บท
ตั้งค่า

LM_4 | ฆ่าตัวตาย

“คุณคะ หรือเราจะยกเลิกงานแต่งลูกดี”

“ถึงจะอยากทำอย่างนั้นแต่บริษัทของเราจะมีทางรอดไหมอีก? ถ้าไม่ใช่วิธีนี้”

“คุณลองเป็นคนที่ต้องเห็นสีหน้าลูกสิคะ! ฉันเองก็จะทนไม่ไหวแล้วนะ นี่ลูกหายออกจากบ้านไปสามวันแต่กลับมาในสภาพที่.. ที่…”

“ทุกอย่างต้องดำเนินต่อไป”

“แล้วถ้าลูกคิดฆ่าตัวตายละ!”

ปึก! ปากกาเซ็นสัญญาถูกวางกระแทกกับโต๊ะแรงๆ

“..ลูกของเรา ไม่กล้าคิดทำอะไรแบบนั้นหรอก”

“เสียใจด้วยนะคะ” คนเป็นแม่พยายามกลั้นน้ำตาและพยายามสงบสติอารมณ์

“อัลฟ่าบอกกับฉัน ว่าถ้าเขาไปไม่ทัน…”

“….”

“ยัยบุ๊คอาจทำสำเร็จ” ประโยคที่ว่าทำเอาคนเป็นพ่อค้างชะงัก หญิงสาววัยกลางคนเดินออกจากห้องทำงานของสามี ก่อนจะมุ่งตรงไปยังห้องนอนของลูกสาว เธอค่อยๆบิดประตูที่ถูกล็อค จนต้องตัดสินใจเคาะประตูเพราะอยากรู้ความเคลื่อนไหวของลูกสาว

ก๊อก ก๊อก ก๊อก..

“บุ๊ค ลูก.. นอนหรือยัง แม่ขอคุยอะไรดะ..”

“หนูอยากอยู่คนเดียว” เสียงในห้องตอบกลับมาแบบนั้น คนเป็นแม่ถอนหายใจ ก่อนจะพยักหน้าแม้ลูกสาวจะไม่เห็นก็ตาม

“โอเคลูก.. แม่จะเตรียมอาหารไว้ให้ที่ครัวนะ ออกมากินข้าวหน่อยนะ”

และเมื่อไม่มีเสียงตอบรับ เธอก็ไม่กล้าที่จะกวนใจลูกสาวตัวเองอีก ก่อนจะตัดสินใจลงมาเตรียมกับข้าว ของโปรดเอาไว้ให้กับเธอ

“คุณท่านจะเตรียมอาหารให้คุณบุ๊คเหรอคะ” แม่บ้านคนนึงถาม เธอกำลังไล่เก็บของในครัว

“ใช่.. ต่อไปนี้มื้อกลางคืนฉันจะเป็นคนเตรียมให้ลูกเอง มีงานอะไรต้องไปทำก็ไปทำเถอะ”

“เอ่อ.. ค่ะ” แม่บ้านคนดั่งกล่าวก้มศรีษะก่อนจะหยิบข้างของที่ตัวเองทำค้างไว้ออกไปจากบริเวณนี้

ฉึ่บ ฉึ่บ ฉึ่บ! เสียงมีดที่เริ่มหั่นมะเขือเทศนานหลายนาที หั่นไปน้ำตารื้นไป..

“..หนูเป็นแม่ที่ไม่ได้เรื่องเลยค่ะ แม่” คนเป็นแม่พูดกับตัวเอง และพูดกับคนที่อยู่บนสวรรค์

บุ๊คนอนเหม่อลอยมองหน้าต่างที่ถูกเปิด ลมพัดผ้าม่านให้ปลิวไสว ความมืดที่สะท้อนผ่านดวงตา ในช่วงที่คนเราอ่อนแอและมีความทุกข์มากที่สุด.. อะไรๆก็ดูอันตรายไปซะหมด..

