บทย่อ
’แพรไหม‘ กำลังจะถูกครอบครัวขายตัวให้เจ้าหนี้ เพราะเหตุผลที่ว่าเธอโสดและยังไม่เคยผ่ายมือชายใดมา นั่นคือสิ่งที่ทำให้เธอตัดสินใจเลือกที่จะทำลายพรหมจรรย์ของตัวเองซะเพราะถ้าเธอไม่มีมัน.....ทุกอย่างก็จบ แต่ใครจะไปรู้ว่าเจ้าของผับที่เพียบพร้อมไปทุกอย่างอย่าง ’นาวิน‘ จะกลายมาเป็นผู้ชายคนแรกของเธอและหลังจากนั้นความสัมพันธ์ของเขาและเธอก็เริ่มขึ้น ท่ามกลางความสงสารของผู้ชายใจดีคนนี้ ทำให้เธอรู้สึกตกหลุมรักเขาได้ไม่ยาก แต่สุดท้ายความรักของเธอ มันจะมีค่าสำหรับเขาหรือไม่ เพราะดูเหมือนว่าคนที่โปรไฟล์อย่างเขาจะมีคนของใจอยู่แล้ว
บทนำ.คนใจกล้า
Chepter บทนำ : คนใจกล้า
@The Winner Pub
01:10 น.
ตึก! ตึก!
ก๊อก ก๊อก
“เข้ามา” นาวินเอ่ยบอกคนด้านนอก ในขณะที่สายตากำลังจับจ้องอยู่บนกระดาษใบเสนอราคาจากแบรนด์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์หลากหลายแบรนด์ไม่วางตา
“มีลูกค้าไม่ยอมออกไปจากร้านครับ” คีรินเอ่ยบอกเจ้าของผับด้วยน้ำเสียงเรียบราวกับว่าไม่ได้ตกใจกับเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย
นาวินเงยหน้าขึ้นมามองลูกน้องของตัวเองครู่นึงก่อนจะยกนาฬิการาคาหลายแสนของตัวเองขึ้นมาดูเวลา คีรินเป็นลูกชายของไคโร ลูกน้องคนสนิทของพ่อของเขา มาติเนส มัส เนื่องจากน้าไคโรเคยดูแลพ่อมานานหลายปี คีรินกับเขาจึงค่อนข้างสนิทกัน ภายหลังจากที่ The Winner Pub เปิดตัวขึ้น คีรินจึงอาสาเข้ามาช่วยงานเขาอย่างเต็มตัว
“ทำไมไม่จัดการไปเลย” คนพูดมองหน้าอีกคนด้วยความแปลกใจเล็กน้อย
ปกติถ้ามีพวกขี้เมาโวยวายไม่ยอมออกจากผับไป คีรินก็มักจะจัดการให้เขาได้ตลอด แต่ทำไมวันนี้ถึงไม่ทำแบบเดิม
จะขึ้นมารายงานเขาทำไม?
