4.ทนไม่ไหว
Chapter04.ทนไม่ไหว
เช้าวันต่อมา….
วันเสาร์
@คอนโดเคย์เดน
“ไอ้เวร กว่าจะมาได้” เสียงของธีโอดังขึ้น หลังจากที่ประตูห้องถูกผลักเข้ามาด้วยฝีมือของเจ้าของห้องนี้
ซึ่งทุกคนฟังไม่ผิด เคย์เดนเพิ่งกลับมาถึงห้องตัวเองในขณะที่เพื่อนๆมาถึงห้องเขาตั้งแต่หนึ่งชั่วโมงที่แล้ว ก็เมื่อคืนเขาเล่นอยู่กับลูกน้ำทั้งคืนที่คอนโดของเธอ ไม่แปลกที่จะตื่นเอาสายและกลับห้องช้าป่านนี้ แม้เคย์เดนจะเป็นผู้ชายที่เปลี่ยนผู้หญิงไม่ซ้ำหน้า แต่กฎเหล็กของเขาคือจะไม่พาผู้หญิงมาที่ห้องเด็ดขาด
แม้จะรักสนุกแค่ไหน แต่ชายหนุ่มก็ชอบที่จะมีพื้นที่ส่วนตัว ส่วนใหญ่เขามักจะไปเปิดโรงแรมหรือไปห้องของฝ่ายหญิงซะมากกว่า
ซึ่งการนัดมาเจอกันวันนี้ของเขากับเพื่อนก็ไม่มีอะไรมาก เนื่องจากเป็นวันหยุด เพื่อนๆจึงมักมาหาเขาที่ห้องบ่อยๆ เพราะพวกมันไม่มีอะไรทำละมั้ง ถึงได้ชอบมาขลุกตัวที่นี่อยู่เรื่อย
“มาทำไม?” ร่างสูงเอ่ยถาม ธีโอกับลูคัสที่นั่งอยู่บนโซฟากลางห้อง
ไม่ต้องเดาเขาก็รู้ว่าพวกมันคงไปขอกุญแจสำรองคอนโดของเขามาจากไอ้ครูซ พี่ชายฝาแฝดที่โลกส่วนตัวสูงสุดๆ ต่างกับเขาลิบลับ
“มาไม่ได้?” ลูคัสยกคิ้วถามเจ้าของห้องด้วยสีหน้ากวนๆ
“ไม่น่าถาม” เคย์เดนก็ตอบกลับด้วยท่าทางยียวนไม่แพ้กัน
“กูได้ข่าวว่าเมื่อวานมีคนมาสารภาพรักกับมึงแล้วเจอมึงเทเหรอวะ?” ธีโอเริ่มบทสนทนาใหม่ขึ้นมาอย่างสนอกสนใจในหัวข้อนั้น
“มึงรู้?” เคย์เดนหันมาหาธีโอที่นั่งกดรีโมทเลื่อนหาหนังในทีวีไปมา
“เออ กูเจอไอ้วิน แล้วมันเล่าให้ฟัง”
“ทำไมมันรู้” เขาถามอย่างแปลกใจ เพราะเหตุการณ์เมื่อวาน นาวินไม่ได้อยู่กับเขา
“มันบอกว่าบังเอิญลงมาเห็นแล้วได้ยินพอดี ว่าเเต่มึงเถอะ ปกติเอาหมดไม่ใช่เหรอ ทำไมคนนี้ถึงปฎิเสธวะ?”
ด้วยความที่ธีโอไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร จึงเอ่ยถามเพื่อนด้วยความสงสัย โดยปกติเคย์เดนเป็นคนเฟรนลี่จะตาย ถ้ามีสาวสวยมาติดกับดัก หมอนี่ไม่ยอมปล่อยให้หลุดรอดไปสักรายแน่
“ไม่ใช่สเปค” ร่างสูงของหนุ่มลูกครึ่งตอบกลับอย่างไม่สนใจ แต่มีแวบนึงที่ใบหน้าสวมแว่นของยู่ยี่ฉายเข้ามาในหัวของเขา
แต่มันสำคัญตรงไหน ในเมื่อ….เขาไม่ได้ชอบผู้หญิงเฉิ่มเชยแบบเธอจริงๆ
“ทำไมวะ ไม่สวย?” ลูคัสที่กำลังนั่งไถโทรศัพท์อยู่ถามขึ้นมาบ้าง
เคย์เดนก็ได้แน่นิ่งครุ่นคิด จริงๆเขาเองก็ไม่ใช่คนประเภทชอบตัดสินคนจากหน้าตาหรอกนะ มันก็ไม่ได้มีแค่เหตุผลเดียวที่ทำให้เขาปฎิเสธยู่ยี่ไป
คนอย่างเขาไม่เคยคิดอยากมีแฟน เขาชอบรักสนุกไปวันๆมากกว่าและอีกอย่าง เขาก็พอจะรู้จักนิสัยของเพื่อนนาวาอยู่บ้าง ผู้หญิงที่ไม่เคยมีแฟนแบบนั้น ถ้าเขาให้ความหวังมันก็จะยิ่งไปกันใหญ่ ถึงเขาจะเลวแต่ก็ใช่ว่าจะไม่สนใจความรู้สึกของใคร
มองยังไง เรื่องของเขากับยู่ยี่ก็เป็นไปไม่ได้ ในเมื่ออีกคนรักสนุกส่วนอีกคนก็ดูเปราะบางขนาดนั้น เขาไม่ต้องการเป็นต้นเหตุทำให้ใครเสียใจ
“ช่างเหอะ! เอาเป็นว่ากูไม่ได้ชอบ รู้แค่นั้นพอ!” ว่าจบเคย์เดนก็เดินหายเข้าไปในห้องน้ำหวังไปอาบน้ำชำระร่างกาย
ปล่อยให้เพื่อนทั้งสองคนนั่งเล่นอยู่ห้องรับแขกได้ตามอย่างที่พวกมันต้องการ
ตกบ่าย…..