สาวน้อยลุกจากเตียง เดินเหม่อลอยมาที่หน้าต่างบานใหญ่ สายตาจับจ้องไปที่พื้นสนามหญ้าของบ้าน ชั้นสามของบ้านนี่.. พอจะทำให้ฉันตายได้หรือเปล่านะ..

ว่าแล้ว เธอก็เริ่มปีนหน้าต่าง นั่งที่ขอบหน้าต่างอยู่นานสองนาน ดวงตารื้นเขินไปด้วยน้ำใส เหตุการณ์วันนี้ตนเกือบทำสำเร็จหาก อัลฟ่า ไม่เข้ามาช่วยเธอเอาไว้

คอระหงส์กลืนน้ำลายหลับตาพริ้มราวกับปิดใจ หยาดน้ำใสไหลรินจากดวงตา…

พรึ่บ! เธอตัดสินใจทำมัน!

บุ๊คปล่อยร่างตัวเองให้ตกจากชั้นสามของบ้าน ร่างบางที่หล่นกระแทกพื้นหญ้าส่งเสียงให้คนสวนที่กำลังไล่เก็บงานตกใจ ก่อนร้องโหวกเหวกโวยวาย

“คุณหนู!!!” เสียงโวยวายดังสนั่น ก่อนจะตามมาด้วยเสียงกรี๊ดของคนเป็นแม่

ฉันเห็นเพียงแค่.. ภาพลางๆ ที่เห็นว่าแม่ล้มลงไปกับพื้นและร้องไห้ด้วยความตกใจ พี่คนสวน.. พี่แม่บ้าน.. เหมือนภาพกำลังจะตัด..

‘เลือด!!’

เสียงขอใครสักคนตะโกนเช่นนั้น ร่างกายที่ไม่รู้สึกเจ็บ แต่กลับไม่รู้สึกอะไรแม้แต่นิด มันขยับไม่ได้ เหมือนกับว่านี่ไม่ใช่ร่างกายของฉันอีกต่อไป หยาดน้ำตารินไหล ร่างบางนอนจมกองเลือดที่ไหลออกมาจากช่วงศรีษะ แล้วทุกอย่าง.. ก็ดับไป

“บุ๊ค! ลูกแม๊!!!”

“คุณท่าน!!!” เสียงแม่บ้านตะโกนเรียกเจ้านาย หลังจากที่เธอสลบไป

•SEOL

โรงพยาบาล..

“ก็บอกแล้วไงว่าไม่ได้เป็นอะไร แกจะลากฉันมาที่นี่เพื่อ!”

“พี่เกลียดโรงพยาบาลใช่ไหมละ! หนูก็เกลียดที่พี่ต้องคอยเจ็บตัวกลับมาแบบนี้เหมือนกัน! จากนี้ไปนะ ถ้าพี่ได้แผลกลับมาอีกละก็ หนูจะพาพี่มาส่งโรงพยาบาล! เอาให้ขยาดโรงพยาบาลไปเลย! จะไม่นั่งทำแผลให้แล้ว!”

“ฉันเป็นพี่แกนะ!”

“ก็เพราะเป็นพี่นี่ไง! เก่งแต่เรื่องต่อยตีอะ คิดว่าฉันจะรู้สึกยังไงเห็นพี่มีสภาพแบบนี้แทบทุกวัน! ไหนจะต้องคอยรายงานแม่อีก! รู้ไหมว่าลูกรักอย่างพี่ได้แผลเพียงแมวข่วน แม่ก็เช่งหนูจนหูชาไปหมด!”

“ยัยซอล!”

“เอาให้หนักเลยค่ะ!” น้องสาวเอ่ยบอกพยาบาลที่กำลังจะพาพี่ชายเข้าไปทำแผลที่ด้านใน เธอดันให้พี่ชายตัวโตได้เข้าไปในห้องทำแผล เพราะถ้าเธอเป็นคนดันโซลเอง โซลจะไม่ปฎิเสธแม้จะตะโกนด่าเธอจนปากฉีกไปถึงหูก็ตาม

“ขอทางหน่อยครับ! ขอทางหน่อย!!!” แต่เสียงของบุรุษพยาบาลก็ดังโหวกเหวก พร้อมกับเตียงฉุกเฉินที่มีร่างของหญิงสาวนอนอยู่บนนั้น โซลที่พอจะทันเห็นเหตุการณ์ขยับเพื่อหลีกทาง แต่ก็ทันได้เห็นร่างบางที่นอนอาบเลือดอยู่บนเตียงนั่น เขาชะงัก..

