LM_5 | มันไม่ใช่หน้าที่ผม
“ห๊ะ! ฆะ ฆ่าตัวตาย!”
“ตกใจอะไรเบอร์นั้น”
“หนูไม่ได้ตายด้านแบบพี่นิ.. ทำไมถึงคิดทำแบบนั้นนะ น่ารักสมวัย ฐานะก็ดีถึงขั้นเรียนที่เอแบคได้แท้ๆ คนเราเนี่ย ตัดสินกันแค่รอยยิ้มแค่ภายนอกไม่ได้จริงๆนะ” ซอลเดินควงเเขนโซลที่แม้ว่าคนเป็นพี่จะสบัดมือออกหลายครั้ง แต่คนเป็นน้องก็ยังกระโจนเข้าไปคว้าแขนหนามากอดทุกครั้งไป ทำให้เจ้าตัวถึงกับถอนหายใจ
“เพราะแกเป็นแบบนี้ ฉันถึงหาแฟนกับเขาไม่ได้สักที”
“ที่หาแฟนไม่ได้นี่เพราะทำตัวเองหรือเปล่าเถอะ อย่ามาโยนความผิดให้กับน้องสาวผู้น่ารักอย่างฉันนะ”
“น่ารักกับผีดิ”
“เนี่ย! ปากอย่างเนี่ย อยู่ใช้มือชักไอ้นั้นจนตายไปซะเถอะ ไม่โรแมนติกที่สุด แถมดิบห่ามขั้นสุดแบบนี้ผู้หญิงที่ไหนจะอยากฝากชีวิต คิด คิดสิคิดดด”
“เคยนับถือกันบ้างไหมวะ!”
“ถามโง่ๆ” ซอลปะทะฝีปากกับพี่ชายตัวเองอย่างไม่ได้สนสายตาใคร ต่อให้มีสาวๆมากมายจับจ้องมองโซลตาเป็นมัน เธอก็ยังคงเดินเกาะแขนพี่ชายของตัวเองด้วยความลอยหน้าลอยตา ก็ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันสองคน โดยที่แม่อยู่ต่างจังหวัดแบบนี้ น้องสาวจะหวงพี่ชายก็ไม่แปลก
“เลิกเกาะฉันเป็นปลิงซะที” หลายครั้งคราที่โซลชักแขนกลับ แต่ไม่เป็นผลเลยสักนิด กลับถูกคนเป็นน้องเย้าแหย่หนักกว่าเดิมด้วยซ้ำ
“โอปป้าา~ซารังเฮ~”
“ซารังอาไรวะ!”
“หนังหน้าพี่เหมือนโอปป้าเกาหลีไง ซารังเฮ~”
“อัยย!!” ร่างสูงๆของโซลถอนหายใจเป่าลมขึ้นฟ้าจนหน้าม้าของเขาขยับตามแรงเป่าลม
ติ๊ด~ ติ๊ด~ ติ๊ด~ หลังจากที่หมอพยายามยื้อชีวิตและช่วยสุดความสามารถ บุ๊คก็พ้นขีดอันตรายถึงแม้จะได้บาดแผลที่ศรีษะก็ตาม แต่ก็ไม่ได้ในเกณฑ์ที่อันตรายถึงชีวิต และไม่มีผลกระทบที่จะทำให้มีอาการเลือดคลั่งในสมอง เธอแค่หัวแตก และฟกช้ำตามร่างกาย มีแขนขวาและเท้าขวาที่มีอาการอักเสบและพลิก ตามใบหน้าก็มีรอยถลอกจากกิ่งไม้โดยประมาณ
“โชคดีตรงที่ น้องกระโดดลงมาในจุดที่พอมีต้นไม้ชะลอความเร็วครับ ถ้าพื้นตรงหน้าเป็นถนนละก็.. อาจจะบาดเจ็บมากกว่านี้”
“คุณหมอคะ.. คนเป็นแม่อย่างฉันควรจะทำยังไงคะ คือลูกของฉันเขา..”
