EP.4 CAN I HAVE YOUR NUMBER
คนตรงหน้ายังคงทำหน้างุนงงๆแต่ไม่ได้ตอบอะไร กลับมาจนป้าแม่บ้านเดินเข้ามาซะก่อน
"เสื้อผ้าซักรีดเสร็จแล้วค่ะคุณหนู"เธอพูดพร้อมกับ วางเสื้อผ้าไว้ตรงหน้าของฉัน รวมทั้งเข็มกลัดป้ายชื่อที่วางบนเสื้อผ้าชุดนักเรียนของฉันอีกด้วย
"อลิเซีย"คนตรงหน้าอ่านตามป้ายชื่อของฉันก่อนจะ เงยหน้ามองฉันอีกครั้ง
"ก็นั่งอยู่ตรงนี้ไง อลิเซีย"ฉันชี้มาที่ตัวเองและยิ้มเจ้าเล่ห์ๆ
"อื้ม"เจ้าตัวก็พยักหน้าอย่างไม่ตอบโต้อะไร
"หน้าพี่ก็มีแผลนะให้ฉันทำแผลให้ไหม?"ฉันมองใบหน้าหวานๆที่มีรอยแดงช้ำๆที่มุมปาก
"ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันทำเองดีกว่า"คนตรงหน้ายกมือปามๆฉันทันที
"ใกล้เวลากลับบ้านของเธอแล้วนะ"เขาชี้ไปที่นาฬิกา เรือนใหญ่ที่ตั้งอยู่ไม่ไกล
"จริงด้วย"ฉันรีบคว้าชุดนักเรียนและวิ่งกลับไป เปลี่ยนชุดที่ห้องน้ำเดิมทันทีอย่างเร่งๆ
ก่อนจะเดินกลับมาหยิบโทรศัพท์เครื่องใหม่มาเปลี่ยนซิมตั้งเบอร์โทรต่างๆทันที
"ขอเบอร์พี่ไว้หน่อยสิ"ฉันเงยหน้าพูดกับพี่มาร์คัสที่ ยืนมองฉันฟุบฟั่บๆทำโน้นทำนี่อย่างว่องไว
"พี่เป็นคนซื้อให้ เมมเบอร์ไว้คงไม่เป็นไรหรอกใช่ไหม?"ฉันมองและยื่นโทรศัพท์ให้ไป
"อ่อ ได้"เขาพยักหน้าตอบแบบงงๆแต่ก็ยอมกดเบอร์โทร ตัวเองเอาไว้
"จะห้าโมงแล้วฉันต้องรีบกลับบ้านแล้วนะ"ฉันมอง เวลาอย่างเซ็งๆ
"อืม...จะให้ไปส่งไหม?"เขาถามขณะที่ฉันกำลังสวมถุงเท้าและรองเท้านักเรียน
"โอ้ยไม่ต้องหรอกพี่ ฉันมาเองได้ก็กลับเองได้"ฉันตอบก่อนจะลุกขึ้นยืนและ ยิ้มๆ
"แค่มาช่วยพี่ต่อยไอ้หน้าปลวกนั่นแล้วได้โทรศัพท์ก็โคตรคุ้มละ"ฉันยิ้มแย้มและลูบ โทรศัพท์เครื่องใหม่อย่างไม่สนใจสิ่งอื่นใด
"ฉันไปก่อนนะ ขอบคุณที่ให้มาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้านะ"ฉันโบกมือลา เขาทันที ฉันยิ้มแป้นอย่างอารมณ์ดี
แน่นอนว่าความสุขของเด็กวัยสิบเจ็ดจะมีอะไรมาก ไปกว่าการได้ของใหม่ๆที่ถูกใจและอวดเพื่อนๆได้
พี่มาร์คัสเดินออกมาส่งฉันถึงลิฟต์และกดลิฟต์ให้ฉันอีกด้วย
"ลาก่อน"ฉันโบกมือลาเขาอีกครั้ง
ทันทีที่ประตูลิฟต์กำลังค่อยๆปิดลง ฉันกับเขาก็ยังคงยืนมองหน้ากันอยู่แบบนั้น
"ถึงบ้านก็โทรมาบอกด้วยนะ"นั่นคือเสียงแผ่วเบาอ่อนโยนสุดท้ายที่ฉันได้ยินจากปากของเขา
ก่อนที่ประตูลิฟต์จะปิดสนิทลง ฉันก้มลงมองหน้าจอโทรศัพท์ก่อนจะกดเซฟเบอร์แรกไว้ทันที
ว่า..