@บ้านของยู่ยี่
ตึก
ตึก
เสียงของยู่ยี่เดินขึ้นมาชั้นบนเพื่อเอาของทุกอย่างไปเก็บในห้องนอนของตัวเอง
เมื่อคืน เธอขออนุญาตมารดานอนที่ห้องของนาวา ซึ่งแม่ของเธอก็อนุญาต ตอนนี้แม้จะรู้สึกดีขึ้นมาบ้าง แต่ความทรงจำเมื่อวานยังคงชัดเจนสำหรับเธอไม่จางหาย
ใบหน้าของเคย์เดนและน้ำเสียง คำพูดของเขา ทำให้หัวใจดวงน้อยปวดหนึบอยู่เป็นระยะ แม้จะพยายามไม่นึกถึงคนใจร้าย แต่มันก็ไม่ได้ง่ายขนาดนั้น เธอต้องใช้เวลากี่เดือน กี่ปี ถึงจะลืมผู้ชายที่ตัวเองแอบชอบมานานแสนนานถึงสามปีได้
แกร๊ก!
“นะนี่มันอะไรกัน!?” ใบหน้าจิ้มลิ้มภายใต้กรอบแว่นผงะหยุดชะงักอยู่หน้าห้อง
หลังจากเปิดประตูเข้าไปแล้วเห็นสภาพห้องนอนของตัวเองที่เละเทะไปหมด เสื้อผ้าในตู้ถูกรื้อออกมากระจัดกระจายไปทั่วห้อง ถ้าไม่มีใครอยู่บ้าน ยู่ยี่คงคิดว่าโจรขึ้นบ้านไปแล้ว
“ข้าวหอม…” ริมฝีปากอวบอิ่มพึมพัมออกมา หลังจากเดาได้ไม่ยากว่าใครเป็นคนที่ดูน่าสงสัยที่สุด
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ข้าวหอมทำแบบนี้ ยัยนั่นชอบเข้ามารื้อของในห้องเธอไปใส่บ่อยๆ ซึ่งยู่ยี่เองเคยเตือนไปหลายครั้งแล้ว แต่ดูเหมือนลูกสาวของพ่อเลี้ยงจะไม่ฟังเลย
หญิงสาววางสัมภาระไว้ในห้องก่อนจะเดินลงไปชั้นล่างในขณะที่ทุกคนกำลังนั่งทานข้าวกันอยู่ด้วยอารมณ์ที่ไม่พอใจมากที่สุดในชีวิต นับวันข้าวหอมยิ่งล้ำเส้นเธอไปทุกที
“เธอเข้าไปค้นห้องฉันเหรอ?!” น้ำเสียงเหวี่ยงของยู่ยี่ที่ทุกคนไม่เคยได้ยินมาก่อนเปล่งออกมา
ปกติยู่ยี่เป็นคนไม่ค่อยสุงสิงกับใคร เธอพูดน้อยและค่อนข้างยอมคน แต่วันนี้ดูเหมือนข้าวหอมจะไปกระคุกต่อมอะไรของเธอสักอย่าง หญิงสาวถึงได้มีท่าทางเเข็งกร้าว เปลี่ยนไปจากเดิม
เพราะถ้าให้พูดตามตรง เธอชักจะทนไม่ไหวกับคนตรงหน้าแล้ว!!