“หมอเข้าใจครับ เอาเป็นว่าเดี๋ยวหมอจะส่งต่อผลการรักษาให้กับแผนกจิตเวชแล้วกันครับ หมอว่าน้องน่าจะได้รับการรักษาอาการเจ็บปวดทางใจเพิ่มด้วย” คุณหมอพยายามอธิบายทุกอย่างอย่างนิ่งเรียบ พร้อมกับรอยยิ้มที่สุขุม ส่วนคนเป็นแม่นั้นแม้จะยืนกุมหัวใจตัวเองอยู่นาน แต่สายตาก็ไม่ละไปจากร่างบางๆของบุ๊คเลย
“..ลูกดิฉัน จะหายใช่ไหมคะ”
“ถ้าถามถึงความเจ็บปวดทางร่างกาย จะค่อยๆดีขึ้นตามลำดับครับอาจจะต้องใช้เวลาหน่อยแต่คุณแม่ไม่ต้องเป็นห่วงครับ ส่วนอาการเจ็บปวดทางใจ”
“….” คนเป็นแม่มีสายตาที่เฝ้ารอคำตอบจากหมออย่างมีความหวัง น้ำตาใสๆเอ่อร้นที่ดวงตาแต่ยังไม่ไหลรินลงที่หน้าแก้ม
“ทางครอบครัวก็ต้องให้ความร่วมมือด้วยครับ”
“….”
“ไม่ควรกดดันหรือทำให้น้องรู้สึกว่าตัวเองไม่มีค่า จิตใจของคนเราไม่เหมือนกันครับ เราต้องเข้าใจตัวจนของเขา ไม่ใช่ให้เขาเป็นในแบบที่เราต้องการให้เป็นครับ”
“….”
“หมอขอตัวนะครับ” คุณหมอก้มอย่างสุภาพก่อนจะยกมือสวัสดีเป็นการขอตัวลา
คนเป็นแม่ทำได้แค่พาตัวเองเข้าไปหาลูกสาวที่ยังคงนอนหลับอยู่บนเตียง สายยางระโยงระยางเต็มไปหมด บาดแผลตามร่างกาย จากความรู้สึกของคนเป็นแม่ที่พยายามเลี้ยงลูกมาอย่างดี.. ทำให้แม่ของบุ๊คยกมือปิดปากตัวเอง ร้องไห้สะอื้นอย่างเก็บเสียงก่อนจะลงไปนั่งยองๆที่พื้นคนเดียว
• ALPHA
ตัดมาอีกด้าน.. อัลฟ่าที่กลับมาอยู่คอนโดหลังจากโทรรายงานแม่ของบุ๊คเสร็จ เขาออกมาจากห้องน้ำ และอยู่ในชุดที่พร้อมนอน
ร่างสูงเดินผ่านชั้นหนังสือที่ถูกดองเข้าชั้น ยืนนิ่งหลายนาทีก่อนจะเลือกหยิบติดมือมาหนึ่งเล่มและใช้เวลาอยู่กับตัวเอง แต่กลับกลายเป็นว่า.. ฉากที่เห็นบุ๊คบนดาดฟ้าตอนนั้นทำให้เขาไม่สามารถมีสมาธิกับการอ่านหนังสือได้ แม้เพียงวรรคเดียวก็ตาม
“….” หนังสือถูกปิด และถูกแทนที่ด้วยมือถือ อัลฟ่าจับมือถืออยู่นานแต่สุดท้ายก็วางมันไว้ที่เดิม เขาลุกขึ้นแล้วคว้าซองบุหรี่ จุดสูบมันที่ระเบียงเงียบๆ วิวทิวทัศน์ของตึกและถนนจากด้านล่าง.. ทำให้เขารู้สึกแค่นใจ และถอนหายใจคนเดียว
“..แต่งงานงั้นเหรอ ..เฮอะ~” สายตาไร้ความรู้สึก เย็นยะเยือกราวกับคนไม่มีชีวิตจิตใจ นั่นแหละ.. ตัวตนของเขา
?~ แต่แล้วเสียงเรียกเข้าก็ดังขึ้น ร่างสูงเดินเข้าไปรับสายหลังจากสูบบุหรี่เฮือกสุดท้ายจนเต็มปอด
“..คุณป้่า?” พูดกับตัวเอง ก่อนจะกดรับสาย
“ครับ”
[ฟ่า อึ่ก!]
“..มีอะไรหรือเปล่าครับ?”
[อึ่ก ยัยบุ๊ค..]
“ครับ?”