“นั่นมัน..”

“พี่รู้จักเธอเหรอ?” คนเป็นน้องเอ่ยถาม

ผู้หญิงที่ในตอนนั้น…

‘เดี๋ยวสิ! ไม่เห็นเหรอว่าพี่เขาเจ็บตัวเพราะคุณ ขอบคุณสักคำดีไหม’

โซลหันซ้ายขวา ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่ในสภาพนั้น และคนที่อยู่ด้วยกันกับเธอเมื่อกี้.. หายไปไหน

“โธ่บุ๊ค… ลูกไม่น่าทำแบบนี้เลย ฮึ่ก~ ฮึ่ก~ เพราะคุณ!” หญิงวัยกลางคนที่พอได้สติก็ทุบตีสามีตัวเองอย่างไม่หวั่นสายตาของใครที่มองมา

“คุณ! ผมเจ็บ!”

“แค่นี้ยังบ่นเจ็บเลย! คุณคิดไหมว่าลูกเราจะเจ็บแค่ไหน!”

“….” โซลยังยืนนิ่ง เขาไม่ยอมเข้าไปทำแผลแม้ว่าหมอจะเรียกเขาแล้วก็ตาม สองสามีภรรยาตรงหน้ายังดึงความสนใจของเขาอยู่

“ยกเลิกเลยนะ! ไอ้งานแต่งเพื่อยื้อชีวิตบริษัทยื้อชีวิตลูกน้องหนะ!”

“….” โซล

“ถ้าแม้แต่ชีวิตลูกยังยื้อไม่ได้ ก็อย่าได้เสร่อไปยื้อชีวิตใครเลย!!”

“คุณคะ..” โดนจับแต่งงานอย่างนั้นเหรอ.. โซลยืนมองเตียงลากที่ว่าหายเข้าไปในแผนกฉุกเฉิน เธอคือผู้หญิงที่บรรไดหนีไฟตอนนั้นไม่ผิดแน่ ก่อนจะยอมเดินเข้าไปทำแผลเพราะคนเป็นน้องอย่างซอลบอกให้เขามองพยาบาลที่ยืนรอตนอยู่นาน

ก่อนจะลองถามพยาบาลที่พาตนเข้ามาทำแผลที่ด้านใน

“..เธอคนเมื่อกี้ เป็นอะไรมา?”

“อ้อ น้องผู้หญิงคนเมื่อกี้ใช่ไหม รู้สึกว่าเธอจะพยายามฆ่าตัวตายค่ะ”

“ฆ่าตัวตาย?”

“ค่ะ”

“เห็นครอบครัวเธอบอกว่า เธอกระโดดลงมาจากชั้นสามของบ้านค่ะ”

“….”

“คุณรู้จักเธอเหรอคะ?”

“..เปล่า ไม่รู้จัก”

“น่าสงสารนะคะ ฐานะที่บ้านก็ดีมากๆแท้ๆ ไม่รู้ว่ามีเรื่องอะไรให้ตัดสินใจทิ้งชีวิตที่ใครหลายคนอยากจะมีแบบนั้น” พยาบาลสาวชวนคุย ในขณะที่โซลไม่ได้พูดอะไร

“เรียนที่เอแบคด้วยนะ”

“รู้ลึกจังนะ”

“ชุดนักศึกษาไงคะ มีใครไม่รู้จัก เอแบค บ้างละคะ”

เอแบค.. ก็ว่าอยู่.. ว่าเครื่องแบบคุ้นๆ

โซลไม่ได้พูดอะไร เขานั่งให้พยายามทำแผลตนจนเสร็จ แล้วก็ขอไม่รับยาตามที่หมอสั่ง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel