบประตูรถ ทำเอาคนแอบมองเลือดกำเดาแทบพุ่ง
ซินเซียรีบสะบัดหัวสลัดความคิดพิลึก บ้าเอ๊ย!! นี่ฉันเป็นคนโรคจิตที่ใจง่ายหรือเขากำลังอ่อยฉันอยู่นะ ซินเซียหันมองข้างทางก็พบว่ามันไม่ใช่ทางกลับคอนโด มัวแต่เมาซิกแพคของเขาจนลืมดูทางไปเลย!!
“นะ…นายมาผิดทางหรือเปล่า? นี่ไม่ใช่ทางกลับคอนโดฉัน” ซินเซียรวบรวมสติถามขึ้นโดยไม่หันมองไปทางเขา
“ถูกแล้ว” เขาตอบเสียงเรียบ
“ตะ…แต่มันไม่ใช่ทางไปคอนโดฉันนี่”
“แล้วใครบอกว่าฉันจะไปคอนโดเธอ”
“อะ..อ้าว…แล้วนายจะไปไหน”
“คอนโดฉัน”
“ห๊ะ?” ซินเซียหันขวับไปมองหน้าเขาด้วยความตกใจ
“อยากกินฉันไม่ใช่เหรอ ฉันจะยอมให้เธอกินโดยไม่ขัดขืน…” คารอสยิ้มมุมปากอย่างคนเจ้าเล่ห์
“…” บ้าจริง!!…เขาคิดอะไรอยู่เนี่ย อยากกินอ่ะเรื่องจริง แต่ฉันไม่ใช่ผู้หญิงใจง่ายนะ
ฉันลงจากรถทันทีที่จอดสนิท และรีบเดินออกไปทางถนนเพื่อเรียกรถกลับคอนโด แต่ความเจ็บแผลที่หัวเข่าทำให้ท่าเดินฉันดูแปลกและน่าจะดูแย่มากในสายตาของคนที่พบเห็น
พรึ่บ!!
“กรี๊ดด!!”
คารอสเดินตามมาอุ้มจากด้านหลัง ทำเอาคนโดนอุ้มหลุดร้องเสียงหลงสองมือตวัดกอดรัดรอบคอเขาอัตโนมัติ
สายตาคมของคนตัวสูงจ้องมองเธอฉายแววหงุดหงิดเล็กน้อย ทำเอาคนในอ้อมกอดหน้ามุ่ย มองค้อนด้วยความไม่พอใจ
“จะซ้อมเดินท่าเพนกวินเหรอ?” คารอสเลิกคิ้วถามสาวน้อยในอ้อมกอด
“จะบ้าเหรอ!! ปล่อยนะฉันจะกลับห้อง” ซินเซียออกแรงดิ้นให้เขาวางเธอลง
“ถ้าไม่หยุดดิ้น เธออาจจะได้เพิ่มอีกสักแผล” เขาพูดเสียงดุ ซินเซียจึงหยุดดิ้นและพูดกับเขาด้วยน้ำเสียงอ่อนลง
“นายก็ปล่อยสิ่ฉันจะกลับห้อง” ฉันส่งสายตาอ้อนวอนให้เขา เพราะฉันอยากกลับห้องตัวเอง
“ทำแผลเสร็จฉันจะพาไปส่ง” เขาก้าวเท้าเดินตรงเข้าไปในคอนโดแบบไม่สนใจสายตาไม่พอใจของคนในอ้อมกอดสักนิด
“นายมันไม่น่าไว้ใจ” ซินเซียคว่ำปากลงสีหน้าไม่ไว้ใจคนตรงหน้าสุดๆ เขาดูอันตรายอย่างที่เจฟเคยบอก ไม่อยากคิดว่าถ้าอยู่ในห้องสองคนจะเกิดอะไรขึ้น
“ฉันควรพูดคำนั้น มากกว่าเธอ”
???????