-พี่มาร์คัส?-
@คฤหาสน์สุดหรูชานเมืองของคุณหลุยส์
"อาหารฝีมือของแม่อร่อยที่สุดเลยค่ะ"ฉันพูดขึ้นขณะที่กำลังนั่งรับประทานอาหารร่วมกับที่บ้าน
"ปากหวานเมื่อไปทำอะไรผิดมาเลยนะ"แม่หันมาพูดกับฉันเหมือนจะรู้ทัน
"อ้าวเพลง เด็กซนคือเด็กฉลาดนะ"พ่อพูดอย่างรู้ทันเพราะแผลที่หางคิ้วมันโกหกกันไม่ได้จริงๆ
"หกล้มมาอีกสินะ"แม่พูดอย่างรู้ทันฉันเหมือนทุกครั้ง
"ใช่จ้า"ฉันยิ้มแห้งๆตอบไป
"โกหกเก่งได้พ่อจริงๆเลยนะเรา"ก่อนที่ท่านจะ โบ้ยให้ไปเป็นความผิดของพ่อทันที
"อ้าวคุณเมียลูกทำผิดทำไมมาขุดอดีตของสามีมาด่าด้วยละ" พ่อส่ายหน้าทันที
"ก็เลือดพ่อมันแรงหนิ ดูสิเป็นลูกผู้หญิงแท้ๆมีเรื่องชกต่อยไม่เว้นแต่ละวัน" แม่หันมามองทางฉันกับพี่ลูคัสเบาๆ
"เออลูคัสคืนนี้เดี๋ยวออกไปกับพ่อหน่อยนะมีงานให้ช่วย"พ่อหันไปบอกกับพี่ลูคัสนิ่งๆ
"ได้ครับพ่อ"เขาก็ตอบ"หนูละ ขอด้วยไปดิ?"ฉันชี้ที่ตัวเองและถามพ่อเบาๆ
"เราอยู่ทำการบ้านอ่านหนังสือที่บ้านเถอะ ใกล้สอบแล้วพี่ไม่เห็นเราจับหนังสืออะไรเลย"และนั่นคือพูดแดกดันจากปากของคุณพี่ชายสุดเนี้ยบ
"เดี๋ยวก็สอบตกอีกรอบหรอก"เขาพูดแบบดุๆ ก่อนที่พี่ชายกับพ่อจะหันไปพูดปรึกษาหารือกันเรื่องของธุรกิจพ่อโดยที่ฉันไม่เข้าใจอะไรเลยสักอย่าง
แน่นอนว่าแม้พี่ลูคัสจะแก่กว่าฉันแค่สามสิบนาทีแต่นิสัยของเขาโตไปไกลมากๆ และฉันก็กลัวพี่ชายตัวเองเหมือนกันเพราะเขาดุเกินมนุษย์
พี่ลูคัสเรียนแบบโฮมสคูลมาตั้งแต่เด็ก เขาฉลาดมากจนสามารถสอบเทียบข้ามชั้นได้และกำลัง เตรียมไปต่อที่เมืองนอกในเร็วๆนี้
ต่างจากที่ฉันเรียนซ้ำชั้นเพราะโดดเรียนวันสอบปลายภาค
"รู้แล้วน่า"ฉันได้แต่พยักหน้ารับอย่างเซ็งๆ
"เรานี่นะทำไมไม่ตั้งใจเรียนให้จบๆเหมือนพี่เขาบ้าง" แม่เสริมทัพทันทีที่ได้โอกาส
"หัวก็ดี แต่มัวสนุกมัวเล่นไปวันๆเลยไม่ได้เรื่องกับเขาสักที" แม่บ่นๆอย่างนอยด์ๆกับพฤติกรรมของฉัน
แต่จริงๆท่านก็ไม่ได้ซีเรียสอะไรมากมายหรอกมั้ง
"อืมฮื้ม กับข้าววันนี้อร่อยมากเลยค่ะแม่"ฉันเฉไฉออกไปเรื่องอื่นแทน
"แกงนี้ทำยังไงคะ ถึงอร่อยได้ขนาดนี้"ฉันตาโตลุกวาวเล่นแอคติ้งแบบ ชนะเลิศ
"บอกสูตรหนูหน่อยสิ"ฉันชวนแม่คุยๆไปและตักแกงนั้นทำท่าจะป้อนให้แม่ไปอย่างอ้อนๆ
"เรานี่จริงๆเลยนะทำมาเป็นเปลี่ยนเรื่อง" แม่ก็ยิ้มๆอย่างรู้ทันแต่ก็ยอมอ้าปากทาน
ที่ฉันป้อนแม่ของฉันเป็นกุลสตรีผู้เรียบร้อยเป็นที่หนึ่งงานบ้าน งานเรือนไม่มีบกพร่องและพ่อก็หลงท่านไม่มีจืดจาง เพราะชอบแอบพากันหนีลูกเที่ยวอยู่บ่อยๆ
@ห้องนอนส่วนตัว
ชีวิตของฉันก็เหมือนเด็กวัยรุ่นทั่วๆไปจะต่างก็ตรงที่พ่อของฉันทำงานเกี่ยวกับธุรกิจด้านมืดเยอะไปหน่อยเราจึงมีพวกลูกน้องมือดีคอยดูแลภายในและภายนอกบ้านเสมอ และด้วยอิทธิพลของพ่อกับปู่มันทำให้ฉันไม่เคยกลัวหรือเกรงใคร
เสียดายที่คุณปู่จากไปซะก่อนไม่งั้นฉันคงแฮปปี้มากกว่านี้ เพราะมีปู่คอยตามใจ
ตุ๊บ ตั่บ ตุ๊บ ตั่บ ขณะที่ฉันกำลังซ้อมต่อยมวยตามลำพังกับกระสอบทรายที่แขวนเอาไว้กลางห้อง
ฉันก็เหลือบไปมองโทรศัพท์เครื่องใหม่ของตัวเองนิ่งๆ
"เขาจะนอนรึยังนะ?"ฉันคิดไม่ตกเมื่อนึกขึ้นได้ว่าลืมโทรหาผู้ชายหน้าหวานฉ่ำคนนั้น
ปั่ก!!เตะเข้าที่กระสอบทรายส่งท้ายก่อนจะเดินไปคว้าโทรศัพท์และกดโทรออกทันทีอย่างไม่รีรอ
ตุ๊ด...ตุ๊ด...ตุ๊ด...
"ฮัลโหลมาร์คัสพูดสาย"ปลายสายรับโทรศัพท์ด้วยน้ำเสียงที่สุภาพนุ่มนวลเช่นเคยๆ
"....."
แปลกที่พอฉันได้ยินเสียงเขากลับยิ้มออกมาอย่างพูดไม่ออกทั้งที่เหงื่อท่วมตัวและหอบเหนื่อย
"..เธอ..อลิเซียใช่ไหม?"ปลายสายพูดขึ้นนิ่งๆ