“จะให้ผมเอาผู้หญิงไปทิ้งไว้หน้าผับเหรอครับ ถึงผมจะเป็นมากกว่าผู้จัดการผับ แต่ผมก็ไม่ใจร้ายกับผู้หญิงหรอกนะ” เจ้าใบหน้าหล่อของอายุ 23 ปี เอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง
“ผู้หญิง?” นาวินยักคิ้วขึ้นข้างนึงขึ้นด้วยความสงสัย ส่วนใหญ่ลูกค้าที่ไม่ยอมกลับออกจากผับไปเพราะอยากสนุกต่อ มักจะเป็นผู้ชาย
“ครับ เธอบอกว่าจะไม่ยอมไปไหนทั้งนั้นถ้าคืนนี้ไม่ได้เปิดซิง”
"ฮะ! อะไรนะ?” นาวินปล่อยเอกสารในมือลงบนโต๊ะทำงานก่อนจะหันมาถามคีรินหน้าตาตื่น
“ครับ เธอร้องอยู่ข้างล่าง บอกว่าอยากโดนเปิดซิง ดูท่าน่าจะเมามากๆ”
นาวินได้ยินคำบอกเล่าดังน้้นก็เลื่อนมือข้างขวามาคลึงขมับของตัวเองเบาๆ เขาชักอยากจะเห็นหน้าผู้หญิงคนนั้นเสียแล้วสิ ถึงว่า….ทำไมคนนี้คีรินต้องขึ้นมาตามให้เขาลงไปจัดการด้วยตัวเอง
เธอคงจะเป็นผู้หญิงที่แปลกมาก ถึงได้อยากเที่ยวถวายความบริสุทธิ์ให้กับผู้คนที่พลุกพล่านในสถานที่อโคจรแบบนี้
“อืม เดี๋ยวตามลงไป”
“ครับ”
ใช้เวลาไม่ถึงสิบนาที ร่างสูงสมส่วนของหนุ่มลูกเสี้ยวไทย-เยอรมันก็เดินลงมาถึงชั้นล่างของผับ นาวินในวัย 22 ปี ถือว่าเป็นหนุ่มที่ไฟแรงมากๆ เขาสามารถเปิดผับนี้ขึ้นมาได้ โดยไม่ร้องขอความช่วยเหลือจากใครเลยแม้กระทั้งพ่อของเขาที่มีเส้นสายเป็นถึงมาเฟียผู้มีอิทธิพล
“อาวมาอีก อึก ฉะฉันขอร้องน้าา ฉันอยากมาวจริงๆ”
ภาพตรงหน้าที่ชายหนุ่มเห็นคือสภาพหญิงสาวคนนึงที่กำลังนั่งอยู่หน้าบาร์ เธอกำล้งเกาะแขนของคีรินเพื่ออ้อนวอนขอให้เขาเทเหล้าให้อีก ตอนนี้ภายในผับเหลือแค่พนักงานบางส่วนที่กำลังทยอยเก็บของออกไปเท่านั้น
“ผับปิดให้บริการแล้วครับคุณ คุณควรกลับบ้านนะครับ” คีรินพยายามดึงมือของสาวสวยตรงหน้าออกจากแขนของเขา
แต่เธอเกาะเขาแน่นราวกับตุ๊กแก ผู้จัดการหนุ่มหันมามองหน้านาวินที่เดินเข้ามาใหม่พร้อมกับส่งสายตาขอความช่วยเหลือ ถ้าเป็นเรื่องผู้หญิง เขาไม่ค่อยชอบถึงเนื้อถึงตัวเท่าไหร่ เนื่องจากคีรินออกจะเป็นผู้ชายหยิ่งๆนิดหน่อย
“มะม่ายย ฉันเพิ่งมาได้แปปเดียวเองอ่าา คุณ! มานี่หน่อย ขอเหล้าให้ฉันอีกนะ น้าๆๆ” เธอกวักมือเรียกมาวินทั้งๆที่ไม่เคยรู้จักเขามาก่อน
แพรไหมที่กำลังเมาไม่ได้สติหลงคิดไปว่านาวินคือพนักงานของที่นี่ เธอจึงเลิกเกาะแขนคีรินแล้วหันมาอ้อนวอนขอร้องเขาแทน
“เธอเมาแล้วนะ ยังอยากดื่มต่ออีกเหรอ?” เขาเดินเข้าไปใกล้เธอก่อนจะพิจารณาใบหน้างดงามของเธออย่างระเอียดยิบ
ดวงตากลมโต จมูกโด่งรูปหยดน้ำจรดกับริมฝีปากบางได้พอเหมาะพอดี สองแก้มแดงเหมือนลูกตำลึงเพราะพิษของแอลกอฮอล์กำลังเล่นงานเธออยู่ หญิงสาวคนนี้จัดว่าสวยมาก ถึงเขาไม่รู้เหตุผลว่าทำไมตอนนี้เธอถึงได้มานั่งโวยวายอยู่ในผับของเขาแล้วไม่ยอมกลับบ้าน แต่ถึงอย่างนั้นนาวินก็ไม่กล้าปล่อยให้ผู้หญิงที่เมาแอ๋แบบนี้เดินทางกลับบ้านตัวคนเดียวเป็นแน่
มันอันตราย!
