3.สารภาพ
Chapter03.สารภาพรัก
ตึก
ตึก
เสียงเคย์เดนเดินล้วงกระเป๋าออกมาจากลิฟท์ เขาเพิ่งเรียนเสร็จเลยขอลงมาก่อนเพื่อน เพราะวันนี้นัดกับลูกน้ำ สาวๆในสต๊อกของตัวเองเอาไว้ เสือร้ายอย่างเขา เวลาต้องการอะไรมันก็ง่ายขนาดนี้แหละ แค่กระดิกนิ้วก็มีคนอยากเข้ามาหาตลอดเวลา
มือหนาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาก่อนจะเช็คข้อความ ว่าสาวน้อยที่เขานัดมาเจอกันใต้ตึกใกล้ถึงหรือยัง ซึ่งเมื่อเห็นว่าอีกคนกำลังรีบมา ใบหน้าหล่อเหลาปานเทพบุตรก็ยกยิ้มขึ้นมาอย่างพอใจก่อนจะเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋ากางเกงราคาแพงเอาไว้ตามเดิม
ตึก
ตึก
ในขณะเดียวกัน เสียงฝีเท้าขอบใครคนหนึ่งก็ดังมาหยุดอยู่บริเวณด้านหน้าของเขา เคย์เดนจึงค่อยๆเงยหน้าขึ้นมาก่อนจะพบว่าคนที่ยืนมองหน้าเขาอยู่ตอนนี้คือ…..เพื่อนของนาวา ที่เขาเคยช่วยชีวิตเธอเอาไว้ถึงสองครั้ง
“พี่เคย์คะ…..ยี่ชอบพี่ค่ะ”
ฟึ่บ!
ดอกกุหลาบสีแดงสดถูกยืนมาให้คนตัวสูง พร้อมกับคำสารภาพรักที่ทำเอาเคย์เดนรู้สึกงุนงงเป็นอย่างมาก ร่างบางก้มหน้าหงุด รู้สึกอายเป็นอย่างมาหลังจากพูดคำนั้นออกไปแล้ว
ไม่ทันที่หนุ่มลูกครึ่งจะได้พูดอะไร เสียงส้นสูงของลูกน้ำก็ดังขึ้นมา พร้อมกับร่างสวยของสาวคณะนิติศาสตร์ที่ได้ยินทุกอย่างเมื่อครู่หมดแล้ว เเขนเรียวขาวของสาวนิติควงไปยังวงแขนแกร่งของเคย์เดนเพื่อแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของด้วยสีหน้าที่ไม่เป็นมิตรแก่คนตรงหน้าเท่าไหร่นัก
“หึ ไม่ดูสภาพตัวเองเลยสินะ ทำไมถึงกล้ามาสารภาพรักเคย์”
น้ำเสียงของคนที่มาใหม่ดังขึ้น ทำเอาใบหน้าจิ้มลิ้มภายใต้กรอบแว่นชะงัก ค่อยๆเงยหน้าขึ้นมามอง ก่อนจะรู้สึกชาไปทั้งหัวใจที่นอกจากเคย์เดนจะไม่รับดอกไม้ไปจากมือเธอแล้ว ตอนนี้เขายังยืมควงแขนกับผู้หญิงคนอื่นต่อหน้าเธออีก
“อะเอ่อ….” เมื่อเจอกับสถานการณ์ที่ไม่คาดฝัน ยู่ยี่ก็เกิดอาการทำตัวไม่ถูก พูดอะไรไม่ออก เธอไม่คิดว่าจะมีบุคคลที่สามเข้ามามีส่วนร่วมด้วยแบบนี้
“เคย์….บอกไปสิคะว่าเคย์ไม่ได้ชอบยัยเฉิ่มแบบนี้” ลูกน้ำหันไปพูดกับเจ้าของสีหน้าหล่อเหลา ซึ่งเคย์เดนที่อยู่ในสีหน้าราบเรียบ ก็ค่อยๆเเสยะยิ้มออกมา
เขาไม่คิดมาก่อนว่าเพื่อนของนาวาจะชอบเขา ถึงว่า…ทุกครั้งที่เจอกัน ยัยนี่ดูประหม่า ที่แท้ก็ขอบเขานี่เอง ซึ่งมันไม่แปลกเลยหากเธอจะชอบเขา เพราะผู้หญิงส่วนใหญ่ ก็มักจะเป็นแบบนั้น
ตกหลุมรักเขาได้ง่ายๆ เพียงแค่ได้เห็นหน้าตา
