5
พศกรกำลังนั่งอยู่ในร้านอาหารหรูกับคู่เดตที่มีโปรไฟล์หรูเลิศ สวย รวย ไฮโซ ประสบความสำเร็จ หญิงสาวเป็นทนายความที่มีชื่อเสียงคนหนึ่ง แต่นั่นไม่ได้การันตีนิสัยของดจ้าหล่อน ขณะที่ยิ้มบาง เขาคิดในใจว่าต้องกลับไปเอาเรื่องเพื่อนรักอย่างปวินที่คะยั้นคะยอให้เขามาเดตกับผู้หญิงน่ารำคาญคนนี้
หลังจากที่ทนฟังมุกตลกฝืดของหญิงสาวที่ว่าเขาเป็นหมอคงจะชอบเลือดอะไรทำนองนี้ เขาเลยคิดจะสวนกลับความหลงตัวเองของหญิงสาวไปบ้าง
“คุณเป็นทนาย งั้นหมายความว่าคุณชอบคดีความกับเรื่องผิดกฎหมายใช่มั้ยครับ”
ดวงตาเรียวสว่างวาบเป็นประกายเจ้าเล่ห์ หัวเราะเบา ๆ หยิบแก้ววิสกี้ขึ้นมาถือไว้ แล้วตอบด้วยท่วงท่าที่ดูทะนงจนน่าหมั่นไส้ “ฉันไม่ปฏิเสธว่าชอบเวลาคนทำผิดฎหมาย คนพวกนั้นต่างมาหาฉัน เพราะฉันสามารถช่วยให้พวกเขาพ้นผิดได้ ซึ่งหมายความว่าฉันสามารถเรียกเงินจากพวกนั้นได้มหาศาล”
เจ้าหล่อนพล่ามต่อถึงคดีหนึ่งที่เขาสามารถช่วยอาชญากรค้ายาเสพติดทั้งยังฆาตกรรมเหยื่อสาวไปสองรายให้พ้นผิด ว่าจากคดีนี้คดีเดียวเธอโกยเงินได้หลายล้านจนสามารถซื้อรถสปอร์ตได้หนึ่งคัน
ยิ่งได้ฟังพศกรยิ่งรับไม่ได้ รู้สึกขยะแขยงผู้หญิงตรงหน้านี้เต็มทน
พรึ่บ! พศกรลุกขึ้นทันใด
“ขอตัวกลับก่อนนะครับ พอดีผมมีธุระ”
เขาบอกแล้วเดินออกไปโดยไม่เหลียวหลังมองหญิงสาวน่ารำคาญที่ยังคงมองเขาตาค้าง
ตอนที่เดินออกมานอกร้านพศกรก็บ่นเพื่อนรักอย่างปวินไปด้วย แต่คิดว่ายังไม่พอ จึงล้วงโทรศัพท์มือถือออกมา
“นี่ปวิน” พออีกฝ่ายกดรับยังไม่ทันจะได้พูดก็ใส่เต็มที่
“วันหลังนายไม่ต้องนัดเดตกับพวกผู้หญิงที่ไหนให้ฉันอีกนะ ฉันอยู่เป็นโสดของฉันแบบนี้ ไม่ก็อยู่บ้านดูซีรีส์ยังดีซะกว่า”
“เดี๋ยว ๆ หมอพลู ไม่มั้ง น้องเมย์เขาเป็นมือหนึ่งในบริษัทเลยนะ” ปวินที่อยู่ปลายสายพูดถึงคู่เดตซึ่งเป็นเพื่อนกับแฟนตัวเองที่เป็นทนายด้วยกัน
พศกรกรอกตามองบน “มือหนึ่งแต่นิสัยแบบนี้ก็ไม่ไหวมั้งแก ฉันรับไม่ได้พวกกดหัวคนอื่นแล้วอวดตัวเอง”
“เคร ๆ คราวหลังฉันจะดูให้ดีกว่านี้ละกัน”
“หยุดเลยปวิน ฉันจะไม่ยอมออกเดตกับคนที่นายแนะนำมาอีกแล้ว”
พศกรรีบหยุดเพื่อนผู้หวังดีทันที
พอวางสายจากปวินไม่ทันไรก็มีอีกสายหนึ่งเข้ามา เป็นเบอร์ที่ไม่ได้ถูกบันทึกไว้ เขาดูอยู่ครู่หนึ่งแล้วตัดสินใจกดรับ
“ฮัลโหล”
“พลู ฉันเอง อลัน” เสียงทุ้มนุ่มคุ้นเคยในความทรงจำดังมาจากปลายสาย พศกรรู้สึกแปลกใจระคนตื่นเต้นจนยากระงับ
“ยุ่งอยู่รึเปล่า” อลันถามเพราะเห็นว่าปลายสายเงียบไป
“มะ…ไม่ครับ” พศกรรีบบอก คำถามเขาสะกิดเตือนให้รู้ตัวจึงรีบบอกพลางส่ายหน้าแม้อีกฝ่ายจะไม่เห็น
ถึงจะเคยให้นามบัตรเขาไว้ แต่ก็ไม่เคยนึกว่าเขาจะโทรหา
“พี่อลันมีอะไรรึเปล่า”
“คูเปอร์อาการดีขึ้น ไม่มีไข้แล้ว เลยไปโรงเรียน แต่ทางโรงเรียนโทรมาบอกว่าแกไข้ขึ้นอีกรอบ ฉันไปรับกลับมา แต่ไม่แน่ใจว่าต้องไปโรงพยาบาลอีกรอบหรือให้เขากินยาไข้หวัดใหญ่ชุดเดิมดี”
“เขาอาเจียนมั้ยครับ”
“สองสามรอบ”
“ให้ผมไปดูแกก็ได้ เอ่อ…ถ้าพี่อนุญาต”
ปลายสายเงียบไป
พศกรรู้สึกลุ้นระทึก จนได้ยินเสียงหัวใจตัวเองว่าเต้นแรงแค่ไหน
คำตอบนี้ของเขาจะเป็นตัวเปลี่ยนแปลงทุกสิ่ง
คูเปอร์
อลัน
และตัวเอง
ถ้าอลันตอบตกลง จะไม่มีทางย้อนกลับไปได้อีก
“ฉันจะส่งที่อยู่ไปให้”
พศกรถอนหายใจยาวหลังจากที่กลั้นหายใจระหว่างรอคอยคำตอบ ใบหน้าหวานแย้มยิ้มออกมา นัยน์ตามีประกายมุ่งมั่น
หลังจากวางสายก็ได้รับข้อความที่อลันส่งตำแหน่งที่ตั้งบ้านของเขามาให้ซึ่งอยู่ใกล้ ๆ กับร้านอาหารที่เขาอยู่นี้เอง พศกรกดตั้งค่าแผนที่แล้วออกรถแทบจะทันที
ตอนนี้เขารู้จักบ้านและเบอร์โทรชายหนุ่มแล้ว อลันคงคิดนึกเสียใจในภายหลัง
เพียงสิบห้านาทีพศกรก็มายืนอยู่ตรงหน้าประตูบ้านของชายหนุ่ม รู้สึกว่าภายในช่องท้องขมวดเป็นเกลียวตอนที่เคาะประตูเรียกเจ้าของบ้าน และมันยิ่งเครียดเขม็งเมื่อเขาเดินมาเปิดประตูต้อนรับ ทั้งคู่สบตากัน ชั่วขณะนั้นเกิดความเงียบขึ้นมาชั่วอึดใจหนึ่ง
พศกรสังเกตเห็นร่องรอยความเหน็ดเหนื่อยบนใบหน้าหล่อเหลา ดวงตาของเขาดูหนัก เคราขึ้นรกครึ้ม ผมเผ้ายุ่งนิด ๆ และมันทำให้เขาดูดิบเถื่อนเร่าร้อนจนใจอดหวั่นไหวไม่ได้
“พลู เอ่อ…ขอบคุณที่อุตส่าห์มา” เสียงของเขาทำลายความเงียบขึ้นมา
พศกรได้สติ หลุบตาต่ำลง รู้สึกเขินอายที่ตนแอบมองเขานานเกินไป ไม่รู้ว่าเขาจะจับสังเกตอะไรได้รึเปล่า
“ไม่เป็นไรครับ”
“เข้าบ้านก่อน”