“ช่ายย ฉันยางไม่เมาสักหน่อย ขอกินอีกนะ” เธอส่งยิ้มหวานหยดให้เขา ทำเอาคนที่มองอยู่เผลอยิ้มออกมาอย่างลืมตัว
“งั้นก็ไปห้องฉัน”
“หื้ออ? ห้องคุณมีเหล้าเหรอ…” เธอนิ่งฟัง ถึงสติจะไม่เต็มร้อย แต่คนที่ยังไม่อยากกลับบ้านก็รู้สึกสนใจในสิ่งที่คนตรงหน้าเสนอมาอยู่ไม่น้อย
เธอไม่ได้รู้สึกกลัวเขา….
เพราะเขาดูอบอุ่น ไม่น่ากลัวเลยสักนิด
“อืม มี เยอะด้วย เทให้เธออาบยังได้เลย”
“งั้นก็ไป! อ๊ะ…” เธอผุดลุกขึ้น ก่อนจะโงนเงนเกือบล้ม โชคดีที่แขนแกร่งของเขาจับไว้ได้ทัน
“ผมนึกว่าจะพาเธอไปส่งบ้านเสียอีก” คีรินที่ยืนมองเหตุกาณ์อยู่เอ่ยขึ้นมาด้วยสีหน้าเรียบเฉย
“รู้จักบ้านเธอหรือไง?”
“ไม่ครับ”
“อืม งั้นก็ไม่ต้องสงสัย”
“ปายเถอะ ฉันรอนานแล้วนะ!” แพรไหมหันมาแวดใส่สองหนุ่มขึ้นมา เมื่อเห็นว่าคนตัวโตไม่พาเดินออกไปสักที ตอนนี้ภายในใจของเธอนั้นอยากจะเมาอย่างเดียว เมาให้ลืมทุกอย่างที่กำลังรบกวนจิตใจเธออยู่ตอนนี้
ไม่มีใครล่วงรู้ว่าสาวน้อยหน้าใสอย่างเธอ ทำไมถึงได้อยากเมาหัวราน้ำนัก คนส่วนใหญ่ที่มาเที่ยวก็อยากจะเมาเหมือนกันหมดนั่นแหละ มาวินจึงไม่ได้คิดแปลกใจอะไรในข้อนั้น
“อืม ไปกัน เดินไปทางนี้” เขาช่วยพยุงร่างเล็กเอาไว้ เพราะตอนนี้เธอตัวอ่อนปวกเปียกเกินกว่าจะเดินเพียงลำพังได้ เขาคิดว่าอีกไม่นานหญิงสาวน่าหลับไปเพราะความเมา เธอคงไม่ทันได้กินเหล้าที่ห้องของเขาต่อหรอก แค่พาเธอไปนอนตื่นเช้ามาหายเมาแล้วค่อยให้เธอกลับบ้านก็ได้
ถึงยังไงเขาก็ไม่ได้เสียหายอะไรในเรื่องนั้นอยู่แล้ว
นี่แหละนิสัยของมาวิน
เขาเป็นคนใจดี
“หวังว่าจะกินเหล้าอย่างเดียวนะครับ คงไม่ได้กินอย่างอื่นด้วย” คีรินเอ่ยตามหลัง แต่มาวินก็ไม่ได้สนใจอะไร เพราะเขาไม่ได้คิดจะทำอะไรผู้หญิงคนนี้อยู่แล้ว
เขาแค่ไม่อยากให้เธอเดินทางกลับบ้านคนเดียวในสภาพเมามายเช่นนี้ อย่างน้อยเธอก็เป็นลูกค้าของทางร้านคนนึงเหมือนกัน เขาควรจะช่วยเหลือเธอเท่าที่จะทำได้
ครึ่งชั่วโมงผ่านไป
นาวินพาผู้หญิงแปลกหน้าขึ้นมายังห้องส่วนตัวของเขาที่อยู่ชั้นสองถัดมาจากห้องทำงานของชายหนุ่ม ตอนนี้เจ้าของผับสุดหรูใจกลางเมืองกำลังนั่งมองหน้าคนที่กระดกเหล้าเข้าปากแบบไม่หยุดยั้งด้วยสีหน้าสิ้นหวัง เขาคิดว่าเธอจะเมาจนสลบไปตั้งแต่ครึ่งชั่วโมงที่แล้ว แต่ไม่เลย!