“อืม ขอโทษนะ ฉันไม่ชอบยัยเฉิ่มแบบเธอ แต่งตัวเป็นป้าขนาดนี้ ถ้าอยากให้ฉันชอบ เธอคงต้องพยายามมากกว่านี้หน่อย”
ดอกกุหลาบที่ถือเอาไว้หล่นลงพื้นไปแทบจะทันที เมื่อได้รับคำตอบกลับจากชายที่ตัวเองแอบชอบมาโดยตลอด หัวใจดวงเล็กรู้สึกเจ็บจี๊ด เมื่ออีกคนเลือกจะพูดไม่รักษาน้ำใจเธอเลย เคย์เดนในตอนนี้ไม่ได้สนใจเลยสักนิดว่าคนฟังนั้นจะรู้สึกยังไง สิ่งเดียวที่เขารู้คือเขาไม่ได้ชอบเธอ จึงไม่จำเป็นต้องสนใจความรู้สึกของอีกคน
“หึๆ ได้ยินชัดเจนแล้วนะ ไปกันเถอะค่ะเคย์”
“ครับ”
ว่าจบทั้งสองก็เดินควงแขนกันไป ปล่อยให้ยู่ยี่ยืนน้ำตาตกในตัวสั่นไหวเพราะความเสียใจอยู่คนเดียว เธอจะไม่เสียใจเลย หากอีกคนปฎิเสธเธอแบบดีๆ แต่เขาเลือกที่จะใช้คำพูดทำร้ายจิตใจเธอแทน
แหมะ
เสียงน้ำตาเม็ดใสไหลอาบแก้มสวย การสารภาพรักครั้งแรกในชีวิตพังยับแบบไม่มีชิ้นดี คงเป็นเธอที่ผิดเอง รู้ทั้งรู้ว่าไม่มีหวังแต่ก็ยังจะไปชอบคนแบบเคย์เดน เธอผิดเองที่คิดจะทำอะไรโง่ๆแบบนี้
“ฮึก…”
@คอนโดนาวา
แกร๊ก….
เสียงประตูห้องเปิดขึ้นหลังจากที่ร่างบางของยู่ยี่ยืนกดออดอยู่นาน บอกตามตรงเวลานี้เธอไม่สามารถอยู่คนเดียวได้จริงๆ หัวใจมันรู้สึกบอบช้ำมากๆ คำพูดของเคย์เดนยังติดอยู่ในหัวของเธอไม่หาย
“วะวา…!?” คนที่กำลังอยู่ในโหมดร้องไห้เศร้าซึม ชะงักตาค้าง เมื่อคนที่เปิดประตูออกมาไม่ใช่นาวาเจ้าของห้อง แต่กลับเป็น….
“พะพี่เจคอป O_O” ยู่ยี่ตะลึงค้างไปกับคนตรงหน้า
ทำไมเจคอปถึงมาอยู่ที่ห้องของนาวาได้ เนื่องจากส่วนสูงที่แตกต่างกันมาก ตำแหน่งสายตาของยู่ยี่จึงตกไปอยู่บริเวณแผงอกแกร่งของอีกคนทันที
หญิงสาวคงจะไม่ตะลึงค้างจนถึงขั้นนี้ หากเสื้อเชิ้ตที่อีกคนสวมใส่นั้นไม่ได้ใส่กระดุมอย่างเรียบร้อย เผยให้เห็นรอยข่วนสีแดงเต็มไปหมด แต่เจคอปดูเหมือนจะไม่สะทกสะท้านอะไรทั้งนั้นกับร่องรอยบนร่างกายตัวเอง
“วาอยู่ในห้อง” ว่าจบร่างสูงก็เบี่ยงตัวเดินออกมา ปล่อยให้ยู่ยี่ตะลึงค้างแบบนั้น ลืมความเสียใจที่โดนเคย์เดนปฎิเสธไปชั่วขณะ
คนตัวเล็กไม่ยอมแคลงใจอยู่นาน รีบสาวเท้าเข้าไปในห้องของเพื่อนสนิท ก่อนจะเจอเข้ากับนาวาที่อยู่ในชุดคลุมสีขาวสะอาด
“แก….เห็นพี่คอปแล้วใช่ไหม” นาวาถามเพื่อนขึ้นมาด้วยน้ำเสียงราบเรียบ เรื่องของเธอกับเจคอป….มันเกิดขึ้นมานานมากแล้ว
“อืม แกกับพี่เขา” ไม่ต้องอธิบายให้ยืดยาว ยู่ยี่แม้จะไม่ประสีประสาเรื่องหัวใจ แต่ดูจากสภาพของทั้งสองคนก็พอจะเดาออกว่าเกิดอะไรขึ้น
“ไว้พร้อมฉันจะเล่า ว่าแต่แก มาหาฉันมีอะไร?”