[.. อึ่ก ยัยบุ๊คกระโดดจากชั้นสามของบ้าน]
“ห๊ะ! แต่ตอนที่ผมพาเธอไปส่ง เธอยัง”
[อึ่ก..]
“..อยู่โรงพยาบาลไหนครับ ผมจะรีบไปเดี๋ยวนี้”
สำหรับเขา ออกจะดูเป็นเรื่องที่น่ารำคาน ทั้งที่กำชับไปแล้วแท้ๆว่าอย่าคิดหาวิธีตายอีก เพราะเขาไม่อยากรู้สึกผิดที่ตัวเองจะต้องเป็นชนวนการตายของใครสักคน
แต่ถึงอย่างนั้น ยัยเด็กนั่นก็ดูจะเหมือนไม่มีสมองเพื่อคิด จะประท้วงอะไร ต้องการความเป็นธรรมอะไรในเมื่อตัวเองช่วยเหลือที่บ้านไม่ได้สักอย่าง แถมยังสร้างเรื่องให้คนเป็นพ่อเป็นแม่ทุกข์ใจขนาดนั้น
อัลฟ่าสตาร์รถแล้วพุ่งตรงไปยังโรงพยาบาลทันที และเมื่อถึงปลายทาง ก็ใช้เวลาไม่นานก็มาหยุดอยู่หน้าห้องที่บุ๊คนอนรักษาตัวอยู่
“ฟ่า”
“คุณป้า” ต้องเป็นผมเหรอวะที่ต้องมาดูแลความรู้สึกของคุณป้าแบบนี้ สายตาดุๆจ้องมองร่างบางที่ยังนอนนิ่งไม่ได้สติ บาดแผลตามตัว.. แค่คลาดกันไม่กี่ชั่วโมงก็ตัดสินใจฆ่าตัวตายเป็นครั้งที่สองของวัน..
“ป้าต้องทำยังไงดี อึ่ก! ถ้าบุ๊คฟื้นขึ้นมา แล้วต้องอยู่ในสถานการณ์ที่เหนือการควบคุมของป้าละ บุ๊คจะไม่ทำมันอีกเหรอ”
“….”
“ฟ่าช่วยป้าทีนะ นะฟ่านะ” คนเป็นแม่แทบจะอ้อนวอนในแบบที่ตนพอจะทำได้ อัลฟ่าเสยผม เขาถอนหายใจกับเรื่องน่าปวดหัวที่บุ๊คสร้างมันถึงสองครั้งในเวลาที่ห่างกันเพียงไม่กี่ชั่วโมง ทั้งที่แผลบนหัวของเขายังไม่ทันได้แห้งสนิทแท้ๆ
“ยกเลิกงานแต่งได้นะ ผมไม่ติด ดูเธอจะไม่อยากแต่งกับผมเท่าไหร่”
“ป้าบอกลุงแล้ว ว่าให้ยกเลิก แต่ถึงขนาดนี้แล้วลุงก็ไม่ยอมยกเลิกสักที ป้าก็ไม่รู้จะทำยังไงแล้วฟ่า”
“อันนี้เป็นปัญหาของคุณลุงกับคุณป้าแล้วละครับ ว่าจะเลือกบริษัท หรือชีวิตลูกสาว เพราะมันไม่ใช่หน้าที่ผม”
“….”
“ผมก็ไม่ได้อยากเเต่งงานกับคนที่จะเอาแต่ตาย โดยที่ไม่พยายามเข้าใจใครเลยเหมือนกัน”
“ฟ่า”
“เอาเป็นว่าผมจะพูดกับที่บ้านเรื่องยกเลิกงานแต่ง ส่วนเรื่องบริษัทของคุณลุงคุณป้า… คุณลุงกับคุณป้าต้องคิดเอาเอง”
“..มันอยู่เหนือการควบคุมของผม”
อัลฟ่าพูดด้วยความเย็นชาและราวกับไร้ความรู้สึก สายตาของเขาจ้องมองร่างบางที่นอนนิ่งอยู่บนเตียง
“..เพราะว่าก่อนหน้านี้ ผมขอเธอไปหมดแล้ว”
“….” คนเป็นแม่จับมืออัลฟ่า
“ถ้าเธอยังอยากจะตายอีก.. ผมคงช่วยอะไรคุณป้าไม่ได้”