ผู้หญิงคนนี้คอแข็งกว่าที่เขาคิด!
เธอกระดกเหล้าราคาหลายหมื่นของเขาไปได้เศษ 1 ส่วน 4 ของขวดแล้ว โดยที่เขาไม่ได้กินเป็นเพื่อนเธอแต่อย่างใด พรุ่งนี้เช้านาวินต้องไปเรียนก็เลยเอาแต่นั่งจ้องใบหน้าสวยของเธออยู่แบบนี้ เขาดูเธอกระดกแก้วเหล้าเข้าปากเป็นรอบที่สามสิบได้แล้วมั้ง!!
ชายหนุ่มเริ่มรู้สึกง่วงเหงาหาวนอน เนื่องจากช่วงนี้เขามีหลายอย่างต้องทำ ไหนจะงานที่ผับ ไหนจะเรียนมหาลัยเทอมสุดท้าย เรียกได้ว่าเขาหัวหมุนทั้งวันจนไม่มีเวลาทำอะไรนอกเหนือจากงานกันเลยทีเดียว
“อึก อึก อึก อ่าาา ขมชะมัด แต่ชอบ~” ใบหน้าแดงฉ่าบ่นออกมา ก่อนจะส่งยิ้มหวานให้เขาอีกครั้ง ตอนนี้สติของเเพรไหมเลือนลางเต็มที แต่เรื่องที่เธอเครียดก็ยังคงไม่จางหายไปจากสมองเล็กง่ายๆ
“เมื่อไหร่จะหยุดกิน” เขาเริ่มเบื่อที่จะนั่งเฝ้าเธอ ทั้งๆที่ไม่รู้จักกันมาก่อน แต่ทำไมเขาต้องมาเสียเวลานอนเพราะคนแปลกหน้าด้วย
“กินด้วยกันเส้ นะนะๆๆ” เธอเขย่าแขนเขาหงึกหงัก ทำเอามาวินถอนหายใจออกมารอบที่ร้อย
“เธอชื่ออะไร บ้านอยู่ไหน” หากเขาไปส่งเธอที่บ้านตั้งแต่ก่อนหน้านี้ เขาคงไม่ต้องมานั่งทรมานตัวเองอยู่แบบนี้ใช่ไหม
ตอนแรกก็นึกว่าจะสลบลงไปง่ายๆ แต่ดูเหมือนมันจะไม่ง่ายเหมือนที่เขาคิด เธอดูดีดมาก ดูท่าคงไม่ยอมเลิกกินง่ายๆแน่ หากเขาขับรถไปส่งตอนนี้ยังพอมีเวลานอนเหลืออยู่
“จำไม่ได้อะ….” แพรไหมตอบกลับก่อนจะรินเหล้าใส่แก้วต่ออย่างไม่สนใจอะไร
“เฮ้อ…ชื่อตัวเองเธอก็จำไม่ได้เหรอ?”