เมื่อนึกถึงเรื่องนี้คนตัวเล็กกลับหยุดชะงักไป น้ำตาเริ่มรื้นขึ้นมาอีกครั้งเมื่อหวนไปนึกถึงสีหน้าและคำพูดของเคย์เดนที่ทำให้หัวใจของเธอแหลกสลายในวันนี้
“วา….ฮึก วะวันนี้ฉัน อึก ฉันไปสารภาพรักกับพี่เคย์เดนมา”
“ว่าไงนะ!?” นาวาตะโกนออกมาอย่างตกใจกับคำบอกเล่าที่เพิ่งได้ยิน
ก่อนที่ยู่ยี่จะตัดสินใจเล่าทุกอย่างให้เพื่อนฟังทั้งหมด ทั้งความรู้สึกของเธอและเหตุการณ์ต่างๆที่ทำให้หัวใจของเธอรู้สึกดีกับเคย์เดน แม่จะเคยเอะใจอยู่ไม่น้อยกับท่าทางของเพื่อน แต่นาวาก็ไม่คาดคิดว่าอีกคนจะชอบลูกพี่ลูกน้องของเธอแบบจริงจังถึงขั้นนี้
และสิ่งที่นาวารับไม่ได้เป็นที่สุดคือคำพูดของเคย์เดนที่พูดดูถูกเพื่อนเธอ แม้จะรู้ว่าอีกคนมีนิสัยที่ไม่เคยดีเท่าไหร่ แต่เรื่องนี้มันเกิดขึ้นกับเพื่อนเธอไง มันถึงได้ดูเป็นเรื่องใหญ่ มันไม่ผิดเลยที่เราจะปฎิเสธใครสักคน แต่สิ่งที่มันผิดคือคำพูดจารับประทานไม่ได้ของเคย์เดนต่างหาก!
“ฮึ่ยย! ไอ้บ้าพี่เคย์ ฉันเอาขวดไปฟาดหัวสักทีดีไหม! ทำไมถึงพูดแบบนั้นใส่เธอ!” นาวาโวยวายขึ้นมาด้วยความโมโห เมื่อเห็นท่าทางของเพื่อน อาการสะอึกสะอื้นของยู่ยี่ก็ค่อยๆหายไป
“จะ…ใจเย็นๆสิวา” ยู่ยี่เริ่มทำตัวไม่ถูก เมื่อเห็นอาการหัวร้อนของเพื่อน
“จะให้ฉันเย็นได้ยังไงล่ะ ไม่ชอบก็บอกดีๆก็ได้นี่ ไม่จำเป็นต้องพูดจาทำร้ายน้ำใจกันนะ ยัยผู้หญิงนั่นก็อีกคน คิดว่าสวยมากหรือไงถึงได้กล้ามาหัวเราะเยาะเพื่อนฉันแบบนี้!”
“กะ….ก็สวยอยู่นะ” ยู่ยี่ตอบกลับไปตามความคิด
ทำเอานาวากลอกตามองบนแทบไม่ทัน เพื่อนเธอก็เป็นซะเเบบนี้ จะยอมคนไปถึงไหน! โดยข่มขนาดนั้นยังจะไปชมคนอื่นอีก ถ้าเธออยู่ด้วยนะ ป่านนี้ได้มีเรื่องราวกันไปแล้ว
“เห้อ….เลิกใจดีสักที เห็นไหมว่าคนอื่นเขาไม่ได้ดีกับเธอขนาดนั้น”
เจ้าของใบหน้าสวยใส่แว่นก้มหน้าลงเพราะรู้สึกว่าทุกคำพูดที่เพื่อนพูดออกมานั้นถูกทั้งหมด เธอควรจะเลิกอ่อนแอแบบนี้ได้แล้ว
‘อืม ขอโทษนะ ฉันไม่ชอบยัยเฉิ่มแบบเธอ แต่งตัวเป็นป้าขนาดนี้ ถ้าอยากให้ฉันชอบ เธอคงต้องพยายามมากกว่านี้หน่อย’
คำพูดของเคย์เดนดังก้องอยู่ในสมองของเธอซ้ำซึ่งนั่นทำให้ยู่ยี่รู้สึกเจ็บจี๊ดๆขึ้นมาที่หัวใจ พร้อมกับความรู้สึกบางอย่างที่ผุดขึ้นมาในสมอง
เธออยาก….เปลี่ยนแปลงตัวเอง
ไม่อยากเป็นยัยป้าเฉิ่มแบบนี้อีกต่อไปแล้ว
“เอาเถอะ! ฉันรู้ว่าเธอเสียใจ งั้นคืนนี้นอนกับฉันไปก่อนแล้วกัน ผู้ชายไม่ได้มีแค่ไอ้บ้าพี่เคย์คนเดียวสักหน่อย ฉันเชื่อว่าสักวันแกต้องได้เจอคนที่ดีกว่านั้น”
แม้จะไม่ชอบนิสัยยอมคนเกิดเหตุของเพื่อน แต่สุดท้ายนาวาก็เลือกที่จะปลอบประโลม ยู่ยี่ที่โดนลูบหลังปลอบก็ค่อยๆเงยหน้าขึ้นมา ก่อนจะยิ้มรับคำปลอบพวกนั้นด้วยสีหน้าหงอยๆ
“อื้ม ขอบคุณนะวา”