“ทำมะ…ฉันก็แค่อยากรู้ว่าเธอจะมีเสื้อผ้าสวยๆให้ยืมใส่หรือเปล่า ก็เลยลองไปหาดู” ข้าวหอมลอยหน้าลอยตาพูดอย่างไม่สำนึก
ส่งผลให้ผู้เป็นพ่อแม่หันไปมองหน้ากันอัตโนมัติ
“เกินไปหรือเปล่า!? เธอทำห้องฉันเละขนาดนั้น โดยที่ฉันไม่ได้อนุญาตนะ!”
“ยี่ลูก ใจเย็นๆก่อนนะ แม่ว่า….” ยุวดีเห็นว่าลูกสาวใส่อารมณ์กับอีกคนมากเกินไปจึงรีบแทรกบทสนทนาขึ้นมา
“แม่! ยี่ทนมานานแล้วนะคะ”
“ฉันรู้ว่าเธอไม่ชอบฉัน แต่ช่วยเลิกล้ำเส้นกันสักที” ใบหน้าสวยภายใต้กรอบแว่นหันไปเอ่ยบอกข้าวหอมด้วยความรำคาญใจ
“หอม ขอโทษยี่ซะ พ่อว่าเราทำเกินไป” ชัชชาติเอ่ยบอกลูกสาวที่นั่งอยู่ข้างตน
ทุกคนในบ้านรับรู้มาตลอดว่าข้าวหอมไม่ชอบยู่ยี่ แต่ชัชชาติและยุวดีหวังว่าสักวันหนึ่งเด็กสองคนนี้จะสามารถเข้ากันได้ เหมือนพี่น้องทั่วไป แม้จะไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกันทางสายเลือดก็ตาม
แต่ดูเหมือนพวกเขาจะคิดผิด…..
แม้ชัชชาติจะเอ็นดูยู่ยี่มากพอๆกับที่ยุวดีเอ็นดูข้าวหอม แต่ดูเหมือนข้าวหอมจะมีอคติกับยู่ยี่มากกว่าที่คนเป็นพ่อแม่คิด
“พ่อว่าไงนะ!?” ข้าวหอมหันไปมองหน้าบิดาด้วยความไม่พอใจ
นี่แหละคือเหตุผลที่ทำให้เธอไม่ชอบยู่ยี่ ทุกคนรักและตามใจมันที่ใฝ่การเรียนมากกว่าเธอ! นั่นทำให้ข้าวหอมที่เรียนไม่เก่งรู้สึกอิจฉาและหมั่นไส้ไปพร้อมกัน
“ครั้งนี้ลูกทำเกินไป ไม่ควรไปค้นห้องคนอื่นแบบนั้น”
“พ่อก็เป็นแบบนี้ อะไรก็เข้าข้างแต่มัน!”
ครืด!
นอกจากจะไม่ยอมขอโทษ ข้าวหอมยังลุกออกจากโต๊ะอาหารไปแบบเสียมารยาท ยุวดีได้แต่ทำหน้าหนักใจที่เด็กๆดูเหมือนจะเข้ากันไม่ได้เลยสักนิด
“เอ่อ ลุงขอโทษเเทนหอมด้วยนะยี่” ชัชชาติเอ่ยบอกลูกเลี้ยงด้วยน้ำเสียงหนักใจไม่แพ้กัน
“เห้อ ค่ะคุณลุง” สุดท้ายยู่ยี่ก็ทำอะไรมากไม่ได้ ทำได้แต่ถอนหายใจแล้วเก็บทุกอย่างเอาไว้ในใจ
“ลุงไม่รู้จะทำยังไงกับข้าวหอมแล้วจริงๆ ถ้าหนูลำบากใจ จะออกไปอยู่หอก็ได้นะ เดี๋ยวลุงจัดการทุกอย่างให้เอง หนูจะไปกลับมหาลัยได้สะดวกด้วยไง” ชัชชาติเสนอความคิดเห็น นั่นทำให้ยุวดีหันไปมองหน้าสามี
“พี่ชาติ ยุว่า…”
“ยุดูลูกพี่ ไม่ต้องเกรงใจ ค่าใช้จ่ายทุกอย่างลุงจะจัดการเอง”
คนตัวเล็กนิ่งไป จริงๆเรื่องนี้เธอเคยขอแม่แล้วครั้งหนึ่งแต่แม่ไม่อนุญาตเพราะเกรงใจคุณลุงที่ตั้งใจจะออกค่าใช้จ่ายทุกอย่างให้กับเธอ แต่เมื่อพ่อเลี้ยงเป็นคนเสนอขี้นมาเองแบบนี้ ยู่ยี่ก็ไม่คิดที่จะขัดอะไรอยู่แล้ว เธอเบื่อที่จะต้องมาสู้รบกับข้าวหอมทุกวัน ย้ายออกไปอยู่หอก็ดี เธอจะได้มีความเป็นส่วนตัวให้กับตัวเองบ้าง