“แพรไหม….ฉันชื่อแพรไหม” สุดท้ายคนตัวเล็กก็ยอมตอบ
“โอเคแพรไหม ถ้าเธอไม่อยากกลับบ้านก็นอนที่นี่ โซฟาว่าง ตามสบายนะ” คนตัวสูงเอ่ยบอกก่อนจะทำท่าลุกขึ้นไปหาอาบน้ำนอน
แพรไหมที่เห็นดังนั้นก็ร้องทักขึ้น เธอไม่อยากนั่งดื่มคนเดียวและไม่อยากให้เขาหนีไปนอน คนกำลังคิดมากมีปัญหารุมเร้าแบบเธอไม่ต้องการอยู่คนเดียว เธอต้องการอยู่กับใครสักคน อย่างน้อยๆมันก็ทำให้เธอไม่ต้องรู้สึกโดดเดี่ยว
“นี่คุณจะไปไหน”
“ฉันจะไปนอน พรุ่งนี้มีเรียนเช้า อย่าคิดขโมยของเชียวล่ะ ฉันมีกล้องอยู่ทุกห้อง”
“อย่าไป” เธอเอื้อมมือไปจับมือหนาเอาไว้อย่างถือวิสาสะ
มาวินที่กำลังจะลุกขึ้นไปหยุดชะงักก่อนจะปรายตามองผู้หญิงที่นั่งอยู่ข้างๆตัวเองด้วยความรู้สึกบางอย่าง แววตาของเธอดูเหมือนคนที่คิดอะไรอยู่ในใจตลอดเวลา
“ทำไม? เธอมีอะไรอยากระบายหรือเปล่า พูดกับฉันได้นะ เราไม่รู้จักกัน ฉันไม่เอาไปเล่าให้ใครฟังหรอก”
“……” แพรไหมนิ่งเงียบ นั่งมองหน้าเขาอยู่หลายวินาที ก่อนจะเอ่ยอะไรบางอย่างที่ตัวเองอยากทำออกมา
“ช่วย…มีเซ็กส์กับฉันหน่อยได้ไหม?”
“นี่เธอ…..” มาวินพูดไม่ออก เขานึกสงสัยอยู่ไม่น้อย ว่าทำไมคำพูดกับแววตาของแพรไหมถึงได้ดูสวนทางกันขนาดนี้
อารมณ์ของเธอไม่ได้ดูเหมือนคนอยากทำเรื่องแบบนั้นเลยสักนิด
“ไม่เป็นไร อย่าสนใจฉันเลย ไปนอนเถอะ ขอบคุณนะที่อยู่เป็นเพื่อนฉัน” แพรไหมตอบปัด เธอไม่อยากคาดหวังอะไรกับชีวิตนี้อีกแล้ว
ขอแค่ผ่านคืนนี้ไปได้ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ให้มันเกิด และเธอจะไม่ทนอีกต่อไป มาวินยืนมองการกระทำของคนตัวเล็กด้วยความงงงัน แพรไหมยกแก้วขึ้นดื่มจนหมดก่อนที่เธอจะพยายามดันตัวเองลุกขึ้นยืนอย่างยากลำบาก
พรึ่บ!
สุดท้ายคนที่เมาเป็นอย่างมากก็ไม่สามารถลุกขึ้นยืนได้เพราะเธอไม่มีสติสัมปชัญญะมากพอที่จะพยุงตัวเอง ร่างสูงจึงต้องเดินเข้าไปช่วยประคอง
“เธอจะทำอะไรน่ะ”
“อื้อ ฉันจะกลับละ” แววตาหวานเยิ้มตอบกลับ แม้จะเมาแต่ก็ไม่อยากอยู่รบกวนเขาไปมากกว่านี้
“ดูสภาพตัวเองก่อน เธอเมาขนาดนี้จะกลับได้ยังไง”
“งั้นก็ช่วยฉันหน่อยนะ มีอะไรกับฉันเถอะ หรือไปหาคนอื่นมาให้ฉันก็ได้”
“ทำไมเธอถึงต้องการทำเรื่องนั้นขนาดนี้ เธอมีเหตุผลอะไร” เขาขมวดคิ้วถามด้วยความสงสัยแต่ทว่าคนตรงหน้าก็ไม่ยอมตอบออกมาง่ายๆ
“ช่างเถอะ ถ้าไม่ช่วยก็ปละ”
“ฉันจะช่วย!”
“…..” เธอตวัดสายตามองเขาเมื่อได้ยินดังนั้น
เขาพูดจริงเหรอ?
เขาจะช่วยเธอจริงๆใช่ไหม
“อยากบอกเหตุผลเมื่อไหร่ก็ค่อยบอก ถอดเสื้อผ้าของเธอออกแล้วมาเอากัน มาเอากับฉัน! ไม่ต้องไปทำกับคนอื่น”